“ตอนที่ข้าพาท่านหนีไม่ทันระวังทั้งยังต้องสู้กับปีศาจพวกนั้น ท่านจึงได้รับบาดเจ็บขอรับ”
“ได้รับบาดเจ็บเหตุใดจึงคล้ายจะกลายเป็นน้ำแข็งเช่นนี้เล่า ข้าหนาวจนจะทนไม่ไหวแล้ว”
เป่ยฟางหรงกอดอก ใบหน้าขาวซีดอีกทั้งยังเริ่มมีเกล็ดหิมะขึ้นที่มือของนาง เดิมทีนางก็เป็นโรคประหลาดนี้อยู่แล้วต้องอาศัยอาจารย์คอยช่วยเหลือ ในยามนี้ได้รับบาดเจ็บทั้ง ๆ ที่คิดว่าควบคุมได้แล้วแต่กลับแย่ยิ่งกว่าเดิม
หยีจวนดูร้อนรนยิ่ง เขารีบถอดเสื้อตัวนอกแล้วห่มให้นาง หยีจวนเจ็บปวดในใจยิ่ง เป่ยฟางหรงเป็นถึงฝ่าบาทน้อยแห่งแดนเหมันต์ คนที่จะขึ้นเป็นฝ่าบาทคนต่อไปในแดนอันหนาวเหน็บ บัดนี้กลับกำลังถูกความหนาวเย็นทำร้ายไม่น่าอดสูไปหน่อยหรือ
ในขณะที่เขาซึ่งเป็นหิมะมีร่างกายเย็นเยียบเช่นนี้จะช่วยนางได้เช่นไร ทั้ง ๆ ที่ฝ่าบาทของเขาควรจะมีความสุขอยู่ในแดนเหมันต์แท้ ๆ เหตุใดสวรรค์ต้องส่งลงมาจุติและต้องรับบ่วงกรรมนี้ด้วย
พลันเสียงกึกก้องดังขึ้นพร้อมด้วยแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เป่ยฟางหรงยกมืออุดหูในขณะที่หยีจวนกระโดดเข้ามาเอาตัวปกป้องนางไว้เมื่อบางสิ่งบางอย่างบนท้องฟ้าหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว
สิ่งเหล่านั้นแข็งราวกับหินกระแทกร่างของหยีจวนจนบอบช้ำ เป่ยฟางหรงขยับตัวลำบากยิ่ง ยิ่งขยับนางยิ่งรู้สึกเจ็บ หยีจวนไม่รู้จะพานางหลบหนีไปที่ใดแล้ว เมื่อสิ่งที่ไม่รู้ได้พังคลืนลงมา
ฝุ่นคละคลุ้งตลบอบอวล หมอกเริ่มจากลง การสั่นสะเทือนหยุดนิ่งคนผู้หนึ่งปรากฏกายอยู่เบื้องหน้า ขยับนิ้วมือเพียงเล็กน้อยก็ผลักหยีจวนออกจากร่างของเป่ยฟางหรงสำเร็จ กระบี่ฮวาเปียวหลังจากทะลายกำแพงอาคมจนเสร็จสิ้นก็บินโฉบกลับมาเข้าฝัก
“หรงหรง”
“อาจารย์”
ศิษย์อาจารย์ต่างมองหน้ากัน ใบหน้าของหลี่จิ้งแม้จะยังราบเรียบแต่ดวงตาไหวระริกเห็นได้ชัดว่าห่วงนางเพียงใด เป่ยฟางหรงมองหลี่จิ้งด้วยคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาไวปานนี้ หลังจากนั้นปากเล็กพลันเบะออกน้ำตาเอ่อล้นจนเต็มหน่วย อ้าปากร้องไห้โฮราวกับเด็ก ๆ
“ข้าเจ็บขา หนาวด้วยขอกอดหน่อยเจ้าค่ะ”
หลี่จิ้งขมวดคิ้วแล้วนั่งยอง ๆ ตั้งใจจะดูขาของนางว่าเป็นเช่นไรบ้าง กลับถูกเป่ยฟางหรงโถมร่างเข้าหา ใบหน้าของหลี่จิ้งที่เคร่งเครียดตั้งแต่นางหายตัวไปพลันคลายลง
หลิงเสียนตามกระโดดลงมาจากด้านบน เห็นหลี่จิ้งถูกเป่ยฟางหรงล่วงเกินพลันใบหน้าเคร่งขรึมในใจคิดเพียงแต่ว่า
นางมารร้ายจอมเสแสร้ง
เป่ยฟางหรงสอดมือเข้าไปในอกของหลี่จิ้งกระทั่งขาของนางยังเกี่ยวเอวเขาเอาไว้ด้วย เกาะติดแน่นคล้ายหมีน้อยตัวหนึ่ง
“อาจารย์จะช่วยเจ้าก่อนเรื่องอื่นค่อยคุยกัน”
กล่าวจบเขาก็มองไปที่หยีจวนและหลิงเสียนด้วยใบหน้านิ่งขรึม เขากระแอมคราหนึ่งแล้วเอ่ยว่า
“เรื่องรักษาหรงหรงต้องทำอย่างเร่งด่วน พวกเจ้าถอยให้ห่างคอยระวังความปลอดภัยอย่าเข้าใกล้เขตอาคมของข้าเป็นอันขาด”
“ศิษย์พี่นางเป็นมารร้ายนะเจ้าคะ ท่านยังจะช่วยนางอีกหรือ!!!”
หลี่จิ้งยังไม่ทันเอ่ยปากหยีจวนก็สอดเข้ามาปกป้องเป่ยฟางหรงทันใด
“เจ้าน่ะสิปีศาจ ใบหน้าก็งดงามเหตุใดปากสุนัขเช่นนี้บังอาจเกินไปแล้ว”
“นี่เจ้าเป็นผู้ใด เหตุใดกล้ามาว่าข้าเช่นนี้”
หลิงเสียนชี้หน้าหยีจวน ใบหน้าสั่นระริก
หลี่จิ้งจึงเอ่ยขัดว่า “คำสั่งข้าเจ้ากล้าสงสัยหรือ เป่ยฟางหรงไม่ใช่ปีศาจนางคือศิษย์ที่ข้าสั่งสอนมาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่นางยังเยาว์ ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเอ่ยคำไร้สาระพวกนี้อีก แม้จะเป็นศิษย์น้องข้าก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน”