บทที่ 527 ชะโลมประกายแสงอาทิตย์สุกใส
ฉื่อหยานนั่งนิ่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึมภายในห้อง การหายใจของเขาคงที่ ร่างของเขาเปลื่อเปล่า
มีร่างผิวขาวงดงามกระจายอยู่ทั่วห้อง ร่างเหล่านั้นเองก็เปลือยเปล่าเช่นกัน พวกนางนั่งไขว่ขาปรับลบหายใจอย่างเงียบๆ ดูดซับพลังลึกลับที่พวกนางได้จากชายหนุ่ม
แสงสีสดใสเคลื่อนไหวรอบๆร่างทั้งห้าเหมือนสายฟ้าคดเคี้ยว , ขณะที่พวกเขาโคจรพลังและหลอมรวมเข้ากับมัน
ที่หน้าอกของ ฉื่อหยาน , จุดแสงดวงดาวเปล่งประกายเฉิดฉายเหมือนอัญมณีล้ำค่า มันส่องสว่างยิ่งกว่าอัญมณีที่อยู่ในห้อง
แสงดาวส่องแวววับอยู่ในจิตวิญญานแห่งดวงดาว ในขณะที่พลังลึกลับหลอมรวมเข้ากับมันทีละน้อยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มันได้ดูดซับพลังลึกลับพอสมควร มันก็เริ่มรวบรวมและดูดซับพลังความร้อนของดวงอาทิตย์ไว้ข้างใน เกิดเป็นความร้อนที่ส่งผลต่อดวงดาวดวงอื่น และเผาไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง
เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าใด ดวงดาวเล็ก ๆบางส่วนก็กลายเป็นกลุ่มลูกไฟ และเริ่มกระจายออกไปหลังเกิดการระเบิด, ดวงดาวเล็กๆเหล่านี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าอัศจรรย์
แกนเพลิงที่ซ่อนอยู่ในแหวนสายโลหิตก็สัมพัสได้ถึงสภาวะแปลกประหลาด มันปล่อยแกนพลังแสงอาทิตย์ที่มันได้ดูดซับออกมา และพลังแสงอาทิตย์นี่ก็ไหลเข้าสู่จิตวิญญานแห่งดวงดาว
เวลาได้ล่วงเลยไป . . . . . . .
ค่ำคืนได้ผ่านไป และพระอาทิตย์ก็ปรากฏขึ้น
เมื่อแสงอาทิตย์แรกส่องบนเมืองจักพรรดิน้ำแข็ง แสงแดดก็พุ่งออกมาจากหน้าอกของฉื่อหยาน หลักจากที่ปรากฏมาเป็นเวลาเนิ่นนาน
แสงแดดที่ออกมาจากร่างของเขา า เกิดเป็นแรงดูดที่รุนแรง โดยมีฉื่อหยานเป็นศูนย์กลาง แสงอาทิคย์ก็ถูกดึงผ่านชั้นน้ำแข็ง ส่องแสงอย่างงดงามอยู่ภายในห้อง ที่ส่องแสงสวยงามในห้อง
คานของแสงพุ่งตรงไปยังร่างของเขาและหายไป
แสงแดดส่องประกายไปทั่วเหมือนน้ำที่ไหลลิน เข้าไปในร่างกายของเขา
หน้าอกของเขากลายเป็นร้องดั่งเปลวไฟ ดวงดาวเล็กๆตอนนี้เป็นเหมือนดวงอาทิตย์เล็กๆ ดูดกลืนแสงแดดที่อยู่ด้านนอกอย่างต่อเนื่องราวกับเด็กทารกที่ดูดนมมารดา
จิตวิญญานแห่งดวงดาวได้เกิดกลายพันธ์ มันร้องระอุและขยายใหญ่ขึ้น . ทันทีที่แสงแดดถูกดูดเข้าไป ดวงดาวเหล่านี้ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและ พลังที่บริสุทธิ์ก็อัดแน่นอยู่ภายใน
อย่างช้าๆ สิ่งมหัศจรรย์ก็ปรากฏเหนือเมืองจักพรรดิน้ำแข็ง พระอาทิตย์ปรากฏขึ้นและดูเหมือนมันจะส่องแสงมาที่เมืองจักพรรดิน้ำแข็งโดยเฉพาะ แสงแดดมารวมกันอยู่ตรงสถานที่แหง่นั้น จะให้พูดก็คือ แสงงแดดส่องมารวมกันอยู่ที่วังเจ้าเมืองจักพรรดิน้ำแข็ง
เหนือวังเจ้าเมือง แสงแดดก็ส่องแสงพราวพราวสวยงาม , และความร้อนก็เพิ่มขึ้น มันเจิดจ้าจนผู้คนไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามอ แสงอาทิตย์ที่บริสุทธิ์ทะลุกำแพงน้ำแข็ง เกิดเป็นแสงสะท้อนนับไม่ถ้วน แสงนี้เป็นราวกับแสงของพระผู้เป็นเจ้า ตานแสงเหล่านี้ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากพลังบางอย่างที่มองไม่เห็น และหลอมรวมกันมุ่งไปที่คนๆเดียว
นักรบของเมืองจักพรรดิน้ำแข็งก็แหงนหน้ามองดูท้องฟ้า เมื่อพวกเขาพบกับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ พวกเขาก็ตกตะลึง
อยู่ในโถงวังเจ้าเมือง ไป๋เกอเซ็น เป่ยตี้ และเป่ยซื่อ ที่ต่างก็เป็นนักรบมากประสบการณ์ แต่พวกเขายังต้องอ้าปากค้าง ด้วยความหวาดกลัวเมื่อมองไปยังดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างเหนือวัง ขณะที่พวกเขากำลังเฝ้าดู แสงแดดเหล่านี้ก็รองมากขึ้น พวกเขาไม่รู้จะทำอย่างไร ความคิดต่างๆนาๆแล่นผ่านหัวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
” มัน . . . มันคืออะไร ? “เป่ยตี้สับสนชั่วขณะ ทันใดนั้น เขาก็สั่นและพูดว่า” ข้าไม่แน่ใจ อย่าบอกข้านะว่ามันคือ ชะโลมประกายแสงอาทิตย์สุกใส ของนิกายประกายแสงเทพ ? “
ชะโลมประกายแสงอาทิตย์สุกใส . . . . . . . นิกายประกายแสงเทพเป็นที่รู้จักกันดีว่าพวกเขาใช้ เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผา เมื่อนักรบของพวกเขาสามารถทะลวง เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผา เข้าสู่ระดับใหมาได้ แสงแดดจากท้องฟ้าทั้งเก้าก็จะส่องแสงลงบนร่างกายของพวกเขา ราวกับว่าพวกเขากำลังหลอมรวมเข้ากับแสงแดดอย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งมีระดับ เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผา สูงเท่าใด ดวงอาทิตย์ที่ปรากฏก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้น
” ชะโลมประกายแสงอาทิตย์สุกใส ? ” ไป๋เกอเซนดวงตาก็สว่างขึ้น เขาประหลาดเมื่อมองไปยังท้องฟ้า จากนั้นเขาก็พยักหน้ายืนยัน ” จริงด้วย ! นี่จะต้องเป็น เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผา ของนิกายประกายแสงเทพ และดูเหมือนนี่จะเป็นระดับที่สูงเป็นอย่างมากแน่นอน มันถึงสามารถดึงพลังจากดวงอาทิตย์และเกิดเป็นชะโลมประกายแสงอาทิตย์สุกใสอย่างเป็นธรรมชาติได้เช่นนี้ !
” ข้ารู้แล้ว ” ลั่วหลี่ตบหัวของเขาและตะโกน , ” เมื่อเราอยู่ในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ , ผู้คนจากนิกายประกายแสงเทพบอกว่า ฉื่อหยาน เองก็เป็นหนึ่งในพวกเขา ดูเหมือนว่า จ้าวเฟิงจะไม่ได้โกหก ข้าเคยเห็นเขาใช้ เคล็ดดวงดาวมาก่อน แต่ก็ไม่เห็นร่องรอยใดๆแสดงให้เห็นเลยว่า เขาสามารถใข้เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผาได้ด้วย!
” เจ้าเคยให้เขาใข้ เคล็ดดวงดาวรึ ? ” เป่ยตี้ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก ใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมมากขึ้น
ลั่วหลันและลั่วหลี่ก็พยักหน้า และพูดว่า ” เขานั้นใช้ลูกศรดาวเหนือ “
“ลูกศรดาวเหนือ . . . . . . . ” เป่ยซื่อ ก็พึมพำ, ” มีเพียงเคล็ดดวงดาวที่สูงในระดับนึงเท่านั้นที่สามารถใช้ ลูกศรดาวเหนือ ได้ เขาสามารถใช้ลูกศรดาวเหนือได้ แล้วเขาตะสามารถใช้ ชะโลมประกายแสงอาทิตย์สุกใส ได้อย่างไร ? นี่ . . . . . . . ไม่ใข่ว่ามันขัดกับจิตสำนึกทั่วไปหลอกรึ ? “
” เหตุใดมันถึงขัดกับจิตสำนึกทั่วไปรึ ? “ลั่วหลี่ไม่เข้าใจ
” สาวกของนิกายประกายแสงเทพจะฝึกฝน เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผา เคล็ดจันทราเงิน และเคล็ดดวงดาว เคล็ดวิชาเหล่านี้เป็นรากฐานการฝึกบ่มเพาะของนิกายประกายแสง เคล็ดวิชาแต่ละอันนั้นมีหลายระดับ ในนิกายประกายแสงเทพ ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ สาวก หรือ ผู้อาวุโสเ พวกเขาจะต้องมีเคล็ดวิชาฝึกบ่มเพาะเหล่านี้เป็นพื้นฐานและพวกเขาจะสามารถฝึกบ่มเพาะได้เพียงเคล็ดวิชาเดียวเท่านั้น . ” เป่ยซื่อขมวดคิ้วขณะที่เขากำลังสับสนเล็กน้อย
” พวกเขาไม่สามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาทั้งสองได้ในเวลาเดียวกันงั้นหรือ ?” ลั่วหลี่ ก็แปลกใจ
” เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผา เคล็ดจันทราเงิน และเคล็ดดวงดาว นั้นต้องใช้พลังจาก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ตามลำดับหากนักรบฝึกบ่มเพาะสองเคล็ดวิชาในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงแต่เขาไม่สามารถทำให้เคล็ดวิชามีระดับที่สูงขึ้นได้ แต่เขายังอาจพบความขัดแย้งระหว่างพลัง . ถ้ามันร้ายแรง เขาอาจจะตายได้ ดังนั้น แม้ว่านิกายประกายเทพจะมียอดฝีมืออยู่มาก , แต่พวกเขาแต่ละคนก็จะฝึกบ่มเพาะเคล็ดวิชาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่กล้าที่จะเสี่ยง ” เป่ยซื่อพยักหน้า
” แต่นี่มันต่างออกไป . . . . . . . ” เป่ยตี้สีหน้าก็แปลกไป
เป่ยซื่อก็งุนงง จู่ๆ เขาก็สั่น และพูดด้วยความกลัว ” พี่ชาย เจ้ากำลังจะบอกว่า . . . “
เป่ยตี้พยักหน้า ลังเลสักพักก่อนจะพูดอีกครั้ง ” ประมุขของนิกายประกายแสงเทพ สามารถเชื่อมโยง สามารถเชื่อม เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผา เคล็ดจันทราเงิน และเคล็ดดวงดาวในร่างกายได้ เพื่อให้เขาสามารถดูดซับพลังงานจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวได้ ในเวลาเดียวกัน การที่เชื่อมต่อเคล็ดวิชาทั้งามเข้าได้กันได้ มีเพียงประมุขของนิกายประกายแสงเทพเท่านั้นที่รู้วิธี !
” เขา . . . . . . . เขาเป็นลูกศิษย์ของประมุขนิกายประกายแสงเทพและเป็นผู้สืบทอดโดยตรงงั้นรึ ?” ลั่วหลี่แทบจะสะดุ้ง เขาส่ายหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ
ไชอี้ เงียบตลอดเวลา ทันใดนั้น นางก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนว่า ” เป็นไปไม่ได้หรอก มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน ฉื่อหยาน ไม่เคยมาที่ดินแดนศักสิทธิ์มาก่อน เมื่อเราอยู่ในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับนิกายประกายแสงเทพเลย แล้วตอนนั้นก็เป็นจ้าวเฟิงที่สอนเขาใช้ลูกศรประกายแสงเทพและเคล็ดดวงดาว ถ้าเขาเป็นลูกศิษย์ของประมุขนิกาย เขาจะต้องรู้วิชาลับของนิกายสิ “
เมื่อได้ยินหญิงสาวพูดดังนั้น เป่ยตี้ และเป่ยซื่อก็สงสัยเป็นอย่างมาก
” ถ้ามันเป็นความจริง มีความเป็นไปได้ว่า ” ไป๋เกอเซ็นก็จ้องมองเปลี่ยนไป ” เขาได้พบความลับ เคล็ดดวงอาทิตย์แผดเผา เคล็ดจันทราเงิน และเคล็ดดวงดาวโดยบังเอิญ ประมุขนิกายไม่ได้สอนเขา เขาค้นพบมันด้วยตนเอง “
เป่ยซื่อ เป่ยตี้และคนอื่นๆก็ตกตะลึง.
” มัน . . . . . . . . มันเป็นไปไม่ได้ วิธีการที่จะหลอมรวมเคล็ดวิชาทั้งสามเป็นความลับสูงสุดของนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ นอกจากประมุขนิกายแล้วไม่มีใครรู้ ถ้ามันง่ายที่จะเรียนรู้เช่นนั้น นิกายประกายแสงเทพคงไม่บอกว่าเคล็ดวิชานี้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของพวกเขา. ” เป่ยซื่อส่ายหัว ไม่เชื่อคำพูดของไป๋เกอเซน
” นอกจากความเป็นไปได้นั้น ข้าก็ไม่รู้จะอธิบายเช่นไรแล้ว ” ไป๋เกอเซ็นดวงตาก็กลายเป็นซับซ้อน เขารำพึง แล้วถอนหายใจ ” . รอเขา แล้วมาดูกันว่าเขาจะบอกพวกเราว่าไง “
พวกเขาทั้งหมดก็สวมสีหน้าแปลกประหลาด รอคอยในวังเจ้าเมืองอย่างเงียบๆ ในขณะที่มองไปยังทิศทางหนึ่งในวังเจ้าเมือง
. . . . . . .
ในห้องพักทางทิศหนึ่ง แสงอาทิตย์ทั้งหมดก็หายเข้าไปในร่างของฉื่อหยาน ในตอนท้าย เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่ตื่นขึ้น เขารู้สึกได้ถึงดวงอาทิตย์เล็กๆที่อยู่ในจิตวิญญานแห่งดวงดาว
เมื่อเทียบกับดาวดวงอื่น มันมีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก มันส่องแสงอาทิตย์ที่ร้อนระอุออกมาเล็กน้อยและกำลังดูดซับพลังแสงอาทิตย์ในเวลาเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ บางครั้งเขาก็รู้สึกได้ว่าจิตวิญญานแห่งดวงดาวของเขาได้ดูดซับพลังแสงอาทิตย์มาเล็กน้อย แต่ความรู้สึกนั้นมันบางเบาเป็นอย่างมาก เขาคิดว่ามันเป็นแค่ภาพหลอนของเขา
แต่นี่มันต่างออกไป มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกอีกต่อไป เพราะตอนนี้เขากำลังจ้องมองดวงดาวที่ส่องประกายเจิดจ้าแสงอาทิตย์อย่างไม่เสื่อมคลาย
เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ที่เข้าสู่หัวใจของเขา
” ตื่นแล้วรึ ? ” ปิงชิงถงก็สวมเสื้อผ้าและเสื้อคลุมสีขาวหรูหรารอยัล . ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนดั่งหยกของนางมองไปที่ฉื่อหยานด้วยความสนใจ หลังจากนั้นนางก็พูดขึ้น ” เจ้า . . . . . . . เจ้าเป็นสมาชิกของนิกายประกายแสงเทพรึ ? “
” ไม่ใช่ ” ฉื่อหยานส่ายหน้า
” แล้วเจ้ามีเคล็ด ดวงอาทิตย์แผดเผา และ ใช้ชะโลมประกายแสงอาทิตย์สุกใสได้อย่างไร ?” ปิงชิงถง ตกตะลึง
ฮันซุย ซวงยู่ซู และเหลิงต้านชิงก็แต่งตัวเสร็จแล้ว พวกนางดูสดใสและเปล่งปลั่ง ขณะที่พวกนางกำลังมองเขาอย่างตั้งใจ
” เจ้า . . . . . . . เจ้าเป็นยังไงบ้าง ? ” ฉื่อหยานไม่ตอบคำถามนาง แต่ดูจากใบหน้าของพวกนาง เขาสัมพัสได้ถึงบางสิ่ง
” ข้าคิดว่าข้าต้องการเวลาอีกครึ่งเดือน เผื่อทะลวงเข้าสู่นภาที่สามระดับพระเจ้า ” ปิงชิงถงยิ้มตามปกติ นางไม่ได้รู้สึกความละอายใดๆ ” พลังที่ถ่ายทอดมาจากร่างกายของเจ้าได้เพิ่มความก้าวหน้าของเคล็ดวิชาหยกไปอีกระดับ ในที่สุดข้าก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่อีกระดับได้ . “
ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ “ทำไมฮันทำไมถึงมาอยู่ที่นี่รึ ? ”
” คนเลว ! ” ฮันซุย หน้าแดง ดวงตาที่เขินอายของนางแสดงออกอย่างไม่พอใจ ” เมื่อคืน เจ้าทำไม่ดีกับข้า ทำไมตอนนั้นไม่ถามล่ะ เจ้าเอาเปรียบข้าแล้วเจ้าแกล้งทำเป็นไม่รู้ได้ยังไง คนสารเลว ! “
” ไม่ ข้าไม่นับรวมเจ้า ” .
” เจ้าได้ทำบางสิ่งกับข้า พี่น้องทุกคนทั้งหมดของข้าต่างก็เห็น อย่าได้ปฏิเสธเด็ดขาด ! “
เส้นเลือดดำก็ปูดบวมบนใบหน้าของฉื่อหยาน
_______________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 33 แล้ว มีถึงตอนที่ 1534 แล้วครับ ผู้อ่านท่านใดสนใจอ่านต่อ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลยครับ > กดตรงนี้ <