EP 22: จอมใจ จอมอหังการ
ใบหน้าหล่อลากไส้ก้มต่ำลงมาหา พร้อมๆ กับลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดใบหน้า รดารักษ์ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจกับสิ่งที่ตนกำลังเผชิญหน้าอยู่ ทั้งความร้อนระอุจากลมหายใจหอมกรุ่น ทั้งฝ่ามือร้อนผ่าวที่คลึงเคล้นอยู่บริเวณบั้นท้าย แต่ที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือความแข็งแกร่งชูชันที่กำลังถูไถกับหน้าขาของหล่อน
“อย่าทำกับรดาแบบนี้… อย่าทำ…”
พยายามโก่งตัวหนีแต่ก็ไม่ได้ผล เพราะพอหล่อนขัดขืนพ่อคนตัวโตก็จับร่างของหล่อนเหวี่ยงไปบนเตียงที่ตั้งอยู่กลางห้องอย่างไร้ความปรานี หญิงสาวยังไม่ทันจะเปล่งเสียงร้องวิงวอน ราฟาลก็ตามขึ้นมาทาบทับ เนื้อตัวแนบชิดกันจนไร้ช่องว่าง ความแข็งแกร่งดุจบุรุษเพศทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนกับกำลังจะหายใจไม่ออก ยิ่งยามที่เขาก้มหน้าลงมาใกล้ หล่อนก็ยิ่งแทบขาดใจ
“อย่า…”
“มารยาหญิงน่ะใช้แต่พองามมันก็น่าหลงใหลหรอกนะ แต่ถ้าใช้เยอะเกินไปมันก็น่าสะอิดสะเอียน…”
“ปล่อยรดาเถอะค่ะ แล้วรดาสัญญาว่าจะไปให้พ้นๆ หน้า ขอแค่คุณราฟปล่อยรดาเท่านั้น…”
แม้ว่าตอนนี้หัวใจจะเต็มไปด้วยความอัปยศอดสู แต่ร่างกายมันหาได้รู้สึกเช่นนั้นด้วยไม่ เพราะมันเบ่งบานและร้อนฉ่าราวกับกำลังรอสิ่งวิเศษบางอย่างอยู่ยังไงยังงั้น ยิ่งยามที่เขาไล้นิ้วมือไปตามกลีบปากล่างของหล่อนแผ่วเบาด้วยแล้ว ก้อนถ่านร้อนๆ ก็ลุกฮืออยู่ภายในช่องท้องทันที
“เสียใจด้วยแม่หนูน้อย… เรือออกมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว และฉันก็ไม่คิดจะเสี่ยงสั่งให้เรือเปลี่ยนทิศทางกลับเข้าฝั่งเพียงเพราะผู้หญิงแพศยาอย่างเธอเพียงคนเดียวหรอก…”
ยิ่งฟังก็ยิ่งเจ็บ เจ็บจนแทบจะขาดใจ “รดาจะว่ายน้ำกลับไปเอง… ขอแค่เสื้อชูชีพ…”
“ความจริงฉันก็อยากจับเธอโยนลงทะเลไปซะให้รู้แล้วรู้รอด… แต่ก็ยังเกรงใจป้ามูนาอยู่…” ฝ่ามือของคนตัวโตที่ซุกซนไปทั่วทั้งร่างกายวกขึ้นมาอิ่งอ้อยอยู่กับเต้างามอวบใหญ่ของหล่อน เขาบีบเคล้นเต็มแรง ขณะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกใจของหล่อน วูบหนึ่งเสมือนได้เห็นความพึงพอใจในสายตาคมกริบคู่นั้น แต่แค่กระพริบตามันก็หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น
“ในเมื่อมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว… เธอก็จะต้องอยู่บนเรือนี้กับฉันตลอดเจ็ดวันต่อจากนี้ไป…”
ใบหน้างามส่ายสะบัดไปมา น้ำตายังไหลไม่หยุด “งั้นปล่อยรดาลงท่าเรือแรกที่เรือสำราญลำนี้จะแวะก็ได้ค่ะ รดาจะหาทางกลับบ้านเอง…”
“ฝันไปเถอะว่าฉันจะยอม…”
ใบหน้าหล่อลากไส้ของราฟาลบูดบึ้งขึ้นมาทันที ดวงตาคมกริบที่ล้ำลึกและยากหยั่งถึงเต็มไปด้วยกองไฟประหลาดที่หล่อนมองยังไงก็ไม่สามารถเข้าใจความหมายของมันได้สักทีเต็มไปหมด
“เธอจะต้องทนอยู่กับฉันไปอย่างน้อยๆ หนึ่งอาทิตย์… บนเรือลำนี้ และภายในห้องนี้กับฉัน”
สาวน้อยเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนกรอบสอง กลีบปากอิ่มสีสดเบิกกว้าง “ไม่นะคะ เราจะอยู่ห้องเดียวกันได้ยังไง… ในเมื่อ…”
“ทำไมจะไม่ได้… ในเมื่อในเรือนี้ทุกห้องเต็มหมด แม้แต่ห้องพนักงานประจำเรือ หรือว่าเธออยากจะไปนอนในห้องน้ำกันล่ะ…”
น้ำเสียงของเขาราบเรียบขณะก้มลงไซ้ซอกคอหอมกรุ่นของหล่อน หญิงสาวครางเบาๆ เมื่อปลายจมูกซุกซนซอนไซ้ไปใกล้กับใบหู ความรู้สึกอึดอัดแปลกประหลาดจู่โจมไม่ยอมหยุด และมันก็ทำให้หล่อนเลือกที่จะเลิกผลักไสและเปลี่ยนเป็นสอดนิ้วมือเข้าไปทึ้งเส้นผมดำขลับของผู้ชายที่อยู่บนร่างแทน
“แต่คุณราฟเกลียดรดามาก…”
ราฟาลอยากจะบอกเหลือเกินว่าตอนนี้ความรู้สึกของเขามันช่างห่างไกลจากคำว่าเกลียดเป็นล้านๆ ปีแสงเลยทีเดียว แต่เขาก็ไม่ได้บอกออกไป
“มันไม่มีทางเลือก ยังไงซะฉันก็ต้องเห็นแก่ส่วนร่วม…”
น้ำเสียงของเขาเหมือนไม่แยแสอะไรเลย มันช่างแตกต่างจากตอนที่เขาเห็นหน้าหล่อนครั้งแรกบนเรือนัก ราฟาลคงไม่อยากทำให้งานเสียหายเพราะผู้หญิงต่ำๆ อย่างนั้นล่ะมั้งถึงได้ยอมเสียสละตัวเองแบบนี้ ยอมอยู่ร่วมห้องกับหล่อนทั้งๆ ที่เกลียดชังน้ำหน้าหล่อนยังกับกิ้งกือ ยิ่งคิดถึงตรงนี้น้ำตาก็ยิ่งไหลทะลัก
“แต่อย่าคิดเข้าข้างตัวเองนักก็แล้วกัน เพราะทุกสิ่งที่ฉันทำลงไป เพียงเพราะฉันไม่มีทางเลือกเท่านั้น…” ใบหน้ากระชากทรวงที่ตอนนี้แดงจัดเงยขึ้นจากซอกคอหอมกรุ่นขึ้นมาประสานสายกับหล่อนนิ่ง ความเลือดเย็น ความใจร้ายยังคงอัดแน่นอยู่ในสายตาของราฟาลไม่เปลี่ยนแปลง
“รวมถึงการเอาเธอด้วย…”
“ไม่นะ… คุณราฟ…”
คนตัวโตแสยะยิ้มหยัน ชะโงกตัวอยู่เหนือร่างบางด้วยการใช้สองแขนเท้ากับที่นอนนุ่มเอาไว้ ขณะกวาดสายตามองไปทั่วร่างอรชรด้วยความหยาบโลน
“ฉันไม่ได้เอาคู่นอนขึ้นเรือมาด้วย… ดังนั้นเธอจะต้องรับหน้าที่นั้นรดารักษ์…”
“ไม่นะคะ คุณราฟ…”
หญิงสาวเปล่งเสียงปฏิเสธด้วยความเจ็บปวด มือบางผลักร่างกำยำที่คร่อมทับตัวเองอยู่เต็มแรงจนเขาเสียหลักล้มลงบนที่นอนข้างๆ ก่อนที่ตัวเองจะรีบกระโดดลงจากเตียง ไปยืนตัวสั่งอยู่กลางห้อง ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกไม่ผิดจากดวงตาของนางกวางระแวงภัยเลยแม้แต่นิดเดียว
ราฟาลสบถหยาบคายออกมา ก่อนจะกระโดดลงมาจากเตียงมาเผชิญหน้ากับสาวน้อยด้วยท่าทางคุกคามจนรดารักษ์ต้องถอยหนีจนแผ่นหลังชนกับผนังห้องอย่างไม่มีทางเลือก ทางหนีหมดสิ้นลงพร้อมๆ กับคนตัวโตที่เดินเข้ามาประกบตรงหน้า สองแขนกำยำท้าวกับผนังห้องกักหล่อนไว้ภายในกรงแขนนั้นอย่างแน่นหนา
“ทำบ้าอะไรของเธอหึ!”
“รดาไม่ใช่อีตัว… รดาไม่ยอมนอนกับคุณราฟหรอก”
หนุ่มหล่อแสยะยิ้มหยัน “เธอติดคำว่า ‘อีตัว’ เอาไว้บนหน้าผากทุกครั้งที่เราเจอกันนั้นแหละ อย่าทำเป็นเสแสร้ง อย่าทำเป็นสาวไร้เดียงสาหน่อยเลย เพราะฉันไม่โง่จนตามเธอไม่ทันหรอก”
“แต่คุณราฟกำลังเข้าใจผิด…”
“ไม่หรอกมั้ง… อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นสายตาของเธอยามที่เธอแอบมองฉันสิ จากมุมตึก จากห้องพักของเธอ หรือแม้แต่จากหลังต้นไม้… ฉันเห็นทุกครั้งนั้นแหละ”
รดารักษ์อึ้งงันเมื่อถูกคนตัวโตเอาความจริงมาขว้างเข้าใส่หน้า ใช่… หล่อนแอบมองราฟาลทุกวัน แอบมองทุกครั้งยามที่เขากลับมาจากที่ทำงาน ไม่ว่าหล่อนจะอยู่ตรงไหนของบ้าน แต่พอใกล้เวลากลับบ้านของราฟาลเมื่อไหร่หล่อนจะต้องแอบมามองเขาที่มุมตึกทุกครั้ง หรือแม้แต่ตอนเช้าที่เขาวิ่งออกกำลังกายหล่อนก็ยังแอบมองจากซุ่มต้นไม้ที่หน้าเรือนพักของตัวเอง ที่ราฟาลพูดมันคือเรื่องจริงทุกอย่าง แต่หล่อนไม่เคยคิดว่าเขาจะรู้…
“คือรดา…”
“อย่าปฏิเสธไปเลยน่า หลักฐานมันฟ้องชัดอยู่ในดวงตาของเธอทั้งหมดนั้นแหละ และแน่นอนว่าวันนี้ฉันจะใจดีจัดให้ตามที่เธอต้องการ แต่… อย่าฝันถึงความสัมพันธ์อันยืดยาว เพราะฉันไม่คิดจะแต่งงานกับใคร โดยเฉพาะกับผู้หญิงต่ำต้อยไร้ราคาแบบเธอรดารักษ์…”
เจ็บไหมล่ะนั่น เจ็บจนน้ำตาร่วงออกมาอีกครั้ง หญิงสาวสะอื้นไห้ ความเสียใจถล่มยับอยู่ภายในอก ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการแอบรักผู้ชายร้ายกาจอย่างราฟาลมันจะให้ผลลับที่เลวร้ายถึงเพียงนี้ หล่อนควรจะตัดใจ ควรจะเลิกรักเขาได้แล้ว แต่ทำไม่ได้… เคยลองทำ เคยพยายามที่จะทำ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผลอยู่ดี ราฟาลยังคงฝังอยู่ในทุกอณูเนื้อหัวใจอย่างแน่นหนา แม้แต่จอบแม้แต่เสียมก็คงไม่มีขุดออกไปได้
“รดารู้ว่าตัวเองต่ำต้อย… รู้ว่าตัวเองไร้ราคาแค่ไหนในสายตาของคุณราฟ…”
“รู้ก็ดีแล้วนี่… จะได้ไม่ต้องมาวิงวอนขออะไรหลังจากที่เราสนุกกัน อาจจะสองครั้ง หรือสามครั้ง… บนเรือลำนี้ แต่รับรองได้เลยว่าฉันจะจ่ายให้เธอคุ้มค่าทีเดียว…”