บทที่ 437 หาตัวเซียวจื่อเซวียน
ที่จวนตระกูลหลิง เซียวจื่อเซวียนกำลังรอให้คนกลับมารายงานนาง แต่หลังจากรออยู่นาน ก็ยังไม่มีข่าวใดๆ เลย
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เซียวจื่อเซวียนถึงได้รับข่าวว่าคนพวกนั้นถูกเฉียวเทียนช่างสังหารหมดสิ้นแล้ว
“พวกสวะทั้งนั้น” เซียวจื่อเซวียนเขวี้ยงถ้วยชาในมือลงพื้น
นางทุ่มเทไปตั้งมากเพื่อจัดฉากนี้ แต่กลับโดนคนอื่นมาทำลาย นางยอมรับไม่ได้
“บัดซบ พวกมันทุกคนสมควรตาย” เซียวอี้หลินทำแผนนางพัง ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวอี้หลิน หนิงเมิ่งเหยาจะรอให้เฉียวเทียนช่างมาถึงได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวอี้หลิน หนิงเมิ่งเหยาคงตายเป็นศพไปแล้ว
ทั้งหมดเป็นความผิดของเซียวอี้หลิน
“องค์หญิง…”
“ไสหัวไปให้หมด” ก่อนที่บ่าวรับใช้จะพูดอะไรก็ถูกเซียวจื่อเซวียนไล่ออกไป
“เซียวจื่อเซวียน เจ้าช่างกล้าจริงๆ” เซียวอี้หลินได้ยินที่เซียวจื่อเซวียนพูดตอนเดินเข้ามา ใบหน้าเขาถมึงทึงน่ากลัว
เซียวจื่อเซวียนกลายเป็นเช่นนี้ไปตั้งแต่เมื่อใดกัน เด็กแสนเรียบร้อยคนนั้นกลายเป็นหญิงไร้หัวใจนิสัยเหี้ยมโหดไปตอนไหน
“หืม ท่านมาที่นี่เพื่อโทษข้ารึ ถ้าเช่นนั้นก็ไปเสียเถอะ ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับท่านทั้งนั้น ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่าน” เซียวจื่อเซวียนมองเซียวอี้หลินด้วยสายตาเย็นชา นางเลิกเสแสร้งกับเซียวอี้หลินไปนานแล้ว ทำไมนางจะต้องทำให้ตัวเองอับอายด้วยเล่า
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าคราวนี้จะต้องเจอปัญหาหนักเพียงใด กระทั่งตอนนี้เจ้าก็ยังไม่รู้สำนึก” เซียวอี้หลินโศกเศร้าในขณะที่มองเซียวจื่อเซวียน
เขาผิดหวังในตัวนาง
เซียวจื่อเซวียนหัวเราะ เสียงหัวเราะนางบ้าคลั่ง “แล้วทำไมรึ ข้าไม่สนใจสักนิด เซียวอี้หลิน ท่านคิดว่าท่านจะปกป้องผู้หญิงคนนั้นได้รึ ให้ข้าบอกอะไรท่านสักหน่อยเถิด ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะฆ่านางล้างแค้นให้ลูกของข้า”
“ไปหาหลิงหลัวเสียสิ ถ้าเจ้าอยากจะล้างแค้น หนิงเมิ่งเหยาไปทำอะไรให้เจ้ากัน” ความตายของเด็กคนนั้นเป็นอุบัติเหตุ แต่เซียวจื่อเซวียนกลับโทษหนิงเมิ่งเหยา นางช่างทำตัวไร้เหตุผลสิ้นดี
เซียวอี้หลินมาที่นี่วันนี้เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมเซียวจื่อเซวียนถึงต้องการลอบสังหารผู้อื่น หลังจากได้เห็นความหยิ่งผยองของนางแล้ว เขาก็ตบหน้านางอย่างไม่อาจทนต่อไปได้
“เซียวจื่อเซวียน ข้าผิดหวังในตัวเจ้ายิ่งนัก” เซียวอี้หลินมองเซียวจื่อเซวียนอย่างเย็นชา
“ตบข้ามาอีกสิ ตีข้าให้ตายไปเลย อย่าคิดเชียวว่าข้าไม่รู้ว่าใจจริงแล้ว ท่านก็อยากจะฆ่าข้า” เซียวจื่อเซวียนกล่าวพร้อมแสยะยิ้ม
เซียวอี้หลินสูดลมหายใจเข้าแล้วข่มโทสะไว้ เขาพูดอย่างเดือดดาล “ถูกแล้ว ตอนนี้ข้าอยากจะฆ่าเจ้าเหลือเกิน”
“แล้วท่านมีสิทธิ์อะไร มีเหตุผลอะไรที่จะมาฆ่าข้า”
เซียวอี้หลินมองเซียวจื่อเซวียนโดยไม่พูดอะไร เซียวจื่อเซวียนขมวดคิ้วที่จู่ๆ เขาก็เงียบไป
