ตอนที่ 441 อัจฉริยะพระยาปีศาจ
“เพียงแค่พึ่งพาพวกข้าเพียงแค่ห้าตน จากที่ดูไปแล้ว คงไม่อาจที่จะจัดการกับเจ้าได้ นั้นก็เพราะว่าเจ้าได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของข้า แต่ว่า พวกเราก็มีการตระเตรียมเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว” มนุษย์ผิวสีเขียวยิ้มขึ้นมาเบาๆ จากนั้นก็ได้พบว่ามันได้ยื่นมือออกมา พริบตานั้นก็ได้มีลำแสงสีเขียวสายหนึ่งปะทะออกมาไปท่ามกลางอากาศ แล้วก็ได้ยินเสียงดัง” ตูม” ขึ้นมา ประดุจดั่งการระเบิดของพลุก็มิปาน อีกทั้งยังมีความงดงามอย่างไร้ที่เปรียบ
“ซวบซวบซวบ——”
เสียงของแรงลมได้ลอดออกมาเป็นสาย บริเวณทั่วทั้งสี่ทิศ ก็ได้มีเงาร่างปรากฏขึ้นมาเป็นสาย พุ่งออกมาถี่ๆ จนปิดล้อมเยี่ยจงเอาไว้อยู่ตรงกลาง ในครั้งนี้ก็ได้มีการปรากฏขึ้นมาของกลุ่มอัจฉริยะกลุ่มหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่มีตนใดที่เป็นถึงราชาปีศาจ แต่ว่าต่างก็ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับพระยาปีศาจ ไม่มีผู้ที่อ่อนแอแม้สักคน พระยาปีศาจเหล่านี้ สามารถกล่าวได้ว่าแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างก็มี สีหน้าของทุกๆ คนนั้นราวกับมีรอยยิ้มอันเย็นชาขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าได้รอคอยช่วงเวลาในขณะนี้อยู่อย่างเนิ่นนานแล้ว
“พระยาปีศาจ” เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา ทอสีหน้าเมินเฉย
“สามารถที่จะใช้กำลังเพียงคนเดียว สังหารราชาปีศาจเผ่าข้า เจ้าย่อมต้องแข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน” พระยาปีศาจกระเรียนเพลิงตนนี้ เห็นได้ชัดว่ามันก็ได้รับข่าวสารบางอย่างมา ในตอนนี้ก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจง บนร่างกายก็ได้ไหลเวียนพลังออกมา
“เป็นเพียงแค่เผ่ามนุษย์เท่านั้น นึกไม่ถึงว่าอยู่ภายในดินแดนของข้า ยังสังหารราชาปีศาจไปได้มากมายถึงเพียงนี้ จนได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาได้ แต่ว่าข้าก็ต้องขอบใจเจ้า หลังจากที่เจ้าสังหารเจ้าพวกขยะเหล่านั้นแล้ว ข้าก็จะได้ขึ้นไปเป็นราชาของเผ่า……แต่ว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ยังไงเสียข้าก็จำเป็นที่จะต้องสังหารเจ้า ” วานรร้ายเพลิงเทวะตนหนึ่งก็ได้เดินออกมา เขาแสยะยิ้มมองไปทางด้านของเยี่ยจง ในมือถือเอาไว้ด้วยกระบองสีเงิน หัวเราะฮิฮะอย่างเย็นชา กระบองสีเงินนั้นก็ได้กระทุ้งลงที่พื้น
“ครั้งนี้พวกข้ามิได้เข้าร่วมในศึกของต้นมรกต คงมิใช่กลายเป็นว่าเจ้าเด็กน้อยที่มาจากภายนอกเหล่านี้ ต่างก็คิดว่าภายในดินแดนของพวกเรานั้นไร้ซึ่งยอดฝีมือหรอกกระมั่ง?” อีกทางด้านหนึ่ง ก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชา นั้นก็คืออสรพิษลำตัวยาวตนหนึ่ง มันพ่นพิษออกมาไม่หยุด หางของมันก็ได้สั่นไหวไปมาราวกระดิ่งไม่หยุด
“ด้วยพลังกายเนื้อของเผ่ามนุษย์ นึกไม่ถึงว่าจะสามารถที่จะสังหารราชาปีศาจไปได้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีอะไรดีอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่า ที่แห่งนี้นั้นมิใช่ดินแดนภายนอก แต่เป็นภายในส่วนหนึ่งดินแดนของพวกเรา” สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะสูงใหญ่ตนหนึ่งก็ได้เดินออกมา ที่หัวของมันนั้นมีเขาวัวอยู่ แต่มีร่างเป็นมนุษย์ มาจากเผ่าวัวมรณะ ตอนนี้ภายในแววตาก็ได้ทอเป็นประกายสายฟ้าอันเยียบเย็นขึ้นมา
“โลหิตสดๆ ของเผ่ามนุษย์เชียวนะ ได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าโลหิตเช่นนี้มีรสชาติที่ดียิ่ง ข้าอยากจะลองดูสักหน่อยแล้ว!” น้ำเสียงอันเย็นเยียบก็ได้ดังกระจายออกมานั้น แท้จริงแล้วเป็นสตรีนางหนึ่ง ที่มีผิวพรรณขาวผ่อง ทางด้านหลังก็ได้มีปีกค้างคาวอยู่ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ที่มาจากเผ่าโลหิต
บริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน กลับมีการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดปรากฏตัวขึ้นมา ประมาณสิบกว่าตนได้ และทุกตนนั้นยังอยู่ในชนชั้นอีกเพียงครึ่งก้าวสู่ระดับราชัน มีพลังฝีมือที่แกร่งกล้า รวมไปจนถึงที่ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ในตอนนี้ยังมีราชาปีศาจหลงเหลืออยู่อีกห้าตน สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ว่าจะมองอย่างไร ต่างก็เป็นที่น่าปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างยิ่ง
“เจ้าหนู ระวังเอาไว้ละ เจ้าพวกที่มาใหม่เหล่านี้ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่พระยาปีศาจเท่านั้น แต่ว่าพวกเขาก็สมควรที่จะเรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมืออัจฉริยะในแต่ละเผ่าพันธุ์ของพวกเรา หากว่าระเบิดพลังขึ้นมาจริง พลังฝีมือเรียกได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างจากระดับราชาเลยก็ว่าได้ แต่ว่าเจ้าหนูอย่างเจ้าก็โชคร้ายเสียจริง นึกไม่ถึงว่าจะต้องมาเจอกับเรื่องเช่นนี้……” เสี่ยวหลุนส่งเสียงดังชิชิชะชะออกมา ในขณะที่กำลังถอนหายใจ
“เจ้านี้มันไม่ไหวเลยนะ!” เยี่ยจงไม่ทราบจะกล่าวอะไร ใจจริงคิดที่จะถอดเสี่ยวหลุนออกมาแล้วเหยียบลงไปสักหลายครา ภายใต้สถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้ยังไม่ช่วยกันคิดหาวิธี นึกไม่ถึงยังถึงกลับมาบอกว่าตนเองโชคร้ายอีก
“ซูม——”
ทันใดนั้น เยี่ยจงก็ไดเพลิกมือขวาฟาดออกไปทางด้านข้าง สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าก็ได้ถูกกวาดออกไป แล้วก็พบได้ว่าท่ามกลางอากาศได้มีกลิ่นคาวเลือดปรากฏขึ้นมา จากนั้นก็ได้มีศีรษะหนึ่งร่วงหล่นลงมาสู่พื้น ตัดออกมาจากร่างสีเงินที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่ง
กลุ่มราชาปีศาจและพระยาปีศาจสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างถี่ยิบ การลงมือนี้ได้ทำให้สิ่งมีชีวิตสีเงินที่เป็นถึงพระยาปีศาจ ยังไม่ทันจะปรากฏตัวได้นานมากนักก็ได้จบสิ้นลง แต่คิดไม่ถึงว่า เขาถึงกับลงมือได้พริบตา ภายในช่วงคับขันก็ได้ถูกเยี่ยจงพบเจออย่างงั้นหรือ?
“ฆ่า——”
พระยาปีศาจหลายตนต่างก็สบตามองกัน จนกระทั่งอดเอาไว้ไม่อยู่ ลงมือออกไปในเวลาเดียวกัน พระยาปีศาจหลายคนนี้เห็นได้ชัดว่ามาจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน พวกเขานั้นมีวิชาที่ซ่อนเร้นชุดหนึ่งใช้ไว้เพื่อที่จะประสานการโจมตี ตอนนี้ก็ได้ลงมือพร้อมกัน ฆ่าสังหารเข้าไปยังร่างของเยี่ยจง จนเกิดอาการเสียวสันหลังอย่างไร้ที่เปรียบ
“พวกเจ้ามาจากเผ่าไหนกันอีกละ?” เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
แต่ว่าราชาปีศาจหลายตนนี้กลับไม่กล่าววาจา พวกมันเพียงแต่ผนึกกำลังเพื่อที่จะใช้ออกมาด้วยค่ายกลขนาดใหญ่ จนก่อเกิดสายลมบ้าคลั่งโชยพัดเข้ามา คิดที่จะพัดไปทางด้านของเยี่ยจง
“ไม่ต้องการที่จะพูด งั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว!”
เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา เส้นผมสีดำยาวก็ได้ลอยระบำไปมา เขาใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ร่างกายก็ได้ประเดี๋ยวรุกประเดี๋ยวถอยในทันที ในเวลาเดียวกันตลอดทั่วทั้งร่างกายก็ได้ปะทุพลังประกายแสงสีทองออกมา พุ่งหมัดออกไปบริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านในเวลาเดียวกัน
“ตูม——”
หมัดนี้ของเยี่ยจงเมื่อกระทบเข้าไปบนร่างกายของพระยาปีศาจตนหนึ่ง มันสั่นเทาไปทั่วทั้งร่างกาย ก็ได้ระเบิดขึ้นในทันทีภายใต้พลังแห่งความน่าหวาดกลัวนี้ ทันใดนั้นเยี่ยจงก็ได้ลงมือสังหารติดต่อกันอีกหลายครา แล้วก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังเสียดแก้วหูดังออกมา กลุ่มนี้ก็ได้แตกฮือออกไปในทันที ไม่ทันจะขานชื่อเสียงของตนเอง นึกไม่ถึงว่าแต่ละคนก็ได้กรีดร้องแตกกระจายกลายเป็นหมอกโลหิตสายหนึ่ง แตกกระจายเป็นผงจนไม่อาจมองออกว่าเป็นสิ่งใด
“พวกกลุ่มสวะ”
นี้คือความคิดเห็นของเยี่ยจง เส้นผมสีดำของเขาก็ได้ลอยระบำไปมา ประทับร่างกายอยู่ท่ามกลางหมอกโลหิตที่อยู่เต็มผืนฟ้า แต่ว่าที่เสื้อกลับไม่มีคราบโลหิต แสดงออกให้เห็นถึงท่าทางที่องอาจชนิดหนึ่ง
ท่ามกลางพระยาปีศาจมากมาย มีพระยาปีศาจไม่น้อยที่ได้ตกใจขึ้นมา ต่อให้มันเกิดความยอมรับว่าในความแข็งแกร่งของเผ่ามนุษย์เบื้องหน้าสายตา
“กึง——”
ในเวลานี้เอง ท่ามกลางอากาศ ทันใดนั้นก็ได้มีเท้าสีเงินขนาดใหญ่ข้างหนึ่งทอดลง ประดุจดั่งขุนเขาสูงใหญก็มิปาน กดทับลงมา หมายที่จะเหยียบจนร่างกายเยี่ยจงบี้แบน
บริเวณทั่วทั้งสี่ด้าน พระยาปีศาจทั้งหมดก็ได้ถอยออกไปในเวลาเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทราบว่าผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นมาในตอนนี้เป็นผู้ใด ดังนั้นพวกเขาจึงมิได้ทำการล้อมโจมตี เพียงแต่ถอยออกมาในระยะทางหนึ่ง
ด้านบนของฝ่าเท้าสีเงิน ก็ได้ปกคลุมเต็มไปด้วยเกล็ด เห็นได้ชัดว่า ถือได้ว่าเป็นทักษะยุทธ์ที่มีความแข็งแกร่งชนิดหนึ่ง ภายใต้แรงบีบอัดเช่นนี้ก็ได้กระแทกลงไป ประดุจดั่งคล้ายกับจะทำลายพื้นที่ของดินแดนแห่งนี้ให้ราบเป็นหน้ากลองก็มิปาน
เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา มิได้ถอยออกไป เขาก้าวไปก้าวหนึ่ง ตลอดทั่วทั้งร่างกายก็ได้ปะทุประกายแสงสีทองออกมา พลังกระบี่ตราประทับชั้นที่เก้าที่เก้าก็ได้รวมเอาไว้บริเวณคมหมัดในเวลาเดียวกัน ปะทุพลังมหาศาลของประกายสีทองออกมานับไม่ถ้วน จากนั้นหมัดนี้ของเขาก็ได้มุ่งหน้าเข้ามาทางออกไปบริเวณทางด้านบน
“โครม——”
เสียงดังสนั่นได้แผ่กระจายออกมา ในตอนนี้ก็ได้ถูกคมหมัดปะทะเข้าไปอย่างรุนแรง ระหว่างวินาทีนั้นอง ฟ้าดินทั่วทั้งสายตา กลุ่มพระยาปีศาจที่มีพลังฝีมืออ่อนโทรมก็ได้ทะยานออกไปในทันที ต่อให้เป็นราชาปีศาจทั้งหลายต่างก็ยังต้องทอใบหน้าเคร่งเครียด
และในบริเวณใจกลางที่ทั้งสองได้ปะทะเข้าด้วยกันนั้นเอง ก็ได้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นปรากฏขึ้นบนพื้นดิน ในเวลาเดียวกันก็ได้มีบางอย่างจุดประกายแสงพวยพุ่งออกมา ประดุจดั่งแสงจันทราส่องมายังโลกหล้า
“ติง——”
เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ร่างกายถอยออกไป จนในที่สุดก็ได้ออกมาจากบริเวณมุมปากของหลุม ทอสีน่าประหลาดใจมาหลายส่วน คนเบื้องหน้าสายตา นึกไม่ถึงว่าจะใช้พลังกายเนื้อเข้าปะทะกับเขา ร่างกายเช่นนี้ ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ในที่แห่งนี้ ก็คงจะมีเพียงแค่ไม่กี่คนกระมั่ง?
ท่ามกลางผืนฟ้าที่สาดเป็นประกาย ทางด้านหลังก็ได้มีปีกสีเงินงอกขึ้นมา ทั่วทั้งร่างกายก็ได้ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเงินปกคลุมทั่วทั้งร่างกายอย่างละเอียด ประดุจดั่งสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับมนุษย์ลงมาสู่พื้นก็มิปาน เขาจดจ้องมองเข้าไปทางด้านของเยี่ยจง ทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมา
“เป็นเขา พระยาปีศาจจากเผ่าปีกเงิน หยินป้าเยว่ กล่าวกันว่าเมื่อเขาใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือที่แท้จริง ก็สามารถที่จะเทียบเคียงได้ในระดับราชาปีศาจ เพียงแต่ว่าเขาที่มีทิฐิสูงมาโดยตลอด จึงไม่ยินยอมที่จะเป็นราชา คิดที่จะต้องการหาทางในการฝึกตน คิดไม่ถึงว่าคิดไม่ถึงว่าแม้แต่เขาก็ยังมาแล้ว!” มีพระยาปีศาจกล่าวออกมาเสียงเบา แฝงเอาไว้ด้วยความตกใจอยู่หลายส่วน เห็นได้ชัด พระยาปีศาจผู้นี้ ภายใต้ดินแดนขนาดเล็กนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งเช่นเดียวกัน
เยี่ยจงขมวดคิ้วมองไปยังหยินป้าเยว่คราหนึ่ง แต่ว่าเขาก็ยังไม่ทันที่จะมองเข้าไป ทันใดนั้นก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไป มือซ้ายก็ได้พลิกกลับฟาดออกไป
“ผัวะผัวะผัวะ——”
ในพริบตานี้เอง ก็ได้มีพระยาปีศาจลงมือออกมา เยี่ยจงก็ได้ฟาดมือซ้ายสวนกลับไป จนคลี่คลายสลายพลังสภาวะการโจมตีลง
พระยาปีศาจเหล่านี้และราชาปีศาจเหล่านั้นแตกต่างกัน ต่อให้ราชาปีศาจล้อมโจมตี ก็ยังไม่อาจจะสร้างรอยแผลบนใบหน้าของเขาได้แม้แต่น้อย อีกทั้งยังตายตกลงไปอยู่ไม่น้อย แต่ว่าพระยาปีศาจเหล่านี้กลับยอดเยี่ยมอยู่บ้าง เมื่อสบโอกาส ก็ได้ลงมือออกมาด้วยพลังทั้งหมด คิดที่จะสังหารเยี่ยจงไปนับตั้งแต่แรก ไม่มีความคิดอื่นใดเลยแม้แต่น้อย
“โครม——”
แล้วก็ได้เข้าปะทะกันอีกครั้ง ร่างกายเยี่ยจงก็ได้สั่นไหวคราหนึ่ง ทะยานขึ้นไปบริเวณท้องฟ้าสูงไปในทันที จากนั้นก็ได้หันกายมุ่งหน้าไปบริเวณทางด้านหลัง ในครั้งนี้เขาก็มองออกมาได้อย่างชัดเจน ผู้ที่ลงมือนั้นก็คือหญิงสาวชุดดำผู้หนึ่ง ดูไม่ออกว่ามาจากเผ่าใด อีกทั้งยังอยู่ในสภาพของมนุษย์ได้อย่างหมดจด
แต่ว่า ที่เยี่ยจงมองออก ก็คือหญิงสาวชุดดำแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ท่ามกลางพระยาปีศาจกว่าครึ่งต่างก็จัดได้ว่ามีการคงอยู่ในระดับชั้นแนวหน้า นั้นก็เพราะว่าความกล้าหาญที่ได้ลงมือติดต่อกันในช่วงเวลาคับขันของนาง เห็นได้ชัดการกระทำเช่นนี้ย่อมต้องมีความจิตใจที่มุ่งมั่นอย่างมากแน่นอน
“ตูม——”
ยังไม่ทันจะรับกระบวนท่า เงาร่างของหญิงสาวชุดดำก็ได้ปรากฏตัวขึ้นทางด้านหลัง กระบี่กระดูกใจกลางฝ่ามือของนางก็ได้เสือกแทงจนเกิดเป็นประกาย หมุนวนจากพื้นดินขึ้นไปยังบริเวณที่สูงท่ามกลางอากาศ หมายมั่นที่จะเด็ดศีรษะของเยี่ยจง
พริบตานั้นเอง กระบี่หนักพันชั่งก็ได้ปรากฏขึ้นมา สำนึกกระบี่นี้ก็ได้เข้าใกล้เข้ามา แม้แต่เยี่ยจงเองก็ยังคิดไม่ถึง นึกไม่ถึงพระยาปีศาจจะมีความสามารถในการฝึกปรือในสำนึกกระบี่ได้ในระดับนี้ได้
“เป็นเพลงกระบี่ที่ไม่เลวเลยทีเดียว น่าเสียดายที่มาพบพานข้า!” เยี่ยจงพุ่งลงมาจากท่ามกลางอากาศ ในมือบีบใช้ออกมาด้วยเคล็ดกระบี่ เปิดการปะทะสังหารครั้งใหญ่ออกไป จนก่อเกิดสำนึกกระบี่กวาดพุ่งจนเหลือแต่เงา ปะทะเข้าไปรับกระบวนท่ากระบี่ทั้งหมดของหญิงสาวชุดดำ
วิชากระบี่ของทั้งสองได้เข้าปะทะกันไม่หยุด ระหว่างวินาทีนั้นองก็ได้เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ไม่หยุด จนทำให้ผู้คนเกิดความเคลื่อนไหวขึ้น
บนสีหน้าของอัจฉริยะมากมายต่างก็ได้ปรากฏสีหน้าประหลาดขึ้นมา ราชาปีศาจเหล่านั้นยังถึงกับต้านทานเยี่ยจงได้เพียงไม่กี่กระบวนท่า แต่คิดไม่ถึงว่าพระยาปีศาจเหล่านี้จะสามารถเผชิญหน้ากับเยี่ยจงได้ นี้เพียงพอที่จะบอกได้ว่า คุณสมบัติ พลังฝีมือของพระยาปีศาจกลุ่มนี้ ต่างก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงยิ่งกว่า
“โครม——”
หลังจากที่ปะทะกันไปแล้วสิบกว่ากระบวนท่า กระบี่กระดูกภายในมือของหญิงสาวชุดดำก็ได้แตกสลายไป นางทอสีหน้าไม่หยุดนิ่งถอยหลังออกไป พลิกทั้งสองมือขึ้นมา จนกลายเป็นรังสีมารดำทมิฬขึ้นอยู่บนฝ่ามือข้างหนึ่ง มุ่งหน้าคว้าจับเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่
เยี่ยจงไม่กล้าที่จะได้ใจนัก พลิกทั้งสองมือใช้ออกมาด้วยตราแห่งราชาแดนมนุษย์ ปะทะเข้ากันอย่างรุนแรงท่ามกลางอากาศ
“ชิ——”
มือสีดำทมิฬก็ได้เลือนหายไป จนเกิดเสียงดังเปรี้ยงปร้างเป็นประกายขึ้นมา นี้ก็คือประกายพิษ หากต้องแล้วจะต้องตายอย่างแน่นอน
เยี่ยจงราวกับตัดสินใจใช้ออกมาด้วยพลังแห่งกายเนื้อไม่สูญสลายขึ้นมา ร่างกายก็ได้ปะทุประกายสีทองขึ้นมา ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ จึงค่อยหลบเลี่ยงกระบวนท่านี้ไปได้
และไม่ว่าจะเป็นราชาปีศาจหรือว่าพระยาปีศาจตอนนี้ตอบก็ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ทอสีหน้าเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าพวกมันเกิดความเกรงกลัวต่อพลังพิษนี้อย่างยิ่ง ไม่ต้องการที่จะข้องเกี่ยว
“ข้าทราบแล้ว นี้คือพิษแมงป่อง หญิงสาวผู้นี้สมควรที่จะเป็นอัจฉริยะจากเผ่าแมงป่องแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีพลังฝีมือที่น่าตกใจได้ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ว่าในเมื่อทราบแล้ว ขอเพียงไม่แตะต้องโดนพิษสังหาร ก็สมควรมิใช่ปัญหาอันใด” เสี่ยวหลุนส่งเสียงออกมา เปิดเผยสถานะของหญิงสาวผู้นี้
เยี่ยจงมึนงงศีรษะขึ้นมา พิษของเผ่าพันธุ์นี้ กลับถูกเรียกเป็นที่สุดแห่งการสังหาร ยังดีที่ตนเองเมื่อครู่หลบเลี่ยงไม่ต้องโดน ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ต่อให้มีพลังกายเนื้อไม่สูญสลายก็ใช่ว่าจะสามารถที่จะต้านทานพิษชนิดนี้เอาไว้
ในเวลาเดียวกัน นับตั้งแต่การปรากฏตัวขึ้นมาของหญิงสาวนางนี้ถือได้ว่ามิใช่เรื่องที่ดีเลย อีกทั้งยังมีคนจำพวกหยินป้าเยว่นั้นที่อยู่เบื้องหน้าของหญิงสาวชุดดำ อย่างน้อยคงจะต้องเป็นอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ที่เลี้ยงดูมาอย่างยากลำบากที่อยู่จัดได้ว่าอยู่ในพระยาปีศาจ เกรงว่าคงไม่มีคนใดที่ต่อกรได้ง่ายเลย
.
.
.
.