EP 23: จอมใจ จอมอหังการ
และเขาก็จูบลงมาบดขยี้ปากของหล่อนด้วยความโหยหาที่น่าตกใจยิ่ง ปิดกลั้นเสียงสะอื้นไห้ของหล่อนไม่ให้เล็ดลอดออกมาเอาไว้ได้ทั้งหมด ปากร้อนผ่าวขยับดูดไล้กลีบปากสาวราวกับมันคืออาหารหวาน ก่อนที่มือใหญ่จะเลื่อนขึ้นมาประคองดวงหน้างามเอาไว้ และมอบจุมพิตดุเดือดเลือดพล่านที่ดุดันหนักหน่วงมากขึ้น ร่างบางแทบจะจมหายเข้าไปในผนังห้องเมื่อคนตัวโตจงใจบดเบียดเข้ามาหาอย่างแนบแน่นราวกับว่าอยากจะกลืนร่างของหล่อนให้หลอมละลายกลายเป็นทาสรักของเขาไปตลอดกาล
“อืมม์…”
เสียงครางพึงพอใจเล็ดลอดออกมาจากลำคอแกร่ง เมื่อปากอิ่มหวานฉ่ำเปิดรับการรุกรานด้วยความเต็มอกเต็มใจ ลิ้นใหญ่อุ่นชื้นกวาดกลืนความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไปจนหมดสิ้น สองมือเล็กตวัดขึ้นโอบรอบลำคอแข็งแรงเอาไว้แน่นเพื่อพยุงตัวขณะขยับปากตามจังหวะสวาทที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังชี้นำ
“คุณราฟ…”
หญิงสาวเผลอหลุดเสียงครวญครางที่น่าละอายออกมาเมื่อถูกคนตัวโตที่ยังไม่หยุดตะโบมจูบปากอิ่มขยำเต้างามเต็มแรง ความหิวกระหายของเขาทำให้กายสาวปวดร้าว เนื้อตัวบิดเร่าด้วยแรงปรารถนาอันมหาศาลที่ไม่เคยคิดว่ามีอยู่ในตัว
แต่จู่ๆ เขาก็หยุด… หยุดทุกอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปาก ปลายลิ้น หรือแม้แต่ฝ่ามือ ความอ้างว้างวิ่งกระแทกเข้ามาใส่หน้าอย่างอำมหิต เมื่อคนตัวโตเลือกจะผลักหล่อนไว้กับผนังห้องแล้วตัวเองก้าวถอยหลังออกห่างราวกับรังเกียจมากมาย
“ร้อนไม่เบานี่…”
ตอนนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าความเจ็บปวดหรือความอัปยศอดสูอย่างไหนมันมีมากกว่ากัน แต่จะความรู้สึกไหนก็ตามมันก็ยังทำให้หล่อนร้องไห้ออกมาอยู่ดี น้ำตาไหลพรากออกมาอาบแก้มกับความใจร้ายของผู้ชายที่ยืนหน้าเยือกเย็นอยู่ตรงหน้า ท่าทางของราฟาลในตอนนี้บอกให้รู้ชัดเจนว่าเขาควบคุมตัวเองได้เยี่ยมยอดแค่ไหน ในขณะที่หล่อนอ่อนระทดระทวยแทบจะสลายกลายเป็นช็อกกาแล็ตเหลวๆ คาปากและมือของเขาเสียให้ได้
“แต่มันไม่ใช่ตอนนี้… ฉันมีธุระที่สำคัญกว่าการมีเซ็กซ์กับผู้หญิงอย่างเธอรอคอยอีกหลายอย่าง…” เขาขยับถอยห่างออกไปอีก ราวกับกว่าระยะสองสามก้าวก่อนหน้ามันยังไม่พอ หล่อนเห็นเขายกมือเสยเส้นผมสีดำขลับของตัวเองสองสามครั้ง จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระด้างไม่เปลี่ยนแปลง
“อยู่แต่ในห้องนี้ล่ะ อย่าออกไปเพ่นพ่านเด็ดขาด… หรือถ้าจะออกไปก็อย่าบังอาจไปโพนทะนาเชียวนะว่าเธอเป็นคู่นอนของฉัน…”
แล้วพ่อเทพบุตรซาตานก็ก้าวออกไปจากห้องสวีทสุดหรูอย่างรวดเร็ว ทิ้งความใจร้ายใจดำเอาไว้ให้หล่อนดูต่างหน้า หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจ ขณะทิ้งกายอ่อนล้าลงกองกับพื้น ความเจ็บปวดไม่รู้ที่มาที่ไปถล่มทลายเข้าใส่หัวอก น้ำตาหลั่งรินอาบแก้มไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาจากปากอิ่มบวมช้ำเพราะจูบดุดันของราฟาลตลอดเวลา
“ทำไมรดาถึงเกลียดคุณไม่ได้สักที… ทั้งๆ ที่คุณร้ายกาจแบบนี้…”
เกลียดตัวเองเหลือเกินที่ไม่ยอมตัดใจจากผู้ชายใจดำคนนี้สักที ทั้งๆ ที่รู้ว่าต่อให้รักเขามากมายแค่ไหน แต่สิ่งที่ราฟาลจะมอบให้กลับมามันก็มีเพียงแค่ความเกลียดชังเท่านั้น ในหัวใจของราฟาลไม่เคยมีหล่อน พอๆ กับที่เขาไม่เคยเห็นหล่อนในสายตานั่นแหละ
เขาเกลียดหล่อนยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน และหากหล่อนคาดเดาไม่ผิด ไอ้ตำแหน่งคู่นอนชั่วคราวที่เขาหยิบยื่นให้นี้มันก็เป็นเพียงแค่บทลงทัณฑ์สำหรับผู้หญิงแพศยาอย่างหล่อนเท่านั้นเอง มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง แต่จะเช็ดสักทีครั้ง ซับสักกี่หนน้ำตาในหัวใจของหล่อนมันก็ไม่มีทางเหือดแห้งลงไปได้ ในเมื่อตัวต้นเหตุยังคงขว้างความเจ็บปวดเข้าใส่ไม่เว้นแม้แต่สักวินาทีอยู่อย่างนี้
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่อาจรู้ได้ รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ร่างอรชรของหล่อนกำลังนอนสบายอยู่บนเตียงนุ่มซึ่งเป็นเตียงนอนของราฟาล ร่างอรชรรีบดีดตัวลุกขึ้นในทันทีเมื่อมโนสำนึกร้องบอกว่าหล่อนหลับใหลไปเนิ่นนาน และตอนนี้ก็กำลังลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของพ่อเทพบุตรมารอย่างร้ายกาจทีเดียว
หากราฟาลเข้ามาพบเห็นว่าหล่อนบังอาจขึ้นมาใช้เตียงนอนร่วมกับเขาล่ะก็ หล่อนมีหวังถูกจับโยนลงทะเลในทันทีแน่ หญิงสาวรีบก้าวเท้าสั่นๆ ลงไปจากเตียงกว้างแสนนุ่มเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เท้ายังไม่ทันแตะถึงพื้นห้องดีเลยประตูบานใหญ่หน้าห้องก็เปิดผลัวะเข้ามาซะก่อน
รดารักษ์ชะงักค้างด้วยความตื่นตกใจสุดขีดเพราะคิดว่าเป็นราฟาล แต่เมื่อจ้องมองคนที่เดินผ่านประตูเข้ามาชัดๆ ก็อดที่จะถอนใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้ เพราะเป็นโซลีน่า เกรดเดอร์ หัวหน้าแผนกต้อนรับลูกค้านั่นเอง ไม่ใช่คนใจดำอย่างราฟาล การ์รัสโซ่อย่างที่หล่อนคิดเอาไว้
“เอ่อ สวัสดีค่ะคุณโซลีน่า…”
“สวัสดีค่ะ ไม่ต้องรีบร้อนลงมาหรอกค่ะ นั่งอยู่บนเตียงเถอะ”
แขกผู้เข้ามาเยือนในห้องร้องเตือนเมื่อเห็นหล่อนทำท่ารีบร้อนจะลงจากเตียง รดารักษ์หน้าแดงก่ำกับสายตาที่คู่สนทนาใช้มอง
“คือว่ารดาไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าขึ้นมานอนบนนี้ได้ยังไง…”
ไม่รู้ว่าหล่อนตาฝาดหรือว่าคิดไปเองกันแน่ เพราะหล่อนเห็นสายตาของโซลีน่าเต็มไปด้วยความขบขัน รอยยิ้มบางๆ คล้ายล้อเลียนติดอยู่ที่มุมปาก และนั่นก็ทำให้รดารักษ์อดหน้าแดงไม่ได้
“รบกวนคุณโซลีน่าอย่าบอกให้คุณราฟรู้นะคะ… เรื่อง… เรื่องที่รดานอนหลับบนเตียงของเธอน่ะค่ะ”
จบคำพูดของหล่อนเท่านั้นแหละโซลีน่าก็หัวเราะกร๊ากลั่นห้องคล้ายกับอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหว คิ้วโก่งของรดารักษ์เลิกขึ้นสูงด้วยความประหลาดปนสงสัย
“เอ่อ… คุณโซลีน่าขำอะไรรดาหรือเปล่าคะ”
คู่สนทนาพยายามควบคุมตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้าดิก “ไม่ได้ขำคุณรดาหรอกค่ะ แต่ขำคนอื่นมากกว่า…”
“ขำ… ขำใครคะ?”
“อีกไม่นานคุณรดาก็จะรู้เองนั่นแหละค่ะ ฉันพูดตอนนี้ไม่ได้หรอก ขืนพูดไปโดนเล่นงานตายแน่…”
รดารักษ์ยกมือขึ้นเกาศีรษะตัวเองด้วยความมึนงง สับสนไปหมดว่าตัวเองขึ้นมานอนบนเตียงส่วนตัวของราฟาลได้ยังไงกัน สงสัยหล่อนคงร้องไห้จนเผลอหลับไปแล้วก็เดินละเมอขึ้นมานอนบนเตียงเองแน่ๆ เลย ดีนะ… ที่ราฟาลไม่ได้เข้ามาในห้องตอนนี้ ไม่อย่างนั้นหล่อนจะต้องถูกขยี้เละยิ่งกว่าโจ๊กแน่ๆ คิดถึงตอนนี้ก็อดขนลุกกับพายุอารมณ์ของพ่อเทพบุตรมารไม่ได้ ผู้ชายอะไรร้ายกาจยิ่งกว่าอสูรบวกจอมมารซะอีก
“เอ่อ แล้วนั่น…”
โซลีน่าก้มมองตะกร้าสานในมือตัวเอง ก่อนจะหันไปยิ้มให้สาวน้อยคนสวย “เสื้อผ้าของคุณรดานั่นแหละค่ะ…”
พูดจบก็หันกลับไปจัดการเก็บชุดสวยๆ เหล่านั้นเข้าตู้เสื้อผ้าแบบฝังผนังสีเข้มต่ออีกครั้ง แต่แม่สาวน้อยที่ตำแหน่งเป็นแค่สาวใช้แต่หน้าตายิ่งกว่านางงามจักรวาลก็ยังยิงคำถามใส่ไม่หยุด
“ของรดา…? รดาไม่ได้สั่งนะคะ”
โซลีน่าจัดการขยับชุดในไม้แขวนให้เข้าที่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับรดารักษ์ “แต่คุณราฟเป็นคนสั่งให้ดิฉันจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้คุณค่ะ” ความจริงโซลีน่าอยากจะบอกเหลือเกินว่าตัวหล่อนนั้นแทบไม่ได้จัดการอะไรเลย เพราะคนเลือกเสื้อผ้าพวกนี้คือราฟาลต่างหาก แต่ก็ยั้งปากเอาไว้ได้ทันเพราะไม่อย่างนั้นถูกถีบตกทะเล ตายในหน้าที่แน่ๆ
รดารักษ์นิ่งงันไปนาน ก่อนจะรีบเอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณมากนะคะ สำหรับน้ำใจในครั้งนี้ หากไม่มีเสื้อผ้าพวกนี้รดาคงต้องเน่าไปอาทิตย์เต็มๆ แน่เลย…”
โซลีน่าอมยิ้มขบขัน “ไม่มีใครใจร้ายกับคุณรดาแบบนั้นหรอกค่ะ โดยเฉพาะคุณราฟ…”