“ในเมื่อเจ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ให้ข้าช่วยชี้แนะแล้วกัน” เขาเดินไปหาเซียวจื่อเซวียนแล้ววางมือบนไหล่ของนาง จากนั้นก็ออกแรงบีบแน่น เซียวจื่อเซวียนกรีดร้อง แขนของนางหัก
นอกจากมือแล้ว เท้าของนางก็โดนหักด้วย เมื่อแขนขาหักเช่นนี้ เขาไม่คิดว่าเซียวจื่อเซวียนจะสร้างปัญหาได้อีก
หน้าเซียวจื่อเซวียนซีดขาวจากการถูกหักแขนขา
เซียวอี้หลินมองยังสีหน้าแค้นเคืองของเซียวจื่อเซวียน “ถ้าข้าไม่ทำอะไรเจ้าเสียตั้งแต่ตอนนี้ ความตายที่เจ้าเจอจะทุกข์ทรมานกว่านี้เสียอีก”
เฉียวเทียนช่างเป็นชายที่รักภรรยาสุดหัวใจ เซียวอี้หลินไม่รู้ว่าเขาจะปล่อยให้นางมีชีวิตต่อไปไหมหลังจากรู้ว่านางทำอะไรลงไป
“เซียวอี้หลิน ข้าขอสาปให้จวนตระกูลเซียวพินาศไปชั่วกัปชั่วกัลป์ นี่คือหนี้ที่ท่านติดค้างข้า” เซียวจื่อเซวียนสาปส่งอย่างชั่วร้าย
“ดูองค์หญิงให้ดี ถ้ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก เจ้าตาย”
“ขอรับ ท่านอ๋อง”
พวกคนที่มาจากจวนของเซียวอ๋องเพื่อมารับใช้เซียจื่อเซวียนต่างทำหน้าขื่นขม ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาตายเสียดีกว่า
มีองค์หญิงแบบนี้ พวกเขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าตาย
ตอนนี้ นายท่านที่แท้จริงมาสั่งพวกเขาเช่นนี้ ย่อมทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมิใช่หรือ
เซียวจื่อเซวียนได้เห็นความโหดร้ายของเซียวอี้หลิน ความรู้สึกผิดและความอบอุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ในใจนางก็หายไปสิ้น
แขนขาของนางถือว่าแทนบุญคุณที่เขาชุบเลี้ยงนางมาหมดแล้ว นับจากนี้ไป นางจะไม่หยุดจนกว่าจะตายกันไปข้าง
บทที่ 438 บุกจวนแม่ทัพ
เซียวอี้หลินออกจากเรือนหลังเล็กของเซียวจื่อเซวียน แล้วมุ่งหน้าไปยังเรือนของหลิงหลัว
“เซียวจื่อเซวียนถูกข้าหักแขนขาไปแล้ว เมื่อวานนี้ นางส่งคนไปลอบสังหารหนิงเมิ่งเหยา เฉียวเทียนช่างเริ่มสืบเรื่องนี้แล้ว ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะจับตาดูนางเอาไว้ หาไม่แล้ว นางคงจะไม่ได้ตายคนเดียว” ตอนนี้เซียวจื่อเซวียนเสียสติไปแล้ว นางไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น
หลิงอ๋องประหลาดใจยิ่งเมื่อได้ยินว่าเซียวอี้หลินหักแขนขาของเซียวจื่อเซวียน ทว่าประโยคสุดท้ายทำให้หลิงอ๋องหน้าซีด
ตอนนี้นางได้สร้างปัญหาให้พวกเขาเพิ่มแล้ว
“ท่านอ๋องไม่ต้องห่วง เราจะดูนางให้ดี” หลิงอ๋องกัดฟันพูด
เซียวอี้หลินผงกศีรษะ เขาเดินกลับออกไป มุ่งหน้าไปที่จวนแม่ทัพใหญ่
ทว่าครั้งนี้ เขาไม่อาจเข้าประตูได้
เซียวอี้หลินปวดศีรษะเมื่อเห็นคนมาขวางทางเขาไว้ข้างนอก “ข้ามีธุระและต้องการพบท่านแม่ทัพ”
“ท่านแม่ทัพกล่าวไว้ว่า นับแต่นี้ไป เขาจะไม่พบคนจากจวนตระกูลเซียวและหลิง ใครที่มาให้ไล่ไป ข้าหวังว่าท่านอ๋องจะไม่ทำให้เราต้องลำบากใจ”
เซียวอี้หลินเห็นพวกเขามีท่าทีเช่นนี้ก็รู้ว่าตนไม่อาจเข้าไปจากทางนี้ได้
เขายกมือขึ้นแล้วโจมตีคนทั้งสอง
พวกองครักษ์ไม่คาดคิดว่าเซียวอี้หลินจะจู่โจม พวกเขาโกรธแล้วเริ่มโจมตีเซียวอี้หลิน
หนึ่งในนั้นยิงพลุไฟไปทางจวน
เฉียวเทียนช่างเห็นพลุไฟ สายตาเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
“เทียนช่าง เกิดอะไรขึ้น” เซียวฉีเทียนงุนงงเมื่อเห็นสีหน้าเฉียวเทียนช่างเปลี่ยนไป จึงถามด้วยความสงสัย
“มีคนบุกจวนแม่ทัพ” เฉียวเทียนช่างกัดฟันแน่นพร้อมมองไปยังด้านหน้า
เซียวฉีเทียนมองเฉียวเทียนช่างอย่างไม่อยากเชื่อ เขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า มีคนกล้าบุกเข้าจวนของแม่ทัพจริงๆ หรือ
“คุณหนู เซียวอี้หลินมาเจ้าค่ะ เขาบอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับท่านและท่านแม่ทัพ พอโดนขวางก็เลยทำร้ายองครักษ์หน้าประตู”
“ช่างน่านับถืออะไรเช่นนี้ ชิงเซวียน นำคนไปดูทางนั้นเสีย อย่าให้เขาดูถูกจวนแม่ทัพของเราได้”
“ขอรับ”
“เทียนช่าง เจ้าจะไม่ไปดูหน่อยหรือ” เซียวฉีเทียนมองเฉียวเทียนช่างที่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น สีหน้าสงบนิ่ง ไม่กังวลสักนิดเดียว
“สักพักค่อยไป ชิงเซวียนและคนอื่นจัดการกันเองได้” เฉียวเทียนช่างเล่นหมากรุกกับหนิงเมิ่งเหยาต่อ เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา
เซียวฉีเทียนอึ้งไป นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจะพูดเสียหน่อย เขารู้ว่าชิงเซวียนและคนอื่นๆ สามารถจัดการเองได้ แต่ที่สำคัญคือชิงเซวียนและคนอื่นๆ อาจทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
หลังจากวางตัวหมากรุก เฉียวเทียนช่างก็มองเซียวฉีเทียน “ไยเจ้ากังวลนัก ต่อให้วันนี้เขาได้รับบาดเจ็บ ก็ถือว่าเขาหาเรื่องเอง จวนของแม่ทัพไม่ใช่ที่ที่จะให้ใครมาบุกกันได้ง่ายๆ”
เซียวฉีเทียนรู้สึกหดหู่อย่างมาก
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามียอดฝีมือในจวนแม่ทัพใหญ่กี่คน เขาบอกไม่ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเซียวอี้หลินที่บุกมาซึ่งๆ หน้า
เมื่อชิงเซวียนพาคนไปยังหน้าจวน องครักษ์หลายคนถูกเซียวอี้หลินเล่นงานจนบาดเจ็บ เขาหรี่ตา “เซียวอ๋องช่างทรงพลัง น่าประทับใจจริงๆ มาถึงจวนแม่ทัพของเราแล้วทำตนประหนึ่งเป็นผู้กล้า ข้าสงสัยว่าจวนแม่ทัพใหญ่ของเราไปยั่วโทสะท่านหรืออย่างไร”
“ข้าเพียงมาที่นี่เพื่อพบเฉียวเทียนช่าง” เซียวอี้หลินเองก็ไม่สุภาพอีกต่อไป พิธีรีตองยังจำเป็นในเวลานี้อีกหรือ
ชิงเซวียนแสยะยิ้ม “นายน้อยของเราไม่มีเวลามาพบท่าน โปรดกลับไปเถอะ”
“เป็นเช่นนั้นไม่ได้ ข้าต้องพบเขาวันนี้” เขาลงมือโจมตีอีกครั้งขณะพูดตอบ
เจรจาก่อนใช้ความรุนแรง แต่ในเมื่อใครบางคนทำตัวไร้ยางอาย เช่นนั้นจะมาว่าเขาทำรุนแรงไม่ได้
“ลงมือ ให้เซียวอ๋องได้เห็นเสียว่าจวนแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่ที่ที่จะบุกกันได้ง่ายๆ” ถ้าเซียวอี้หลินบุกเข้าไปได้วันนี้ จะถือเป็นการตบหน้าพวกเขาและทำให้จวนแม่ทัพใหญ่เสียหน้า
ชิงเซวียนยืนมองการต่อสู้จากด้านข้าง เขาเห็นแล้วว่าเซียวอี้หลินมีวรยุทธ์สูงส่ง
เป็นเพราะเหตุนี้ ใบหน้าของชิงเซวียนจึงดูถมึงทึงขึ้น ทั้งที่มีความสามารถระดับนี้ แต่ชายคนนั้นกลับดูอยู่เฉยๆ ขณะที่คุณหนูถูกลอบสังหาร ใครจะเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา
เซียวอี้หลินหน้านิ่วคิ้วขมวด คนพวกนี้ต้อนเขามาถึงจุดนี้ได้ ดูท่าแล้วจวนแม่ทัพใหญ่จะไม่ธรรมดาเลย
“เรียนรู้จากเซียวอ๋องให้ดี โอกาสเช่นนี้หาได้ยากนัก”