เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 418 ฆ่าสังหารอัจฉริยะ

ตอนที่ 418 ฆ่าสังหารอัจฉริยะ

 

 

“อย่างเจ้างั้นหรือ ? ”เยี่ยจงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา สีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด .

 

“ก็อย่างข้าไงเล่า ”บุตรจักจั่นสวรรค์พลิกมือขวาเล็กน้อย ชี้นิ้วไปบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

“ฮูม——”

 

เสียงดังเสียดแก้วหูก็ได้ดังขึ้นมาในตอนนี้ จากนั้นก็ได้พบกับประกายที่แสงพวยพุ่งออกมาเป็นสาย จนเกิดพลังอักขระจำนวนนับไม่ถ้วนลอยกระจายขึ้นมาในตอนนี้ มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

แต่ว่าตอนนี้เยี่ยจงทั้งไม่หลบไม่หลีกหนี เขาก็ได้มองเข้าไปทางด้านของบุตรจักจั่นสวรรค์อย่างเย็นชาเช่นนี้ บนใบหน้าก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยสีหน้าเย้ยหยันอย่างเย็นชา

 

“ติงติงติง——”

 

พลังสายสีทองแต่ละสายก็ได้พวยพุ่งเข้ามาเป็นสาย กระทบลงไปบนร่างกายของเยี่ยจง แต่ว่ากลับประดุจดั่งเข็มที่เข้าไปยังแท่งเหล็กก็มิปาน จนเกิดเสียงดังกิ้งกิ้งดังเช่นนี้ขึ้นมา

 

“อะไรกัน ! ? ”

 

ผู้คนทั้งหมดต่างก็เกิดอาการตกใจ ราวกับว่าเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้ กายเนื้อของ”ซิง”ผู้นี้เหตุใดถึงได้มีความน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้กัน ? ดุจดั่งเหล็กทองที่ไม่แตกสลายได้ ?

 

“เป็นกายเนื้อที่น่ากลัวเสียจริง ! ? ”

 

“นี้สมควรที่จะการเนื้อไม่สูญสลายของซิง แต่ว่า กายเนื้อไม่สูญสลายปกติธรรมดาจะสามารถมีความแข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ ? ซิงผู้นี้ ที่แท้มีสภาวะร่างกายเช่นใดกัน ? ช่างยากที่จะคาดคิดได้เสียจริง ! ? ”

 

อัจฉริยะผู้โดดเด่นมากมายต่างก็เกิดอาการตกใจ ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายหากกล่าวมาหมู่ของพวกเขา กลับมิใช่ความลับที่ยิ่งใหญ่อันใด ถึงแม้ว่าทุกผู้คนจะใช่ว่าสามารถฝึกฝนจนสำเร็จได้ แต่ว่าพวกเขาก็ย่อมเข้าใจระดับสูงสุดของขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย แต่ว่า ตอนนี้สิ่งที่”ซิง”ผู้นี้แสดงออกมาของขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย แทบจะเรียกได้ว่าเกินกว่าที่พวกเขาเคยรับทราบว่าก่อนแทบทั้งสิ้น จนทำให้พวกเขาแต่ละคนต่างก็เผยอาการตกใจออกมา

 

“อะไรกัน ? เป็นไปได้ยังไงกัน ! ? ”

 

บุตรจักจั่นสวรรค์เป็นครั้งแรกที่บนใบหน้าอันเยียบเย็นปรากฏอาการตกใจขึ้นมา พลังจักจั่นทองของตนเองจะถึงกับสามารถต้านทานเอาไว้ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้อย่างงั้นหรือ ?

 

พริบตานั้นเอง เขาก็ได้แปรรอยตราขึ้นบนทั้งสองมือ ใช้ออกด้วยพลังจักจั่นทองอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันก็ได้ยกมือขึ้นเล็กน้อย จนเกิดประกายคมกล้าสีทองสายหนึ่งพวยพุ่งออกมาจากนิ้ว มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณหว่างคิ้วของเยี่ยจง

 

“เคร้ง——”

 

เยี่ยจงสะบัดมือออกมาคราหนึ่ง วินาทีนั้น ใจกลางฝ่ามือก็ได้มีความรู้สึกที่ไหลเวียนจากการสั่นไหวแผ่ขึ้นมา จนเกิดโลหิตไหลริน นี้ได้ทำให้เขาเกิดความตกใจขึ้นมา

 

ไม่มีผู้ใดที่ทราบดียิ่งไปเสียกว่าเยี่ยจงอีกแล้ว สิ่งที่ถูกเรียกว่าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายของตัวเขาเองนั้นแท้จริงแล้วมีความแข็งแกร่งในระดับใดกันแน่ แต่ว่าตอนนี้ถึงกับถูกสิ่งนี้ทำให้บาดเจ็บได้ ราวกับเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

 

เขาได้ค่อยๆกางฝ่ามือออก จากนั้นภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความสงสัยขึ้น นี้ยังถึงกับเป็นเพียงแค่คราบจักจั่นสีทองเพียงชิ้นหนึ่งเท่านั้น ประดุจว่าถูกตีขึ้นมาจากหยกมรกตก็มิปาน บนตัวมันทอเป็นประกายสว่างไสว

 

“นั้นคือ การเปลี่ยนแปลงขั้นที่หนึ่งของเผ่าเก้าแปรเปลี่ยนจักจั่นทอง เมื่อได้ลอกคราบออกมา กล่าวกันว่าสามารถที่จะนำสิ่งของนั้นมาผูกจิตวิญญาณจนกลายเป็นสมบัติ จนสามารถที่จะทำให้พวกเขามีความเติบโตที่ยิ่งกว่าเติบโตขึ้นไปอีก น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ! ”มีคนเอ่ยปากกล่าวออกมาอย่างตกใจ ระบุถึงความไม่ธรรมของวัตถุชิ้นนี้

 

เยี่ยจงมีปฏิกิริยากลับคืนมา บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้ไหลเวียนพลังอักขระจูเชวียนและพลังอักขระฉางโยวขึ้นมาในเวลาเดียวกัน พลังการทำลายอันน่ากลัวก็ได้รวมตัวกันอยู่บริเวณใจกลางฝ่ามือ เขาตอนนี้ได้ใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด หมายจะทำลายวัตถุชิ้นนี้ลง

 

“ติง——”

 

เสียงใสๆดังกังวานขึ้นมา คราบจักจั่นดั่งหยกมรกตก็ได้ปรากฏรอยร้าวขึ้นมาเป็นสาย บุตรจักจั่นสวรรค์ถึงกับร่างกายสั่นไหวขึ้นมา พลังจักจั่นทองถอยออกไป ในเวลาเดียวกันเขาเองก็ได้ถอยลงไปอีกหลายสิบก้าว บนใบหน้าก็ได้ปั้นยากขึ้นมาอย่างุคงที่สุด

 

สมบัติผูกชีวิตวิญญาณของเขานี้ถือได้ว่าน้อยครั้งที่จะใช้ออกมา แต่ว่าในช่วงเวลาของทุกๆครั้งที่ได้ใช้ออกไป ต่างก็จะสามารถเด็ดชีวิตผู้คนได้ ไม่เคยทิ้งร่องรอยแต่อย่างไร แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าในวันนี้ยังถึงกับล้มเหลวขึ้นมา เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาไปแล้ว

 

อีกทั้ง วัตถุชิ้นนี้กับเขาได้ผสานผูกชีวิตเข้าด้วยกัน วัตถุชิ้นนี้หากได้รับบาดเจ็บ ตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ความเชื่อมั่นที่มีไร้ผู้ต้านในตอนนี้ก็ได้ถูกสั่นครอนขึ้นมาอย่างช้าๆ

 

“ครืน——”

 

เยี่ยจงโจมตีลงไปอย่างรุนแรง ในครั้งนี้ก็ได้ทำให้คราบจักจั่นที่ประดุจดั่งหยกมรกตก็มิปานแหลกลานจนกลายเป็นผงไปในทันที จากนั้นเขาก็ได้ถอยออกมา สภาวะสีทองบนร่างกายก็ได้ส่องเป็นประกายขึ้นมา แล้วก็ได้ก้าวเดินออกไปท่ามกลางอากาศเช่นนี้ไปทีละก้าวทีละก้าว มุ่งหน้าเข้าไปใกล้ยังบริเวณที่บุตรจักจั่นสวรรค์อยู่

 

“เยี่ยมมาก เจ้าคิดว่าจะสามารถล้มข้าลงเช่นนี้ได้อย่างงั้นหรือ ? การจะส่งเจ้าไปสู่ประตูมรนะนั้น ข้ายังถือได้ว่ามีพลังฝีมืออีกมากมาย ”บุตรจักจั่นสวรรค์มีโลหิตไหลรินออกมาที่มุมปาก เขายกมือขึ้นปาด ทอสีหน้าเย็นชา

 

พริบตานั้นเอง เขาก็ได้ใช้ออกมาไปด้วยพลังดัชนี จนเกิดเตาหลอมสีเงินโบราณขนาดเล็กปรากฏขึ้นมา บริเวณของเตาขนาดเล็ก ก็ได้หมอกแผ่กระจายออกมา หมอกเหล่านี้ก็ได้ปกคลุมออกมาไปทั่วในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณของเยี่ยจง

 

“อะไรกัน ! ? ”

 

เยี่ยจงในขณะนี้เองก็ได้ร่างกายสั่นเทาขึ้นมา อัจฉริยะผู้โดดเด่นทั้งหมดที่อยู่ทางด้านล่างต่างก็เกิดอาการแตกตื่นไปตามๆกัน รู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งกาย

 

ท่ามกลางหมอกของเตาหลอมขนาดเล็กนี้ ได้แฝงเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่าอยู่ชนิดหนึ่ง ราวกับว่าสามารถที่จะทำลายหมื่นสรรพสิ่งภายใต้ผืนฟ้าดินมากมายนับไม่ถ้วนลงไปได้เลยก็มิปาน

 

“นี้มัน……เตาหลอมแห่งความว่างเปล่า ! ? ”

 

เยี่ยจงสีหน้าเปลี่ยนไปคราหนึ่ง ก็พึ่งจะนึกถึงคำเล่าขานหนึ่งขึ้นมาได้ ตามตำนานของสิบสุดยอดอาวุธเทวะที่มีอยู่、สิบสุดยอดอาวุธมาร และเตาหลอมแห่งความว่างเปล่าก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดอาวุธมาร กล่าวกันว่าสามารถที่จะใช้ความว่างเปล่า ควบคุมจนกลายเป็นกองทัพมารได้ จนยากที่จะสามารถมีผู้คนต้านทานเอาไว้ได้

 

ในระหว่างนั้นเองประกายแสงจากศิลาเพลิงก็ได้สว่างขึ้นมา เยี่ยจงทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมา ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว

 

อัจฉริยะผู้โดดเด่นเหล่านั้นทางด้านล่างต่างก็มีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็วอย่างถึงที่สุด หลังจากนั้นผู้คนไม่น้อยต่างก็จดจำได้ว่าเป็นหนึ่งในอาวุธมารนี้ได้ ไม่มีผู้ใดคาดคิดได้ ว่าวัตถุชิ้นนี้ในขณะนี้ถึงกับปรากฏขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้

 

ไม่แปลกใจเลยที่บุตรจักจั่นสวรรค์ผู้นี้ถึงกับมีความเชื่อมั่นในตนเองได้มาโดยตลอด แท้จริงแล้วก็มีอาวุธสังหารเช่นนี้อยู่ กล่าวกันว่ายอดฝีมือระดับราชัน ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับราชันเองเขาก็ยังพอที่จะฆ่าสังหารลงได้ ต่อให้เผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับมหาราชันเอง เขาก็ยังคงสามารถมีพลังที่จะคุ้มครองตัวเองได้อยู่หลายส่วน !

 

เยี่ยจงถอยกายไปอย่างรวดเร็ว รวมพลังขึ้นมาไม่หยุด หมายที่จะปลีกตัวอออกมาจากเตาหลอมแห่งความว่างเปล่า แต่ว่าในขณะที่บุตรจักจั่นสวรรค์กำลังควบคุมพลังอยู่นั้นเอง เตาหลอมแห่งความว่างเปล่าก็ได้สาดประกายแสงออกมาไม่หยุด จนแทบจะไม่อาจที่จะหลบเลี่ยงได้แต่อย่างไร เห็นได้ชัดว่าคิดที่จะใช้เตาหลอมนี้สังหารเยี่ยจงลง

 

“เจ้ามิใช่แข็งแกร่งมากนักหรือไง ? ซิง ! เพราะเหตุใดถึงได้คิดจะหลบหนีกัน เจ้ามิใช่ว่าต้องการจะฆ่าข้าอย่างงั้นหรือ ? ”บุตรจักจั่นสวรรค์หัวเราะฮิฮะออกมาอย่างเย็นชา ผมสีดำพริ้วไหวลอยไปตามลม จนทำให้เขาตอนนี้ประดุจดั่งจอมมารน้อยก็มิปาน

 

“เจ้าคิดจริงหรือว่าข้าจะไม่สามารถต่อกรกับเจ้าได้อย่างงั้นหรือ ? ”เยี่ยจงกัดฟัน ของสิ่งนี้ถือได้ว่ามีพลังของปีศาจอยู่อย่างมากมาย แน่นอนว่าเขาไม่คิดที่จะต่อกรอย่างซึ่งๆหน้าอย่างแน่นอน ในขณะนี้เอง เขาก็ได้เข้าสู่ความนึกคิด หมายจะให้เสี่ยวหลุนลงมือ

 

“อาวุธมาร ? ถึงแม้ว่าจะมิใช่ร่างที่แท้จริง แต่ว่าของสิ่งนี้จะกลืนกินก็ใช่ว่าจะสามารถกลืนกินได้ อีกทั้งยังต้องสิ้นเปลื้องพลังผนึกเข้าไปอีก ข้ากลับไม่มีความสนใจด้วยหรอกนะ ”เสี่ยวหลุนส่งเสียงออกมาอย่างเกียจคร้าน จนทำให้เยี่ยจงอยากจะทุบตีมันสักรอบ

 

“ผนึกมันเอาไว้ ข้าจะให้สมบัติเซียนสิบชิ้น ”เยี่ยจงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“สิบห้าอย่าง ! ”เสี่ยวหลุนสั่นเทาขึ้นมา คิดที่จะตีเหล็กตอนที่ยังร้อนอยู่

 

“สิบห้าอย่างก็สิบห้าอย่าง เจ้าลงมือ ! ”เยี่ยจงก็ได้ส่งเสียงดังชิออกมาภายในจิตใจ จากนั้นเขาก็ได้ใช้นิ้วมือแตะเข้าไปที่บริเวณหว่างคิ้ว จนก่อเกิดพลังปราณสายใหญ่พุ่งออกมา

 

“ชิ——”

 

เสี่ยวหลุนในตอนนี้ลอยออกมาท่ามกลางอากาศ ทอประกายแสงสีขาวสาดเทลงมา จนพบว่าที่เตาหลอมแห่งความว่างเปล่านั้นได้ถูกพลังประกายแสงสีขาวหลุดออกมาจากการควบคุม ลอยคว้างหยุดอยู่ท่ามกลางอากาศ จากนั้นก็ได้ถูกเสี่ยวหลุนกลืนลงไปอย่างเกียจคร้าน

 

ผู้คนมากมายต่างก็มองไปอย่างอ้าปากตาค้าง เตาหลอมแห่งความว่างเปล่าถึงกับถูกทำลายลงเช่นนี้อย่างงั้นหรือ ? พลังฝีมือของ”ซิง”ผู้นี้ถึงมีถึงเช่นนี้เลยอย่างงั้นหรือ

 

“นี้……”บุตรจักจั่นสวรรค์มีสีหน้าที่ชาด้านขึ้นมา แทบจะไม่อาจที่จะมีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน ฉากเบื้องหน้านี้เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดเดาของเขาไปแทบทั้งสิ้น แทบจะไม่อาจที่จะเข้าใจได้ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ขึ้นมาได้

 

“เจ้าตายไปได้แล้ว ! ”

 

เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ฆ่าสังหารออกไปในทันที ในครั้งนี้เขาก็ได้เกิดรังสีสังหารที่แท้จริงขึ้นมาภายในจิตสำนึก บุตรจักจั่นสวรรค์ผู้นี้แม้แต่เตาหลอมแห่งความว่างเปล่าก็ยังสามารถนำออกมาใช้ได้ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดที่จะหลงเหลือหนทางรอดให้ตนเองอย่างแน่นอน เกี่ยวกับคู่ต่อสู้เช่นนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าววาจาไร้สาระออกมามากมาย ฟาดฟันลงไปก็เพียงพอแล้ว

 

“ตูม——”

 

พริบตานั้นบุตรจักจั่นสวรรค์ก็ได้มีปฏิกิริยากลับคืนมา พลังจักจั่นทองก็ได้ปะทุขึ้นมา แต่ว่าเกี่ยวกับการควบคุมของขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายนี้หากมองจากด้านของเยี่ยจง ย่อมไม่มีประโยชน์ใช้ได้สอยแต่อย่างไร ตอนนี้เขาแทบจะไม่เห็นคนผู้นี้อยู่ในสายตา จัดการฆ่าสังหารไปจนถึงข้างกายของบุตรจักจั่นสวรรค์ในทันที จากนั้นก็ได้กวาดนิ้วออกไปคราหนึ่ง กระจบเข้าไปบริเวณทางด้านหว่างคิ้วของผู้ที่อยู่ทางด้านหน้า

 

“ซูม——”

 

ในครั้งนี้ ก็ได้มีโลหิตไหลรินออกมาเป็นสาย ใบหน้าแต่เดิมที่ยังคงอยู่ในอาการตื่นตกใจอย่างไม่ทราบสาเหตุของบุตรจักจั่นสวรรค์ ก็ได้ตายตกลงไปเช่นนี้ท่ามกลางอากาศ ร่วงหล่นลงสู่ด้านบนของพื้นดิน

 

สุดยอดฝีมืออันดับหนึ่ง จากดินแดนเป่ยฮวง(ทางเหนือ) แต่ว่ากลับคิดไม่ถึงว่ากลับจะต้องมาตายตกลงด้วยน้ำมือของ”ซิง”ผู้นี้ ไม่หลงเหลือลมหายใจแห่งชีวิตแม้แต่น้อย

 

อัจฉริยะผู้โดดเด่นทั้งหมดต่างก็มองไปที่ฉากเบื้องหน้า สีหน้าของแต่ละคนต่างก็ได้แสดงออกถึงอาการแปลกใจอย่างถึงที่สุด การแย่งชิงภายในแดนดินขนาดเล็กถึงแม้ว่าจะมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายไปนับไม่ถ้วน แต่ว่าทั้งหมดที่ตายไปนั้น โดยส่วนมากแล้วต่างก็เป็นยอดฝีมือระดับปกติธรรมดา และการตายตกของยอดฝีมือในระดับนอกเหนือจากนั้น กลับมีเพียงบุตรจักจั่นสวรรค์ผู้นี้เป็นคนแรก

 

ราวกับว่าเป็นคำสาปอย่างหนึ่ง นับตั้งแต่แรกเริ่ม เกรงว่านับตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นมานี้ พวกเขาเหล่าอัจฉริยะผู้โดดเด่นกลุ่มนี้ ต่างก็คงต้องหลั่งโลหิตออกมาดั่งสายธารอยู่ดี

 

ในเวลาเดียวกัน ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็จ้องมองไปยังศพที่อยู่บนพื้นของบุตรจักจั่นสวรรค์ ตอนนี้เขาก็ได้กลับคืนสู่ร่างเดิม กลับกลายเป็นเพียงจักจั่นทองที่ประดุจดั่งหยกก็มิปาน เมื่อได้มองไปยังร่างเนื้อของเขา ก็ได้มีผู้คนไม่น้อยที่แววตาลุกโชนขึ้นมา

 

ควรทราบว่า ร่างเนื้อของเผ่าเก้าแปรเปลี่ยนจักจั่นทอง ถือได้ว่าเป็นดั่งเสมือนอาภรศึกจักจั่นสวรรค์ที่มีคุณภาพดีเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์นี้ จึงไม่มีที่คนพอที่จะสามารถได้รับร่างเนื้อของพวกมันมาได้อย่างง่ายดายได้ แต่ว่า ตอนนี้ผู้คนทั้งหมดต่างก็จ้องมองเข้าไปด้วยแววตาที่ลุกโชนขึ้นมาอยู่หลายส่วน ร่างเนื้อเช่นนี้ ร่างที่เปรียบเสมือนสมบัติสูงสุดก็ว่าได้

 

ท่ามกลางอากาศ เยี่ยจงก็ได้กวาดคมหมัดออกไปโดยรอบ จากนั้นเขาก็ได้ยื่นมือออกมา ดูดศะของบุตรจักจั่นสวรรค์เข้ามายังบริเวณฝ่ามือ นำแหวนจักรวาลที่อยู่บนตัวของเขาออกมา

 

ภายใต้การจับตามองดูของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน เยี่ยจงก็ได้เก็บศพเอาไว้ จากนั้น เขาก็ได้นำเอาสมบัติเซียนที่อยู่ภายในแหวนจักวาลออกมาทั้งหมดสามชิ้น

 

“มีทรัพย์สมบัติเพียงแค่นี้เองอย่างงั้นหรือ ? ”เยี่ยจงขมวดคิ้ว ไม่อาจที่จะกล่าวอันใดออกมา คิดไม่ถึงว่าเป็นถึงอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ บนร่างกายกลับมีสมบัติเซียนพียงแค่สามชิ้นเท่านั้น เขายื่นสมบัติเซียนทั้งสามชิ้นที่กำลังมองดูอยู่ให้แก่เสี่ยวหลุน จากนั้นก็ได้จึงได้เก็บมันกลับเข้าไปภายในจิตสำนึกบริเวณหว่างคิ้ว

 

ผู้คนมากมายต่างก็เงียบงัน ต่างก็ไม่อาจกล่าวอันใดออกมาได้เป็นสาย เด็กน้อยผู้นี้คิดว่าสมบัติเซียนเป็นสิ่งของอันใดกัน ? เป็นเหมือนดั่งพืชผักตามรายทางอย่างงั้นหรือ ? ตามความเป็นจริง ต่อให้เป็นอัจฉริยะผู้โดดเด่นเหล่านี้ บนร่างกายมีสมบัติเซียนชิ้นสองชิ้นเพื่อปกป้องร่างกายก็นับได้ว่าไม่เลวแล้ว บนร่างบุตรจักจั่นสวรรค์ถึงกับมีสมบัติเซียนทั้งหมดสามชิ้น ก็เรียกได้ว่ามากกว่าของผู้อื่นไปแล้ว

 

หากมิใช่”ซิง”ในตอนนี้ได้ใช้ออกมาด้วยพลังทำลายดั่งเทพจนน่าตกใจจนเกินไปแล้วละก็ ไม่ทราบว่าท่ามกลางสนามแห่งนี้คงจะต้องมีผู้คนไม่น้อยคิดที่จะลงมืออย่างแน่นอน เพื่อที่จะทำการแย่งชิงร่างศพและสมบัติเซียนของบุตรจักจั่นสวรรค์

 

“หนูน้อยปรุงอาหาร เจ้าอยู่ที่ไหนกัน ? ”ทันใดนั้น เยี่ยจงราวกับนึกอันใดขึ้นมาได้ก็มิปาน กล่าวออกมาด้วยความสงสัย

 

บริเวณทางด้านหลังของกลุ่มผู้คน ก็ได้มีร่างของหญิงสาวทรงเสน่ห์ผู้หนึ่งซวนเซออกมา จนเกือบที่จะล้มลงไป เด็กน้อยที่น่าชังผู้นี้ ตนเองพึ่งจะมาถึง เขาก็ได้ตะโกนออกมาเช่นนี้ เกรงว่าจะไม่มีผู้คนทราบได้อย่างงั้นหรือ ?

 

“ในที่สุดเจ้าก็ได้มาถึงแล้ว ”เยี่ยจงทอสีหน้ายินดีอย่างยิ่ง ไม่นานนักก็ได้พบเห็นหญิงสาวทรงเสน่ห์ขึ้นทางด้านหลังของกลุ่มผู้คน “เจ้าเตรียมตัวเอาไว้ ก่อไฟเอาไว้ให้ดี ดูสิว่าข้าจะสามารถทำอาหารอันใดออกมาได้ ”

 

กล่าวจบ เยี่ยจงก็ได้ทอสายตามองไปยังท่ามกลางสนามอยู่รอบหนึ่ง พร้อมทั้งหยักไหล่ไปมา กล่าวออกมาอย่างเย็นชา : “ยังจะมีผู้ใดคิดที่จะลงมืออีก ? แต่ว่าทางที่ดีอย่าได้เป็นเผ่ามนุษย์ก็แล้วกัน ข้าไม่ทานเผ่าพันธุ์เดียวกัน ”

 

กล่าวจบ เขาก็ได้เสยาะยิ้มขึ้นมาน้อยๆ เผยฟันขาวออกมา เห็นได้ชัดว่า เมื่อครู่หลังจากที่ได้กินเสือดาวไปแล้ว เขาก็เริ่มที่จะติดใจขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
#####Fanpage#####
Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset