เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 414 บุตรมารอัสนี

ตอนที่ 414 บุตรมารอัสนี

 

“นี้มัน สุดยอดอันดับหนึ่ง ซิง ! ? เหตุใดเขาถึงได้มาประมือกับนางเซียนเยว่จิ่งได้กัน ? “

 

“นางเซียนเยว่จิ่งดูเหมือนจะมีทีท่าที่โกรธจัดอยู่ เกรงว่าระหว่างทั้งสองคนคงจะต้องเกิดอะไรขึ้นอย่างแน่นอนแล้วละ ? “

 

“นางเซียนปะทะสุดยอดฝีมือ การปะทะนี้ถือได้ว่าตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ! ยากที่จะคาดเดาผลแพ้ชนะได้ ! “

 

ฉากการต่อสู้เบื้องหน้านี้ วินาทีนี้ก็ได้ดึงดูดความสนใจขึ้นมาได้ไม่น้อย มีผู้คนมากมายต่างก็เหม่อมองไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยแววตาที่แปรเปลี่ยนกลายเป็นประหลาดใจขึ้นมา

 

ตอนนี้ ทางด้านบนของธาราเพลิงนี้ ก็ได้มีผู้คนมากมายที่ประมือกัน เกิดการต่อสู้ที่โหดร้ายอย่างถึงที่สุด เยี่ยจงกรอกนัยน์ตาอย่างวุ่นวายเร่งรีบนับร้อยรอบ จึงได้พบว่าที่ท่ามกลางอากาศตอนนี้ได้มีกลุ่มประกายแสงพวยพุ่งเข้ามาอย่างมากมาย มีทั้งสมบัติเซียน、มีทั้งแผ่นศิลา แล้วยังมียาโอสถอีกด้วยเป็นต้น แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดต่างก็มีสีสันเป็นสีแดงอย่างกระจ่าง เห็นได้ชัดว่ามีความเกี่ยวข้องกับพลังแห่งมรรคไฟ ต่างก็ถือได้ว่าเป็นสมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์

 

“ข้าว่านางเซียนเยว่จิ่ง ตอนนี้ถ้ายังลงมือกับข้าอีก คงจะไม่มีเท่าไรหรอกนะ ? สมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์มากมายถึงเพียงนี้ แค่หยิบจับมาสักอย่างก็คืนทุนแล้ว เจ้าทำเช่นนี้ ผู้อื่นจะคิดว่าผู้อื่นจะคิดว่าข้าและเจ้ากำลังทำอะไรกัน ! “เยี่ยจงสะบัดนิ้ว เพื่อเบี่ยงเบนทิศทางของคมดาบสายนี้ จากนั้นก็ได้ไพล่มือทั้งสองข้างไปทางด้านหลังพร้อมทั้งยิ้มน้อยๆ แล้วกล่าวออกมา ร่างกายก็ได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางอากาศ ทำให้เห็นถึงความสูงส่งที่เปี่ยมล้นออกมา

 

เยว่จิ่งขบริมฝีปากสีแดงอย่างมีเสน่ห์ บนใบหน้าแทบไร้สีเลือด นางใช้ดวงตาอันเย็นเยียบจ้องมองไปยังร่างของเยี่ยจง หลังจากนั้นเอง ก็ได้พลิกทั้งสองมือออก ควบคุมคมดาบสายนี้เข้าฟาดฟันออกไปอีกครั้ง

 

“นางเซียน เจ้าต้องการที่เอาเป็นเอาตายกับข้าเช่นนั้นด้วยหรือ ? ขอบอกไว้ก่อนนะ หากว่าเจ้าพ่ายแพ้แล้วเจ้าจะต้องกลายเป็นหนูน้อยปรุงอาหารให้แก่ข้าดีหรือไม่ ? “เยี่ยจงยิ้มขึ้นน้อยๆ ใช้ออกมาด้วยพลังดัชนี จนพวยพุ่งประกายแสงสายฟ้าออกมาเป็นสาย วินาทีนั้นก็ได้เกิดคมดาบสั่นสะท้านคิดมา บนใบหน้าของเขาก็ได้เผยรอยยิ้มที่น่าดูออกมาอย่างถึงที่สุด ใช้สายตาอันประหลาดพิกลจ้องมองไปที่เยว่จิ่ง

 

เยว่จิ่งซวนเซขึ้นมาอีกครั้ง จนเกือบที่จนล้มลง เด็กน้อยผู้นี้ทำเกินไปแล้ว ก่อนหน้าที่จะช่วงชิงอาภรณ์ของนางก็ยังแล้วกันไป นี้ใช่เรื่องที่บุรุษปกติควรกระทำอย่างงั้นหรือ แต่ว่า เขายังถึงกับคิดที่จะให้อัจฉริยะหญิงแห่งเผ่าพันธุ์หนึ่ง มาเป็นหนูน้อยปรุงอาหารอีก

 

ในขณะนี้เอง เยว่จิ่งก็ได้สูญเสียท่าทีทั้งหมดไป ขบฟันจนเกิดเสียงดังขึ้นมาติดต่อกัน

 

“ตูม—— “

 

พริบตานั้นเอง บริเวณท่ามกลางอากาศเหล่านั้นที่มียอดฝีมือมากมายกำลังช่วงชิงสมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์อยู่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็ได้เกิดประกายแสงคมกล้าอันน่าหวาดกลัวขึ้นมา จนทำให้อัจฉริยะที่กำลังลงมือต่างก็แยกออกจากกัน จากนั้นก็ได้รวมตัวกันไปยังทางด้านของสมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว จนก่อเกิดแสงไฟสีแดงเพลิงขึ้นมาสายหนึ่ง มุ่งหน้าเข้ากดดันเข้าไปทางด้านนั้น

 

ในขณะนี้เอง อัจฉริยะทั้งหมดต่างก็หยุดนิ่ง ทุกผู้คนต่างก็ลงมือกันยกใหญ่ ต่อสู้กันจนเกิดเสียงร้องขึ้นมา ผลสุดท้าย สมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์เหล่านี้ก็ได้ลอยลับไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 

“สมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์เหล่านี้ อย่างน้อยคงจะไปรวมตัวกันที่บริเวณของป่ามรกตแล้ว “มีคนครุ่นคิดแล้วกล่าวออกมา สีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เขากุมไปที่แขนที่ได้รับบาดเจ็บ ที่ถือได้ว่าหนักหนาอย่างยิ่ง ผลสุดท้ายกลับไม่ได้รับอะไร

 

“สมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์หมดกัน ตาม ! “เยี่ยจงเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาได้ทัน หันกายหมายมั่นที่จะไล่ตามไป

 

“ทุกท่าน สมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์เหล่านั้นยากที่จะพบพาน แต่ว่าบนกายเด็กน้อยผู้นี้กลับมีบัวเพลิงก่อฟ้าถึงเจ็ดชิ้น ทุกท่านน่าจะทราบว่า สิ่งของเช่นนี้มีประโยชน์ต่อการฝึกปรือของเคล็ดวิชามรรคไฟอยากมากมาย ผลลัพธ์จากการฝึกปรือถือได้ว่าให้ผลลัพธ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง สมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์มีอย่างที่ไหนกันที่ยอมปล่อยให้สมบัติเช่นนี้หลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาได้กัน “เยว่จิ่งเอ่ยปากขึ้นมาอย่างกะทันหัน สุ่มเสียงประดุจขลุ่ยสวรรค์ก็มิปาน วินาทีนั้นก็ได้กระจายออกไปทั่วทั้งสนามออกไป

 

เมื่อคำพูดนี้ได้กล่าวออกไป อัจฉริยะทั้งหมด ไม่ว่าจะมีบุญคุณความแค้นกับ “ซิง “หรือไม่ ตอนนี้ต่างก็ได้กวาดสายตาจ้องมองเข้ามาอย่างรวดเร็ว ภายในดวงตาของแต่ละคนก็ได้เกิดเพลิงไฟลุกโชนขึ้นมา

 

บัวเพลิงก่อฟ้า สมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์ สิ่งของเช่นนี้จะมีผู้ใดที่ยอมพลาดได้กัน

 

“ทุกท่าน เมื่อครู่ข้าและนางเซียนเยว่จิ่งต่างก็อยู่ด้วยกันในสถานที่แห่งนี้บัวเพลิงก่อฟ้า ข้านั้นได้รับเพียงเจ็ดชิ้นเท่านั้น แต่ว่านางเซียนกลับครอบครองอยู่ทั้งหมดเก้าชิ้น ทุกท่านอย่าได้ผิดพลาดไปละ “เยี่ยจงยิ้มขึ้นน้อยๆ มีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็ว ผลักเยว่จิ่งลงน้ำด้วยกันเป็นคนแรก

 

ร่างกายของเยว่จิ่งก็ได้ซวนเซอีกครั้ง ทอประกายดวงตาจ้องเขม็งไปที่เยี่ยจงประดุจจะฆ่าจะแกงคนเลยก็มิปาน เพราะว่าเด็กน้อยผู้นี้มีปฏิกิริยากลับมาได้รวดเร็วจนเกินไปแล้ว การที่กล่าวออกมาในเวลาเช่นนี้ ย่อมทำให้ตัวนางต้องรับเคราะห์ไปด้วยเช่นกัน

 

“ฆ่า—— “

 

“สมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์ บัวเพลิงก่อฟ้า ! “

 

“ซิง ส่งมอบบัวเพลิงก่อฟ้าออกมาชิ้นหนึ่ง ข้าก็จะถอยไป อย่าได้หาว่าข้าไม่เกรงใจ ! “

 

“น้องหญิงเยว่จิ่ง สิ่งของเหล่านี้ ให้เจ้ารับผิดชอบเอาไว้จะไม่ปลอดภัยนะ ยังคงเอามาให้ข้าเถอะ “

 

วินาทีนั้นเองก็หลังจากที่เกิดความเงียบขึ้น ทั่วทั้งผืนฟ้าก็ราวกับว่ามีผู้คนทั้งหมดต่างก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าเข้าฆ่าสังหารไปยังบริเวณทางด้านที่ทั้งสองคนอยู่เข้าไป หลังจากที่ได้สูญเสียสมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์จำนวนมากไป ย่อมไม่มีผู้ใดยินยอมที่จะผิดพลาดจากบัวเพลิงก่อฟ้าไปได้

 

ทั่วทั้งธาราเพลิงในตอนนี้ก็ได้เดือดขึ้นมา เกิดการหลั่งไหล่ของผู้คนนับไม่ถ้วนเข้ามาไม่ขาดสาย ราวกับว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นก็มิปาน

 

อัจฉริยะ、ผู้โดดเด่น、ผู้กล้าเป็นต้นที่ได้เข้ามายังดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ อย่างน้อยก็มีหนึ่งในสามส่วนที่ต่างก็ได้รวมตัวกันอยู่ในสถานที่แห่งนี้ในตอนนี้ บัดนี้ เด็กน้อยเหล่านี้แต่ละคนต่างก็มีดวงตาแดงฉานขึ้นมา ประดุจมารร้ายก็มิปาน พุ่งเข้าสังหารมาอย่างรวดเร็ว สภาวะรอบด้านเช่นนี้ ต่อให้เป็นเยี่ยจงเองก็ยังรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมาอยู่หลายส่วน

 

ทางด้านนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม มีทั้งต่อสู้เพียงคนเดียว อีกทั้งยังมีรวมกลุ่มกันห้าหกคน ต่างก็ไม่มีความหวาดกลัวแต่อย่างไร แต่ว่ากลุ่มผู้ที่มาที่มีอยู่อย่างมากมายเช่นนี้ อย่าว่าแต่เขาเอง ต่อให้เป็นสุดยอดฝีมือในตอนนี้ อย่างน้อยก็ยังจำเป็นที่จะต้องถอยออกไป ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับมหาราชันปรากฏตัวขึ้นมา อย่างน้อยก็คงจะต้องหลบเลี่ยงจะคมศาสตราอยู่ช่วงหนึ่ง นั้นก็เพราะว่าคนเหล่านี้ถือได้ว่าบ้าคลั่งกันจนเกินเยียวยาแล้ว

 

“ชิ—— “

 

ราวกับว่าไม่มีแม้แต่ความลังเลแม้แต่น้อย เพียงแต่ผนึกรอยตราขึ้นมาจากทั้งสองมือ ควบคุมใช้ออกมาด้วยการเปลี่ยนแปลงจูเชวียนขั้นที่หนึ่งออกมา ประดุจนกจูเชวียนทะยานไปยังสวรรค์ชั้นที่เก้า แต่ว่าในครั้งนี้เขากลับมิได้ฆ่าสังหารออกไป ถึงแม้ว่าระดับความเร็วจะเทียบมิได้กับวิชาดำดินรุกคืบ แต่ก็ถือได้ว่ารวดเร็วอย่างยิ่ง

 

เขาได้จดจำผู้คนทั้งหมดในสถานที่แห่งนี้เอาไว้ หลังจากนี้จะค่อยๆ กลับมาคิดบัญชีอีกครา แต่ว่าตอนนี้ถ้าหากกระทำการบุ่มบ่ามจนเกินไป หากต้องถูกรุมล้อมสังหารจนตายแล้วละก็ เช่นนั้นคงจะไม่คุ้มค่าแต่อย่างไร

 

“ซิง ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามอันสูงส่งของท่านมานาน วันนี้เมื่อได้พบพาน กลับมิได้เป็นเช่นนั้น หากมีความสามารถก็มาสู้กันกับข้า ! “มีเสียงเย็นเยียบดังขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้ายอยู่หลายส่วนออกมา ประดุจดั่งอัสนีผ่าลงมาจากสวรรค์ชั้นที่เก้าก็มิปาน กึงก้องไปทั่วทั้งผืนฟ้า

 

พริบตานั้นเงาร่างสายนั้นก็ได้พุ่งเข้ามายังบริเวณทางด้านหน้าของเยี่ยจง กรีดนิ้วออกมาคราหนึ่ง วินาทีนั้นเอง ก็ได้พบเห็นกับประกายสายอัสนีดำทมิฬพวยพุ่งออกมา มุ่งหน้าเข้าปะทะออกไปบริเวณทางด้านหน้า หมายจะสังหารเยี่ยจงลงไปในทันที

 

ประกายสายอัสนีดำทมิฬสายนี้ได้แฝงเอาไว้ด้วยพลังแห่งการทำลายล้างหมื่นสรรพสิ่งของมารร้ายอยู่ชนิดหนึ่ง น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้พบเจอกับยอดฝีมือระดับมหาราชัน อย่างน้อยต่างก็คงจะต้องถอยออกไปอย่างน้อยสามส่วน

 

และหลังจากอัสนีมารนี้ ก็ได้มีเงาร่างสายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา บนร่างกายของเขากลับเปล่งเป็นประกายสายฟ้าดำทมิฬขึ้น ประดุจชั้นดวงดาวสีดำเสียดแทงเข้ามายังสายตาของผู้คนก็มิปาน ชั่วร้ายอย่างไร้ที่เปรียบ เขาหยุดตัวลงด้วยพลังอัสนีท่ามกลางอากาศ อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยพลังอันมหาศาล

 

“บุตรมารอัสนี ! ? “

 

ทางด้านหลัง ก็ได้มีคนร่ำร้องขึ้นมา เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามของเขา คนผู้นี้ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งที่เล่าขานกันว่าเป็นผู้สืบทอดของตำหนักอัสนีลี้ลับก็ว่าได้ บุตรมารอัสนี เขาถือได้ว่ามีพลังฝีมือเข้าขั้นราชันไปตั้งแต่แรกแล้ว ตามที่เล่าขาน พลังปราณของเขานั้นมีแฝงเอาไว้ด้วยพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะอยู่ บุคคลเฉกเช่นนี้ หากว่าปล่อยให้เติบใหญ่ขึ้นแล้วละก็ คงจะต้องเป็นผู้ปกปักสำนักได้นับร้อยปีก็ว่าได้ มีความน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

 

และนามแห่งบุตรมารอัสนีนี้ คำว่ามาร ก็เพียงพอที่จะทำให้ทราบถึงความน่าหวาดกลัวจากนามได้แล้ว อีกทั้งยังมีพลังฝีมือที่โหดเหี้ยม ผู้ใดที่เขาลงมือด้วย ไม่เคยมีคนใดที่สามารถมีซากศพที่ครบทุกส่วน

 

การโจมตีของบุตรมารอัสนีรวดเร็วเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาและ “ซิง “จะมิได้มีข้อบาดหมางกัน แต่คิดไม่ถึงว่าจะใช้กระบวนท่าสังหารออกมา เพื่อแย่งชิงสมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์

 

วินาทีนั้น เขาก็ได้มาจนถึงบริเวณทางด้านหน้าของเยี่ยจง ก่อเกิดพลังทำลายมารอัสนีสายหนึ่งออกมา ระหว่างนั้นเขาก็ได้หัวเราะขึ้นมา : “ซิง อย่าได้โทษว่าข้า จะโทษ ก็ควรโทษว่าโชคชะตาของเจ้าเองแล้ว ! “

 

“กับเจ้างั้นหรือ ? คิดหรือว่าเจ้าจะใช้พลังสายไฟได้เพียงคนเดียวเช่นนั้นหรือ ? “เยี่ยจงมองเขาด้วยหางตา จากนั้นก็ได้ถอยกายไป ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังดัชนีออก วินาทีนั้น ก็ได้เกิดพลังประกายสายฟ้าอันน่าหวาดกลัวพวยพุ่งออกมา มุ่งหน้าแผ่กระจายออกไปบริเวณรอบด้าน

 

นี้ก็คือวิชาสายฟ้าฉางโยว ฉางโยวถือได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่สามารถใช้พลังสายฟ้าได้ตั้งแต่กำเนิด ถือได้ว่าเป็นเคล็ดวิชาที่ถูกมาจากภายนอก ถึงแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็แน่นอนว่าย่อมไม่อ่อนโทรม เพราะว่าเผ่าพันธุ์นี้ถือได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้พลังแห่งมรรคะสายฟ้าอันเที่ยงแท้ก็ว่าได้

 

“โครม—— “

 

“บรึม—— “

 

พลังสายฟ้าอัสนีทั้งสองสายก็ได้เข้าปะทะกันท่ามกลางอากาศอย่างน่าหวาดกลัว วินาทีนั้น ก็ได้ก่อเกิดอัสนีแผ่กระจายออกมามากมายนับไม่ถ้วน ดุจดั่งจะทำลายดินแดนนี้ก็มิปาน ประกายอัสนีเต็มไปทั่วทุกสภาวะ พริบตานั้นก็ได้กดดันอัจฉริยะไม่น้อยถอยรนออกไป

 

“ยอดเยี่ยม ได้ฟังมาตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับวิชาฉางโยวมา ข้าจะต้องสังหารเจ้าให้จงได้ จากนั้นก็ช่วงชิงเคล็ดวิชาอัสนีมาจากเจ้า อย่างน้อยคงจะช่วยทำให้มรรคสายฟ้าของข้ามีความก้าวหน้าขึ้นไปอีกก้าว ! “บุตรมารอัสนียิ้มขึ้นน้อยๆ แต่ว่ารอยยิ้มนั้นเย็นเยียบอย่างยิ่ง วิชาสายฟ้าของเยี่ยจงถึงกับสามารถเข้าประชันต้านทานกับพลังของเขาได้ ราวกับว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาไปแล้ว แต่ว่าก็ยิ่งทำให้เขาเกิดความยินดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

เยี่ยจงเพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย บุตรมารอัสนีเบื้องหน้าสายตา เมื่อเทียบกับเหล่าอัจฉริยะที่มีกันอยู่มากมายจากตำหนักอัสนีก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าไม่ทราบว่าแข็งแกร่งกว่าไม่รู้กี่เท่า แทบจะเรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใครที่จะสามารถเทียบเปรียบได้โดยทั้งสิ้น อีกทั้งนามแห่งบุตรมารอัสนีนี้ เป็นที่ชัดเจนได้ว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการใช้ออกมาด้วยพลังมรรคสายฟ้าได้แข็งแกร่งอย่างสูงสุดผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ ถือได้ว่ามิใช่สิ่งที่บุคคลโดยทั่วไปจะสามารถเทียบเคียงได้

 

“ทั่วทั้งสี่ดินแดน หากเอ่ยถึงมรรคสายฟ้า ตำหนักอัสนีถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมหมื่นอัสนี หากจะเอ่ยถึงมรรคสายฟ้าภายในตำหนักอัสนี บุตรมารอัสนีเช่นข้าถือได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร การใช้พลังมรรคสายฟ้าต่อหน้าข้า เจ้ากระทำเช่นนี้ถือได้ว่าหาที่ตายโดยแท้ ! “บุตรมารอัสนีจ้องมองไปที่เยี่ยจง หัวเราะเสียงเย็นชาติดต่อกัน พลังมารอัสนีทั่วทั้งร่างกายของเขารวมตัวกันขึ้น ประดุจว่าในขณะนี้เอง เขาได้กลายเป็นเทพอัสนีน้อยไปก็มิปาน

 

พลังทำลายเช่นนี้ ได้ทำให้อัจฉริยะมากมายท่ามกลางสถานที่แห่งนี้เกิดความระแวดระวังขึ้นมาส่วนหนึ่ง อัจฉริยะเหล่านี้ต่างก็มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง ย่อมไม่เกรงกลัวผู้ใดอย่างง่ายดาย แต่ว่าเมื่อพบเห็นความเป็นจริงเช่นนี้ บุตรมารอัสนีก็ยังถือได้ว่ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำให้เกิดความหวาดกลัวและความจริงจังขึ้นมาได้

 

“ขณะนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง คุกเข่าลง แล้วก็ส่งมอบบัวเพลิงก่อฟ้ายังมีวิชาสายฟ้าฉางโยวออกมา ในเวลาเดียวกันข้าจะรับเจ้าไว้เป็นลูกน้อง เป็นอย่างไร ถือเป็นอีกทางเลือกที่ไม่ต้องตายแก่เจ้าแล้วนะ ! “บุตรมารอัสนีแข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบ เขาก้าวย่างด้วยพลังสายฟ้า จดจ้องไปที่ “ซิง “แล้วกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

 

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน ? เทพอัสนีงั้นหรือ ? “เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา ประกายสายตาก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าฟันขั้นมา

 

“ถึงแม้จะให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่ว่าน่าเสียดาย เช่นนั้นก็อย่าได้โทษว่าข้าก็แล้วกัน “บุตรมารอัสนีส่ายหน้า จากนั้นก็ได้ก้าวออกไปอีกก้าว ในครั้งนี้ เขาก็ได้พุ่งคมหมัดออกเข้าปะทะออกไปทางด้านหน้า พริบตานั้นเองคมหมัดก็ได้ห่อหุ้มไปด้วยประกายสายฟ้าขึ้น แขนประดุจเทพสายฟ้าก็มิปาน แล้วก็ได้ฆ่าสังหารออกไปเช่นนี้ ตระเตรียมพร้อมที่จะสังหารเยี่ยจงลงไปภายในกระบวนท่าเดียว จากนั้นบริเวณทางด้านหลัง ก็ได้ก่อเกิดมารมังกรพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กลายเป็นอัสนีขึ้น ดูแล้วน่าหวาดกลัวเต็มสิบส่วน

 

เยี่ยจงทอประกายสายตาเย็นเยียบขึ้นมา ร่างกายก็ได้ทอประกายแสงสีทองแผ่กระจายออกมา พลังกายเนื้อไม่สูญสลายในตอนนี้ก็ได้ถูกเข้าใช้ออกมาจนถึงขั้นสูงสุด ในเวลาเดียวกัน บริเวณทางด้านหลังของเขา ก็ได้ปรากฏเงาของฉางโยวขึ้นมาเป็นสายอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้หลั่งไหลเข้าสู่ภายในร่างกายของเขา จนทำให้ทั่วทั้งร่างกายของเขาตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยประกายสายฟ้า เพียงแต่ว่ามีส่วนที่แตกต่างจากบุตรมารอัสนีก็คือมิได้เป็นสีดำทมิฬเท่านั้นเอง บนร่างกายของเยี่ยจงก็ได้แผ่กระจายประกายสายฟ้าสีทองขึ้นมา ดูแล้วงดงามสุดเปรียบปาน

 

“โครม—— “

 

ประกายสายฟ้าได้ถูกรวมขึ้น พริบตานั้นเอง เยี่ยจงก็ได้รั้งรวมพลังสายฟ้าเอาไว้ในหมัด พุ่งปะทะออกไปในทันที

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset