เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 484 บทสรุป

ตอนที่ 484 บทสรุป

 

“อา——”

 

เส้นผมบนศีรษะสือซิ่งลอยพลิ้วไปมา ทอสีหน้าดุร้ายออกมา แต่ว่าขณะนี้ภายในดวงตากลับทอสีหน้าบ้าคลั่งขึ้นมา เห็นได้ชัดอย่างยิ่งว่า ด้วยลักษณะนิสัยของเขาแล้ว ในเวลาเช่นนี้ย่อมไม่อาจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ได้

 

“ผู้ใดว่าข้าพ่ายแพ้กัน! ผู้ใดว่าองค์ชายข้าพ่ายแพ้กัน!? ข้าจะสับมัน! มาอีก!”

 

“แพ้แล้วก็คือแพ้ มีวาจาไร้สาระอะไรมากมายกัน?” เยี่ยจงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วก็ได้กวาดเท้าออกไปอีก กระแทกเข้าไปยังบริเวณใบหน้าของสือซิ่ง

 

“โครม——”

 

ในครั้งนี้ ร่างกายของสือซิ่งพริบตานั้นก็ได้ลอยกระเด็นออกไป กระแทกพุ่งเข้าชนกับพื้นอย่างรุนแรง วินาทีนั้น ที่พื้นประดุจมีดาวหางพุ่งเข้าชนกับผืนดินก็มิปาน จนทำให้ปรากฏหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา ก้อนหินบนพื้นก็ได้แหลกสลายหายไปนับไม่ถ้วน

 

ท่าเท้าเช่นนี้ สามารถที่จะทำให้ผู้คนเกิดอาการหัวใจเต้นระรัวได้ ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ไม่น้อยในขณะนี้ต่างก็ขมวดคิ้วขึ้นมาในเวลาเดียวกัน เพราะว่าถ้ากระบวนท่าเช่นนี้กระทบเข้ามายังร่างกายของพวกเขา พวกเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน

 

“ยังไม่ตายงั้นหรือ? กระดูกช่างแข็งเสียจริงนะ ” ท่ามกลางอากาศ เยี่ยจงทอสีหน้าเมินเฉยจ้องมองไปยังบริเวณทางด้านล่าง จากนั้นก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชาออกมาเสียงหนึ่ง ในครั้งนี้ก็ได้พลิกฝ่ามือฟาดลงไป วินาทีนั้นก็ได้ก่อรวมประกายแสงสีคมอันคมกล้ารวมเอาไว้บนร่างกาย แล้วก็ได้กวาดฝ่ามือข้างนี้ลงไปในทันที

 

“ผัวะ——”

 

สือซิ่งก็ได้ลอยกระเด็นออกไป ไม่มีเรี่ยวแรงในการต้านทานแม้แต่น้อย

 

“ท่านเยี่ยจง พอแล้ว หากทุบตีต่อไปเกรงว่าคงจะถึงขั้นเอาชีวิตกันแล้ว ” เมื่อได้เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ซือคงชิงฉีก็ได้ขมวดคิ้วแล้วกล่าวออกมา

 

“คุณหนูชิงฉีเมื่อครู่ก็สมควรที่จะได้ยินแล้วมิใช่หรือ องค์ชายหกท่านนี้ของพวกเรายังไม่ยอมรับว่าพ่ายแพ้เลย ในเมื่อยังไม่อาจที่จะตัดสินผลแพ้ชนะได้ ข้าก็คงได้แต่ลงมือต่อไป ทุบตีเขาจนยอมรับความพ่ายแพ้ หรือไม่ก็ตาย!” หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้เข้ามาถึงบริเวณด้านหน้าของสือซิ่ง วินาทีนั้น เขาก็ได้พลิกฝ่ามือออกไปอย่างหนักหน่วงติดต่อกัน กระบวนท่าแล้วกระบวนท่าเล่าก็ได้กระแทกเข้าไปยังหน้าอกของสือซิ่ง

 

“ข้าวันนี้มีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ต้องการที่จะทราบอย่างมากว่า ยังคงต้องใช้อีกสักกี่หมัดฝ่ามือกัน จึงจะสามารถที่จะฆ่าสังหารองค์ชายหกท่านนี้ของพวกเราได้!”

 

เยี่ยจงก็ได้พลิกฝ่ามือแปรเปลี่ยนรอยตราบนมือ บริเวณใจกลางฝ่ามือ ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ก็ได้ปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตราประทับแต่ละสายก็ได้กระแทกเข้าไปยังบริเวณหน้าอกของสือซิ่ง จากนั้นหลังจากที่ได้ใช้ออกมาด้วยตราแห่งราชาแดนมนุษย์ทั้งหมดเก้าคราแล้ว สือซิ่งก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต หน้าอกเกิดการยุบตัวลงไปในทันที ทอสีหน้าจนตรอกอย่างถึงที่สุด

 

“อา——”

 

ต่อให้ถูกเยี่ยจงทุบตีอย่างโหดเหี้ยมจนถึงขั้นนี้ แต่ว่าขณะนี้ภายในดวงตาของสือซิ่งก็ยังคงมิได้ลดทอนรังสีฆ่าฟันลงเลย เขาใช้ทุ่มเทพลังทั้งหมดสวนกลับไป ถึงแม้ว่าในทุกคราจะพ่ายแพ้ไป แต่ว่าภายในดวงตาของเขาก็ยังคงมิได้เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแม้แต่น้อย

 

“เปรี้ยง——”

 

เยี่ยจงก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไปอีกฝ่ามือหนึ่ง ในครั้งนี้ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ก็ได้เข้ากระแทกเข้าไปยังบริเวณหน้าอกของสือซิ่งอีกครั้ง จนทำให้เขาล้มลงไปอย่างมึนงง

 

ฝ่ามือนี้ก็ได้ฟาดจนสือซิ่งมึนงงไป เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชาคราหนึ่ง ในครั้งนี้เขาก็ได้ลงมือออกไปอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ในสภาวะที่สือซิ่งไม่อาจที่สวนได้ จนทำให้ร่างกายของเขาเกิดบาดแผลขึ้นมาอย่างหนักหน่วง

 

“ผัวะผัวะผัวะ——”

 

ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้ กายเนื้อของสือซิ่งนั้นถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างน่าหวาดกลัว ต่อให้อยู่ภายใต้สภาวะเช่นนี้ เขาก็เพียงแค่กระดูกหักไปไม่กี่ซีกเท่านั้นเอง มิได้ถูกเยี่ยจงทำให้พิกลพิการได้ และการลงมือของเยี่ยจงนั้นถือได้ว่ารวดเร็วอย่างยิ่ง ยอดฝีมือระดับราชันส่วนหนึ่งถึงแม้คิดที่จะหยุดยั้งฉากเบื้องหน้านี้ก็ยังไม่ทันกาล

 

“สหายน้อย ยังคงได้โปรดยั้งมือด้วย ทั้งสองท่านต่างก็ถือว่าเป็นแขก หากกระทำจนถึงขั้นเอาชีวิตกันคงจะมิใช่เรื่องที่ดีนัก!” แล้วก็ได้มีชนชั้นราชันอีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นบริเวณท่ามกลางสนาม เขาผายมือทั้งสองข้างออกมา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่ว่าเห็นได้ชัดอย่างยิ่ง การประลองของทั้งสองคนนั้นถือไดว่ามีสถานะที่พิเศษอย่างยิ่ง ต่อให้เขาเป็นถึงระดับราชัน ก็ได้แต่เพียงแค่ห้ามปราม ไม่เหมาะที่จะลงมือ

 

“หากว่าฝ่ายที่พ่ายแพ้ในขณะนี้เป็นข้า ท่านผู้อาวุโสท่านนี้ ท่านคิดที่จะรีบออกหน้าแทนข้าให้แก่องค์ชายหกด้วยตนเองหรือไม่?” เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นมา บนฝ่ามือก็ได้ทวีพลังอันหนักหน่วงขึ้นมาอีกหลายส่วน แม้ว่าจะไม่อาจที่จะทำให้สือซิ่งพิกลพิการได้ แต่ว่าเขาก็ยังคงไม่ยอมที่จะหยุดมือ

 

“บังอาจ! ยังไม่รีบหยุดมืออีก เยี่ยจงเจ้าคิดที่จะเป็นปรปักษ์กับรัฐสือเราจริงงั้นหรือ、ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับเผ่ามนุษย์อย่างงั้นหรือ!?” มีผู้ติดตามของสือซิ่งตะโกนออกมา ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมา หากว่าสือซิ่งถูกทำให้พิการจริงแล้วละก็ ในตอนที่พวกเขากลับไปคงไม่ทราบว่าจะอธิบายอย่างไรดี

 

“เพียงแค่สือซิ่งผู้เดียวยังไม่อาจที่จะเป็นตัวแทนของรัฐสือได้ นับภาษาอะไรกับเผ่ามนุษย์กัน วันนี้ข้าจะฆ่าเขา เกรงว่าแม้แต่เสด็จพี่ของเขาเองก็คงจะส่งเครื่องบรรณาการก็เป็นได้!” เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชา ในครั้งนี้ก็ได้กวาดมือแผ่กระจายพลังตราผนึกนภาออกมา ฟาดเข้าไปยังภายในร่างกายของสือซิ่ง “ข้าขอเตือนพวกเจ้า ผู้ใดที่คิดจะลงมือ ข้าจะสังหารอย่างไม่สนใจแน่นอน!”

 

“ตีได้เมามันยิ่งนัก!” ภายในท่ามกลางยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ ก็ได้มีคนไม่เกรงว่าฟ้าถล่มดินทลายกล่าวออกมา จงหลี่ขณะนี้ก็ได้เหม่อมองไปยังเงาร่างของเยี่ยจง ด้วยความเลื่อมใสอย่างไร้ที่เปรียบ “เป็นถึงรัชทายาทแห่งรัฐสือกลับต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ ช่างเป็นที่สมใจยิ่งนัก!”

 

ซือคงชิงฉีกล่าวอันใดไม่ออก ใบหน้าประดุจหยกใสกระจ่างก็ได้ปรากฏเค้าความมืดมนขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม แต่ว่าภายในดวงตาก็อดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มขึ้นมาอย่างเยียบเย็น เห็นได้ชัด เกี่ยวกับองค์ชายหกผู้นี้ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองถึงเพียงนี้ นางย่อมมิได้ชมชอบมากนัก

 

“เอาละ แพ้ชนะเป็นที่ประจักษ์แล้ว ยังคงเป็นท่านเยี่ยจงที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดอันดับหนึ่งของเผ่ามนุษย์เราในตอนนี้ ยั้งมือไว้ไมตรี ผลแพ้ชนะในวันนี้ ผู้คนทั้งหมดก็เป็นประจักษ์พยานได้ ” เมื่อได้พบเห็นเยี่ยจงลงมือไปอีกเกือบร้อยกระบวนท่า จนทุบตีสือซิ่งราวกับไม่เหมือนเป็นผู้เป็นคนยังถึงกับยังคงไม่หยุดมือ ซือคงชิงฉีในที่สุดก็อดมิได้ที่จะเอ่ยปากขึ้นมาเพื่อให้หยุดมืออีกครั้ง เพราะว่าทุบตีสือซิ่งครั้งหนึ่งก็ยังแล้วไป หากว่าเยี่ยจงจัดการสังหารสือซิ่งแล้วละก็ เกรงว่าคงจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้นมาก็เป็นได้

 

