ตอนที่ 419 การปรากฏของป่ามรกต
วินาทีนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็มองไปที่“ซิง”ที่อยู่เบื้องหน้า สีหน้าของแต่ละคนต่างก็กล่าวอะไรไม่ออกขึ้นมาหลายส่วน ใบหน้าดำคล้ำเป็นสาย
เด็กน้อยผู้นี้ นอกเสียจากได้เตรียมตัวที่จะสังหารอัจฉริยะแล้ว หลังจากนั้นยังคิดที่จะกินเนื้อของผู้อื่นอีกด้วยอย่างงั้นหรือ ?
เมื่อมองเข้าไปที่“ซิง”ที่มีใบหน้าจริงจังในตอนนี้ อีกทั้งหนูน้อยผู้ทำอาหารก็ใบหน้าดำคล้ำขึ้นมาเช่นเดียวกัน ผู้คนไม่น้อยต่างก็เกิดความสงสัยขึ้นมา
“นั้นมิใช่อัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งจากเผ่ากระเรียนเพลิงหรอกหรือ ? เหตุใดถึงได้มากลายเป็นหนูน้อยคนทำอาหารของซิงผู้นี้ไปได้กัน ? ”
“หญิงสาวนางนี้สมควรที่จะมีหน้าที่รับผิดชอบที่อยู่รอบนอกพร้อมกับกับเมิงจี่ มู่ซู ทว่าจากที่ดูแล้ว พวกเขาคงจะต้องถูกจัดการไปแล้วละ คงจะมีแต่เพียงหญิงสาวผู้นี้ได้ถูกซิงรับเอาไว้ ? ”มีคนกล่าวตัดรอนออกมา
เมื่อคำพูดนี้ได้กล่าวออกมา มีผู้คนไม่น้อยมองไปที่“ซิง”ด้วยสายตาที่เปลี่ยนแปลงกลายเป็นประหลาดขึ้นมาอยู่หลายส่วน เกิดความคาดเดาต่างๆนาๆขึ้นมาภายในจิตใจ
หลังจากที่ได้มีความคาดเดาเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว เหล่าผู้คนที่ตอนแรกมีใจคิดสู้อยู่ ในที่สุดในในตอนนี้ก็ได้ปล่อยวางลง ควรทราบว่า บัวเพลิงก่อฟ้าถึงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในสมบัติสูงสุดแห่งดวงตะวันบริสุทธิ์ ล้ำค่าอย่างหามิได้ แต่ว่าหากว่าสิ่งของชิ้นนี้ ท้ายที่สุดต้องมีบทสรุปดั่งเช่นจักจั่นสวรรค์ก็มิปานแล้ว ถ้าเป็นเรื่องที่น่าสลดยิ่งกว่าแล้วละก็ เช่นนั้นก็ยิ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่ามากนัก
อีกทางด้านหนึ่ง เยว่จิ่งและซูม่อหยงที่กำลังต่อสู้กันยกใหญ่อยู่ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังคงลงมือออกมาจนยากที่ตัดสินได้ แต่ว่าเพียงแค่การปะทะกันเพียงครั้งเดียว ต่างก็เรียกได้ว่าได้แผ่ขยายพลังอันน่าหวาดกลัวออกมา
ยอดฝีมือไม่น้อยที่ต่างก็ได้ล้อมมองอยู่ แต่ว่ากลับไม่มีผู้ใดที่คิดจะล้อมเข้าโจมตี เห็นได้ชัดว่า อัจฉริยะผู้โดดเด่นเหล่านี้ต่างก็มีความทรนงในตัวเอง จึงมิเกิดเรื่องร่วมมือกันโจมตีขึ้น
“อุ้ย นางเซียนตีกัน ช่างเป็นบุญของดวงตายิ่งนัก หากว่าข้าเองลงมือกดดันทั้งสองนางแล้วละก็ ไม่แน่ว่าอาจจะได้หนูน้อยคนปรุงอาหารเพิ่มอีกสองก็เป็นได้ ? ”เยี่ยจงก้าวออกไปทางด้านหน้าหลายก้าว ขยับริมฝีปากขึ้นๆลงๆ ทอสีหน้าเสนาะสนใจขึ้นมาอย่างยิ่ง สาวงามทั้งสองคนต่างก็ถือได้ว่ามีบุญคุณความแค้นกับเขาอยู่แล้ว เขาจึงแทบไม่สนใจอะไรในการลงมือในตอนนี้โดยทั้งสิ้น เพื่อที่จะจัดการกับสาวงามทั้งสองนาง เพียงแต่ว่า ต่อให้เป็นเขาเอง ตอนนี้ต่อให้เขาไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พลังเต็มที่ถึงสิบส่วน ที่เพียงพอที่จะสามารถจัดการกับหญิงสาวทั้งสองนางได้ นั้นก็เพราะว่าสาวงามทั้งสองคนนี้ แทบจะไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย
แน่นอนว่า หากว่ามีโอกาสแล้ว เขาจึงอยากที่จะฆ่าสังหารเยว่จิ่งลงก่อนเป็นดีที่สุด
เพียงแต่น่าเสียดาย หญิงสาวทั้งสองถึงแม้จะสู้กันจนไหลเวียนพลังปราณออกมา ปะทุพลังอักขระขึ้น แต่ว่าพวกนางต่างก็ทราบดีแก่ใจ ว่าย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้แก่ผู้คนให้สอดมือเข้ามาได้อย่างแน่นอน สิ่งนี้ได้ทำให้เยี่ยจงถอนหายใจติดต่อกันออกมา
“ตูม——”
ในขณะที่ทั้งสองสาวได้ปะทะห้ำหั่นกันในช่วงที่สำคัญ ทันใดนั้นเอง ในบริเวณทางห่างไกลออกไปก็ได้เกิดพลังความเคลื่อนไหวอันแข็งแกร่งชนิดหนึ่งขึ้นมาได้ จนก่อเกิดเพลิงไฟปะทุเป็นประกายขึ้นมา ราวกับคิดที่จะทะลวงออกมาผ่านท้องฟ้าของดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ก็มิปาน
“นั้นมัน……ตำแหน่งที่ตั้งของป่ามรกต ”เยี่ยจงยังไม่ทันเอ่ยออกมา ก็ได้มีคนร้องเสียงหลงออกมา
ในขณะนี้เอง สายตาของอัจฉริยะผู้โดดเด่นทั้งหมดต่างก็แปรเปลี่ยนเป็นแดงฉานขึ้นมา หลังจากการประมือกันของเยว่จิ่งและซูม่อหยงทั้งสองคน ในเวลาเดียวกันก็ได้ร่วมมือกัน ละสายทางมองเข้าไปยังทิศทางด้านนั้น
ป่ามรกต สามารถกล่าวได้ว่าเป็นจุดสถานที่อันสำคัญของดินแดนขนาดเล็กแห่งหนึ่ง หากว่ามีปฏิหาริย์อันใดเกิดขึ้นแล้วละก็ อย่างน้อยคงจะต้องไปรวมตัวกันในเขตแดนแห่งนั้นอย่างที่แน่นอน
“ซวบ——”
หลังจากที่เกิดความคิดเหล่านี้ขึ้น ไม่นานนัก ก็ได้มียอดฝีมือกลุ่มหนึ่งปล่อยวางธาราเพลิง จากนั้นก็ได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าพุ่งออกไปบริเวณทางด้านนั้น
เยี่ยจงเกิดความลังเลขึ้น หลังจากนั้น เขาก็ได้ทะยานร่างออกไปอย่างรวดเร็ว สิ่งของอื่นๆยังสามารถที่จะพลาดไปได้ แต่ว่าป่ามรกตนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากว่ามีการปรากฏตัวขึ้นมาแล้วละก็ เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นเช่นไรก็ย่อมไม่อาจที่จะผิดพลาดไปได้อย่างแน่นอน
อัจฉริยะ ผู้โดดเด่น ผู้กล้าในระแวกนี้ ในขณะนี้เองราวกับต่างก็มุ่งหน้าออกไปในเวลาเดียวกัน ทุกผู้คนต่างก็มีความคิดเป็นของตนเอง แต่ว่ากลับมีเพียงอย่างเดียวที่คิดเหมือนกันคือย่อมไม่คิดที่จะรั้งท้ายอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่า ระดับความเร็วของแต่ละคนนั้นกลับแตกต่างกัน ไม่นานนัก ในระยะห่างจากสถานที่แห่งนี้ เยี่ยจงก็ได้ฉวยโอกาสใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบออกไปอยู่หลายครา ไม่นานนักร่างกายได้ปรากฏตัวขึ้นมาจนถึงบริเวณที่เป็นดั่งเป้าหมาย
บริเวณเบื้องหน้าสายตา เปรียบเสมือนทะเลลาวาผืนหนึ่ง เรียกได้ว่าไม่อาจที่จะเปรียบเทียบกับธาราเพลิงได้โดยสิ้นเชิง มีความร้อนที่เหลือคนา จนทำให้ทั่วทั้งผืนฟ้าแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงเข้มผืนหนึ่ง
บริเวณที่แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นใจกลางของดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ตามคำเล่าขาน ป่ามรกตได้อยู่ในบริเวณที่แห่งนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้กลับไม่อาจที่จะพบเห็นได้ก็เท่านั้นเอง
เมื่อได้เหม่อมองทะเลลาวาสุดลูกหูลูกตา เยี่ยจงก็ได้ขมวดคิ้วขึ้น หากว่ามีการคงอยู่ของป่ามรกตจริงแล้วละก็ อย่างน้อยก็คงจะต้องอยู่ภายในส่วนลึกของทะเลลาวาแห่งนี้อย่างแน่นอน
ในขณะหลังจากที่ได้กวาดสายตามองเข้าไปยังทะเลแห่งนี้ ทันใดนั้นเยี่ยจงก็ได้ทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย ในบริเวณที่ห่างไกลก็จะสามรถที่จะพบเห็นจุดขาวๆขึ้นเป็นครั้งคราว เมื่อมองเข้าไปอย่างละเอียดแล้วก็จะพบได้ว่า สิ่งนั้นแท้จริงแล้วก็คือเรือหางยาวโบราณลำหนึ่ง พวกมันก็ได้ลอยล่องอยู่ทางด้านบนของทะเลลาวาแห่งนี้ คล้ายกับว่ามีการคงอยู่มาอย่างยาวนาน
“บริเวณที่แห่งนี้ ก็คือสถานที่ตั้งของป่ามรกตที่เล่าขานจริงอย่างงั้นหรือ ? ”เยี่ยจงเกิดอาการลังเล ทอสีหน้าหนักแน่นขึ้นมา
ทันใดนั้นเอง เยี่ยจงค่อยๆก็ได้ขมวดคิ้วขึ้น จากนั้นเขาก็ได้ขยับร่างกาย แล้วก็ได้มาจนถึงก้อนศิลาขนาดใหญ่ก้อนหนึ่งอย่างรวดเร็ว เตรียมความพร้อมของสภาวะร่างกายตนเอง
“ตูมตูมตูม——”
ในขณะหลังจากที่ ก็ได้พบเจอกับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ภายในดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ปรากฏตัวขึ้นมาติดต่อกัน มีทั้งวิหคตะวันทองคำ มดทองคำ วานรร้ายเพลิงเทวะ ม้าเขาเดียวเป็นต้น สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ต่างก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตดั่งเดิมของดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ และตอนนี้ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ พวกมันต่างก็ถือได้ว่าอยู่ในหมู่ของราชาแห่งเผ่าพันธุ์ ท่ามกลางคำเล่าขานได้ว่าเป็นถึงปีศาจราชาโบราณ อีกทั้งยังเทียบได้กับพลังของยอดฝีมือระดับราชันได้อีกด้วย
ราชากลุ่มนี้ในตอนนี้ต่างก็แผ่พุ่งดวงตาอันเดือดพร่านขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ เหม่อมองเข้าไปยังส่วนลึกของทะเลลาวา เห็นได้ชัดว่า พวกเขาเหมือนกับทราบอะไรบางอย่าง จนทำให้พวกเขาเกิดความเคลื่อนไหวอย่างร้อนรนเช่นนี้ได้
“ซวบซวบซวบ——”
บริเวณทางด้านหลัง ก็ได้มีอัจฉริยะผู้โดดเด่นมาถึงอีกหลายคน มองไปยังการปรากฏตัวของเหล่าสิ่งมีชีวิตระดับราชันไปด้วยอาการตกใจ สิ่งมีชีวิตระดับราชาดั่งเดิมของสถานที่แห่งนี้ต่างก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว กลับมิใช่เรื่องที่ดีอันใด อย่างน้อย ในช่วงเวลาแห่งการแย่งชิง ยอดฝีมือที่มาจากทางด้านนอก อย่างน้อยก็คงจะต้องพลาดท่าไม่น้อยอย่างแน่นอน
“สถานที่แห่งนี้ก็คือที่ที่ถูกผนึกเอาไว้ อีกทั้งยังเป็นใจกลางของดินแดนแห่งนี้ของพวกเรา พวกเราเฝ้ารอมานานหลายร้อยปีแล้ว จนกระทั่งวันนี้ได้เปิดขึ้น ที่ด้านในจะต้องมีโอกาสวาสนายิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ! ”ทางด้านของราชาวิหคตะวันทองคำก็ได้หัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน ภายในดวงตาทอประกายร้อนระอุขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ
หลังจากที่เงียบงัน ราชาตนอื่นๆต่างก็ได้หัวเราะฮาฮาออกมายกใหญ่ สีหน้าของทุกผู้คนต่างก็ได้ปรากฏอารมณ์ที่รุนแรงขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่า เพื่อที่จะรอคอยบริเวณที่แห่งนี้เปิดขึ้นมา พวกเขาได้รอคอยมาอย่างเนิ่นนานแล้ว
บริเวณส่วนลึกทะเลลาวา ตอนนี้ในระหว่างนั้นก็ได้พบเห็นความเคลื่อนไหวอย่างช้าๆของหมอกควันที่มาจากก้อนลาวา แต่ว่าภายในนั้นเองก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยพลังแห่งชีวิตที่เข้มข้นอย่างถึงที่สุดภายในหมอกเหล่านี้ จนทำให้ไม่มีผู้ใดมองเข้าไปได้
“พลังชีวิตอันมหาศาลที่เข้มข้นยิ่งนัก ตำนานที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง ทุกท่าน ราชาเช่นข้าขอนำไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว ! ”ราชาม้าเขาเดียวก็ได้เผยเสียงหัวเราะขึ้นมา วินาทีนั้น เท้าของมันก็ได้มีเมฆหมอกปรากฏขึ้นมา ทะยานมุ่งออกไปบริเวณทางด้านหน้าอย่างรวดเร็ว หมายที่จะเข้าไปยังส่วนลึกของทะเลลาวาแห่งนี้เป็นอันดับแรก
แต่ว่ามันพึ่งจะออกไป ก็ได้ยินเสียง“ครืนครืน”ดังขึ้นมา กระแทกเข้าไปยังบริเวณใจกลางในทันที ในตอนนี้ก็ได้มีเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นมา ราชาม้าเขาเดียวนั้นก็ได้ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง จนท้ายที่สุดก็ได้ถอยรนออกมาอย่างร้อนรน ในขณะนี้เอง อย่างน้อยก็ได้ตัดทอนพลังของมันไปแล้วอย่างน้อยสามส่วน
“ความว่างเปล่าต้องห้าม สถานที่แห่งนี้ถึงกับเป็นความว่างเปล่าต้องห้าม ! ”ราชาม้าเขาเดียวก็ได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ทอสีหน้าหวาดผวาขึ้นมา นั้นก็เพราะว่าด้วยพลังฝีมือของมันเองยังถึงกับไม่อาจที่จะควบคุมสภาวะของบริเวณที่แห่งนี้ได้ อีกทั้ง ลาวาเหล่านี้ถึงกัยมีความร้ายกาจถึงเพียงนี้ เพียงพอที่จะสามารถเผาผลาญชนชั้นราชาได้ ทำให้ผู้คนต่างก็ไม่อาจกล่าวสิ่งใดออกมาได้
“ราชาม้าเขาเดียวเจ้าก็รีบร้อนจนเกินไปแล้ว เกรงว่าจะเป็นคงจะเป็นไปตามคำเล่าขานก็มิปาน คิดที่จะฝืนฝ่าเข้าไปยังทะเลผืนนี้ มีแต่เพียงต้องใช้ด้วยเรือเหล่านั้น จึงจะสามารถพบกับวาสนาได้ หากว่ามีวาสนาไม่เพียงพอ อย่าว่าแต่การตามหาป่ามรกต เกรงว่าแม้แต่เรือเหล่านั้นพวกเราก็ยังไม่อาจที่จะขึ้นไปได้ ”ราชาวิหคตะวันทองคำอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วกล่าวออกมา จากนั้นมันก็ได้กวาดตามองออกไปทั่วทั้งสี่ด้าน หมายจะออกไปตามหาเรือเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
“อย่าพึ่งไปสนใจกับเรืออะไรเหล่านั้นก่อนเลย เจ้าเด็กน้อยที่มาจากภายนอกเหล่านั้นก็ช่างน่าชังเสียจริง พวกเขาคิดที่จะใช้ดินแดนของพวกเราแห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกฝีมืออย่างงั้นหรือ ? หรือไม่ก็ฆ่าสังหารไปให้หมดก่อนก็แล้วกัน ”ราชามดทองคำก็ได้ตอบกลับมาอย่างกะทันหัน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
อัจฉริยะมากมายหลังจากที่เงียบงัน แต่ละคนต่างก็ได้ขมวดคิ้วขึ้น แต่ว่าตอนนี้กลับไม่มีผู้ใดคิดที่จะถอยออกไป คนเหล่านี้ทุกผู้คนต่างก็มีพลังฝีมือของตนเอง ต่อให้ต้องมาปะทะกับชนชั้นราชาก็ใช่ว่าจะพ่ายแพ้ได้ รวมไปทั้งยอดฝีมือธรรมดาเหล่านั้น อย่างน้อยตอนนี้ต่างก็ยังถือได้ว่ายังมีคุณสมบัติที่ยังไม่เพียงพอนัก
“ช่างเถอะ ”ราชาวิหคตะวันทองคำตอบกลับ ทอสีหน้าออกมาอย่างเย็นเยียบ “ตามคำเล่าขานกล่าวกันว่าสถานที่แห่งนี้มีความอันตรายอย่างถึงที่สุด มีคนที่ช่วงพวกเรากรุยเส้นทางสู่สมบัติ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ”
หลังจากที่เงียบงัน ราชาเหล่านั้นแต่ละคนต่างก็หัวเราะฮาฮาออกมาอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา พวกเขาย่อมมองออกว่า ชนชั้นรุ่นหลังเหล่านี้ทางด้านหลังแต่ละคนอย่างมากก็มีพลังฝีมือที่ยังไม่ถึงราชันเป็นส่วนมาก หลังจากที่ตรวจพบพลังเช่นนี้ได้แล้ว หากว่าพวกเขายินยอม ก็เพียงพอที่จะสามารถฆ่าสังหารชนชั้นรุ่นหลังเหล่านี้ได้ภายในพริบตา แต่ก็เป็นเพราะเหตุผลในข้อนี้ ตอนนี้พวกเขาจึงมิได้ลงมืออย่างบุ่มบ่าม เหมือนกับไม่มีการคงอยู่ของชนชั้นรุ่นหลังเหล่านี้แต่อย่างไร
“สิ่งมีชีวิตดั่งเดิมเหล่านี้ คงคิดว่าพวกเราเป็นของตายอย่างงั้นหรือไง ? ”ในบริเวณที่ไม่ห่างไกลนัก ก็ได้มีอัจฉริยะหัวเราะกล่าวออกมาอย่างเย็นชา ทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างมาก
“ช่างเถอะ ก็ให้พวกเขาคิดเช่นนี้ไปเถอะ ยังไงเสียพวกเขาก็จะต้องเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน ”มีคนกล่าวออกมาอย่างเย็นชา แท้จริงแล้วก็คือบุตรมารอัสนีนั้นเอง ต่อให้ต้องมาเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ที่มีความแข็งแกร่งอย่างราชาเหล่านี้ บนร่างกายของเขาก็ยังคงทอไอพลังมารออกมาไม่เสื่อมคลาย ในตอนนี้เขาก็ได้จ้องมองไปยังชนชั้นราชาเหล่านั้นอย่างเย็นชา สีหน้าเยียบเย็นอย่างยิ่ง
เยี่ยจงเองก็ได้ค่อยๆที่จะก้าวเดินออกไป ใช้มือปัดหมอกเพื่อที่จะมองเข้าไปยังบริเวณส่วนลึกของทะเลลาวาแห่งนี้ ในขณะนี้เอง ไม่ว่าจะมีความแค้นหรือไม่ ต่างก็ไม่มีผู้ใดคิดที่จะลงมืออีก
ไม่นานนัก อัจฉริยะ ผู้โดดเด่นโดยส่วนมากต่างก็ได้มาถึงยังสถานที่แห่งนี้ คนเหล่านี้ต่างก็ได้รวมตัวกันอยู่บริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านกันเข้ามา รวมๆแล้วมีทั้งหมดเกือบร้อยคนที่ได้มาจนถึงสถานที่แห่งนี้ แต่ละคนต่างก็มีสีหน้าเย็นเยียบเหม่อมองเข้าไปยังส่วนลึกของทะเลลาวาแห่งนี้ บริเวณของแต่ละพื้นที่ของดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ สมควรที่จะสามารถตรวจพบได้ถึงความเคลื่อนไหวของบริเวณที่แห่งนี้ และก็ไม่มีผู้ใดคิดที่จะกระทำเรื่องเช่นการเก็บเมล็ดทิ้งแตงโมอย่างแน่นอน ดังนั้น อัจฉริยะ ผู้โดดเด่น ผู้กล้าเหล่านั้นต่างก็ได้รวมตัวกันขึ้นมาในตอนนี้ อีกทั้ง ยอดฝีมือปกติธรรมดาในตอนนี้อย่างน้อยก็คงจะไม่อาจมองเห็นอันใดได้ เห็นได้ชัดว่า คนเหล่านั้นต่างก็ท่ามดีแก่ใจ ทราบว่าท้ายที่สุดถึงแม้จะมีความเกี่ยวข้องกันกับตนเอง มิสู้เจาะจงสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งเพื่อกอบโกยผลประโยชน์เอาไว้ เช่นนั้นจึงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นวาสนาของพวกเขาแล้ว
พริบตานั้นเอง ทะเลลาวาผืนนี้ก็ได้เริ่มต้นเกิดการสั่นไหวขึ้นมา จนเกิดพลังแห่งชีวิตอันน่าหวาดกลัวขึ้นมากลุ่มหนึ่ง จากนั้น ก็ได้พบเห็นว่าในบริเวณส่วนลึกของทะเลลาวานั้น ได้ปรากฏภาพวาดของเสื้อคลุมผืนยาวปรากฏขึ้นมา
แล้วก็ได้มีต้นไม้เก่าแก่โบราณสองต้นปรากฏขึ้นมา เมื่อมองเข้าไปจากที่ห่างไกล จนมิอาจที่จะทำให้เข้าใจได้ ว่าต้นไม้โบราณทั้งสองต้นนั้นแท้จริงแล้วมีขนาดใหญ่โตแค่ไหน มีความสูงเช่นไร แต่ว่ากลับสามารถที่จะพบเห็นกิ่งก้านใบที่ยื่นออกมาได้ โผล่ขึ้นมายังบริเวณส่วนลึกของทะเลลาวา
และบริเวณยอดของต้นไม้โบราณทั้งสองต้นนี้ ก็จะสามารถที่จะพบเห็นประกายสีทองดุจดวงอาทิตย์ขึ้นมาลูกหนึ่ง มันค่อยๆเปล่งประกายขึ้นมาอย่างช้าๆ สาดประกายแสงเจิดจรัสออกมาไม่หยุดนิ่ง
“ป่ามรกต มีระดับความสูงนับพันจัง มีขนาดยี่สิบรอบ ทั้งสองต้นมีความสูงใหญ่ดุจเดียวกัน พระอาทิตย์คงจะขึ้นมาจากที่แห่งนี้นี้เอง……”มีคนกล่าวพึมพำออกมา ประดุจดั่งตกอยู่ในความฝัน
.
.
.
.