อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1885 ฟ่านเฉี่ยวฉูผู้เก่งกล้า (1)

ดูเหมือนกฎกติกามารยาทที่ระบุไว้บนตราหยกจะไม่เป็นไปตามนั้น

ตราหยกบอกไว้ว่านักเรียนใหม่จะได้การต้อนรับจากอาจารย์กลุ่มหนึ่งเมื่อมาถึงสำนักแห่งขงจื๊อ ในตอนนั้น เขาจะมีสิทธิ์เลือกอาจารย์ของตัวเอง แต่สิ่งที่มาต้อนรับเขาเมื่อเขามาถึงเป็นเพียงฆ้องทองแดงอันหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น

“เรามาถึงเร็วเกินไปจนไม่มีใครเตรียมตัวทันหรือ?” จางเซวียนพึมพำ

แต่เขาก็ไม่คิดจะรอ จึงเดินหน้าต่อโดยไม่ลังเล

นี่เป็นครั้งแรกที่จางเซวียนได้เข้าสู่สำนักแห่งขงจื๊อ ซึ่งตัวเขากำลังมึนงงกับการเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์แห่งมิติและระดับความเข้มข้นของพลังจิตวิญญาณ จึงไม่เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกฆ้องทองแดงทับไว้ แถมตอนนั้นเขาก็ไม่ได้กระทืบเท้าด้วยความรุนแรงอะไรมากมาย จึงนึกไม่ถึงว่าจะมีใครบาดเจ็บเพราะการกระทำนั้น

ด้วยเหตุนี้ จางเซวียนจึงมองไม่เห็นผู้เชี่ยวชาญทั้งกลุ่ม

เหมือนช้างตัวหนึ่งที่ย่อมไม่รู้สึกถึงการดิ้นรนกระเสือกกระสนของมดเมื่อเหยียบย่ำลงไปบนตัวมัน!

ฟึ่บ!

ไม่นานหลังจากจางเซวียนหายลับไป จ้งฉิงก็มาปรากฏตัวตรงหน้าฆ้องทองแดง เขาเหลียวมองไปรอบๆด้วยสีหน้างุนงงสงสัย ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างพรั่นพรึง

เขารีบคว้าฆ้องทองแดงแล้วดึงมัน ใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าจะขยับมันออกไปได้

ผู้เชี่ยวชาญทั้งกลุ่มถูกทับจนบี้แบนอยู่กับพื้น ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด เลือดไหลซึมออกจากมุมปาก

เห็นทุกคนเกือบจะหมดลมหายใจอยู่รอมร่อ จ้งฉิงอุทาน “หมี่ชวน มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”

ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้คืออัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักแห่งขงจื๊อ พวกเขาควรจะได้สำแดงศักยภาพเพื่อดึงดูดใจบรรดานักเรียนใหม่ให้มาเป็นศิษย์ แต่ทำไมถึงลงเอยด้วยการถูกทับจนแบนแต๊ดแต๋อยู่ใต้ฆ้องทองแดงเหมือนปลาตายฝูงหนึ่ง?

“มีใครบางคนเพิ่งถอดรหัสฉนวนได้สำเร็จและเข้ามาที่นี่ใช่ไหม?” หมี่ชวนถามด้วยสีหน้าเหยเกเหมือนจะร้องไห้

“ใช่ เขาคือฟ่านเฉี่ยวฉูจากตระกูลนักปราชญ์โบราณจื้อฉื่อ” จ้งฉิงตอบก่อนจะพลันนึกบางอย่างได้ เขาตาโตด้วยความตกใจ “คุณกำลังจะบอกว่าเขาคือคนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้หรือ? เดี๋ยวก่อน…บอกผมทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่!”

หมี่ชวนตั้งต้นอธิบายด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “ผมนำฆ้องทองแดงของผมออกมา หวังว่าจะพบใครสักคนที่สามารถต้านทานมันได้เป็นระยะเวลาสิบอึดใจและมาเป็นศิษย์ของผม ดังนั้น เมื่อผมเห็นว่ามีใครคนหนึ่งกำลังเข้าสู่สำนักแห่งขงจื๊อ จึงรีบนำฆ้องออกไปขวางทางเขา แต่ไม่คิดเลยว่าหมอนั่นจะกระทืบมันอย่างแรง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับตึกรามบ้านช่องแถวนี้ ทุกคน จึงทุ่มเทพละกำลังเพื่อยับยั้งมัน แต่…ก็นั่นแหละ คุณคงเห็นผลลัพธ์ด้วยตาตัวเองแล้ว!”

“เขาสอยฆ้องทองแดงกระเด็นไป…ขนาดพวกคุณมากมายรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีใครยับยั้งเขาได้สักคนเลยหรือ?” จ้งฉิงส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ “ว่าแต่…มันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร? ฟ่านเฉี่ยวฉูเป็นแค่นักรบระดับเซียนขั้น 9 สูงสุดนะ!”

ฆ้องทองแดงเป็นของล้ำค่าระดับนักปราชญ์โบราณ แต่กลับกลายเป็นว่าการกระทืบเท้าเพียงครั้งเดียวของฟ่านเฉี่ยวฉูก็ทรงพลังยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญ 12 คนรวมตัวกัน นักรบระดับเซียนขั้น 9 สูงสุดคนหนึ่งแข็งแกร่งกว่านักปราชญ์โบราณจำนวนมากมายอย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้อย่างไร?

“ไม่มีทางที่นักรบระดับเซียนขั้น 9 จะทรงพลังขนาดนั้น” หมี่ชวนตั้งข้อสังเกต “อันที่จริง ต่อให้นักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ พละกำลังระดับนี้เป็นของนักปราชญ์โบราณเท่านั้น…”

เหล่านักปราชญ์โบราณมีเรี่ยวแรงมหาศาล ถึงขนาดที่ร่างกายของพวกเขาแทบจะแบกโลกไว้ทั้งใบ เท่าที่ดูจากความเร็วในการเคลื่อนไหวของฟ่านเฉี่ยวฉูเมื่อครู่ก่อน ถ้าร่างกายของเขาแบกรับน้ำหนักของนักปราชญ์โบราณไว้ เขาก็น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้ด้วยการกระทืบเท้าเพียงครั้งเดียว บางทีเขาอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าการกระทืบเท้าของตัวเองทรงพลังขนาดไหน

แต่ก็นั่นแหละ เรื่องหนึ่งที่แน่ใจได้ก็คือไม่มีทางที่นักรบระดับเซียนขั้น 9 จะมีพละกำลังขนาดนั้น!

ได้ยินคำนั้น จ้งฉิงขมวดคิ้ว “แต่ผมตรวจสอบฟ่านเฉี่ยวฉูแล้ว เขาเป็นสมาชิกในตระกูลของนักปราชญ์โบราณจื้อฉื่อจริงๆ ฟ่านเฉี่ยวเฟิงกับคนอื่นๆก็ยืนยันตัวตนของเขาได้ เขาจึงไม่น่าจะเป็นตัวปลอม อีกอย่าง ถ้านักปราชญ์โบราณบุกพรวดพราดเข้าไปในสำนักแห่งขงจื๊อ ค่ายกลใหญ่ของเราจะทำงาน แล้วเหล่านักปราชญ์โบราณที่อยู่ระหว่างการจำศีลก็จะฟื้นคืนสติขึ้นมาทันที แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย…”

ไม่ต่างกับเหล่านักปราชญ์โบราณของสภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่ บรรดานักปราชญ์โบราณของสำนักแห่งขงจื๊อใช้เวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาไปกับการจำศีลเช่นกัน ต่อเมื่อมีใครบางคนที่มีพละกำลังทัดเทียมกับพวกเขาบุกเข้าไปเท่านั้น ถึงจะทำให้เหล่านักปราชญ์โบราณฟื้นตื่นจากการหลับไหลอันยาวนานได้

ข้อเท็จจริงที่ว่าทุกอย่างโดยรอบยังคงเงียบสงบก็เกินพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าไม่มีนักปราชญ์โบราณคนไหนผ่านปราการเข้ามาและบุกเข้าไปในพื้นที่

แต่…ถ้าเป็นอย่างนั้น แล้วจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไร?

“ไม่ว่าตัวตนที่แท้จริงของฟ่านเฉี่ยวฉูจะเป็นอะไร ก็รีบหาตัวเขาให้พบแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อ!” รู้ดีว่าพวกเขาจะคลี่คลายปัญหาได้ก็ต่อเมื่อพบเจ้าตัวเท่านั้น หมี่ชวนรีบเก็บฆ้องทองแดงของเขาก่อนจะบินตรงไปยังตึกรามบ้านช่องที่รวมกลุ่มกันอยู่

จ้งฉิงกับคนอื่นๆตามไปติดๆ

ไม่ช้า พวกเขาก็เห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ที่จัตุรัส กำลังเกาหัวด้วยความงุนงง

ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฟ่านเฉี่ยวฉู

ฟึ่บ!

ทุกคนรีบร่อนลงกับพื้นและเข้าตีวงล้อมฟ่านเฉี่ยวฉูไว้

“พวกคุณคือ…” ฟ่านเฉี่ยวฉูมีสีหน้าสับสน ราวกับจะถามว่า ‘ผมมาทำอะไรที่นี่?’

“ตอนนี้คุณอยู่ที่สำนักแห่งขงจื๊อ คุณผ่านการทดสอบได้อย่างง่ายดาย ถอดรหัสค่ายกลได้ภายใน 1 อึดใจ แถมเอาชนะพละกำลังของพวกเราทุกคนได้ภายในระยะเวลาอันสั้นหลังจากเข้ามาที่นี่…” ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งอดรนทนไม่ไหวจนต้องพูดออกมา “บอกมาซิ คุณเป็นใครกันแน่?”

“ผมอยู่ที่สำนักแห่งขงจื๊อ? ผ่านการทดสอบ…ผมผ่านการทดสอบแล้วหรือ?” ฟ่านเฉี่ยวฉูผงะไป ข้อมูลที่ถาโถมเข้าใส่ทำให้เขางงหนักกว่าเดิม “แถมผมยังเอาชนะพละกำลังของพวกคุณได้ด้วย? มันหมายความว่าอย่างไร?”

เห็นฟ่านเฉี่ยวฉูทำท่าราวกับสูญเสียความทรงจำไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่งคำราม “อย่ามัวแกล้งโง่อยู่เลย เดี๋ยวดูก็รู้ว่าพละกำลังที่แท้จริงของคุณมีแค่ไหน!”

เขาเคาะนิ้ว แล้วหนังสือเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ มันเปิดออกอย่างรวดเร็วก่อนจะปล่อยลำแสงออกมา

มันคือหนึ่งในบรรดาทรัพย์สมบัติล้ำค่าของสำนักแห่งขงจื๊อ, คัมภีร์สัจจะ

คัมภีร์นี้ใช้ตรวจสอบสายเลือดและระดับวรยุทธที่แท้จริงของคนๆหนึ่งได้ และไม่มีทางปกปิดหรือหลอกลวงได้เลย มันถูกรังสรรค์ขึ้นผ่านหลักการของดวงตาหยั่งรู้ของนักปราชญ์โบราณโป๋ช่าง คัมภีร์เล่มนี้สามารถจับผิดการตบตาได้ทุกประเภท

วิ้งงงง!

เมื่อถูกโอบล้อมด้วยลำแสง กระแสพลังปราณของฟ่านเฉี่ยวฉู ความแข็งแกร่งของทางเดินพลังปราณ และทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาก็ถูกแสดงออกมาจนหมดสิ้น แม้แต่สีสันของสายเลือดและระดับวรยุทธก็ถูกเปิดเผยให้ทุกคนเห็นกับตา

“เขามาจากตระกูลของนักปราชญ์โบราณจื้อฉื่อจริงๆ และเป็นนักรบระดับเซียนขั้น 9 สูงสุดอย่างแน่นอน!”

ได้ยินคำนั้น ทุกคนยิ่งสับสนงุนงงมากขึ้นอีก

ด้วยการตรวจสอบของคัมภีร์สัจจะ แน่นอนว่าการระบุตัวตนของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาด เขาคือฟ่านเฉี่ยวฉูจริงแท้แน่นอน!

แต่นักรบระดับเซียนขั้น 9 สูงสุดจะเอาชนะพละกำลังของพวกเขาจนถึงขั้นที่ทุกคนไม่อาจตอบโต้เลยได้อย่างไร? นักรบระดับเซียนขั้น 9 คนหนึ่งจะถอดรหัสค่ายกลแล้วเข้ามาที่นี่ได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งอึดใจหรือ? นักรบระดับเซียนขั้น 9 จะให้คำชี้แนะเพื่อนร่วมรุ่นของเขาและทำให้อีกฝ่ายเก่งกาจถึงขนาดกำจัดผู้เข้าทดสอบเป็นพันคนได้อย่างไรกัน?

“ขอผมทดสอบพละกำลังของคุณหน่อย!”

ขณะที่ทุกคนกำลังขบคิดว่าเกิดอะไรขึ้น จ้งฉิงก็ก้าวออกมา คราวนี้เขาลดระดับวรยุทธลงเป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 1-การพักฟื้นภายใน แทนที่จะเป็นนักรบระดับเซียนขั้น 9

เพราะก่อนหน้านี้ แม้แต่ฟ่านเฉี่ยวเฟิงกับฟ่านเฉี่ยวชิวก็เล่นงานเขาได้ ในเมื่อฟ่านเฉี่ยวฉูเป็นผู้ให้คำชี้แนะสองคนนั้น การยกระดับวรยุทธให้สูงขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งก็น่าจะทำให้ตัวเขาควบคุมพละกำลังของตัวเองได้ดีขึ้น และคงไม่ได้รับบาดเจ็บอีก

ฟิ้วววว!

จ้งฉิงไม่เปิดโอกาสให้ฟ่านเฉี่ยวฉูไหวตัว เขาปล่อยพลังฝ่ามือใส่อีกฝ่ายอย่างหนักหน่วงราวกับพลังของดาวตกและกระแสน้ำเชี่ยวกราก แม้จะลดระดับวรยุทธลงเป็นนักรบขั้นการพักฟื้นภายในแล้ว แต่พลังที่เขาสำแดงออกมาก็ยังทำให้ใครต่อใครหายใจถี่กระชั้นด้วยความระแวง และถอยกรูดไปโดยไม่รู้ตัว

ฟ่านเฉี่ยวฉูหน้าซีดเผือดด้วยความพรั่นพรึงเมื่อเจอกับพลังระดับนี้ เขาตัวสั่นไม่หยุด

ความทรงจำของเขาคือตอนที่ตัวเองอยู่ที่ตีนเขา รอคอยให้การทดสอบเริ่ม แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาก็มาอยู่ในจัตุรัสแห่งนี้แล้ว แถมทุกอย่างยังเลวร้ายกว่าเดิมเพราะผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งถึงกับเปิดการโจมตีเขาโดยไม่บอกไม่กล่าว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ฟ่านเฉี่ยวฉูรู้ว่าไม่มีเวลาให้ค้นหาคำตอบ เขาถอยกรูดไปอย่างรวดเร็ว

เขาดูออกในทันทีว่าพละกำลังของอีกฝ่ายไม่ใช่สิ่งที่เขาจะรับมือไหว หากไม่หลบ ก็อาจถูกเล่นงานจนบี้แบนเป็นเนื้อบดได้

ฟึ่บ!

แต่ยังไม่ทันที่ฟ่านเฉี่ยวฉูจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างของเขาก็กระเด็นไป เพียงชั่วพริบตาเดียว เขาก็กระเด็นไปไกลถึง 800 เมตร ราวกับถูกส่งทะลุมิติ

บึ้มมมม!

การโจมตีของจ้งฉิงปะทะกับพื้นดิน เกิดเป็นหลุมยุบที่ใจกลางจัตุรัส

นึกไม่ถึงว่าตัวเขาจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขนาดนั้น ฟ่านเฉี่ยวฉูถึงกับผงะ “มะ-มันเกิดอะไรขึ้น?”

เขายืนโงนเงน และด้วยความที่ทรงตัวได้ไม่มั่นคง จึงล้มลงก้นกระแทกพื้น

เขาเคยคิดว่าจะถอยเพียงก้าวเดียว และภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คงน่าทึ่งเต็มทีหากถอยไปได้ถึง 10 เมตร แต่เขากลับถอยได้จริงถึง 800 เมตรในก้าวเดียว…ทำได้อย่างไรกัน?

เราอยู่ที่ไหน? เราเป็นใคร?

ฟ่านเฉี่ยวฉูงุนงงสงสัย

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset