อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2253 ผมแพ้แล้ว

ทันทีที่กระดาษแผ่นนั้นหลุดจากมือของคนไข้ อีกฝ่ายก็กลับสู่สภาพกระเสาะกระแสะเหมือนเดิม

ประธานหวังวางแผ่นกระดาษที่มีวิธีการรักษาของจางเซวียนเข้าไปแทนที่

วิ้งงงง!

เมื่อคนไข้เสมือนจริงได้สัมผัสกระดาษแผ่นนั้น สีหน้าเหลืองอมโรคของเขาก็ซีดเผือด ขณะที่ทุกคนคิดว่าใบสั่งยาที่ผิดพลาดคงทำให้คนไข้ตายแน่ ก็เกิดการระเบิดย่อมๆขึ้นหนึ่งครั้ง รังสีของคนไข้เสมือนจริงแผ่ซ่านออกมา ผ่านไปสักพักกว่ารังสีนั้นจะหยุดนิ่งและการสั่นสะเทือนของกระแสพลังงานสงบลง

เมื่อมองดูคนไข้เสมือนจริงอีกครั้ง บรรดานายแพทย์ในห้องก็เห็นกันทั่วว่าไม่เพียงแต่คนไข้จะหายป่วย ผิวพรรณของเขายังมีเลือดฝาดกว่าเดิมด้วย อันที่จริง…ดูเหมือนเขาจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยซ้ำ!

“นี่…เขาฝ่าด่านวรยุทธของจิตวิญญาณได้หรือ?”

“เดี๋ยวก่อน คุณกำลังบอกว่าใบสั่งยาของนักปรุงยาจางไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาคนไข้ แต่ทำให้เขาฝ่าด่านวรยุทธได้สำเร็จด้วย?”

เงียบกริบ

แม้แต่ประธานเลี่ยวก็ตาโตด้วยความตกตะลึง

วิธีการรักษาของเขาทำได้แค่บรรเทาอาการของคนไข้ แต่ชายหนุ่มคนนี้ไม่เพียงแต่จะรักษาคนไข้ที่ต้นเหตุ ยังเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสของการฝ่าด่านวรยุทธได้ด้วย!

พูดอีกอย่างก็คือวิธีการรักษาที่ชายหนุ่มเสนอไม่ใช่แค่สมบูรณ์แบบ…มันเหนือชั้นกว่าความสมบูรณ์แบบเสียอีก!

“ยังไม่หมดนะ สมุนไพรที่ระบุไว้ในใบสั่งยาของนักปรุงยาจางก็ล้วนเป็นสมุนไพรธรรมดาที่มีขายทั่วไปในเมือง แถมราคาก็ไม่แพงเกินไป…” อ้าวหัวตั้งข้อสังเกตอย่างตื่นเต้น

ระหว่างทางที่มาที่นี่ จางเซวียนกำชับหนักแน่นไม่ให้เรียกเขาว่าบรรพบุรุษ แต่ให้เรียกว่านักปรุงยาจาง เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มไม่อยากเปิดเผยตัวตนของเขาที่เป็นมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ และไม่อยากให้น่านฟ้ามังกรเมฆเข้ามาวุ่นวายเรื่องนี้

“จริงด้วย!”

ฝูงชนพากันตาโตด้วยความอัศจรรย์ใจเมื่อเห็นข้อเท็จจริง ทุกคนตาแดงก่ำเพราะรู้ว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เมื่อสมุนไพรที่ระบุไว้ในใบสั่งยามีราคาไม่แพงเกินไป ก็หมายความว่าพวกเขาสามารถใช้วิธีการรักษาแบบนี้กับคนไข้อื่นๆที่มีปัญหาแบบเดียวกันได้สบาย

พูดง่ายๆก็คือ การรักษาด้วยวิธีนี้นำไปใช้ได้ง่ายและเห็นผลจริง!

ในอนาคต สิ่งนี้จะช่วยผู้คนได้อีกมากมาย

ใบสั่งยาจะมีประโยชน์อะไรถ้าสมุนไพรที่ถูกระบุไว้เป็นสมุนไพรหายากหรือแพงจนไม่มีปัญญาซื้อ? นี่คือปัญหาหนักอึ้งที่นายแพทย์ส่วนใหญ่ต้องเผชิญขณะรักษาคนไข้ของพวกเขา

มีนายแพทย์จำนวนหนึ่งที่มีน้ำใจมากพอจะยอมจ่ายแทนคนไข้ แต่ก็แน่นอนว่าไม่อาจทำได้ตลอดไป เพราะนายแพทย์ก็ต้องหาเลี้ยงชีพเหมือนกัน และก็เป็นธรรมดาที่พวกเขาย่อมอยากได้ค่าตอบแทนที่คุ้มเหนื่อย เป็นเรื่องเหลวไหลมากหากจะคาดหวังให้นายแพทย์ออกค่าใช้จ่ายให้คนไข้ทุกคน

พวกเขาไม่ใช่นักบุญ!

ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าประธานเลี่ยวจะหายตกตะลึง เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ใบสั่งยาของคุณส่งผลดีขนาดนี้ได้อย่างไร?”

“พูดกันตามตรงนะ เขาไม่ได้มีอาการระบบแปรปรวนหรืออาการขวัญผวายามวิกาลหรอก สิ่งที่ทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานแบบนี้คือการเห็นภาพหลอน!” จางเซวียนตอบ “ถ้าจะพูดกันให้ชัด การเห็นภาพหลอนไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นอาการป่วย ผมจึงไม่บันทึกมันลงไป…”

“เขาถูกวางยาหรือ?” ประธานเลี่ยวหรี่ตาด้วยความไม่อยากเชื่อ “แต่อาการพวกนั้นคืออาการขวัญผวายามวิกาลชัดๆเลยนะ!”

เขาวินิจฉัยคนไข้อย่างถี่ถ้วน จึงแน่ใจว่าการตัดสินของตัวเองไม่ผิดพลาด แถมคนไข้ก็มีอาการดีขึ้นหลังจากได้กินยาของเขา แล้วจะเป็นยาพิษได้อย่างไร?

“คนไข้มีอาการขวัญผวายามวิกาลก็จริง แต่อาการขวัญผวายามวิกาลจะกัดกร่อนเฉพาะจิตวิญญาณ ทำให้ผู้นั้นอ่อนล้าอยู่ตลอดเวลาโดยกายเนื้อไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ร่างกายของคนไข้ออกอาการพร่องพลังงานอย่างรุนแรงจนแม้แต่ผิวพรรณก็เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เขาเหมือนต้นไม้ในฤดูใบไม้ร่วงที่พร้อมจะหมดอายุขัยได้ทุกขณะ จากการสังเกต เห็นได้ชัดว่าพลังชีวิตของเขาได้รับผลกระทบไม่น้อย”

“ร่างกายของเทพเจ้าสวรรค์สร้างแข็งแกร่งและทนทานมาก ทำให้ต้านทานความผิดปกติส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น จึงออกจะทำความเข้าใจได้ยากสักหน่อยหากจะคิดว่าอาการขวัญผวายามวิกาลจะทำให้ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพนั้น”

“ผมจึงสงสัยว่าคนไข้น่าจะถูกวางยา จากการสังเกตอย่างถี่ถ้วนของผม ผมรู้ว่าเขามาจากภูเขาหวังเยว่แห่งน่านฟ้าอมตะ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าคือถิ่นที่อยู่ของงูเห่าวิกาล ดังนั้น ผมจึงสรุปว่าคนไข้น่าจะพบงูเห่าวิกาลที่นั่นและถูกมันฉก ลงท้ายก็อยู่ในสภาพนี้ แม้ใบสั่งยาที่ใช้รักษาอาการขวัญผวายามวิกาลจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากพิษของงูเห่าวิกาลได้ แต่ก็ไม่อาจเจือจางพิษนั้น”

“ในระยะสั้น คนไข้จะดูเหมือนมีอาการดีขึ้น แต่พิษงูจะกำเริบทุก 2 ปี ซึ่งในครั้งที่ 5 ที่อาการนั้นวนกลับมา พิษของงูเห่าวิกาลจะไหลเวียนไปทั่วร่างกายของคนไข้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น วิธีไหนก็ช่วยชีวิตเขาไม่ได้!”

ฝูงชนต่างกระพริบตาปริบๆ พวกเขาพยายามขบคิดสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

คุณแน่ใจนะว่าตัวเองเป็นนายแพทย์ ไม่ใช่นักปราชญ์?

ผู้ที่เป็นคนไข้เสมือนจริงนั้น แท้ที่จริงเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ศพก็แหลกสลายไปไม่มีเหลือ คุณทำอีท่าไหนถึงบอกได้ว่าเขามาจากภูเขาหวังเยว่ของน่านฟ้าอมตะ?

เท่าที่ผมจำได้ คุณก็แค่มองหน้าคนไข้ แต่ไม่ได้ซักถามอะไรเลยไม่ใช่หรือ?

ประธานเลี่ยวรีบหันไปถามคนไข้เสมือนจริง “คุณอาศัยอยู่ที่ไหน?”

สภาพแวดล้อมที่นักรบพำนักอยู่สามารถชี้สาเหตุของอาการป่วยได้ คนไข้เสมือนจริงจึงได้รับอนุญาตให้ตอบคำถามนี้

“ภูเขาหวังเยว่, น่านฟ้าอมตะ” อีกฝ่ายตอบ

“ฮะ…”

ได้ฟังคำตอบ ทุกคนตกใจจนแทบยืนไม่อยู่

บางทีใช้คำว่าตกใจก็อาจจะน้อยเกินไป ทุกอย่างดูจะพิลึกพิลั่นขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว ไม่เพียงแต่ชายหนุ่มจะวินิจฉัยอาการป่วยได้อย่างถูกต้อง ยังรู้ด้วยว่าคนไข้มาจากไหน

อย่างกับเกิดมาพร้อมกับทักษะการสอดแนม น่าสะพรึงจริงๆ!

“น่านฟ้าอมตะตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสรวงสวรรค์ ภูมิอากาศที่นั่นทั้งร้อนและชื้น ดูจากเสื้อผ้าของเขาก็พอเดาได้”

จางเซวียนดูออกว่าบรรดานายแพทย์ต่างสงสัยแคลงใจ จึงอธิบายความคิดของเขา

ได้ยินคำตอบนั้น ทุกคนหันกลับไปมอง และเห็นว่าคนไข้สวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อเบาบางและช่วยเพิ่มความเย็นให้ผู้สวมใส่

“ผู้ที่พำนักอยู่ทางใต้ต้องเจอกับอากาศชื้น จึงมักมีผิวพรรณซีดและยืดหยุ่น ซึ่งหากเปรียบเทียบกัน คนทางเหนือจะมีผิวแห้งและหยาบกว่า การสังเกตลักษณะภายนอกทำให้พอระบุได้ว่าผู้นั้นมีถิ่นกำเนิดที่ไหน” จางเซวียนพูด

“นี่ไม่ใช่การด่วนสรุป เพราะไม่ว่าคนไข้จะเผชิญกับอาการขวัญผวายามวิกาลหรือพิษงูเห่าวิกาล จิตวิญญาณของเขาก็ย่อมบอบช้ำอยู่แล้ว แต่สภาวะของอาการบอบช้ำจะแตกต่างกันไป ถ้าเป็นความบอบช้ำจากอาการขวัญผวายามวิกาล จิตวิญญาณจะเสื่อมสลายทั้งดวง แต่ถ้าเป็นความบอบช้ำจากพิษงูเห่า อาการจะหนักเป็นพิเศษตรงจุดที่พิษนั้นซึมซาบเข้าไป เพราะผมสังเกตอย่างถี่ถ้วน จึงรู้ว่าการเสื่อมสลายของจิตวิญญาณอยู่ในสภาพไม่สม่ำเสมอ ซึ่งนั่นพิสูจน์ได้ว่าเขาถูกยาพิษ”

“ผมเข้าใจแล้ว!”

ฝูงชนต่างพยักหน้าขณะจ้องมองชายหนุ่มด้วยความยำเกรงและชื่นชม

พวกเขาเคยคิดว่าอีกฝ่ายเป็นแค่นักปรุงยาที่อยากเป็นนายแพทย์ ใครจะไปรู้ว่าแท้ที่จริงเขาคือบรมครูที่เหนือชั้นกว่าคนอื่นๆหลายเท่า!

“ต่อกันเถอะ!”

รองประธานหวังตรวจสอบคนไข้ที่เหลืออีก 9 คน ซึ่งวิธีการรักษาของประธานเลี่ยวล้วนถูกต้อง แต่ก็อ่อนด้อยกว่าเมื่อเทียบกับวิธีของจางเซวียน

ใบสั่งยาทุกใบที่จางเซวียนระบุไว้ทำให้คนไข้ฝ่าด่านวรยุทธได้สำเร็จหลังจากได้รับการรักษา บ่งบอกชัดว่าวิธีการของเขาเหนือชั้นกว่า

สำหรับคนไข้เสมือนจริงทั้ง 10 คน วิธีรักษาของจางเซวียนถือว่าเหนือชั้นเกินกว่าความสมบูรณ์แบบ!

“ผมแพ้แล้ว” ประธานเลี่ยวเปรยพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ

“มันคือการแข่งขันที่เยี่ยมยอด ผมได้เรียนรู้มากมายทีเดียว”

ตอนแรก ประธานเลี่ยวแน่ใจว่าทักษะการรักษาโรคของจางเซวียนจะต้องอ่อนด้อยกว่าตัวเขาแน่ แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าตัวเองไม่ต่างอะไรกับหิ่งห้อยที่ประจันหน้ากับแสงอาทิตย์

ความสามารถของพวกเขาอยู่กันคนละชั้น!

“แบบนี้ก็หมายความว่าผมได้รับสิทธิ์ให้ใช้ค่ายกลทะลุมิติขนาดใหญ่แล้วใช่ไหม?” จางเซวียนถาม

“แน่นอน ยังเหลือกระบวนการอีกนิดหน่อยที่ต้องจัดการให้เสร็จ ผมต้องรายงานเรื่องนี้ต่อเบื้องบน คุณจะได้รับตราสัญลักษณ์อย่างช้าที่สุดก็บ่ายวันนี้” ประธานเลี่ยวตอบ

ถึงจางเซวียนจะบรรลุเงื่อนไขครบทุกข้อ แต่ประธานเลี่ยวก็ยังต้องรายงานเรื่องนี้ให้น่านฟ้าอื่นๆรับรู้ เพื่อจะได้หลอมตราสัญลักษณ์สำหรับการเข้าใช้ค่ายกลทะลุมิติขนาดใหญ่ให้

“ผมเข้าใจ”

เขาอยู่ที่นี่หลายวันแล้ว จะรออีกสักครึ่งวันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จางเซวียนจึงกล่าวอำลาและออกจากบ้านพักไปพร้อมกับฉีหลิงเอ๋อ

หลังจากทั้งคู่ออกไปไม่นาน ทั้งห้องก็เงียบกริบ

ประธานเลี่ยวอดถามไม่ได้ “อ้าวหัว เขาเอาชนะคุณได้โดยใช้ประสิทธิภาพของกายเนื้อใช่ไหม?”

“ใช่ มันเป็นแบบนั้นแหละ” อ้าวหัวตอบ

“ความแข็งแกร่งของกายเนื้อของเขาเหนือชั้นกว่าคุณ ทักษะการหลอมยาของเขาได้รับการยกย่องจากฟู่เจียงเฉิน ส่วนความเชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคก็ล้ำลึกเกินหยั่งเสียจนแม้แต่ผมก็ชี้ชัดไม่ได้ โลกนี้ช่างมีคนน่าทึ่งมากมายเสียจริง!” ประธานเลี่ยวตั้งข้อสังเกต

เขาเคยคิดว่าคงเอาชนะสมาคมนายแพทย์ของเมืองหลวงแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนได้สบาย ทำให้ชื่อเสียงของสมาคมนายแพทย์แห่งน่านฟ้ามังกรเมฆระบือลือลั่นกว่าเดิม แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ยับเยินเสียตั้งแต่ยังไม่ทันได้ประลองกับสมาคมนายแพทย์ของเมืองหลวงแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนเลย!

ถ้าแม้ตัวเขายังสู้จางเซวียนไม่ได้ คนอื่นๆก็คงไม่เหลือ

“กลับกันเถอะ!” ประธานเลี่ยวออกคำสั่งขณะถอนหายใจอย่างจนปัญญา

“แล้วการประลองนายแพทย์กับสมาคมนายแพทย์ของเมืองหลวงแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนล่ะ?”

“ตราบใดที่นายแพทย์จางยังเป็นพลเมืองของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน ต่อให้เราเอาชนะนายแพทย์พวกนั้นได้ ก็ไม่อาจสร้างฐานอำนาจเหนือพวกเขาได้หรอก ประลองไปก็ไม่มีประโยชน์” ประธานเลี่ยวตอบ

ถ้าจางเซวียนยังอยู่ พวกเขาไม่มีทางอวดอ้างได้เลยว่านายแพทย์ของน่านฟ้ามังกรเมฆเหนือชั้นกว่านายแพทย์ของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน เป้าหมายในการมาที่นี่ของพวกเขาคือสร้างชื่อเสียงให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม แต่ในเมื่อทุกอย่างดูจะไม่เป็นอย่างที่คิด ก็ไม่ควรอยู่ต่อ

มีแต่จะเสียแรงเสียเวลาเปล่า

“ก็ได้…”

เมื่อเข้าใจแล้วว่าประธานเลี่ยวคิดอย่างไร นายแพทย์คนอื่นๆพยักหน้า

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset