“ผมทําอะไรเหรอ?” หวังเย้ายิ้มถาม
“ฉันได้ยินมาว่า หลังจากที่รุ่นพี่หลี่คุยกับพวกเราเสร็จ เขาก็อราดกางเกงตัวเองน่ะสิคะ”
“นั่นอาจเป็นเพราะเขาไปกินของกินที่เสียแล้วก็ได้ คนหนุ่มสมัยนี้ไม่ค่อยใส่เรื่องความสะอาดกันอยู่ด้วย”
“เชียนเชิง!” ซูเสี่ยวซวีท้วงเขาด้วยท่าทางน่ารัก
“เป็นผมเอง เรากําลังแสดงความรักกันอยู่ แต่เขากลับมาหาเรื่องพวกเรา สมควรแล้ว” หวังเย้าพูด
“เชียนเชิงทําแบบนั้นได้ยังไงคะ?” ซูเสียวซวีถาม เธอจําได้ว่าพวกเขายืนอยู่ห่างกันพอสมควร
“เรื่องนั้นง่ายมาก” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม “อาชีพของผมคืออะไรล่ะ? ผมคือแพทย์ปรุงยามันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะทําให้ท้องของเขาปั่นป่วนขึ้นมาแพทย์ปรุงยาไม่เพียงแต่สามารถรักษาโรคและช่วยผู้คนเท่านั้นแต่ยังสามารถลงโทษผู้ชายน่ารังเกียจที่ชอบหาเรื่องคนอื่นและทําเหมือนคนอื่นไม่เชื่อฟังเขา”
“แต่เขายืนห่างจากพวกเรามากกว่าหนึ่งเมตรเลยนะคะ”
“ผมสามารถเก็บลูกแพรจากบนต้นไม่โดยที่ไม่ต้องจับ ดังนั้น ผมก็สามารถกระตุ้นเส้นลมปราณของเขาจากระยะไกลได้เหมือนกัน”
“สกัดจุดเขาผ่านอากาศเหรอแบบนั้นใช่ไหมคะ?”
“อืม เธอจะพูดแบบนั้นก็ได้” หวังเย้าพูด
“เชียนเชิง แบบนั้นไม่ดีเลยนะคะ รุ่นพี่คนนั้นเป็นคนดังคนหนึ่ง เขาเป็นเหมือนเจ้าชายสําหรับสาวๆหลายคนในมหาลัยถ้าเชียนเชิงทําแบบนั้นชื่อเสียงของเขาจะเสียหายได้นะคะ”
“มันไม่เสียหายหรอก ผมพนันได้เลยว่ามันก็แค่เหม็นไปหน่อยเท่านั้น”
“เชียนเชิง!”
“ฮาฮา” หวังเย้าอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“เชียนเชิง หลังจากเกิดเรื่องนี้กับเขา จะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขาแล้วใช่ไหมคะ?”
“ถ้าเขายังกล้าตามจีบเธออีกก็ไม่แน่” หวังเย้าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ถึงตอนนั้น เมื่อไหร่ที่เขาเจอหน้าเธอผมก็จะทําให้เขาอราดกางเกงตอนนั้นเลย เขาจะอราดทุกครั้งที่เจอเธอ!”
“หา ไม่ อย่าทําแบบนั้นนะคะ!” ซูเสี่ยวซวีโบกมือ
“ก็ได้ เราไปกันเถอะ”
“ค่ะ!”
พวกเขาไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารเล็กๆในตัวเมือง ตัวร้านไม่ใหญ่มาก แต่พวกเขาต้องจองล่วงหน้าถึงสามวันเพื่อให้ได้มาทานอาหารที่นี่ลูกค้าไม่มีสิทธิตัดสินใจว่าพวกเขาจะกินอะไรทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าของร้านและเชฟเป็นคนตัดสินใจเรื่องอาหาร ลูกค้ามีหน้าที่กินอาหารที่เขาทําให้ได้เท่านั้น
“กฎแปลกๆ” หวังเย้าพูด
“แปลกเหรอคะ?” ซูเสี่ยวซวีถาม “มีหลายร้านในปักกิ่งที่เป็นแบบนี้ เราลองไปกินร้านพวกนั้นดีไหมคะ?”
“ดีสิ ยังไงก็ไม่มีอะไรทําอยู่แล้ว”
ไม่นาน อาหารก็ถูกนํามาเสริฟ มีอาหารหกจานกับซุปอีกหนึ่ง กลิ่นหอมลอยออกมากระตุ้นความอยากอาหารของพวกเขา
“เรากินมาหมดหรอก!”
“ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นหรอกค่ะ” ซูเสี่ยวซวีพูด
อาหารมีสีสันน่าทานและกลิ่นหอม รสชาติของอาหารเหนือกว่าร้านทั่วไปรวมไปถึงวัตถุดิบชั้นยอด
“เป็นยังไงคะ?”
“อร่อยมาก” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองออกไปเดินเล่นในตอนกลางคืน ปักกิ่งในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาหลายคนเริ่มต้นวันของพวกเขาหลังจากฟ้ามืด พวกเขาสามารถปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาและทําตามที่ใจอยาก พวกเขายุ่งอยู่กับงานและหน้าที่ที่แตกต่างกันไปเพื่อหาเงินมาใช้ในแต่ละวันหลายคนไม่ได้พอใจกับชีวิตแบบนั้นพวกเขามีชีวิตอยู่กับความลําบาก,กดดัน,ผิดหวัง,และโกรธเกลียด หลังเลิกงาน พวกเขาจําเป็นต้องผ่อนคลาย,ปลดปล่อย,ระบาย,และสงบจิตใจ ดังนั้นค่ำคืนในปักกิ่งจึงอึกทึกและเต็มไปด้วยแสงสี, ความมึนเมา,และเงิน
บางเลือกกลับบ้านไปอยู่กับคนในครอบครัวและความสงบสุขของคําว่าบ้าน
ภายในวิลล่าหรูใจกลางเมือง
เฟิงเจียเหอเพิ่งดื่มยาเข้าไปและนั่งพิงอยู่บนโซฟา
“รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” สามีของเธอถามอย่างอ่อนโยน
“ดีค่ะ ร่างกายของฉันรู้สึกอุ่นและฉันยังรู้สึกดีกว่าวันก่อนๆ”
“อืม ผมก็คิดว่า สีหน้าของเธอดีขึ้นเหมือนกัน ยาของหมอหวังได้ผลดีจริงๆ”เขาที่เป็นสามีของเธอต้องคอยระมัดระวังอยู่เสมอตั้งแต่พวกเขากลับมาที่บ้านเขาก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย เขาคอยอยู่เป็นเพื่อนภรรยาโดยเฉพาะในเวลาที่เธอรู้สึกไม่สบายใจแบบนี้เขากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเขายังพบว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นกับภรรยาของเขาล้วนแต่เป็นเรื่องดีและเขาก็ยินดีที่ได้เห็นมัน
“ฝีมือการรักษาของหมอหวังยอดเยี่ยมจริงๆ!”
“จริงด้วยค่ะ” เฟิงเจียเหอพูด “แต่กฎของเขาออกจะแปลกไปสักหน่อยถ้าเขาไม่อยากรักษาคนไข้ใครก็ทําอะไรไม่ได้”
“ที่เราได้รักษากับเขาก็เพราะความสัมพันธ์ที่เรามีกับเสี่ยวซวี”
“หมอหวังชอบอะไรบ้างเหรอ?” หลิวเจิ้งเฟิงถ้ามขึ้นมาหลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ฉันไม่แน่ใจเรื่องนั้นเหมือนกันค่ะ”
“ลองถามเขาดู เอ่อ…ทําไมเธอไม่ลองถามเสี่ยวซวีดูล่ะ?”
“ได้ค่ะ ไว้ฉันจะโทรถามเธอด”
ซูเสี่ยวซวีเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน ในตอนที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอโทรมาหาถึงแม้อีกฝ่ายจะพูดอย่างสุภาพและอ้อมค้อม แต่เธอก็พอจะเข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย
“ไม่จําเป็นหรอกค่ะ ไม่ใช่ว่าพี่จ่ายค่ารักษาไปแล้วเหรอคะ?” ซูเสี่ยวซวีถาม
“ค่ารักษาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะ” เฟิงเจียเหอที่อยู่ปลายสายพูด จากสภาพร่างกายในปัจจุบันของเธอ เธออาจจะต้องให้หวังเย้าดูแลรักษาอีกหลายครั้งก็เป็นได้เธอจึงอยากใช้โอกาสจากความสัมพันธ์ที่มีเพื่อที่ในอนาคตทุกอย่างจะราบรื่นและทําอะไรได้ง่ายขึ้น
น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์จากซูเสี่ยวซวีเลย
“เธอไม่ยอมบอกค่ะ” เฟิงเจียเหอบอกับสามี
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ ผมจะลองคิดหาทางอื่นแทน ตอนนี้จะสามทุ่มแล้วเธอง่วงรึยัง?”
“ค่ะ ฉันเริ่มรู้สึกง่วงนิดหน่อยแล้ว”
คืนนี้ เธอหลับสนิท หากเป็นเมื่อก่อน เธอมักจะตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะฝันร้ายและนอนไม่หลับไปทั้งคืน
หลังจากนอนหลับสนิททั้งคืน เธอรู้สึกสบายตัวและกระฉับกระเฉงมากขึ้นการนอนคือวิธีการฟื้นฟูร่างกายที่ดีที่สุด
“มันสบายมากเลยค่ะ ฉันไม่ได้หลับสนิทแบบนี้มานานมากแล้ว” เธอพูด
“ใช่ เมื่อคืนผมตื่นขึ้นมาดูเธอสองครั้ง ไม่คิดเลยว่าเธอจะหลับสนิทได้” สามีของเธอพูดด้วยยิ้ม
“มันหาได้ยากมากที่ฉันจะหลับยาวถึงเช้าได้แบบนี้ตอนที่ฉันตื่น ฉันไม่รู้สึกมึนหัวเลยค่ะแถมยังรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นด้วย”
“ดีครับ”
ตอนเช้า หลังมื้ออาหาร หวังเข้าไปส่งซูเสี่ยวซวีเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยหลายคนยังคงชี้นิ้วและซุบซิบนินทาเกี่ยวกับพวกเขาอยู่เขายังได้ยินพวกเขาพูดถึงเรื่องของรุ่นพี่หลี่ที่น่าเศร้าและ น่าสมเพชคนนั้นด้วย
“ที่วันนั้นฉันขอตัวออกมาเพราะท้องฉันเสีย ไม่ใช่เพราะฉันกลัวสักหน่อย!”หลี่หลุนเหอพยายามอธิบายให้เพื่อนร่วมชั้นของเขาฟังด้วยใบหน้าแดงก่า
“ใช่ ใช่ นายไม่ต้องอธิบายหรอก เฮ้อ วันนี้ฉันก็เห็นเทพธิดาซูกับแฟนของเธออีกแล้วนายกล้าไปหยุดพวกเขาอีกไหม?”
“ทําไมฉันจะไม่กล่า?”
“พนันไหมล่ะ?”
“ไม่มีปัญหา”
“ดี ฉันขอเตือนนายไว้ก่อนนะ ถ้าให้ดีนายควรเตรียมกางเกงกับทิชชูไว้เข้าห้องน้ำให้พร้อมด้วยล่ะ
“หุบปากไปเลย!” หลี่หลุนเหอคํารามด้วยความโมโห
ฮาฮา
หลังหมดคาบเรียน ทั้งสองตัดสินใจหาอะไรทานที่มหาวิทยาลัย
“โอ้ ดูสิ พวกเขาอยู่ตรงนั้น”
“ตรงไหน?”
“เขามาแล้ว! เขามาแล้ว!”
หวังเย้ากับซูเสี่ยวซวีเดินอยู่บนถนนในมหาวิทยาลัย หลี่หลนเหอเตรียมตัวมาล่วงหน้าแล้ว ครั้งนี้ ในมือของเขามีช่อดอกไม้อยู่ด้วย
“สวัสดีครับ เสี่ยวซวี”
“ทําไมคุณถึงอยู่ที่นี่อีกแล้ว?” ซูเสี่ยวซวีไม่พอใจที่เห็นหน้าหลี่หลุนเหอ
“ผมเคยพูดเอาไว้แล้วนี่ครับ ผมจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด”
“จึๆ น่าไม่อายจริงๆ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“แบบนี้จะเรียกว่าน่าไม่อายได้ยังไงกันครับ? มันคือการพยายามเพื่อความรักต่างหาก!”
หวังเย้าขี้เกียจเกินกว่าที่จะคุยกับเขา
“อ๊ะ!” สีหน้าของหลี่หลุนเหอเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ๆเขาก็รู้สึกปวดท้องอย่าง รุนแรง ดูเหมือนว่าในท้องของเขากําลังปั่นป่วน มีบางอย่างพยายามจะออกมาจากท้องของเขา และมันกําลังมองหาท้องออกอยู่ และนั่นก็คือด้านล่าง
“ผมต้องไปแล้ว เสี่ยวซวี!”
รุ่นพี่หลี่ไม่มีเวลาแม้แต่จะมอบช่อดอกไม่ให้ซูเสี่ยวซวี ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งออกไป
“อ้าว เกิดอะไรขึ้น? ทําไมเขาถึงวิ่งหนีไปอีกแล้วล่ะ?”
“เขาคงไม่ได้อราดกางเกงตัวเองอีกแล้วใช่รึเปล่า?”
“เชี่ย เรื่องจริงเหรอเนี่ย?”
ปัด เสียงผายลมดังลั่นพร้อมกับกลิ่นเหม็นที่ลอยอยู่ในอากาศ
หลี่หลุนเหออยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา เขาอราดกางเกงอีกครั้งแล้ว และไม่ใช่เพราะติดมากับการผายลมแต่มันมาเป็นก้อนเน้นๆ
โอ้พระเจ้า! มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง!
“เชียนเชิง เขา?”
“ถ้าเขามาหาเรื่อง ผมก็ต้องหาเรื่องให้เขายังไงล่ะ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“เชียนเชิง เขาคงจะไม่ฆ่าตัวตายหรอกใช่ไหมคะ?”
“คงจะไม่หรอก” หวังเย้าตกใจที่ได้ยินคําถามนี้ “เขาดูเป็นคนหน้าไม่อายและหน้าหนาขนาดนั้นคนแบบนั้นมักมีจิตใจที่แข็งแกร่ง เขาคงไม่สิ้นหวังง่ายขนาดนั้นหรอกจริงไหม?”
“นั่นก็พูดยากค่ะความจริงเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในมหาลัยทุกปีเลยด้วยซ้ำ”