เยี่ยจงก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไปอีกครั้ง แล้วก็ได้กระแทกจนร่างกายของสือซิ่งกระเด็นออกไปไกล ฟาดจนเขากระอักโลหิตออกมาคำโตออกมาในขณะที่สลบลงไปแล้ว ทว่าหลังจากที่จบกระบวนท่านี้ไปแล้ว เขาก็ได้นิ่งเงียบชั่วขณะ มิได้ลงมือสังหารต่อไป เพราะว่าเยี่ยจงทราบเป็นอย่างดี หากว่าในวันนี้ตนเองกระทำเรื่องราวเช่นการสังหารสือซิ่งลงไปแล้วละก็ เช่นนั้นเกรงว่าคงจะทำให้เกิดคลื่นวังวนสงครามครั้งใหญ่ขึ้นมา รัฐสือย่อมไม่อาจที่จะอยู่นิ่งดูดาย อีกทั้ง การสังหารสือซิ่งตอนนี้ ก็เป็นเหมือนกันการไม่เห็นแก่หน้าของซือคงจา ที่เป็นชนชั้นมหาราชันอย่างซือคงจาที่มีบุญคุณอันใหญ่หลวงต่อเยี่ยจง เขายังไม่คิดที่จะกระทำเรื่องราวที่ทำให้เขาลำบากใจอย่างแน่นอน

 

“ในเมื่อคุณหนูชิงฉีออกหน้า เรื่องในวันนี้ก็พอแต่เพียงนี้เถอะ ” ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ ยกมือขึ้นคารวะไปทางด้านของซือคงชิงฉี อมยิ้มขึ้นมาน้อยๆ ขณะนี้เขาก็ได้อยู่ในท่วงท่าที่สง่างามอย่างยิ่ง ในทางกลับกันทางด้านสือซิ่งกลับยิ่งทวีความอับจนขึ้นอีกหลายส่วน เพราะว่าบนร่างกายนั้นได้เต็มเปี่ยมไปด้วยโลหิตตนเอง แต่ว่าในขณะนี้เอง รวมทั้งซือคงชิงฉี ในช่วงเวลาที่หญิงสาวทั้งหมดต่างก็มองไปทางด้านของเยี่ยจง ภายในดวงตาก็ได้เป็นประกายขึ้นมา

 

“องค์ชายหก、องค์ชายหก!” บริเวณทางด้านล่าง ก็ได้มีผู้ติดตามของสือซิ่งหลายคนพุ่งเข้ามา เพื่อที่จะช่วยกันพยุงสือซิ่งขึ้นมาจากพื้นในขณะนี้ บนร่างกายของแต่ละคนก็ได้สั่นไหวไปมา

 

“บังอาจ! เยี่ยจง เมื่อครู่เจ้ายังไม่หยุดมืออีก เจ้าคิดที่จะทำอะไรกันแน่?” มีคนกล่าวออกมาด้วยความเคียดแค้น

 

“หากมิใช่คุณหนูชิงฉีเอ่ยปาก ขณะนี้เขาได้กลายเป็นศพไปแล้ว ” เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา “อย่างเจ้างั้นหรือ อย่าได้เข้ามาสอด!”

 

“ผัวะ——”

 

ในระหว่างที่สิ้นเสียงของเยี่ยจง เขาก็ได้ฟาดฝ่ามือลงอีกฝ่ามือ แล้วก็ได้ปรากฏรอยฝ่ามือหนึ่งขึ้นมาบนใบหน้า กระทบเข้าไปยังใบหน้าของคนที่กำลังกล่าววาจาออกมาอยู่จนต้องกล้ำกลืนกลับไป

 

ผู้ติดตามหลายคนนี้ขณะนี้ก็ได้เหม่อมองไปยังเยี่ยจงที่อยู่ท่ามกลางอากาศ ภายในดวงตาก็ได้เริ่มที่จะปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมา ขณะนี้พวกเขาก็ได้เข้าใจขึ้นมา บุคคลเบื้องหน้านั้นถือได้ว่าไร้ซึ่งความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด หากว่าพวกเขาไม่ทราบว่าความตายได้ย่างกรายเข้ามาแล้วละก็ เกรงว่าสถานการณ์ต่อไป คงจะมิได้ดีไปกว่ากันมากนัก

 

“คุณหนูชิงฉี ยังคงขอให้ท่านช่วยให้ความยุติธรรมแก่องค์ชายของพวกเราด้วย เขาและเยี่ยจงต่อสู้กันอย่างยุติธรรม แต่ผลสุดท้ายกลับต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ” แล้วก็ได้มีคนเรียกร้องความสงสารขึ้นมาพร้อมทั้งมองไปทางด้านของซือคงชิงฉี

 

“เอาละ เขานั้นยังถือว่ามิได้ทำเรื่องถึงขั้นเอาชีวิต แม้ว่าจำเป็นที่จะต้องพักรักษาตัว แต่ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ถือได้ว่ายุติธรรมที่สุดแล้ว ผลแพ้ชนะไม่จำเป็นที่จะต้องให้บุคคลภายนอกเข้ามายื่นมือเข้ามายุ่ง ” ซือคงชิงฉีขมวดคิ้ว จากนั้นก็ได้กล่าวออกมาอย่างเย็นชา เพื่อที่จะยุติการต่อสู้ในครั้งนี้

 

“องค์ชายหกแห่งรัฐสือสือซิ่ง ถึงกับถูกจัดการลงได้อย่างราบคาบหมดจนเช่นนี้ สุดยอดรุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์เยี่ยจง ที่แท้ก็เป็นของจริงที่มิได้มีแต่เพียงชื่อเท่านั้น!”

 

“คิดไม่ถึงว่าเผ่ามนุษย์เราถึงกับปรากฏบุคคลเช่นนี้ขึ้นมา หากว่าเขาสามารถที่จะสำเร็จสู่ขั้นราชันได้แล้วละก็ เกรงว่าในระดับท่ามกลางรุ่นเดียวกัน คงจะสามารถที่จะเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นได้?”

 

“เพียงแต่น่าเสียดาย การต่อสู้นี้ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับชัยชนะ แต่ว่าก็เป็นเหมือนกับว่าทำให้ตัวของเขาเองถลำลึกเข้าสู่อันตรายยิ่งกว่าเดิม ก่อนหน้านี้ทุกผู้คนต่างทราบแล้วว่า เขานั้นมีคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์และสายทางแห่งดวงตะวัน แต่ว่ากลับไม่ทราบว่า ยังถึงกับมีสิ่งของอีกสองสิ่งที่ทำให้เขาอยู่ในสภาวะระดับนี้ได้!”

 

“อีกทั้ง ในมือของเขายังถึงกับครอบครองเอาไว้ด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้!”

 

ผูคนมากมายต่างก็มองเข้าไปด้วยสายตาที่ประหลาด ทว่าพวกเขาไม่ว่าจะอย่างไรก็ยังเป็นลูกศิษย์ในสำนักของซือคงจาที่เป็นถึงชนชั้นมหาราชันแห่งเผ่ามนุษย์อยู่ ต่อให้ในใจคิดมีวิธีอันใด ก็ไม่อาจที่จะแสดงออกมาได้

 

“ตูม——”

 

หลังจากนั้นเอง บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ ตลอดทั่วทั้งร่างกายของสือซิ่งก็ได้เริ่มที่จะฟื้นฟูพลังขึ้นมาจนในที่สุดก็ได้คืนสติกลับคืนมา ร่างกายของเขาก็ได้ปะทุรังสีสีดำทมิฬขึ้นมา จนทำให้ร่างกายของเขานั้นเกิดเสียงดังของกระดูกเชื่อมเข้าหากัน พริบตานั้นอาการบาดเจ็บก็ได้ดีขึ้นมาอีกหลายส่วน

 

“พี่สือยังคงอย่าได้เคลื่อนไหวก่อนเป็นดีที่สุด ขณะนี้ร่างกายของเจ้าได้รับบาดเจ็บอยู่ ยังจำเป็นที่จะต้องพักรักษาตัว ” จงหลี่กล่าวออกมาด้วยใบหน้ากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ก้าวออกไปทางด้านหน้าก้าวหนึ่ง และตบเข้าไปที่บ่าของเยี่ยจง เห็นได้ชัดเตรียมการระวังมิให้สือซิ่งลงมือ

 

สือซิ่งเกิดเสียงดังขึ้นตลอดทั่วทั้งร่างกาย ร่างกายก็ได้เกิดอาการสั่นไหวแล้วลุกขึ้นยืนขึ้นมา แต่ว่าเพียงแค่พริบตาเดียว เขาก็ได้คืนสู่สภาวะเงียบขรึม เพียงแต่จ้องมองอย่างเรียบเฉยไปทางด้านของเยี่ยจง

 

หลังจากนั้น เขาก็ได้ทอใบหน้าเย็นเยียบขึ้นมา กล่าวออกมาอย่างเย็นชา: “ในครั้งนี้ข้าได้ตกอยู่ในสภาพไม่เป็นผู้เป็นคน ครั้งหน้าข้าจะนำกระบี่มังกรฟ้าที่แท้จริงมาด้วย เพื่อที่จะประลองกับเจ้าอีกครั้ง! หวังว่าเจ้าจะเข้าสู่ระดับราชันในเร็ววัน เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะมาหาด้วยตนเอง!”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง สือซิ่งก็ได้หันกาย พริบตานั้นก็ได้เลือนหายไปท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ ไม่หลงเหลือแม้แต่รอยเท้า

 

ไม่นานนัก ก็ได้มีคนขึ้นมาทางด้านหน้ากล่าว บอกให้สือซิ่งออกไปจากดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ได้แล้ว

 

“เมื่อครู่ พี่สือนั้นถือได้ว่าได้ปลดผนึกวิชากายาอันเร้นลับขึ้นมา ฟื้นฟูพลังฝีมือกลับคืนมา เพียงแต่ว่าเขาท้ายที่สุดก็ยังคงอดทนเอาไว้ได้ ” จงหลี่ทอประกายดวงตาขึ้นมาด้วยความชื่นชมปรากฏขึ้นมาอยู่หลายส่วน เพราะว่า น้อยคนนักที่จะสามารถอดทนกับเรื่องเช่นนี้ได้

 

“ถึงกับบ้าคลั่งได้ถึงเพียงนี้เชียว ” เยี่ยจงครุ่นคิด จากนั้นก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา เขานั้นย่อมทราบดีแก่ใจ นี้มิใช่เป็นเพราะสือซิ่งมีจิตใจที่ดีปล่อยตนเองไป เพียงแต่เขาขณะนี้ได้พ่ายแพ้ไปแล้วแต่ก็ยังคงมีความมั่นใจอยู่อย่างเต็มเปี่ยม คิดว่าหากว่าอยู่ในระดับขอบเขตพลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณสูงสุด ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่ระดับราชันในเวลาเดียวกัน เขาก็คงจะสามารถที่จะได้ชัยชนะจากตนเองได้อย่างง่ายดาย

 

“เขาอย่างน้อยก็คงพอที่จะสามารถที่จะนำกระบี่มังกรฟ้าที่แท้จริงออกมาใช้ได้ ” ซือคงชิงฉีกล่าวออกมาอย่างกะทันหัน เพื่อที่จะเตือนสติเยี่ยจง

 

หลังจากที่เงียบงันเยี่ยจงก็ได้กล่าวขอบคุณออกมา ระหว่างนั้นเองร่างกายของเขาก็ได้ค่อยๆ ที่จะลงสู่พื้นดิน

 

การต่อสู้ระหว่างเยี่ยจงและสือซิ่ง ในขณะนี้ก็ได้อยู่ในสภาวะสุดสิ้นลงแล้ว ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ก็เริ่มที่จะกระจายตัวแยกกันออกไป เยี่ยจงที่อยู่ภายใต้การเชื้อเชิญของจงหลี่ ก็ได้กลับเข้าไปยังท่ามกลางตำหนักอีกครั้ง

 

“พี่เยี่ยจง กระบี่ดำเล่มนั้นในมือของใช่ มิใช่ กระบี่อ่อนเล่มนั้น เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุจริงอย่างงั้นหรือ?” จงหลี่เกาครางไปมา ทอสีหน้าน่าเกลียดขึ้นมาอย่างมาก หัวเราะฮิฮะออกมาแล้วกล่าว

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset