ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 160 ไม่สืบไม่ได้

“ไม่ใช่อย่างแน่นอน!” ทั้งสามคนตกตะลึงในทันใด รีบคุกเข่าลงไปทางไป๋อวี้ ก่อนจะอธิบายอย่างหวาดผวา “ท่านยมราช พวกข้าเป็นเพียงยมทูต ไม่กล้าที่จะออกคำสั่งปลอม”

“ใช่แล้ว คำสั่งของท่านยมราชล้วนมีตราประทับ พวกข้าเป็นยมทูต ถึงแม้จะสงสัยในคำสั่ง แต่ก็มิอาจคัดค้านได้” ยมทูตอีกคนก็ส่ายหัว

“อ่อ…เช่นนั้นพวกเจ้าได้รับคำสั่งอย่างไร” หยวนเจียงถาม

“แน่นอนว่าต้องเป็นท่านยมราชออก…” ยมทูตคนสุดท้ายโพล่งออกมา ก่อนที่จะรู้ตัวก็ไม่ทันการ สีหน้าของเขาซีดเผือดในทันที

“ดูท่า พวกเจ้าเคยเจอยมราชตัวปลอม!” หยวนเจียงส่งเสียงเย็นในลำคอ พูดอย่างมั่นใจ

สีหน้าของทั้งสามคนทั้งเขียวทั้งขาวสลับกันไป พวกเขาไม่ใช่ไม่รู้ว่ายมราชในตอนนั้นมีปัญหา แต่พวกเขาไม่สนใจเท่านั้น หรือกลัวมีเรื่อง หรือหวังว่าอีกฝ่ายจะลงจากตำแหน่งในเร็ววัน

ทั้งสามคนเงียบไปสักพัก เมื่อเห็นว่าปิดบังต่อไม่ได้ จึงพูดขึ้น “ท่านยมราช พวกข้าเคยสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่ตอนนั้นอีกฝ่ายถือตราประทับไว้ พลังก็อยู่เหนือพวกข้า พวกข้าเป็นเพียงยมทูต มิอาจแยกจริงเท็จได้”

ยมทูตอีกคนพูดเสริมด้วยสีหน้าลังเล “ใช่ ต่อมาโลกบนส่งท่านเทพมาสืบเรื่องนี้ พวกข้าถึงได้รู้ว่าคำสั่งนั้นเป็นคำสั่งปลอม เพียงแต่ภายในตำหนักโยวหลิงในตอนนั้นกลับไม่พบร่องรอยของอีกฝ่ายแล้ว”

“พวกข้าก็เคยคิดจะสืบเรื่องนี้” ยมทูตคนสุดท้ายพูดต่อ “เพียงแต่ไม่ว่าจะสืบอย่างไร ก็ไม่มีเบาะแสแม้แต่น้อย อีกฝ่ายราวกับหายไปกลางอากศ ไม่มีแม้แต่ร่องรอย”

ในตอนนั้น เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่านเทพโลกบน ทั้งบีบเค้นทั้งรีบร้อน พวกเขาก็ไม่มีวิธี จึงคิดหาเหตุผลมาอ้างไว้ก่อน เพราะว่าหาตัวคนไม่เจอ

“ดังนั้นพวกท่านจึงถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน?” คิ้วของหยวนเจียงขมวดมุ่น วันนั้นหากไม่ใช่ศิษย์หลานอยู่พอดี อีกทั้งยังถูกอาจารย์ดึงกลับโลกมนุษย์พอดี เขากับศิษย์น้องเล็กคงได้ทิ้งชีวิตไว้ตรงนั้นแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ ร่างทองของเขายังไม่ฟื้นคืนกลับมา

“พวกข้าก็ไม่มีวิธี” ยมทูตเหงื่อตก “ไม่มีเบาะ…”

“ข้ามี!” พวกเขายังพูดไม่ทันจบ อวิ๋นเจี่ยวก็พูดแทรกขึ้น

เอ๊ะ?

“…”

(⊙_⊙)

ไม่เพียงแต่ยมทูตทั้งสาม แม้แต่ชายแก่และหยวนเจียงต่างตะลึงไป พวกเขาหันหน้ามามองอวิ๋นเจี่ยวพร้อมกัน

มีอะไร…

“ไม่ใช่เบาะแสหรือ ข้าให้พวกท่าน!” อวิ๋นเจี่ยวหยิบกระดาษที่เขียนเมื่อครู่ขึ้นมา ก่อนจะยื่นไปให้ทั้งสามคน “สืบคนที่อยู่เบื้องหลังของรายชื่อพวกนี้”

ทั้งสามคนผงะไป ก่อนจะรับมา เพียงแค่กวาดตามอง สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปอย่างประหลาด “นี่คือ…”

“รายชื่อที่ใช้ประตูหลังเข้ามา!” อวิ๋นเจี่ยวพูด “ชื่อด้านบนนี้ พวกท่านน่าจะคุ้นเคยดี?”

สีหน้าของทั้งสามคนยิ่งอึดอัด รายชื่อเหล่านี้ พวกเขาคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นคนที่พวกเขาให้การดูแลเป็นพิเศษ ไม่ใช่คนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ก็เป็นคนที่ไปเกิดใหม่ในตระกูลใหญ่ อีกทั้งยังมีบางส่วนเป็นคนสนิทของพวกเขา

หากตามความดีที่พวกเขาทำก่อนตายนั้น คงจะไม่ได้รับการดูแลเช่นนี้ อีกฝ่ายพูดไม่ผิด นี่เป็นรายชื่อ “ประตูหลัง” จริงๆ อีกทั้งยังเป็นประตูหลังของยมทูตอย่างพวกเขา

ทันใดนั้นคนทั้งสามล้วนเหงื่อตก ที่สำคัญคืออีกฝ่ายได้รายชื่อนี้มาได้อย่างไร พวกเขาไม่แม้แต่จะรู้ ทันนั้น ความเกรงขามต่อท่านยมราชคนใหม่นี้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ไม่มีแม้กระทั่งจิตใจอยากจะคัดค้าน

“ท่านยมราชยกโทษให้ด้วย!” ยมทูตทั้งสามอ้อนวอนขอร้อง

ทั้งสามคนรู้สึกเพียงเข่าอ่อน ก่อนจะคุกเข่าลงไปทันที ครั้งนี้พวกเขาเป็นกังวลขึ้นมาจริง ไม่พูดถึงอย่างอื่น แค่เพียงรายชื่อนี้ อีกฝ่ายก็สามารถเอาพวกเขาออกจากตำแหน่งยมทูตได้ อีกทั้งยังสามารถส่งไปลงนรกได้ อย่างต่ำพันปี นี่เป็นหลักฐานความไม่เที่ยงธรรมของพวกเขา

“เบาะแสให้พวกท่านแล้ว” อวิ๋นเจี่ยวกลับไม่มีท่าทีอยากจะลงโทษพวกเขาในตอนนี้ เธอเดินขึ้นหน้า และย่อตัวลง “ภายในสามเดือน พวกข้าต้องรู้คำตอบ”

“สามเดือน!” ทั้งสามคนผงะไป ก่อนจะพูด “แต่ว่า…”

อวิ๋นเจี่ยวกลับพูดขัดขึ้นมาก่อน “บังเอิญอย่างมาก การคัดเลือกยมทูตก็สามเดือนเหมือนกัน พวกข้ายุติธรรมมาก! พวกท่านเป็นพนักงานเก่าแล้ว ข้าเชื่อว่าพวกท่านจะพิสูจน์ความสามารถยมทูตของตัวเอง ใช่หรือไม่”

“…” หากสืบไม่ได้ ก็จะเรียกคืนคำแหน่งยมทูตของพวกเขาใช่หรือไม่

ทั้งสามคนทำได้เพียงพยักหน้า ก่อนจะทำความเคารพไป๋อวี้ “ข้าน้อยรับคำสั่ง!” พูดจบก็ไม่มีทีท่าว่าอยู่ต่อ พวกเขารีบหายตัวกลับไปสืบหาความจริงที่ยมโลกต่อ

ชายแก่ที่งงงวยกับเหตุการณ์: ”…”

เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น

(⊙_⊙)

“ศิษย์หลาน เรื่องนี้มอบหมายให้พวกเขา ไม่ค่อยเหมาะสม…หรือไม่” หยวนเจียงเข้าใจแผนการของศิษย์หลาน นางคิดจะให้ยมทูตทั้งสามนี้ไปสืบเรื่องของหานซูตัวปลอม เพียงแต่พวกเขาอาจไม่จริงใจ

“วางใจเถอะ พวกเขาจะต้องยอมสละทุกอย่างเพื่อสืบหาความจริง” หากอยากเป็นยมทูตต่อ

หยวนเจียงผงะ ก่อนจะนึกถึงเบาะแสเมื่อครู่ “รายชื่อที่ศิษย์หลานมอบให้พวกเขาคือ?”

“คัดมาจากสมุดบันทึกความตาย” เธอเล่าถึงรายชื่อแปลกประหลาดบนสมุดบันทึกความตาย

โชคดีที่เป็นสมุดบันทึกความตาย หากเป็นสมุดบัญชีอาจมีโอกาสทำเท็จได้ แต่สมุดบันทึกความตายทำไม่ได้ สมุดบันทึกความตายหลอมรวมอยู่ในจิตเดิมของยมทูต ตอนที่ตัดสินนั้นแค่เพียงมีความคิด ยมทูตก็สามารถเขียนคำตัดสินของวิญญาณนั้นได้

คนอื่นไม่อาจมองเห็นรายละเอียดของสมุดบันทึกความตาย ดังนั้นไม่เคยมียมทูตคิดจะปลอมแปลงเนื้อหาด้านใน สิ่งที่เขียนอยู่บนนั้นล้วนเป็นความจริง ถึงแม้จะเป็นคนทั้งสามที่ถูกเรียกคืนสมุดบันทึกความตายก็คงคิดไม่ถึงว่าจะมีคนเปิดอ่าน อีกทั้งยังสามารถเห็นสิ่งที่พวกเขาทำจากด้านบน

“เมื่อครู่ข้าลองเทียบรายชื่อที่ทั้งสามคนส่งขึ้นมา พบว่ามีวิญญาณจำนวนมากล้วนตรงกับรายชื่อในสมุดบันทึกความตาย ดังนั้นเรื่องนี้ยมทูตพวกนี้อาจมีส่วนร่วม”

คนที่อยู่ด้านหลังกล้าที่จะปลอมตัวเป็นยมราช อีกทั้งวิธีการกักขังท่านเทพ หากบอกว่าไม่มีอำนาจหนุนหลังคงไม่มีคนเชื่อ สาเหตุที่ยมทูตไม่สืบต่อไป ไม่ใช่เพียงแค่เบาะแสไม่พอ แต่มีความเป็นไปได้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนของจวน ดังนั้นถึงได้ใช้ข้ออ้างนี้กับโลกสวรรค์

แต่อวิ๋นเจี่ยวกลับเปิดโปร่งประเด็นนี้ แม้แต่รายชื่อก็เอาออกมาแล้ว เธอต้องการบอกพวกเขาอย่างชัดเจนว่า เธอรู้มาตั้งนานแล้วว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา ตอนนี้เธอต้องการผลลัพธ์ สืบได้สืบ สืบไม่ได้ก็ออกไป!

ระหว่างถูกไล่ออกกับว่ารักษาตำแหน่งไว้ ใครก็รู้ว่าควรเลือกอะไร ตัวอย่างยมทูตทั้งสามก่อนหน้านี้มีให้ดู ดังนั้นครานี้พวกเขาคงต้องพยายามสืบเรื่องนี้ให้ได้สุดชีวิต

“ข้ายังมีรายชื่ออีกชุด” อวิ๋นเจี่ยวหยิบกระดาษใบเล็กออกมาจากแขนเสื้อ “อาจารย์อาหยวนแจ้งไซ…ศิษย์พี่สี ให้เขาสืบคนที่อยู่ด้านบน” ไข่ไก่ไม่อาจวางอยู่ในตะกร้าใบเดียวได้ ต้องสืบหาสองทางถึงจะเจอความจริงที่ถูกต้อง

หยวนเจียงรับมาอย่างประหลาดใจ ทันใดนั้นก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมา เขาพยักหน้า “ได้! ข้าส่งข่าวบอกเขาเดี๋ยวนี้” เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการสืบ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะมีผลลัพธ์ในเร็ววัน

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset