Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ch10-3
ทว่าคำตอบรินกะคือ “ได้สิ นอนด้วยกันเถอะ”
ผมเพิ่งจะเคยเห็นรินกะในชุดนอนครั้งแรก รู้สึกว่าแก้มผมร้อนผ่าว เธอน่ารักมาก ชุดนอนผ่า ติดกระดุม กับกางเกงสีขาวเป็นเสื้อสีพื้นๆ ทว่ามันยิ่งช่วยขับเสน่รินกะที่่สวยอยู่แล้วยิ่งกว่าเดิม
“เป็นไงบ้่าง? ปกติเวลานอน ชั้นใส่ชุดแบบนี้นอนอยู่แล้ว ไม่ได้แปลกตรงไหนใช่มั้ย”
“ไม่มีส่วนไหนที่แปลกเลยครับ กลับกันเลยคือ คำว่าน่ารักยังน้อยไป ต้องบอกว่าโคตรน่ารักเลยครับ”
“น่ารักเหรอ..ข..ขอบคุณนะ”
รินกะกล่าวด้วยน้ำเสียงเขินอาย ใช้มือหนึี่งทัดผมเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน
บุรุษที่มีโอกาสได้เห็นความน่ารักของคูลไอดอลสุดฮอต คิดว่าโลกนี้คงมีผมคนเดียวเท่านั้นแหละ
พอคิดถึงจุดนี้ ทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา
“รินกะ คุณน่ารักจริงๆนะครับ”
“พูดเกินไปแล้ว ถ้าชมมากว่านี้อีกชั้นโกรธแล้วนะ”
“ทำไมเหรอครับ”
“คำว่าน่ารักที่คาสึโตะคุงเอ่ยออกมา มันทำให้ชั้นใจเต้นไม่เป็นส่ำจนทนไม่ไหวน่ะสิ”
“ฮะฮะ คุณบอกแบบนี้ยิ่งทำให้ผมอยากพูดชมมากกว่านี้นี่สิ”
“…..ขี้โกงนี่นา คาสึโตะคุงใจร้ายที่สุดเลย”
รินกะกล่าวด้วยน้ำเสียงงอน เบ้ปากเล็กน้อย ก็ยังดุน่ารักในสายตาผมอยู่ดี
“ผมไม่ได้ใจร้ายนะครับ เพระาว่ารินกะเผยความรู้สึกตัวเองด้วยความซื่อสัตย์ ผมก็เลยอยากจะพูดตอบไปตามตรงด้วยน่ะครับ”
“..ง..งั้นเหรอ”
“อืม”
เหอะๆ พูดเองก็แอบเขินเองเหมือนกันแฮะ
ทั้งรินกะและผม ตอนนี้ทังคู่ต่่างก็เขินจนหน้าแดงทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างหลบตส
หากเทียบกับสมัยอดีตที่รินกะมาที่ห้อง ตอนนี้บอกเลยว่าบรรยากาศคนละเรื่อง ความหวานมันผิดกันเยอะ
“เน่ คาสึโตะคุง ชั้นมีเรื่องจะขอร้องอย่างนึงได้มั้ย”
รินกะกล่าวถาม
เธอจะขออะไรผมหว่า ดูจากท่าทีเธอที่เขินเอาเรื่่อง บางทีอาจจะเป็นคำขอที่เหนือความคาดหมายก็ได้มั้ง แต่ก็ช่างมันเหอะ
“ว่ามาเลยครับไม่ต้องเกรงใจ”
คนรักขอร้องกัน มีเหตุผลไหนที่ต้องปฏิเสธล่ะ
เอาจริงๆ สิ่งที่อยู่ในใจผมแต่ไม่บอกเธอคือ “เราคือสามีภรรยากัน จะเกรงใจทำไม” แต่นั่นแหละ ผมอาย ถึงกระนั้น เธอก็น่าเดาสิ่งที่อยู่ในใจผมออกนะ
ทีนี้ สิ่งที่สนใจคือ รินกะจะขออะไรผมนี่แหละ
“พูดจริงนะ? ถ้างั้นก็…..”
รินกะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่ติดมา เปิดซิบออก หยิบของจากข้างใจออกมา มันคือตุ๊กตาคาสึโตะ
และไม่ใช่หยิบแค่ตัวเดียวซะด้วย
ตัวแรกผ่านไป ตัวสองตัวสามค่อยๆผ่านไป หลงผิดคิดภาคภูมิใจ สุดท้ายเธอหยิบห้าตัววววว
ห้าตัวเลยว่ะ
หยิบเจ้าพวกนี้ออกมา คิดจะทำอะไรของเธอนะ แถมตุ๊กตาพวกนั้น ทุกตัวใส่ชุดนอน และอยู่ในท่าหลับทั้งหมดด้วย มันก็ดุน่ารักดีแต่ก็แอบสยองนิดหน่อย
***หมายเหตุจากผู้แปล พอสังเกตดีๆ หน้าปกมันสปอยเรื่องนี้อีกแล้วนี่หว่า สังเกตตรงด้านขวาที่ชื่อเรื่องปิดนะครับ มันมีตุ๊กตาคาสึโตะในชุดนอนอยู่ด้วยครับ
“เอ๋ คือว่า.. รินกะ..นี่มัน…”
“ชั้นมีสิ่งที่อยากจะทำ หากได้โอกาสมานอนค้างบ้านคาสีโตะคุงน่ะ”
“สิ่งที่่อยากทำคือเอาตุ๊กตาทั้งหมดมาวางเรียงกันตรงเตียงนอนเหรอครับ”
“อันนัั้นมันแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น ความปรารถนาของชั้นคือ นอนท่ามกลางตุ๊กตาพวกนีั้โอบล้อมชั้น พร้อมกับมีคาสึโตะคุงตัวจริงอยู่ใจกลางวงตุ๊กตาและนอนด้วยกันชั้นน่ะ”
“ขอโทษนะครับ เจอคำขออันนี้ เล่นเอาผมทำตัวไม่ถูกเลยว่าควรตอบสนองยังไงดี”
ตอนแรกก็คิดว่า สิ่งที่รินกะขอ จะเป็นเรื่องโรแมนติกชวนใจเต้นตึกตัก ไหงเป็นงี้ได้ฟะ
จะบอกว่ารินกะมีหัวใจที่สัตย์ซื่อเกิน หรือมีกิเลสหนาเกินต้านทานดีนะ
“……เรื่องนี้ให้กันได้มั้ย?”
“ตามสบายครับ”
ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงธรรมดา
ผมไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะตะกี้ สีหน้าท่าทางเธอ ตอนที่ถาม เต็มไปด้วยความเศร้าสลด แววตาเธอนี่ชัดเจนสุดๆ ถ้าผมปฏิเสธ คงรุ้สึกไม่ดี มันก็เหลือทางเลือกเดียวคือตอบรับความคาดหวังเธอ
รินกะหยิบตุ๊กตาสามตัว เอามาวางเรียงแทนหมอนข้าง ส่วนอีกสองตัว เอาไปวางชิดกำแพง
หลังจากเรียงเสร็จเรียบร้อย รินกะกระตุกเสื้อผม เอียงคอถาม
“คาสึโตะคุงนอนด้วยกันเลยมั้ย”
“……..อืม”
เจอคำพูดชวนเย้ายวนเข้าไป รู้สึกราวกับโดนหมัดคริติคอลฮิต แทบน้อคในพริบตา
ท่าทางกระตุกเสื้อตะกี้ กับคำของเธอ มันน่ารักสุดๆไปเลย นี่สินะ พลังทำลายของคูลไอดอลสุดฮอต
อืม นี่สินะ ความรู้สึกว่า รินกะคือคนรักของผม
รินกะนอนข้างๆผม ห่มผ้ามิดชิด เห็นแต่หน้าโผล่ออกมา
ผมกำลังจะเลิกผ้าห่มไปนอนข้างๆเธอ ทว่ารินกะกลับบอกว่า
“เดี๋ยวก่อน คาสึโตะคุง”
“หือ มีอะไรเหรอครับ”
“ช่วย…ปิดไฟได้มั้ย”
“เอ๋?”
“นอนในห้องสว่างแล้วชั้นอายน่ะ”
“…..”
เธอดึงผ้าห่มปิดบังครึ่งจมูก เห็นแต่ลูกตาในขณะที่อ้อนผมตะกี้
โอโห ยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักกว่าเก่าอีก
ปกติ หลายต่อหลายครั้ง เธอมักมีท่าทางคูล หรือกราดเกรี้ยว แต่สภาพเธอตอนนี้ช่างอ่อนหวานน่ารักมาก เล่นเอาผมรู่สึกใจเต้นตุ้มต่อมมากกว่าเก่า
สองอาทิตย์ที่เราไม่ได้เจอและคุยกัรกัน ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเติมเต็มจากความรักและนุ่มนวลของรินกะ
ผมเดินไปปิดไฟก่อนจะเลิกผ้าห่ม นอนข้างๆรินกะ
“เอ่อ ขออนุญาต นอนข้างๆนะครับ”
“อ…อืม พวกเราคือสามีภรรยากันนะ ไม่เห็นจำเป็นต้องเกรงใจซักหน่อย”
“งั้นผมกลับไปเปิดไฟนะ”
“ไม่ต้องเลยค่ะ”
“…รับทราบครับ”
แหมมมมม รีบห้ามให้ผมเปิดไฟเลยนะ เขินล่ะซี่
ผมนอนกับรินกะ ไหล่ชนไหล่ ได้ยินเสียงอืมม สั้นๆจากเธอ
ถึงแม้ว่าห้องจะมืด แต่ผมรู้สึกได้ถึงสายตาของรินกะกำลังมองมาที่ผม หรือแม้แต่ท่าทางของเธอที่กลั้นหายใจทันทีที่ผมเข้ามานอนข้างๆ
ผมสูดได้กลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆขณะที่นอนข้างๆเธอ
“………”
“……..”
ผมกับเธอไม่พูดไม่จา ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ มีเพียงเสียงหัวใจเต้นเท่านั้นที่ได้ยินชัด เล่นเอานอนไม่หลับ
ผมเงยหน้ามองเพดานเรื่อยเปื่อย แต่ก็รู้สึกได้ว่า รินกะคงกำลังแอบมองผมอยู่
ในสถานการณ์แบบนี้ควรพูดอะไรออกไปดีนะ
ขณะที่คิดอยู่ รินกะกล่าวมาว่า
“คาสึโตะคุง”
“หือ”
“มีเรื่องจะขออีกอย่างนึงได้มั้ย”
อะไรอีกหว่า
ผมพลิกตัว หันไปมองรินกะที่อยู่ข้างๆ
ถึงแม้ว่าห้องจะมืด แต่ผมก็เดาตำแหน่งของรินกะได้ไม่ยาก
“คือว่า….อยากให้เธอลูบหัวน่ะ”
“ลูบหัวเหรอ?”
“อืม ลูบหัวเบาๆอย่างอ่อนโยนด้วยนะ”
คราวนี้ทำไมจู่ๆเธอใช้เสียงหวาน ขอร้องผมหว่า
นี่เป็นเสียงหวานใสขี้อ้อนที่ผมเพิ่งจะเคยได้ยินครั้งแรก เล่นเอาสะท้านหัวใจ
“รินกะเป็นเด็กขี้อ้อนขนาดนี้เลยเหรอครับ”
“เปล่า ชั้นขี้อ้อนเพราะว่าเป็นเธอต่างหาก”
ผมได้ยินเสียงหวานเธอตอบกลับมา เล่นเอาหัวใจนุ่มฟู รินกะเริ่มเขยิบเข้าหาผม เอาหน้าตัวเองซุกอกผม
สงสัยเพราะเธออยากจะทำอย่างนี้แต่แรกถึงให้่ปิดไฟ ไม่งั้นคงเขินจนไม่กล้าขอร้องแน่
แม้ว่าต่างฝ่ายจะไม่เห็นหน้า แต่ก็รู้สึกถึงความหวานในหัวใจชัดเจน
ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะยื่นมือขวาลูบหัวเธอ สัมผัสได้ถึงนุ่มสลวยของเส้นผมผ่านนิ้วมือ
นี่เหรอคือผมของผู้หญิง
“…งืม…..อืม…งืม”
ทุกครั้งที่ผมลูบหัวเธอ รินกะจะส่งเสียงประหลาดออกมาเบาๆ เป็นน้ำเสียงที่พึงพอใจที่ถูกลูบหัว
ผมไม่รู้ว่าลูบหัวเธอไปนานมากแค่ไหน แต่ผมก็รู้สึกดีที่ได้ลูบหัวอย่างอ่อนโยนไปเรื่อยๆ
“ชั้นมีความสุขมากๆเลยค่ะ….อืม…คาสึโตะคุง…”
“……..”
“ชอบนะ..รักมาก…รักที่สุดเลย”
“…….”
“อยากจะอยู่..ด้วยกัน…นานกว่านี้”
รินกะพึมพำออกมาเรื่อยๆ ออกแรงกอดผม เอาหน้าซุกอกผมยิ่งกว่าเดิม เป็นภาษากายที่บอกชัดเจนว่าไม่อยากจะห่างจากผมแม้สักวินาที
“คาสึโตะคุง…อยู่เคียงข้างกัน…ตลอดไปนะ”
“อืม..”
“ขอแค่มีคาสึโตะอยู่เคียงข้าง…..ชั้นก็….”
เสียงของรินกะค่อยๆแผ่วลง แทนที่ด้วยลมหายใจเงียบและนิ่ง ก่อนที่เธอจะผล็อยหลับไป แต่ว่าถึงแม้เธอจะหลับไปแล้ว เธอก็ยังไม่คลายแรงจากแขนสองข้างที่กอดผมอยู่
ผมอยากจะเห็นสีหน้าของรินกะตอนนอน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเธอนอนซุกอกผมนี่แหละ
“ฟรี้…..ฟรี้…ฟรี้…. คาสึโตะคุง…”
ว้าว ขนาดนอนหลับไปแล้ว ยังละเมอเรียกชื่อผมด้วย
เห็นเธอมีท่าทีอ่อนหวานน่ารักขนาดนี้ เล่นเอาไม่คิดเลยว่า ก่อนหน้านี้เธอคือคูลไอดอลที่มีข่าวลือว่าเกลียดผู้ชาย
เสียงลมหายใจตอนนอนของเธอ ราวกับเพลงกล่อมเด็กให้ผมนอนหลับ
สติผมเริ่มเลือนลาง ลมหายใจผมกับเธอประสานกัน ม่านตาเริ่มหนักอึ้ง
ถึงแม้ว่า วันนี้ผมกับรินกะจะไม่ได้คุยกันมากนัก ก็เข้านอนด้วยกันแล้ว แต่ว่า สำหรับผม ที่แทบไม่มีโอกาสได้เจอรินกะเลย นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่หาอะไรมาแทนไม่ได้
“…..มันควรจะโรแมนติกกว่านี้นะ ถ้าไม่มีตุ๊กตาคาสึโตะนอนจ้องกุนี่ล่ะ”
ตุ๊กตาก็ยังคงนิ่งของมันเหมือนเดิม นอนจ้องเพดาน แต่ไม่รู้เพราะอะไร ผมแอบรู้สึกหลอนๆว่า ตุ๊กตามันลืมตาจ้องการกระทำของผมนี่แหละ
****
จบ CH10-3
ก็ปิดอีเว้นค้างคืนแต่เพียงเท่านี้ ใครคิดเห็นยังไงบอกเล่าเก้าสิบเม้นกันได้นะค้าบบบว่าฮากับตุ๊กตามากแค่ไหน
รอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon