ตอนที่ 444 การต่อสู้ด้วยโลหิต
“ฮูม——”
เยี่ยจงก็ได้ยกมือขึ้นมาอย่างกะทันหัน ชี้นิ้วออกไปคราหนึ่ง แล้วก็ได้พบเห็นความเคลื่อนไหวของเขา ท่ามกลางหมู่ของพระยาปีศาจมากมาย ก็ได้มีอยู่ตนหนึ่งที่หน้าอกได้เกิดรูโลหิตขึ้นมาอย่างกะทันหันจนมีโลหิตไหลรินออกมา ร่างกายเกิดบาดแผลขึ้นนับไม่ถ้วนล้มลงกับพื้น
เห็นได้ชัดว่า พระยาปีศาจที่กล่าวออกมาเมื่อครู่ก็คือมันเอง มันคิดว่าตนเองเพียงพอที่จะมีความสามารถในการหลบเลี่ยง คงจะไม่ถูกเยี่ยจงค้นพบ แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงจะมีสมาธิได้อย่างน่าตกใจได้ถึงเพียงนี้ เขานั้นถือได้ว่าหลบซ่อนเป็นอย่างดีแล้ว แต่ว่าก็ยังคงถูกเยี่ยจงลงมือฆ่าสังหารไป ตายจนไม่ทราบจะตายเช่นใดได้อีก
“เอ๊ะ พระยาปีศาจอีกตนที่น่าเสียดาย ความจริงแล้ว ที่เขากล่าวออกมาก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องจริงเท่านั้น ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ของเผ่ามนุษย์เหตุใดถึงต้องลงมืออย่างโหดร้ายเช่นนี้กัน ? ” ฮวาเพ่ยหยี่กล่าวออกมา ถอนลมหายใจออกมาแฝงเอาไว้ด้วยความมืดมน “เจ้าเข่นฆ่าสังหารประชาราษฎร์ในดินแดนของข้าเช่นนี้ นี้เป็นเจ้าบีบคั้นข้าเองนะ……ช่างเถอะ ผู้ใดที่สามารถสังหารผู้ที่มีร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่เผ่ามนุษย์ได้ ลายคัดแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ก็จะเป็นของผู้นั้นก็แล้วกัน”
“ตูม——”
พริบตาที่เสียงของฮวาเพ่ยหยี่ได้ทอดลงมา พระยาปีศาจและราชปีศาจทั้งหมดก็ประดุจตกอยู่ในมนต์สะกดก็มิปาน พวกเขาถึงกับลงมือออกมาในเวลาเดียวกัน ทักษะยุทธ์แต่ละสาย สมบัติปราณแต่ละชิ้นก็ได้พุ่งขึ้นสู่ฟ้า ปะทะสังหารเข้าหาเยี่ยจง
“จักรพรรดินีฟ้าตะวันตกที่ยอดเยี่ยม ฮวาเพ่ยหยี่ที่ยอดเยี่ยม ! ” เยี่ยจงกัดฟันไปมา ทราบว่าในวันนี้หากว่าไม่หลั่งเลือดจ่ายค่าตอบแทนไปแล้วละก็ อย่างน้อยก็ไม่อาจที่จะจากไปได้ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็อย่าได้โทษว่าโครตเง้าเยี่ยผู้นี้เปิดการสังหารครั้งใหญ่ก็แล้วกัน ! ”
เยี่ยจงตะโกนเสียงดังลั่น ปลดพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะออกมา สภาวะดั่งดวงจันทร์ทอแสงก็ได้ทอแสงลงมาปกคลุมลงมาทั่วทุกบริเวณ ร่างกายของเขาก็ได้ปรากฏขึ้นมาด้านบนของยอดเขา เหนือหัวก็ได้มีแสงจันทราสาดส่องออกมา เข้าไปยังภายในร่างกาย จนทำให้ร่างกายของเขาในตอนนี้ปะทุประกายคมกล้าสีทองขึ้นมาในตอนนี้ ประดุจดั่งเทพราชันวัยเยาว์จุติลงมาก็มิปาน
ในขณะนี้เอง เมื่อได้ใช้พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะออกมา รวมกับการใช้ออกด้วยร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ บนใบหน้าของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏจิตต่อสู้ขึ้นมา เขาย่างเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ร่างกายก็ได้พุ่งออกไปภายในพริบตา
วังวนในขณะนี้ก็ได้เกิดการปะทะสังหารครั้งใหญ่ปะทุขึ้นมา ราชาปีศาจห้าตนและพระยาปีศาจหลายสิบตนก็ได้ลงมือออกไปในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่าทักษะยุทธ์ของพวกเขาจะมิได้อยู่ในระดับที่สูง จนยากที่จะทำความเสียหายได้ อีกทั้งสมบัติปราณก็มิได้ดีไปกว่ากัน แต่ว่าด้วยจำนวนพระยาปีศาจราชาปีศาจที่มากมายลงมือพร้อมกันออกมา อีกทั้งการโจมตีผสานเช่นนี้เมื่อใช้ออกมาพร้อมกันก็ยังถือได้ว่าน่าหวาดกลัวอยู่เต็มสิบส่วน เกรงว่าต่อให้เป็นยอดฝีมือชนชั้นราชันที่แท้จริงมาด้วยตนเอง ก็ยังต้องเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมา
ยิ่งไปกว่านั้น ในสถานที่แห่งนี้ยังคงมีพระยาปีศาจที่มีพลังฝีมือเหนือธรรมดาซ่อนเร้นอยู่อีกหลายตน แล้วจะยังอัจฉริยะที่อยู่ทางด้านหนึ่งของดินแดนแห่งนี้ คนเหล่านี้หากว่าลงมือออกมา ย่อมต้องมีพลังที่น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
การที่มียอดฝีมือมากมายเช่นนี้ลงมือพร้อมกัน จนเกิดการสังหารอันน่าตกใจขึ้น เยี่ยจงต่อให้ในตอนนี้ใช้ออกมาด้วยร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ แต่ว่าพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะของเขาก็เกือบที่จะถูกทำลายลง นั้นก็เพราะว่า มีศัตรูมากจนเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นต่างถือว่ามีพลังฝีมือที่จัดว่าน่าหวาดกลัว
“ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่แข่งของมนุษย์ที่ยอดเยี่ยม ถึงกับมีความน่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้ ! ”
ตามความเป็นจริง ราชาปีศาจและพระยาปีศาจที่ลงมือนั้นถือได้ว่ายิ่งตระหนกเสียยิ่งกว่า หากกล่าวกันตามเหตุผล หากมองด้วยสภาวะการต่อสู้ของเยี่ยจงก่อนหน้านี้ ก็สมควรที่จะถูกพวกเขาจัดการไปได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงกลับอยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปแทบทั้งสิ้น ถึงกับมีพลังในการต้านทานการโจมตีได้สูงถึงเพียงนี้
“ตายซะ——”
ราชาปีศาจและพระยาปีศาจมากมายต่างก็ตะโกนออกมา เมื่อมีการกดดันจากจักรพรรดินีฟ้าตะวันตกฮวาเพ่ยหยี่ และเมื่อมีการดึงดูดจากลายคัดของจักรพรรดิฟ้าตะวันตก เหล่าสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมต่างก็เกิดความบ้าคลั่งขึ้นมา ร่ำร้องสังหารสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้า
เยี่ยจงพลิกสองมือฟาดออกไปติดต่อกัน พลังการเปลี่ยนแปลงแห่งไท่กูจูเชวียนขั้นที่สาม สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่า ตราผนึกฟ้าที่มีพลังความน่าหวาดกลัวในระดับมนต์ตราเทพก็ได้ถูกใช้ปะทะสังหารออกไป จนปะทะพระยาปีศาจถอยออกไปมากมาย แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังต้องกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง เกิดความหวาดหวั่นขึ้นภายในจิตใจ ภายใต้การลงมือของพระยาปีศาจเหล่านี้ ก็ได้มีผู้คนไม่น้อยที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับพลังที่แทบจะไม่แตกต่างจากระดับราชาเลย ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
“ยอดฝีมือในจุดสูงสุดทั้งหมดของทางด้านดินแดนขนาดเล็กนี้ต่างก็รวมตัวกันขึ้นมาอีกครั้งแล้วอย่างงั้นหรือ ? ”
เยี่ยจงฝืนยิ้มขึ้นมา นี้เป็นเหมือนกับว่าคนเพียงคนเดียวต้องมาเป็นศัตรูกับขุมกำลังทั้งหมดของดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้อย่างงั้นหรือ หากมิใช่ว่าเขามีพลังกายเนื้อไม่สูญสลาย พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะ วิชาฝีมือระดับมนต์ตราเทพ เกรงว่าคงจะต้องจบสิ้นไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังถูกปะทะกันอยู่หลายครั้งหลายครา พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะในขณะนี้ถือได้ว่าแทบจะมาถึงขอบเขตของสภาวะแตกหักแล้ว
“พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะตัวอย่างไร ? เขาจะสามารถทนทานได้อีกนานแค่ไหนกัน ? จะสามารถใช้ออกได้อีกนานแค่ไหน ? เมื่อถึงเวลาที่พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะสลายหายไป ก็คือช่วงเวลาแห่งความตายของเขาแล้ว ! ” มนุษย์ผิวสีเขียวตะโกนออกมา พลิกทั้งสองมือฟาดติดต่อกัน ตอนนี้ยากนักที่จะพบเห็นราชาปีศาจพระยาปีศาจมากมายร่วมใจกัน ใช้ออกด้วยการโจมตีอันน่าหวาดกลัว ที่รอคอยมองดูว่าพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะของเยี่ยจงจะสลายไปเมื่อใด
แต่ว่า พวกเขาก็ถือได้ว่าต้องจ่ายค่าชดเชยออกไปอย่างมากมายมหาศาล นับตั้งแต่ลงมือจนถึงตอนนี้ ก็ได้มีพระยาปีศาจหลายสิบตนถูกเยี่ยจงสังหารดับสูญไป ในเวลาเดียวกันก็ได้มีพระยาปีศาจหลายตนบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้ว่า พลังฝีมือของเยี่ยจงถือได้ว่าไร้ซึ่งผู้ใดที่จะสามารถเทียบเคียงได้
แน่นอนว่า นี้มิใช่เป็นการบอกว่า หลังจากที่ใช้ออกด้วยร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณและพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะแล้ว เยี่ยจงจะกลายเป็นไร้ผู้ต้าน เพียงแต่ว่าหากเขาตอนนี้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบในระดับสูงสุด บวกกับการผสานด้วยมนต์ตราเทพอื่นๆ จึงจะสามารถที่ทำให้เกิดการต่อสู้อยู่ในสภาพได้
“ตายซะ——”
แล้วเยี่ยจงก็ได้ถูกปะทะอีกครา กระอักโลหิตออกมาคำโต แต่ว่าภายในดวงตาของเขายังคงมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ปะทุขึ้นมาอยู่ เริ่มคิดที่จะใช้วิธีแลกชีวิต ใช้ออกมาด้วยการผสานรวมของกระบวนท่าครั้งใหญ่ กวาดออกไปทั่วทั้งสี่ทิศ
“คลื่นคลื่นคลื่น——”
พระยาปีศาจหลายตนที่มีปฏิกิริยาหลบเลี่ยงไม่ทัน ก็ได้ถูกสำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่ากวาดเข้าไปยังคอหอยในทันที วินาทีนั้นก็ได้มีโลหิตฉีดพุ่งออกมา ศีรษะลอยขึ้นท่ามกลางอากาศ
“ลมหนาวไร้จำกัด ! ”
ตลอดทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่มที่ตะโกนก็ได้มีความหนาวเย็นขึ้นมาทั่วทั้งร่างกาย ฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือ จนก่อเกิดประกายคมกล้าสีขาวพวยพุ่งออกมา จนทำให้สภาวะตลอดทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงเกิดความเยียบเย็นขึ้นมา ประดุจได้รับความเย็นเยียบแผ่ซ่านเข้ามา
“ฮาฮาฮา เขาตายแน่แล้ว ! ” มีพระยาปีศาจหัวเราะออกมายกใหญ่ ในช่วงขณะที่อีกฝ่ายถูกผนึกกักขังเอาไว้
“โครม——”
แต่ว่าพวกเขายังไม่ทันที่จะได้ดีใจ เยี่ยจงก็ได้ทำลายเคล็ดน้ำแข็งลงได้ ตราผนึกนภาก็ได้สังหารออกมาในทันที มือหนึ่งชี้ขึ้นฟ้า มือหนึ่งชี้ลงพสุธา ก่อเกิดพลังการโจมตีสังหารไร้ผู้ต้านทาน
“คลื่นคลื่นคลื่น——”
เงาร่างสายหนึ่งก็ได้เกิดรังสีโลหิตขึ้นมา ภายใต้พลังการโจมตีออกมาของเยี่ยจง พริบตานั้นก็ได้มีพระยาปีศาจเกือบสิบตนตายตกลงไป ในเวลาเดียวกันราชากวางห้าสีก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโตถอยออกไป ด้านบนของเขากวางก็ได้ปรากฏรอยร้าวขึ้นมาเป็นสาย
ผลลัพธ์เช่นนี้ได้ทำให้ราชาปีศาจและพระยาปีศาจมากมายต่างก็อยู่ในอาการตกตะลึง ยอดฝีมือทั้งหมดราวกับยากที่จะเชื่อได้ลง รวมไปจนถึงอัจฉริยะเหล่านั้นที่ตอนนี้ต่างก็เกิดอาการขนลุกขึ้นมา อ้าปากตาค้าง เห็นได้ชัดว่าก็คิดไม่ถึง พลังการต่อสู้ของเยี่ยจงถึงกับแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ !
ต่อให้พวกเขาที่เป็นอัจฉริยะอันดับแห่งเผ่าพันธุ์ แต่ว่าก็มีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่า ตนเองยังสามารถต่อกรกับเยี่ยจงได้อยู่ นั้นก็เพราะว่า นี้ถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติสภาวะสูงสุด ราวกับไม่อาจที่จะมีผู้ต้านทานได้ !
จากนั้น ต่อให้ตกอยู่ภายใต้สถาการณ์เช่นนี้ ราชาปีศาจพระยาปีศาจมากมายก็ยังคงไม่ยอมแพ้ หรือสมควรที่จะบอกว่า ฮวาเพ่ยหยี่มิได้บอกให้ยอมแพ้ พวกเขาก็ไม่หาญกล้าพอที่จะยอมแพ้ได้ ความรุนแรงจากพลังการโจมตีก็ได้ลุกลามติดต่อกัน จนเกิดการนองเลือดขึ้นมาเฉกเช่นนี้ โจมตีเข้ามายังบนร่างกายของเยี่ยจงไม่หยุด จนทำให้เขากระอักโลหิตออกมาคำโต พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะทางด้านหลังของเขามีอยู่หลายครั้งที่สลายหายไป แต่ว่าเขาก็ยังใช้มันออกมาอย่างบ้าคลั่ง จนมีสีหน้าขาวซีด
“ตายซะ——”
เกราะกิเลนก็ได้ปกคลุมอยู่บนร่างของเยี่ยจง ทอเป็นประกายแสงดวงจันทราสะท้อนไปมาตามเกล็ดของกิเลน เขารุกเจ็ดครั้งถอยเจ็ดครา สังหารกลุ่มศัตรูที่เข้ามาใกล้
“อา——”
เสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดนั้นก็ได้ดังออกมา ไม่นานนักก็ได้มีพระยาปีศาจห้าตนตายภายใต้น้ำมือของเยี่ยจง ในเวลาเดียวกันก็ยังคงมีพระยาปีศาจอยู่หลายสิบตนถูกสังหาร หลั่งโลหิตอาบไปทั้งร่าง
สภาพของสถานที่แห่งนี้ได้ทำให้ผู้คนเกิดอาการขนลุกชูชัน การต่อสู้นับตั้งแต่เริ่มจนถึงบัดนี้ยังมิทันผ่านพ้นหนึ่งถ้วนน้ำชาเดือด กระนั้นราชาปีศาจมากมายที่หลงเหลือเพียงห้าตน ที่ยังมิได้ตายตก แต่ว่าพระยาปีศาจเหล่านั้นกลับต้องเกิดความสูญเสียไปกว่าครึ่ง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทั้งหมดนั้นก็เกิดขึ้นมาจากร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่เผ่ามนุษย์เพียงผู้เดียว ผลลัพธ์เช่นนี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกแตกตื่นขึ้นมา
ต่อให้เป็นราชาปีศาจและพระยาปีศาจเหล่านี้ที่ไม่หวาดกลัวความเป็นตาย แต่ว่าตอนนี้พวกมันก็ยังต้องเกิดอาการขนลุกชูชัน แผ่นหลังเต็มเปี่ยมไปด้วยหยาดเหงื่อไหลริน พระยาปีศาจที่มีความอดทนไม่พอก็เริ่มที่จะเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมา ราวกับคิดที่จะหันกายหมายมั่นจากไป
“เขาอีกไม่นานก็จะจบสิ้นแล้ว ร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณถูกใช้พลังหมดไปมาก ในทุกครั้งที่ใช้เขาสู่วังวนมายาก็จะมีอันตรายไปในตัว เขาแทบจะไม่อาจที่จะยืนหยัดต่อไปได้อีกแล้ว ! ” ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องจัดการให้จงได้ จึงได้ลงมือไปก่อน
“ใช่แล้ว อีกไม่นานเขาก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว ข้าต้องการที่จะกลืนกินเขาทั้งเป็น เพื่อที่จะเป็นการเซ่นสังเวยให้แก่อัจฉริยะของเผ่าพันธุ์ข้า” ราชาเก้าหงสาเกิดความอาฆาตอยู่เต็มใบหน้า หนึ่งในอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ของมันได้ถูกเยี่ยจงสังหารไป ทำให้มันเกิดเพลิงแค้นขึ้นมาอยู่เต็มใบหน้า
ราชาปีศาจทั้งสองตนก็ได้ฆ่าสังหารออกไปในเวลาเดียวกัน พระยาปีศาจมากมายก็ได้เกิดอาการลังเลชั่วครู่ แล้วก็ได้เข่นฆ่าสังหารออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
เยี่ยจงพลิกทั้งสองมือฟาดออกไป พลังการเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนขั้นที่สามก็ได้ถูกใช้ปะทะสังหารออกไปในเวลาเดียวกัน ต้านทานการโจมตีเอาไว้ ในเวลาเดียวกันหลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาในตอนนี้ก็แทบจะล้มลงอยู่แล้ว พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะก็เห็นได้ชัดว่าเริ่มที่จะมอดดับลง ถึงแม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด แต่ว่าการเผชิญหน้าปะทะสังหารกับยอดฝีมือมากมายเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมไม่อาจที่จะยืนหยัดได้นานจนเกินไป
“โครม——”
ทันใดนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้ก้าวเข้าไปคราหนึ่ง สังหารเข้าไปจนถึงทางด้านข้างของราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ และตวัดคว้าจับเข้าไปยังแขนข้างนั้นของเขาจนขาดลง ถึงกระนั้นก็ยังสามารถที่จะกระชากแขนของผู้ที่เป็นราชาปีศาจลงมาได้
“อา——”
ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ร่ำร้องออกมา เยี่ยจงก้าวออกไปอีกหนึ่งก้าว ชี้นิ้วเข้าไปยังบริเวณกลางหว่างคิ้ว วินาทีนั้น ที่กลางหว่างคิ้วของราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นมา พลังเทพแตกซ่าน แตกกระจายเป็นชิ้นๆ ลงสู่พื้น
นี้ถือได้ว่าราชาปีศาจตนแรกที่ได้ตายตกลงนับตั้งแต่เริ่มการล้อมโจมตี สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นความน่าแตกตื่นอย่างใหญ่หลวงที่สุดชนิดหนึ่ง จนทำให้การต่อสู้เกิดปะทุเดือดขึ้นมาจนทำให้พระยาปีศาจถอยออกไปในทันที แต่ละตนมีสีหน้าตกใจไม่อาจหยุดได้
“โครม——”
และในเวลาเดียวกันนี้ พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะของเยี่ยจงก็ได้แตกร้าวอีกครา ทว่าเขาก็ยังคงปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ ล้วงโอสถปราณออกมาชิ้นหนึ่งยัดเข้าไปในปาก ฟื้นฟูพลังลมปราณขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“เขาไม่ไหวแล้ว ! รีบหยุดยั้งเขาเอาไว้ ! อย่าได้ให้เวลาเขาฟื้นฟูขึ้นมาได้ ! ” พระยาปีศาจมากมายดวงตาทอเป็นประกาย ในเวลาเดียวกันก็ได้ฆ่าสังหารออกมา
ภายในดวงตาของเยี่ยจงก็ได้ทอประกายความเย็นเยียบขึ้นมา ทางหนึ่งกลืนยาเข้าไป ทางหนึ่งใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ จนฟื้นฟูพลังขึ้นมาทั้งหมดได้ภายในชั่วอึดใจ
“ตายซะ——”
พริบตานั้นเอง เยี่ยจงก็ได้พลิกทั้งสองมือในเวลาเดียวกัน กระบี่ดำและกระบี่ไม้ก็ได้ปรากฏขึ้นมายังใจกลางฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาในเวลาเดียวกัน จากนั้นกระบี่คู่ในมือของเขาก็ได้กวาดแทงออกไป จนก่อเกิดพลังแห่งความตายปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้า จนกลายเป็นคมกระบี่ปกคลุมออกมาอยู่ทั่วทั้งผืนฟ้า
“ตูม——”
ต่อมาก็มีร่างกายของพระยาปีศาจหลายตนแยกออกจากกันเป็นสี่ห้าส่วน ไม่อาจที่จะต้านพลังน่าหวาดกลัวนี้ของกระบี่จากเยี่ยจง ในขณะนี้เอง ศาตราวุธทั้งสองด้ามในมือของเยี่ยจง ก็ได้ใช้ออกมาด้วยสำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าในระดับสูงสุด จนก่อเกิดเงากระบี่สาดทอไปทั่วออกมา เพียงพอที่จะตัดทุกสรรพสิ่งได้ในคราเดียว
“นี้……ก็คือพี่ใหญ่ซิง ไม่ นี้ก็คือพลังการทำลายที่แท้จริงของสุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจงงั้นหรือ ? อัจฉริยะรุ่นเยาว์ท่ามกลางดินแดนซีฮวง ถึงกับมีอยู่หลายคนที่ไม่อาจที่จะทนทานเอาไว้ได้อย่างงั้นหรือ ? ” องค์หญิงจื่อหวินถอนหายใจออกมา ทอสีหน้าซับซ้อนขึ้นมาอย่างถึงที่สุด
“หรือว่าจะไม่มีผู้ใดที่สามารถต้านทานได้ คงจะมีแต่อัจฉริยะที่เก็บตัวอยู่เหล่านั้นเท่านั้น อย่างน้อยก็พอที่จะต้านรับเอาไว้ได้ ในเวลาเดียวกัน การคงอยู่ขององค์ชายรัฐเซินต้าเซี่ย บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดเทวะ
สุดยอดผู้แข็งแกร่งเป็นต้น ต่างก็พอที่จะยังสามารถต้านทานเอาไว้ได้……เพียงแต่ว่า เยี่ยจงเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ยังถึงกับก้าวมาจนถึงขั้นนี้ได้อีก ? ” ชิงยี่ทอสีหน้าเป็นประกาย จากนั้นก็ได้ส่งเสียงถอนหายใจออกมา ต่อให้เขามีสภาวะจิตใจที่สูงส่งห้าวหาญ ก็ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้ หากให้เขาเผชิญหน้ากับการต่อสู้เช่นนี้เพียงคนเดียวเฉกเช่นบุคคลเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ นอกเสียจากจะมีการเตรียมตัวที่พร้อมแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้วเขาเองก็ไม่อาจที่จะกระทำได้อย่างแน่นอน
.
.
.
.