ตอนที่ 283 สายลมพัดผ่าน
บริเวณทางเข้าของสุสานกระบี่ ก็ได้มีสายลมเมฆหมอกพัดผ่าน
ข่าวลือที่ว่าเยี่ยจงได้รับหัวใจพสุธาไปถึงสามชิ้น ไม่ทราบว่าได้เล่าลือกันไปถือไหนต่อไหน เพียงแค่ช่วงเวลาเพียงสั่นๆแค่สามวัน ก็ได้ดึงดูดยอดฝีมือนับไม่ถ้วนเขามารวมตัวกัน เห็นได้ชัดว่า ข่าวสารที่ลือกันท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่รวดเร็วอย่างไร้ที่เปรียบ ในตอนนี้ก็ได้เกิดการรวมตัวกันที่บริเวณทางเข้าของสุสานกระบี่ โดยส่วนมากแล้วจะเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงเสียมากกว่า แต่เหล่ายอดฝีมืออัจฉริยะที่กำลังฝึกฝนอยู่ในสถานที่อื่นๆ แน่นอนว่าย่อมไม่ปรากฏขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้แน่
แต่ว่าในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในตอนนี้ตรงทางเข้าของสุสานกระบี่ก็ได้ก่อเกิดสายลมโชยพัดเมฆาเอาไว้ ก่อเกิดการรวมตัวของยอดฝีมือขึ้น
การปรากฏของหัวใจพสุธา นับได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่โตอย่างยิ่ง นั้นก็เพราะว่าถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนธรรมดาเข้าสู่ขั้นก่อเกิดขั้นที่เก้าได้ เป็นส่วนผสมของหยดน้ำเซียนที่เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้
“ อะไรนะ ? หนึ่งในสี่ราชันเผ่ามนุษย์เยี่ยจงผู้นั้น ได้ครอบครองหัวใจพสุธาในตำนานนั้นไปแล้วจริงอย่างงั้นหรือ ? “
“ ใช้กำลังเพียงแค่หนึ่งเดียว ก็ได้ช่วงชิงหัวใจพสุธาไปจากอัจฉริยะมากมายไปได้ จากนั้นก็หลบหนีไปได้ เด็กน้อยผู้นี้ช่างร้ายกาจเสียจริง “
บริเวณ ณ ทางเข้าสุสานกระบี่ ก็ได้มีคนเอ่ยขึ้นมา ท่ามกลางสายตาได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคร่งเครียดอย่างรุนแรง การกระทำทุกอย่างของเยี่ยจง ถือได้ว่าทำให้ผู้คนเกิดความตื่นตกใจได้หลายส่วน ทั้งยังอยู่นอกเหนือความคาดหมายของคนทั่วไป
“ ทว่า มีผู้คนมากมายคอยแอบอยู่ในสถานที่แห่งนี้ คิดที่จะทำอะไรกัน รอคอยการปรากฏตัวของเขางั้นหรือ ? แล้วถ้าเกิดเขาหล่อหลอมหัวใจพสุธาไปแล้วเล่า ทั้งยังเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย จนเข้าสู่ขอบเขตที่อยู่ในระดับตำนานแล้วละก็ ที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดก็มิกลายเป็นสูญเปล่าอย่างงั้นหรือ ? “
“ เจ้าคิดว่างั้นหรือ หัวใจพสุธานั้นหล่อหลอมง่ายนักหรือไง ? ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายก็ใช่ว่าจะทะลวงขึ้นไปได้อย่างง่ายดายงั้นหรือ ? ถ้าเกิดง่ายดายปานนั้นจริงแล้วละก็ ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายก็ไม่เป็นแค่ตำนานแล้ว “ มีคนหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา “ คิดที่จะหล่อหลอมหัวใจพสุธา จำเป็นที่จะต้องมียาปราณตัวอื่นๆเป็นส่วนผสมจนกลายเป็นโอสถเซียนได้ จึงจะสามารถหล่อหลอมหยดน้ำเซียนได้ ……… แน่นอนว่า กล่าวกันว่ายังต้องมีวิธีในการหลอมยาที่สำคัญอีกด้วย ทั้งยังมีข่าวลือว่า หุบเขาตระกูลถังถือได้ว่าครอบครองวิธีการนี้อยู่ เพียงแค่มีวิธีการหลอมยา อีกทั้งบุคคลธรรมดา ต่อให้ได้รับหัวใจพสุธาไป ก็ใช่ว่าจะได้ประโยชน์อันใด “
“ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้คนมากมายจะมารวมตัวกันในสถานที่แห่งนี้กันเพื่ออะไร ? “
“ สิ่งนี้เจ้าก็คงจะไม่ทราบสินะ ? เยี่ยจงผู้นี้เป็นถึงหนึ่งในสี่ราชันของเผ่ามนุษย์ เรียกได้ว่าในตอนนี้ได้อยู่ในจุดสูงสุดของยอดอัจฉริยะหนึ่งในสี่คนก็ว่าได้ แต่เมื่อเทียบเปรียบกับอีกทั้งสามคน เขาที่มีชาติกำเนิดที่เรียกได้ว่าต่ำต่อยอย่างมาก ในตอนนี้ไม่เพียงจะมีแต่คนที่คิดจะสังหารเขา เพื่อที่จะช่วงชิงหัวใจพสุธา แต่ก็ยังมีคนที่คิดจะรับเขาเข้าสู่สังกัด เพื่อที่จะเพิ่มกำลังรบของตนเอง “
“ แน่นอนว่า ยังมีส่วนหนึ่งที่มีบุญคุณความแค้นกับเยี่ยจง คิดที่จะหยิบยืมโอกาสในครั้งนี้เพื่อสังหารเขาเสีย “
“ นั้น พวกเจ้าดู นั้นมันคนของสำนักเสวียนหวินนิ ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลือว่าหนึ่งในสองซวางม่อของสำนักเสวียนหวินหวินจงเทียนมิใช่ว่าถูกเยี่ยจงสังหารไปแล้วงั้นหรือ ? การมาของสำนักเสวียนหวินในครั้งนี้ มิใช่ว่าเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมา ถึงกลับไม่เกรงกลัวความตาย ทั้งยังเชื้อเชิญพันธมิตรมาไม่น้อย จัดวางค่ายกลไว้ล้อมต่อกรสังหารเยี่ยจงอีกด้วย “
“ มิใช่เพียงแค่นี้ เจ้ามองไปทางด้านนั้น กล่าวกันหนึ่งในอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์จูเยียน เขาในตอนนี้ก็คิดที่จะวางแผนจัดการลงมือสู้ด้วยตนเอง จึงได้รอคอยเยี่ยจงอยู่ในที่แห่งนี้งั้นหรือ ? ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาก็ได้พลาดท่าให้แก่เยี่ยจงอยู่ไม่น้อยเลยนะ “
“ ยังมี เพิ่มเติมด้วยเผ่านกฮวางเชวียนอันลี้ลับเข้ามาด้วย แล้วก็ยังมีชนเผ่าไร้ความตาย สัตว์ประหลาดคายหมิง เด็กน้อยเหล่านี้มีผู้ใดบ้างที่ธรรมดากัน ? ก่อนหน้านี้ก็ถือว่าช่างมันเถอะ ในตอนนี้เมื่อมีการปรากฏของหัวใจพสุธา พวกเขามีหรือจะอดกลั่นความโลภเอาไว้ได้ “
“ ไม่เพียงเท่านั้นนะ ยังได้ยินมาว่า ในมือของเยี่ยจงที่ได้ครอบครองหัวใจพสุธาแล้ว ยังมีสมบัติโลหิตมังกรแท้อีก ทั้งยังมีค่าไร้ที่เปรียบ สมบัติโลหิตมังกรแท้และหัวใจพสุธานั้นเหมือนกัน สามารถที่จะหล่อหลอมได้ในทันที ก็เหมือนกับยาตัวหนึ่ง มีผู้คนมากมายก็ได้คอยตามหาสิ่งของนี้อยู่เหมือนกันนะ ? “
เสียงที่ลอดออกมาในตอนนี้ ยอดฝีมือมากมายในตอนนี้ก็ได้สูดลมหายใจเข้า ภายในดวงตาของแต่ละคนก็ได้สาดเป็นประกายขึ้นมา โชคของเยี่ยจงผู้นี้ก็ลึกล้ำเกินไปแล้ว ถึงกลับสามารถเสาะหาสมบัติเซียนที่มากมายถึงเพียงนี้ ไม่แปลกใจเลยที่มีผู้คนอันแปลกประหลาดมากมายมารอคอยเขาอยู่ในที่แห่งนี้ นั้นก็เพราะว่าถ้าหากตกมาอยู่ในมือเพียงแค่ชิ้นเดียว ถือได้ว่าเป็นวาสนาครั้งใหญ่เลย ไม่มีผู้ใดคิดที่จะให้เขาได้สิ่งของเหล่านี้ไปเพียงคนเดียวแน่ หลังจากที่ออกไปอย่างปลอดภัยแล้ว ถึงแม้ว่าจะกล่าวจากผู้คนมากมาย ถ้าหากว่าเยี่ยจงสามารถฝึกปรือเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วละก็ คงจะถือได้ว่าเป็นความยุ่งยากครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้
……
บริเวณส่วนลึกของสุสานกระบี่ เยี่ยจงก็ได้ค่อยๆก้าวออกมาจากภายในซากโบราณแห่งหนึ่ง ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏประกายประหลาดขึ้นมาเป็นสาย
เขาในตอนนี้ที่ได้เดินออกมาจากภายในใต้ดินในระยะทางเพียงสั่นๆ แต่ว่ากลับต้องสูญเสียเวลาไปไม่น้อย นั้นก็เพราะว่า พลังของเขาในตอนนี้เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ถือได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มีอยู่หลายครั้งเป็นเพราะว่าควบคุมพลังไว้ได้ไม่ดีพอ ก็ได้เหยียบย่างจนสิ่งปลูกสร้างโบราณนั้นนั้นแตกกระจาย จากนั้นก็ถือทับไว้อยู่ภายใน ทั้งยังถือได้ว่ายากเย็นเพื่อที่จะทำให้ร่างกายทำความคุ้นเคยกับพลังอันมหาศาลภายในร่างกายในตอนนี้ เยี่ยจงจึงได้เดินออกมาจากสถานที่ผุพังแห่งนี้ได้ ในขณะนั้นเอง แม้แต่เยี่ยจงเองต่างก็เกิดความวันคืนมีการเคลื่อนเปลี่ยนแปลงขึ้นมา
“ ทว่าก็เป็นแค่เพียงการเปลี่ยนแปลงร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้นมาเล็กน้อย มีอันใดให้น่าตื่นตกใจกัน หากว่าในวันข้างหน้าเจ้าไปจนถึงขอบเขตนั้นได้แล้วละก็ ? คงมิใช่หยิ่งผยองเทียบฟ้าหรอกหรือ ? เจ้าหนู ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อนนะ ต่อให้เป็นอยู่ในขอบเขตนั้นได้ ทว่าก็เป็นเพียงแค่ร่างกายไม่สูญสลายเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน ในดินแดนอันยิ่งใหญ่ต่อจากนี้ ก็เพียงพอที่จะสังหารเจ้าได้ “ เสี่ยวหลุนจ้องมองไปที่เยี่ยจง แล้วก็ได้เอ่ยความในใจออกมา เพื่อที่จะเตือนสติเขา
“ ข้าเคยบอกว่าตนเองไร้เทียมทานอย่างงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงร้องชิออกมาอย่างเย็นชา เรื่องราวเหล่านี้เขาย่อมทราบดีแก่ใจ ต่อให้อยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเยี่ยจงเมื่อก้าวมาถึงขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าจะไร้เทียมทานได้ เมื่อเปรียบเทียบกับยอดยุทธ์โดยทั่วไป ก็เป็นเหมือนดั่งการใช้ปีนป่ายขึ้นสู่ภูเขาสูงเท่านั้น วันข้างหนยังคงต้องปีนป่ายขึ้นสู่ภูเขาที่สูงยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ไม่อาจที่จะหลอกตนเองไปได้
การฝึกยุทธ์ก็เป็นเหมือนเรือที่ลอยอยู่ในน้ำ ถ้าไม่พายก็ไม่มีการก้าวหน้า เหตุผลนี้เยี่ยจงก็เรียกได้ว่าเข้าใจมาตั้งแต่แรกแล้ว มิเช่นนั้น ก่อนหน้านี้เขาก็คงไม่อาจที่จะฝึกปรือมาจนถึงขั้นนี้ได้
“ ข้าจะบอกว่า หลายวันที่ผ่านมานี้ องค์ชายสิบสามอละผู้คนกลุ่มนั้นต่างก็มิได้ตามหาข้าพบ พวกเขาคงจะมิใช่ได้ถอยไปยังบริเวณประตูทางเข้าทั้งหมดในตอนนี้หรอกนะ เพื่อที่จะได้เตรียมการอย่างเป็นพิเศษ รอคอยจนข้าปรากฏตัว จะได้ช่วงชิงหัวใจพสุธาไปจากข้า ? “ เยี่ยจงจู่ๆก็ได้เอ่ยถึงความคิดของตนเองอย่างกะทันหัน วันก่อนที่อยู่ท่ามกลางแอ่งชำระกระบี่ มีแต่เพียงเขาเท่านั้นที่ได้หัวใจพสุธาไปถึงสามชิ้น เขาคงจะเชื่อไม่ลงว่าคนอื่นๆจะยอมถอยไปอย่างง่ายดายเช่นนั้น
“ เรื่องนี้ ก็พูดได้ยากนะ …….. “ ในตอนนี้เสี่ยวหลุนก็ได้ขมวดคิ้วขึ้น ราวกับเห็นด้วยกับสิ่งที่เยี่ยจงกล่าวก็มิปาน หลายวันมานี้ พวกเขาได้หลบซ่อนอยู่ในสถานที่เรียกได้ว่าลึกลับอย่างยิ่ง แต่ว่าก็ใช่ว่าจะไม่สามารถมิอาจที่จะหาได้พบ แต่ว่าเด็กน้อยเหล่านี้กลับไม่มีคนใดเข้ามาหาเลย ถือได้ว่าเป็นที่น่าแปลกใจอยู่หลายส่วน
“ ดูเหมือนว่า พวกเขาอย่างน้อยก็คงจะรอข้าอยู่ตรงบริเวณทางเข้าจริงแล้วละ “ เยี่ยจงยิ้มขึ้นช้าๆ “ ก็ดี หวังว่าในครั้งนี้พวกเข้าคงจะเตรียมการและกำลังคนเอาไว้ ข้ากำลังต้องการที่จะทดสอบพลังฝีมือ เพื่อที่จะทดสอบพลังของกายเนื้อว่าจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจนถึงในระดับใดกัน “
หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้ก้าวยาวๆมุ่งหน้าไปยังทางด้านบริเวณทางเข้าของสุสานกระบี่ และในเวลาเดียวกันนี้ เสี่ยวหลุนก็ได้สาดจนเป็นประกายขึ้นมา กลับคืนสู่รูปลักษณ์ต่างหูอยู่ตรงติงหูของเยี่ยจง
ตลอดการเดินทางนี้ เยี่ยจงก็ได้ใช้เวลาไปทั้งหมดราวเจ็ดแปดวัน เห็นได้ชัดว่า ภายในเจ็ดแปดวันมานี้ไม่เพียงแต่เร่งเดินทางเท่านั้น ตลอดรายทางมานี้ก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตปรากฏขึ้นมาไม่น้อย เยี่ยจงที่อยู่ภายใต้การนำทางของเสี่ยวหลุน ก็ได้แย่งชิงสมบัติปราณอันเก่าแก่มาได้อยู่หลายชิ้น ทั้งยังให้เสี่ยวหลุนกลืนกินไป เพื่อที่จะให้มันฟื้นคืนพลังกลับมา อีกทั้งยังเรียกได้ว่าแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้อยู่หลายส่วน จนเมื่อถึงเวลานี้ เสี่ยวหลุนก็ค่อยได้เริ่มถอนหายใจออกมา ก่อนหน้านี้มันได้ช่วยเหลือเยี่ยจงในการหล่อหลอมหยดน้ำเซียนได้อย่างไม่ผิดพลาด ในตอนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการตอบแทนกลับคืน จนทำให้มันเกิดความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“ เกือบจะถึงแล้ว “
ในวันที่เก้า ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ขยับขึ้น ยืนอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงชันลูกหนึ่ง จ้องเขม็งไปบริเวณทางด้านหน้า เขาที่พอจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแรงกดดันกลุ่มหนึ่งมาจากทางด้านหน้า
“ ดูเหมือนว่า การคาดเดาของเราท่านจะไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อยเลย ตอนนี้ก็ได้มีคนกำลังรอคอยข้าอยู่แล้ว “ เยี่ยจงยิ้มขึ้นช้าๆ กล่าวออกมาเสียงเบาต่อเสี่ยวหลุน
“ เยี่ยจง ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายสิบสามเมื่อวันก่อนหรือว่าจะเป็นจูเยียน ทั้งยังมีฟินิกซ์เก้าเศียรเป็นต้น พวกเขาต่างก็ถือได้ว่ามีร่างกายที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง เกรงว่ามีเพียงแต่ต้องใช้ไพ่ตายใบอื่นที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น เจ้าจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนเอาไว้ ใช้แต่เพียงแค่ร่างกาย เจ้าในตอนนี้ก็จัดการพวกเขาได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ว่าเมื่อเพิ่มเติมมาด้วยคนอื่นๆอีก เช่นนั้นก็กล่าวได้ยากแล้ว “ เสี่ยวหลุนได้เตือนสติขึ้นมา
เยี่ยจงพยักหน้าเห็นด้วย สีหน้าเปลี่ยนเป็นครุ่คิดขึ้นมา ราวกับการพบกันกับหวินจงเทียนเมื่อวันก่อนก็มิปาน พลังฝีมือของผู้คนมากมาย สมบัติปราณอันแกร่งกล้า เรียกได้ว่ายากที่จะต่อกรอย่างแท้จริง หากมิใช่เป็นเพราะเยี่ยจงค้นพบกระบี่ดำเมื่อวันก่อนแล้วละก็ เกรงว่าคงจะต้องทอดร่างไปตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้เขาใช้ออกด้วยตราผนึกนภา อย่างมากก็ไม่อาจที่จะพลิกสถานการณ์ได้
“ ใช่แล้ว เมื่อหลายวันก่อนข้าให้เจ้าช่วยชำระกระบี่ดำของข้า ผลลัพธ์เป็นยังไงบ้าง ? “ เยี่ยจงพึ่งนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน
“ ไม่ค่อยดีนัก กระบี่ดำเล่มนี้มีพลังความเครียดแค้นอยู่อย่างลึกล้ำ แอ่งน้ำชำระกระบี่ที่ข้าได้เก็บเอาไว้เมื่อวันก่อนก็ได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว แต่ว่าอย่างมากก็ชำระพลังความแค้นไปได้เพียงแค่หนึ่งในสิบส่วนของมันเท่านั้น ทว่า หากให้เจ้าคอยควบคุมแล้วก็ไม่ถือว่าลำบากลำบนเท่าก่อนหน้านี้ “ เสี่ยวหลุนถอยหายใจออกมา จากนั้นก็ได้สาดประกายตาออกไป คายกระบี่ดำเล่มนั้นออกมา
เยี่ยจงยื่นมือออกมา ก็ได้ค่อยๆรับกระบี่ดำเล่มนี้เอาไว้ ทอแววสีหน้าประหลาด หลังจากนั้น เขาก็ได้เก็บกระบี่ดำเอาไว้ในแหวนจักรวาล จากนั้นก็ได้ก้าวออกไป ค่อยๆมุ่งหน้าไปยังทางเข้าของสุสานกระบี่
หากว่าเยี่ยจงคาดเดาไม่ผิด องค์ชายสิบสามและพวกเพียงเพื่อหัวใจพสุธา เพื่อหยุดยั้งตนเองเอาไว้แล้วละก็ เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องเตรียมสิ่งของบางอย่างไว้เพื่อตนเอง ก็ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน การต่อสู้ในวันนี้ อาจจะลำบากลำบนกว่าเมื่อตอนที่อยู่ที่ภายในหุบเขาสุสานกระบี่เมื่อวันก่อนก็เป็นได้
“ ทว่า ก็ช่างมันเถอะ สมบัติกระบี่ที่อยู่ในจุดสูงสุด เป็นดั่งดอกไม้ที่หอมหวนชวนหลงใหล พวกเขาคิดที่จะเป็นดั่งก้อนหินเพื่อให้ข้าสำเร็จลุล่วงไป เพื่อที่จะได้ก้าวขึ้นสู่เส้นทางของยอดฝีมือ ข้าก็ใช่ว่าจะทำเหมือนดั่งพวกเขาเป็นดั่งหินลับมีด เพื่อเพิ่มความคมกล้าให้แก่ร่างกายของข้านี้ “ เยี่ยจงกล่าวออกมาเบาๆ สีหน้าทอประกายเย็นเยียบ เส้นทางต่อไปใช่ว่าจะก้าวไปได้อย่างง่ายดาย แต่ก็จำเป็นที่จะก้าวเดินต่อไป
ไม่นานนัก บริเวณทางด้านหน้าของตีนเขา ในบริเวณที่ห่างไกลจากศิลาขนาดยักษ์อยู่สองลูกขนานกัน เยี่ยจงก็ได้ค่อยๆเดินออกมาจากเส้นทางสายนั้น จนกระทั่งย่างกรายออกมาจากสุสานกระบี่
“ มาแล้ว มาแล้ว เป็นเขา ที่แท้ก็เป็นเขา “
“ มิผิด บุคคลนี้ก็คือราชันเยี่ยจงผู้นั้น เขาในเมื่อออกมาจริง ทั้งยังมาเพียงแค่คนเดียว อีกทั้งเมื่อดูจากสีหน้าของเขาแล้ว อย่างน้อยก็คาดเดาฉากที่อยู่เบื้องหน้าได้ตั้งแต่แรกแล้วงั้นหรือ ? “ มีคนเกิดความตกใจขึ้นมา
“ ที่แท้ก็เป็นหนึ่งในสี่ราชันมนุษย์ตายยากนั้นเอง มีชื่อเสียงที่เป็นถึงยอดอัจฉริยะแห่งเผ่ามนุษย์ ทั้งยังมีความกล้ามากพอที่จะก้าวมายังที่แห่งนี้ นี้มิใช่สิ่งที่บุคคลทั่วไปจะสามารถกระทำได้ “
“ แต่ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะเป็นไร พวกเจ้าอย่าได้ลืมไปว่า ในวันนี้ มีผู้คนอยู่มากมาย ยอดฝีมือไม่น้อยรอคอยเขาอยู่ มีหรือที่เขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ? นอกเสียจากจะส่งมอบหัวใจพสุธาและสมบัติโลหิตมังกรแท้ออกมาในช่วงแรก ไม่เช่นนั้น ต่อให้เป็นหนึ่งในสี่ราชันเผ่ามนุษย์แล้วจะเป็นไร ? ก็ไม่อาจพ้นจากความตายได้ เป็นเพียงแค่ความฝันอันว่างเปล่าเท่านั้น “
“ ก่อนหน้านี้เขามิใช่ว่าอยู่ที่ยอดเขาฆ่าสังหารหวินจงเทียนไปแล้วงั้นหรือ ? คิดที่จะสังหารเขาถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างงั้นหรือ ? “
“ ก็แค่คำเล่าลือเท่านั้น ใครจะทราบได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร สถานการณ์ในวันนี้ ก็ยากที่จะหลบเลี่ยงได้ “
.
.
.
.
กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610
กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด632
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/