สองสามวันที่ผ่านมานี้ช่างนับเป็นวันที่เหนื่อยยากของเป่ยฟางหรงเสียจริง หลังจากที่อาจารย์แย่งขนมจากปากของนางไปแล้วอาจารย์ก็มักจะหาเรื่องทำโทษนางบ่อยยิ่ง
กระทั่งตอนนอนยังไม่ยอมให้นางใกล้ชิดเช่นเดิม มิหนำซ้ำยังเอาเชือกอัคคีมาขู่นาง นางกอดเขาได้แต่หากขยับนิ้วแม้เพียงนิดเดียวก็ถูกจับเขามัดเสียแล้ว ทั้งคืนจึงเป็นเพียงอาจารย์ที่นอนกอดนางเองโดยที่เป่ยฟางหรงไม่สามารถกระดิกกระดิกได้แม้แต่น้อย
“อาจารย์ข้าเป็นเด็กดีมากแล้วจริง ๆ นะเจ้าคะ รับรองว่าคราหน้าหากหยีจวนทำขนมมาให้ข้าอีก ข้าสัญญาว่าจะไม่หวงของแบ่งให้ท่านครึ่งหนึ่งจริง ๆ”
ถึงแม้นางจะสาบานกับเขาเช่นนั้นหลี่จิ้งกลับไม่ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย
เช้าวันนี้เป่ยฟางหรงตื่นขึ้นมาก็ไม่พบหลี่จิ้งแล้ว หยีจวนเคาะประตูเรียกนางตั้งแต่เช้าคงเห็นว่าหลี่จิ้งไม่ได้อยู่ในเรือนเขาจึงกล้ามาเคาะประตูเรียกนาง
“เข้ามาเถิด”
หยีจวนถืออ่างน้ำมาใบหนึ่งพร้อมทั้งผ้าเช็ดหน้าและไม้ถูฟันมาอย่างเรียบร้อย เขาปรนนิบัตินางล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ยกอ่างน้ำออกไป
เป่ยฟางหรงผลัดอาภรณ์เรียบร้อยหยีจวนก็กลับมาอีกพร้อมกับโจ๊กชามใหญ่
เป่ยฟางหรงมองโจ๊กข้าวเหนียวที่เหนียวนุ่มอีกทั้งยังมีหมูสับที่ปั้นเป็นก้อนกลมถูกปรุงรสชาติมาอย่างพิถีพิถันนั่นพลันกลืนน้ำลาย
“มารีบยกมาข้าหิวยิ่ง”
ไม่นานนางก็ซัดโจ้กจนหมดชามใหญ่ อีกทั้งยังมีปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ถ้วยใหญ่ให้นางกินล้างปาก หยีจวนยิ้มเมื่อความพยายามเตรียมโจ๊กมาตั้งแต่เมื่อคืนของเขาได้ผล
เพียงเห็นนางกินอย่างอร่อยน้ำตาของเขาก็แทบไหลแล้ว
“เจ้าเห็นอาจารย์หรือไม่”
“เห็นว่านัดศิษย์พี่น้องของฝ่าบาทประชุมกันที่ศาลาว่าการของจวนเจ้าเมืองขอรับ น่าจะหารือเรื่องสำคัญ”
เป่ยฟางหรงจึงลุกพรวดพราดวิ่งออกไปทันที
ณ ศาลาว่าการของจวนเจ้าเมือง
หลายวันมานี้พวกเขาพยายามตามจับตัวหัวหน้าปีศาจแต่จับเท่าไหร่ก็ไม่สามารถจับได้ หัวหน้าปีศาจตนนั้นเร้นกายเก่งเป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้การจับกุมตัวไม่สำเร็จ
กระนั้นหลี่จิ้งยังเห็นว่ากลิ่นปีศาจอันรุนแรงยังวนเวียนอยู่ในเมืองแห่งนี้ และเขายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดปีศาจตนนี้จึงไม่ยอมหนีไปทั้ง ๆ ที่เขาแทบจะฆ่าสมุนของมันจะไม่เหลือแล้ว
แสดงว่าสิ่งที่มันต้องการยังอยู่ในเมืองนี้ และมันต้องการสิ่งใดกันแน่
หลายวันมานี้เขาคิดวิธีที่จะหลอกล่อหัวหน้าปีศาจให้ออกมา แต่ทำเช่นไรก็ไม่สำเร็จจนท้ายที่สุดเขาก็คิดวิธีออกจนได้
“ต้องใช้สตรีชาวบ้านธรรมดาเป็นตัวล่อ แต่เพราะเราไม่อาจเสี่ยงได้ดังนั้นเราจำเป็นต้องใช้ศิษย์สตรีของสำนักเป็นคนล่อแทน”
“อาจารย์ทุกคนต่างมีพลังทิพย์ที่ปีศาจสัมผัสได้ เราจะทำเช่นใดเล่าขอรับแค่มันได้กลิ่นมันก็ระวังตัวปล่อยเพียงสมุนออกมาเท่านั้น”
จิ้งหูถามขึ้น
“เจ้าไม่ต้องห่วง อาจารย์อากับอาจารย์ของเจ้าคิดวิธีกลบพลังทิพย์ไม่ให้มันได้กลิ่นแล้ว พลังทิพย์จะถูกกลบราวสองชั่วยามคิดว่าคงเพียงพอที่จะหลอกล่อมันออกมาเองได้”
หลิงเสียนอธิบาย
“เพียงแต่ต้องลำบากศิษย์แล้ว จะมีผู้ใดขันอาสาไปเป็นตัวล่อบ้างไม่ต้องห่วงอาจารย์ย่อมไม่ให้ยอมให้เกิดสิ่งใดที่ผิดพลาดขึ้นแน่”
หลี่จิ้งเอ่ยขึ้น