Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ch11-3
“อายาโนะโตจิ….วันนี้อากาศดีจังเลยนะตัวเอง”
“ไอ้สัส คำพูดกับการกระทำเมิงแม่งหลอนโว้ย ใจกุสั่นสะท้านเลยว่ะ ขอเหอะ อย่าส่งสายตาปิ๊งๆได้มั้ยวะ”
เอาจริงๆวันนี้ก็ไม่ได้ต่างกับวันที่ผ่านมาคือมีผม ทาจิบานะ ไซโต้ นั่งคุยล้งเล้งหลังห้องเหมือนเดิม
“ถ้านายใจสั่นสะท้านแปลว่า ความรู้สึกรักอันร้อนแรงของเราส่งตรงถึงนายไง”
“โอ้โห เอาความรักของเมิงไปไกลๆตีนกุเหอะ”
“ใจร้ายว่ะนายอะ”
ผมก็ยังรวมกลุ่มเหมือนเดิม ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ผมหยิบข้าวกล่องมากิน ไซโต้ก็หยิบด้วยเช่นกัน
ถ้าเป็นวันที่ผ่านๆมาก็ไม่ได้มีอะไรต่างปกติคือสุมหัวแดกข้าวกันสามคน แต่ทาจิบานะเสือกใจเกเร วันนี้เลยแตกต่างจากที่ผ่านมา
“อายาโนะโคจิ กล่องข้าวนั่น มิสึกิเป็นคนทำให้นายเหรอ”
“เออ”
“จริงๆแล้วชั้นผู้นี้ ก็ทำอาหารเก่งเหมือนกันนะ”
“แล้วไงวะ”
“อาหารก็ทำเก่ง ทำความสะอาดก็เป็นงาน แถมยังเข้าใจนิสัยใจคองานอดิเรกของอายาโนะโคจิด้วย”
“แล้วเมิงต้องการสื่ออะไรวะ ขอเหอะ เมิงพูดแต่ละคำ ตอนนี้กูโคตรหลอนอะ”
“เห็นพวกเมิงคุยกันแล้วบอกได้คำเดียวว่า ฮาตึง ทาจิบานะมันตกหลุมรักอายาโนะโคจิจริงๆว่ะ”
“ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วปะวะ”
“เฮ้ย นายน่ะ อย่ามาขัดขวางการจู๋จี๋ของเราสองคนสิ”
ทาจิบานะกล่าวด้วยท่าทีขวยเขิน ก้มหน้าหลบตา ไอ้สัส ไม่ได้มีความน่ารักสักนิดเดียว
ผมจดจ่ออยู่กับข้าวกล่องที่รินกะทำให้แทน
วันนี้ไม่ได้มีกำหนดการกินข้าวด้วยกันกับรินกะ ทว่ารินกะบอกผมว่า “การเตรียมข้าวกลางวันให้สามีเป็นหน้าที่ของภรรยา” ทำให้ทุกครั้งที่รินกะมาโรงเรียน เธอจะเตรียมข้าวกล่องให้ผมตลอด
จริงๆผมก็อยากกินข้าวกลางวันด้วยกันกับรินกะ แต่ถ้าไปกินที่ตึกร้างบ่อยๆมันก็มีแนวโน้มว่าความลับเรื่องผมเป็นแฟนรินกะจะแตกเอา
ไอ้ที่ผมคิดเรื่องรินกะตอนนี้ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่จะหลีกหนีความจริงในตอนนี้
“นี่ อายาโนะโคจืคาสิโตะ เรากับนายน่ะ คบกันมาก็นานแล้วนะ”
“ก็นะ กูรู้จักกับเมิงตั้งแต่ม.ต้นนี่นา”
“ใช่ม้า ชั้นคิดว่า เรากับนายน่ะ ควรจะเรียกชื่อสื่อรักกันแล้วนะ”
“ชื่อสื่อรัก?”
“จากการคำนวนสุดเมพของผม คำนั้นหมายความว่าชื่อเล่นน่ะ”
“กวย พอเห้อ วางถุงกาวแล้วตั้งสติก่อนมั้ย”
ไซโต้แม่มก็ไม่ช่วยกวยไรเลย พูดเหมือนสถานการณ์ตอนนี้ปกติยังไงยังงั้น
“นายคิดว่าไงบ้างล่ะอายาโนะโคจิ”
“ม่า ถ้าแค่ชื่อเล่น จะเรียกอะไรก็ตามใจเมิงเหอะ”
“งั้นเหรอ ถ้างั้นต่อไปนี้ให้่นายเรียกเราว่า ทัตจังแล้วกันนะ”
“ท…ทัตจัง?”
“ส่วนชื่ออายาโนะโคจิ ชั้นจะเรียกนายว่า “อายะตัน” แล้วกัน”
“พรู่ดดดดด พอเลย อันนี้กูจริงจังนะ เมิงห้ามเรียกเลยกูกราบ ชื่อเชี่ยไรเนี่ยฟังแล้วจะอ้วกเลย”
“งั้นเหรอ ถ้างั้นเปลี่ยนไปเรียกว่า “คาสีตัน” คิดว่าไงบ้าง”
“กวยยยยย ไม่ต้องใส่คำว่า ตัน หลังชื่อกูได้่เปล่าวะ”
“ทำไมล่ะนายยยยย”
ทาจิบานะทำท่าช็อค ราวกับว่าคำพูดของผมทำร้ายจิตใจสาวน้อยที่กำลังตกหลุมรัก
ไซโต้ดุนแว่นขึ้น กล่าวว่า
“”อายะตัน”คุงเหรอ เป็นชื่อเล่นที่เพราะดีนะ”
“ใช่ม้า ไซโต้ นายนี่เป็นคนที่รู้ใจจริงๆ”
ผมหันขวับไปหาไซโต้ด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ ไซโต้จ้องหน้าผมกลับ ตอบเบาๆให้ผมได้ยินคนเดียวว่า
“เมิงแหกตาดูสภาพไอ้ทาจิบานะ คิดว่าไปขัดคอแล้วมันจะหยุดรึไง เมิงเชื่อกุเหอะว่าปล่อยมันบ้าไปสักพัก เดี๋ยวมันก็หายสติแตกเองแหละ”
……จะจริงเหรอวะ
“อายาโนะโคจิ อย่าบอกนะว่านายเกลียดเราเหรอ”
“ไม่ได้เกลียดเว้ย แค่….อึดอัดนิดหน่อย”
“ชั้นไม่เข้าใจความรู้สึกนั้นเลย ตั้งแต่แรกแล้ว ชั้นคิดว่ารักนายมาตลอด”
“กุว่าเมิงวางถุงกาวจริงจังเห้ออออ ขอโทษทีนะ นอกจากรินกะแล้ว ชั้นไม่สนใจคนอื่นน่ะ”
“บัดซบจริงๆ จะให้ชั้นไปชนะไอดอลสุดฮอตมันไม่ง่ายเลยนะ”
ทาจิบานะกล่าวข้อสรุปพร้อมส่งสายตาจิกกัดมาหาผม
เอาจริงๆ ต่อให้ทาจิบานะเป็นสาวสวย ผมก็เลือกรินกะอยู่ดี เพราะผมมีแค่รินกะในใจคนเดียวเท่านั้น
“……หือ?”
จู่ๆก็รู้สึกเสียวสันหลังวาป
ความรู้สึกนี้มั้น….จิตสังหาร?
เอาจริงๆ มนุษย์เราไม่มีทางรุ้สึกถึงสิ่งที่เรียกว่าจิตสังหารหรอก แต่มันคือความรู้สึกบางอย่างที่รู้เลยว่า มีคนต้องการจะกระทืบผมอยู่แถวๆนี้
ผมเงยหน้ามองไปยังโต๊ะแถวหน้า ทันทีที่ผมสบตาเธอ รินกะกำลังจ้องมองมาที่ผม กะแล้วเชียว
สายตารินกะที่จ้องผม แผ่รังสีฆ่าฟันเต็มพิกัด คือถ้าฉากนี้เป็นภาพในมังงะ จะมีเสียงครืนๆๆๆๆๆเป็นแบ้คกราวด์ประกอบฉากหลังรินกะแน่นอน
นอกจากรังสีฆ่าฟันที่เห็นผ่านสายตา ผมเห็นเส้นผมเธอก็ลอยขึ้นสั่นระริกราวกับจะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า
ผมเห็นรินกะแล้วหวนนึกถึงภาพในความฝันเมื่อตอนต้นเล่ม2ว่าโดนรินกะกระซวกไส้เลย
“อายะตัน กินนี่สิ อ้ามมมม”
“พอเห้ออออ กุจะชิบหายแล้วโว้ย”
“อะไรกัน พูดเหมือนว่าชั้นใส่ยาพิษไว้ในแครอทเลย”
“เปล่าเว้ย ขืนเมิงเล่นไปมากกว่านี้ กุจองโลงรอได้เลย”
“พูดอะไรของนายน่ะ….”
ตึงดึ๊ง
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นมา
ผมหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นข้อความจากรินกะส่งมาว่า
“นอกใจชั้นอยู่ใช่มั้ย เหิมเกริมถึงขั้นเล่นชู้ในห้องเรียนไม่แคร์สื่อเลย กล้ามาก ขอบใจนะ”
เอาแล้วไงล่ะไอ้เหี้ยเอ๊ยยยย
ผมรีบพิมพ์ตอบกลับอย่างลนลาน
“ไม่ใช่คร้าบ มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเลยสักนิดครับ”
“ชั้นไม่เชื่อหรอก เธอบอกว่ารักชั้น ที่แท้ก็แค่ลมปากพล่อยๆ แล้วก็ไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยหาสาวคนใหม่”
“สาวบ้าไรครับ นี่มันผู้ชายมีกระเจี๊ยวชัดๆ คนอย่างผมจะไปหาเมียน้อยเป็นผู้ชายได้ไงเล่า”
“จะผู้ชายหรือผู้หญิงไม่เห็นเกี่ยวสักหน่อย ขึ้นชื่อว่าความรัก มันไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นชายหรือหญิงนี่นา”
ฟัคอออฟ กูนี่อยากจะกระทืยคนคิดคำคมนี้เลยว่าใครคิดขึ้นมาวะ แม่มจะพากูไปเกิดใหม่ต่างโลกแล้วเนี่ย
รินกะพิมพ์แชทมาอีกว่า
“คาสึโตะคุง หลังเลิกเรียน พบกันที่ตึกเก่าที่เดิม แล้วพานังชะนีขโมยผัวนั่นมาด้วยนะ”
เรื่องราวชักไปกันใหญ่ละ
หลังเลิกเรียน ชีวิตผมจะชิบหายยิ่งกว่านี้รึเปล่านะ
“อายาโนะโคจิ จากการคำนวนสุดเมพของผม ถ้าเมิงไม่ได้มีรูเพราะสละตูดเป็นไบ ก็ต้องมีรูเพราะโดนเมียแทงแน่ๆเลยครับ”
“หุบปากโว้ย กูไม่มีทางเป็นเสือไบหรอก”
*****
จบ CH 11-3
มาลุ้นกันนะครับว่าตอนหน้า อายาโนะโคจืจะโดนรินกะเสียบไส้แตกเลยมั้ย และอีเว้นสุดกาวจะเป็นยังไง ตอนหน้าจะปิดฉากเรื่องราวทั้งหมดครับ
รอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon