ตอนที่ 507 บาดเจ็บเจียนตาย
“ลุยเลย——”
ระหว่างนั้นยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในระดับบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ได้ฆ่าสังหารเข้าไป แต่ละฝ่ายนั้นแข็งแกร่งเป็นของตนเอง อีกทั้งยังมีศิษย์ของขุมกำลังมากมาย ขณะนี้ต่างก็ได้พุ่งทะยานออกมาด้วยพลังทั้งหมดออกไปบริเวณทางด้านหน้า หวาดกลัวว่าระดับความเร็วของตนเองหากช้าลงอยู่หลายส่วนแล้วละก็ ท้ายที่สุดแล้วสิ่งดีๆ ต่างๆ มากมายจะไม่อาจที่จะตนเองจะสามารถจะครอบครองได้แม้แต่น้อย <.
ไม่มีผู้ใดที่ทราบได้ว่า ภายในพื้นที่สุสานแห่งเซียน ที่แท้หลุมงฝังศพเซียนในตำนานนี้ที่แท้จะมีอะไรอยู่ ที่แท้มีความน่าหวาดกลัวถึงขั้นไหน แต่ว่าทุกคนก็ทำได้แต่เพียงแค่แย่งชิงก่อนแล้วค่อยหวาดกลัวทีหลัง จึงได้มุ่งหน้าฆ่าสังหารออกไป
หมอกควันได้เริ่มที่จะเลือนรางลง บนร่างกายของซือคงชิงฉีในที่สุดก็ได้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ นางก็ได้สาดทอร่างกายของตนเองจนประดุจแสงสายหนึ่งก็มิปาน จากนั้นก็ได้หายลับเข้าไปภายใน
ในระหว่างการปรากฏตัวขึ้นมาของซือคงชิงฉี ตำหนักเยือกแข็งลี้ลับจากเป่ยฮวง พรรคหยินหยางจากตงฮวง ขุมกำลังอย่างหมู่บ้านสวรรค์ลี้ลับในที่สุดก็ไม่อดใจรอต่อไปไม่ไหว
ในเวลาเดียวกัน ก็ได้มีเงาร่างอยู่ไม่น้อยปรากฏตัวขึ้นมาจับจ้องเข้าไป หลังจากที่ได้เข้ามายังภายในท่ามกลางตำหนักใต้ดิน เห็นได้ชัดว่า ในบริเวณสถานที่แห่งนี้ได้รวมเอาไว้ด้วยยอดฝีมือที่ซ่อนเร้นเอาไว้เมื่อตอนก่อนหน้านี้ ในขณะนี้เองก็ถือได้ว่าไม่มีคนใดพอที่จะสามารถที่จะรอคอยกันต่อไปได้อีก
“ในบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดภายในสถานที่แห่งนี้สมควรต่างก็สามารถที่จะเข้าไปยังภายในตำหนักใต้ดินเข้าไปแล้ว อีกทั้งยังมีเหล่าชนชั้นราชันระดับพลังเทวะขั้นที่สามที่ซ่อนเร้นอยู่เหล่านั้น โดยส่วนมากต่างก็ถือได้ว่าได้เข้าไปยังภายในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไต๋ซือน้อย ดูเหมือนว่าพวกเราก็คงจะต้องเตรียมการกันบ้างแล้วละ ! ” จงหลี่หัวเราะฮิฮะขึ้นมา ทอสีหน้าที่สูดลมหายใจลึกๆ เข้าไปอยู่หลายส่วน
เยี่ยจงหลังจากที่จดจ่อไปทางด้านของเขาแล้ว จึงค่อยได้กล่าวออกมาว่า : “ในสถานที่แห่งนี้ที่มีเป้าหมายในการมาอยู่ที่ความลับสู่ความสำเร็จสู่การเป็นเซียน ส่วนอื่นๆ นั้นก็คงจะไม่มีอย่างอื่นแล้วละ ”
“ความลับสู่ความสำเร็จสู่การเป็นเซียนเกรงว่าคงจะไม่ง่ายที่จะครอบครองได้ เพราะว่าทุกผู้คนนั้นต่างก็มาเพื่อสิ่งของชิ้นนี้ด้วยกันทั้งสิ้น พวกเราคิดที่จะต้องการแย่งชิงกับเหล่าบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ คงจะเป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง ” จงหลี่ส่ายหน้าไปมา มิได้ลงมือออกไปในทันที ทว่าหลังจากที่เขาครุ่นคิดใคร่ครวญไปแล้ว ก็ได้หัวเราะฮิฮะดังออกมาแล้วกล่าว “ทว่า ข้าก็ไม่เชื่อว่าพื้นที่เป็นถึงใจกลางของสุสานแห่งเซียน จะมีแต่เพียงแค่ความลับสู่การสำเร็จเป็นเซียนเท่านั้น พวกเรามิสู้เข้าไปแย่งชิงสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับพลังเทวะที่มีความเกี่ยวข้องกับเซียนที่ปรากฏขึ้นมามิดีกว่าหรอกหรือ ไม่แน่ว่ายังอาจจะสามารถที่จะครอบครองมาก็เป็นได้ ”
เยี่ยจงพยักหน้าตอบรับ กลับมิได้กล่าวอันใดออกมามากมาย หากมองจากความหมายเช่นนี้ พื้นที่สุสานแห่งเซียนในครั้งนี้ ความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขานั้นก็คือพลังระดับเทวะ รวมไปจนถึงความลับสู่ความสำเร็จสู่การเป็นเซียนต่างก็ถือได้ว่ามีความสำคัญไม่แตกต่างกัน เขาต่อให้ถึงแม้จะไม่อาจที่จะนำออกไปได้ก็ตาม ดังนั้นขณะนี้จึงมิได้ครุ่นคิดมากความจนเกินไป
ควรทราบว่า ขณะนี้ในมือของเยี่ยจงนั้นได้ถือครองคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์และสายทางแห่งดวงตะวันเอาไว้ ถ้าหากสามารถที่จะได้ความลับสู่ความสำเร็จสู่การเป็นเซียนเพิ่มขึ้นมาแล้วละก็ เช่นนั้นคาดว่าต่อให้ทั้งสี่ดินแดนยิ่งใหญ่กว่านี้อีก ก็ไม่มีสถานที่ใดที่เยี่ยจงจะไม่สามารถไปมิได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง เกรงว่าคงจะต้องทำให้ชนชั้นมหาราชันเหล่านั้นคลั่งขึ้นมาได้อย่างแน่นอนแล้ว จนถึงขั้นที่จะต้องพลิกผืนฟ้าพสุธาเพื่อที่จะไล่ล่าเขา
“เช่นนั้นไต๋ซือน้อยก็คงจะมีความคิดเห็นเช่นนี้แล้วละก็ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนไป ทั้งหมดนั้นในช่วงนี้ยังไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งร้อนโดยที่ไม่จำเป็น ” จงหลี่ยังคงไม่ลงมือ เพียงแต่ตกอยู่ในความคิดต่อไป “ใจกลางตำหนักใต้ดินนี้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะมีแต่เพียงแค่ศพแห่งปีกมรณะเหล่านั้น ส่วนความยุ่งยากอันใดนั้นก็ให้เหล่าบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์หลังจากที่ช่วยพวกเราจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราจคงค่อยเข้าไปอีกก็ยังไม่สายไป ”
เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมา และได้สบเข้าไปยังภายในดวงตาของจงหลี่ ในเวลาเดียวกันก็เหมือนกับว่าได้เผยความเกลียดชังออกมาในขณะที่สบตากัน แล้วก็ได้ยิ้มออกมาอย่างสมัครสมานออกมา
ขณะนี้ ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ต่างก็ทะยานออกไปบริเวณทางด้านหน้าอย่างไม่คิดชีวิต คิดที่จะมุ่งหน้าเข้าไปยังภายในใจกลางตำหนักใต้ดินที่เป็นทางเข้าของประตูใหญ่
ประตูใหญ่ของตำหนักใต้ดิน เมื่อมองจากที่ไกลออกไปกลับรู้สึกว่าแทบจะไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่ว่าในช่วงเวลาที่ได้เข้ามาใกล้แล้วนั้น ที่ทำให้ผู้คนไม่อาจที่จะคาดเดาได้ก็คือ มันที่แท้มีความอลังการใหญ่โตถึงเพียงใด แต่ว่าฉากเบื้องหน้านั้นกลับมิได้ทำให้ผู้คนแตกกตื่นขึ้นมาได้นัก ในทางกลับกันกลับยิ่งจะทำให้ผู้คนเกิดความชื่นชมมากยิ่งขึ้น เพราะว่า ที่พบเห็นได้ทั้งหมดในขณะนี้กลับถือได้ว่าไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุดก็ว่าได้ สิ่งนี้กลับยิ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่า สถานที่แห่งนี้ย่อมต้องเป็นพื้นที่สุสานแห่งเซียนที่ถูกเล่าขานกันมาอย่างแน่นอน
และใจกลางของตำหนักใต้ดิน ถึงแม้ว่าจะมีกลุ่มบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์มากมายฆ่าสังหารเข้าไปยังใจกลาง ในเวลาเดียวกันก็ยังมีชนชั้นราชันจากขุมกำลังมากมายฆ่าสังหารเข้าไปเช่นกัน แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็ยังคงมีศพแห่งปีกมรณะอยู่เป็นจำนวนมหาศาลประดุจดั่งธารธาราสีดำหลั่งไหลออกมาไม่หยุดก็มิปาน ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนไม่น้อยที่ทะยานเข้าไปยังใจกลางของตำหนักใต้ดินได้ แต่ว่าก็ยังมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ได้ตายตกลงไปโดยที่ไม่รู้ตัว ถูกศพแห่งปีกมรณะเข่นฆ่าไป
ฉากเบื้องหน้านี้ถึงแม้ว่าจะน่ากลัว แต่ว่าเพื่อความลับสู่ความสำเร็จสู่การเป็นเซียน ในช่วงเวลาเช่นนี้กลับไม่มีคนคิดที่จะถอยออกไป คนที่ตายตกลงยิ่งมาก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ลงมือด้วยพลังทั้งหมดนั้นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทุกผู้คนต่างก็ใช้วิชาพลังฝีมือประจำแต่ละฝ่ายออกมา เพื่อที่จะฆ่าสังหารศพแห่งปีกมรณะเหล่านี้ครั้งใหญ่
“ฆ่า——”
ด่านหน้าของทั่วทั้งตำหนักใต้ดิน ก็ได้มีเสียงร้องฆ่าสนั่นฟ้าขึ้นมา ทักษะเซียนและสมบัติเซียนแต่ละชนิด รวมไปจะถึงมนต์ตราเซียนก็ได้พวยพุ่งขึ้นสู่ฟ้า ฆ่าสังหารจนเกิดการสั่นไหวไปมาทั่วทั้งฟ้าดิน
ไม่นานนัก ก็ได้ผ่านเลยไปหนึ่งชั่วยาม เสียงของการฆ่าฟันที่ปกคลุมอยู่ในที่สุดก็ได้เปลี่ยนจนอ่อนโทรมลง แต่ว่าขณะนี้ก็ถือได้ว่าตายตกลงไปไม่รู้มากมายถึงเพียงไหน ด้านบนพื้นแต่ละชั้นต่างก็มีชิ้นส่วนและเศษเลือดเนื้อของศพแห่งปีกมรณะแตกกระจายกองรวมกันอยู่
และขณะนี้ ท่ามกลางทางเข้าของตำหนักใต้ดิน ในที่สุดก็ได้สงบลงมา แล้วก็มิได้มีศพแห่งปีกมรณะพุ่งออกมาอีก เห็นได้ชัดว่า ได้ถูกฆ่าสังหารอย่างกระจัดกระจายไปอย่างวุ่นวายแล้ว ยอดฝีมือโดยส่วยมากที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างก็ไม่กล่าววาจาไร้สาระออกมา ร่างกายก็ได้มุ่งหน้าเข้าไปยังภายในใจกลางของตำหนักใต้ดิน
“ทุกท่าน ไปเถอะ ก่อนหน้านี้ยังลำบากถึงขนาดนี้ ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องเก็บเกี่ยวกันแล้ว ” ชนชั้นระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันกลุ่มหนึ่งก็ได้เดินออกมา การต่อสู้ครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ พวกเราได้เกิดความสูญเสียไปเป็นอย่างมาก ขณะนี้สีหน้าของแต่ละคนก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นขาวซีดขึ้นมา เพราะว่าภายในสถานที่แห่งนี้ มิได้มีชนชั้นมหาราชันคอยคุ้มครอง ผู้คนทั้งหมดที่ลงมือ ต่างก็ได้เกิดการตายไปเป็นจำนวนมากไม่ต่างจากใบหญ้า
“พื้นที่แห่งนี้นอกเสียจากความลับสู่ความสำเร็จสู่การเป็นเซียนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสมบัติเซียนหรือว่าจะเป็นทักษะเซียน มนต์ตราเทพ ยาเซียน ขอเพียงสามารถที่จะได้รับมาอย่างง่ายดายสักเล็กน้อย ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งแล้ว พวกเขาย่อไม่อาจที่จะปฏิเสธไปได้หรือผิดพลาดไปได้อยู่แล้ว ” แล้วก็ได้มีใบหน้าที่ขาวซีดจนน่าสงสารของผู้ฝึกยุทธ์ผู้หนึ่งกัดฟันไปมาแล้วกล่าวขึ้นมา
“แต่ว่าในพื้นที่สุสานแห่งเซียนนี้ก็น่าหวาดกลัวจนเกินไป มิใช่เป็นเพราะว่าพวกเราจะสามารถที่จะเข้าเข้าออกออกได้อย่างตามใจปรารถนา ชนชั้นระดับราชันยังถือได้ว่ามีพลังฝีมือในการคุ้มครองตนเองได้อยู่ แต่ว่าพวกเรากลุ่มยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชัน เมื่อเข้ามายังภายในสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ต่างอันใดจากการเข้ามาหาที่ตาย ! ” แล้วก็ได้มีคนทอสีหน้าลำบากใจขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ามีความคิดที่จะถอยกันแล้ว
“ต่างคนต่างฝ่ายต่างก็มีวิถีของตนเอง ย่อมไม่อาจที่จะแข็งขืนกันได้อยู่แล้ว ! ” ไม่นานนัก ยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันเหล่านี้ก็เริ่มที่จะแสดงความคิดเห็นออกมา แต่ว่าผู้คนจำนวนมากมายต่างก็ยังคงตกอยู่ในความเย้ายวนของพื้นที่สุสานแห่งเซียนอยู่ อีกทั้งตนย่อมต้องยังมีความสามารถอยู่บ้าง ไม่นานนักก็เข่นฆ่าสังหารเข้าไปยังใจกลางของตำหนักใต้ดิน จากนั้นก็ได้มีคนบางส่วนเริ่มที่จะสงบลงขึ้นมาได้ ค่อยๆ ที่จะถอยไปทางด้านหลัง แต่ว่าขณะนี้ทั้งฟ้าดินได้ถูกผนึกเอาไว้ พวกเขาก็ไม่อาจที่จะถอยไปได้ ได้แต่เพียงทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาจ้องมองเข้าไปยังทางด้านตำหนักใต้ดินในที่ห่างไกล ในสายตาของพวกเขา ตำหนักใต้ดินของพื้นที่สุสานแห่งเซียนนั้นประดุจดั่งเป็นปีศาจขนาดใหญ่ก็มิปาน ที่กำลังรอคอยให้พวกเขาเข้าไปอยู่ทุกช่วงเวลา
ท่ามกลางอากาศ เงาร่างของเยี่ยจงและจงหลี่ทั้งสองคนก็ได้หายวับไปมาอย่างช้าๆ ในที่สุดก็ได้ลงมายังทางด้านหน้าของตำหนักใต้ดิน สองคนผสานร่วมมือกันได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เรื่องราวเมื่อได้เกิดขึ้นมาจนถึงขั้นนี้แล้ว พวกเขาถึงแม้จะเป็นการร่วมมือกันเพียงครั้งเดียว แต่ว่าขณะนี้เมื่อได้เหยียบย่างอยู่บนซากศพที่กองกันอยู่เป็นชั้นๆ เช่นนี้ ทั้งสองคนก็ย่อมไม่มีเวลาที่แม้แต่จะหันศีรษะกลับไปมองแม้แต่น้อย
แล้วก็ได้มองเห็นตำหนักใต้ดินหากไกลออกไป จนสัมผัสได้ถึงธาตุแห่งพลังหยินที่อยู่ทางด้านในขึ้นมาได้ หลังจากนั้น เยี่ยจงจึงได้หัวเราะขึ้นมาแล้วกล่าว : “พี่จงหลี่ ตอนนี้ยังไม่เข้าไปอีกอย่างงั้นหรือ ? ”
“ไม่ต้องรีบ รอกันอีกสักครู่ ” จงหลี่ยกนิ้วมือขึ้นมาคำนวณอยู่ชั่วครู่ อยู่ในสีหน้าลึกลับลี้ลับ มิได้อยู่ในท่าทีเร่งรีบแต่อย่างไร
“เจ้าคงจะไม่ใช่เป็นเหมือนอย่างท่านบัญชาสวรรค์เช่นเดียวกันหรอกนะ ที่สามารถที่จะคาดคำนวณทำลายทายทักจากสวรรค์ได้ ? ” เยี่ยจงมองไปยังการเคลื่อนไหวของจงหลี่ ทอสีหน้าประหลาดใจขึ้นมา
“ก็เป็นอยู่เล็กน้อย อย่างน้อยก็ยังพอที่จะสามารถที่จะล่วงรู้สถานที่เขตที่เต็มไปด้วยโชคอยู่เท่านั้น มิได้วิเศษอันใดนัก ” จงหลี่ส่ายหน้า ทอสีหน้าจิตใจสงบ
“แต่ว่าเจ้าไม่กลัวหรอกหรือว่าความลับสู่ความสำเร็จสู่การเป็นเซียนจะตกไปอยู่ภายใต้น้ำมือของผู้อื่น และสิ่งของที่มีความเกี่ยวข้องกับเซียนจะตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นอย่างงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงเกิดความสงสัยขึ้นมา
“เจ้ามิใช่ว่าก็มิได้รีบร้อนอันใดอยู่หรอกหรือ ? มีเรื่องราวบางเรื่องที่ต่อให้เร่งรีบก็ไม่ช่วยอันใดหรอกนะ ให้พวกเขาเข้าไปก่อนเถอะ ทว่าก็เป็นเพียงแค่การช่วยเหลือพวกเราทลายด่านค่ายกลเท่านั้นเอง ไม่ได้เห็นเลยสักนิดเลยว่าจะได้รับอันใด สิ่งของเหล่านี้ยังไงเสียก็ยังต้องดูวาสนาของแต่ละคนด้วยเช่นเดียวกัน ” จงหลี่ร้องชิออกมา
“ที่ข้าไม่รีบนั้นก็เป็นเพราะว่าพลังฝีมือของข้านั้นอยู่ในระดับสูงสุดของระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันเท่านั้น เมื่อเข้าไปยังภายในแล้ว ยังไงเสียก็ไม่อาจที่จะแย่งชิงกับบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นได้ รอคอยจนพวกเขานั้นกินเนื้อจนอิ่มสำราญแล้ว ข้าค่อยตามเข้าไปดื่มน้ำแกงซักถ้วยก็ยังไม่เสียหายอันใด ” เยี่ยจงกล่าว
“เจ้าสามารถที่จะคิดเช่นนี้ได้ ? ข้าจะคิดไม่ได้เชียวงั้นหรือ ? ข้าถึงแม้ว่าจะพึ่งเข้าสู่ระดับราชัน แต่ว่าก็ยังมิได้เข้าสู่ระดับพลังเทวะที่เร้นลับได้ อย่างมากก็เป็นได้แต่เพียงแค่ผู้ที่อยู่ในระดับราชันเท่านั้น และการหาเรื่องอย่างไม่คิดชีวิตกับบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น ข้าจึงไม่มีความเสนาะสนใจอันใดอยู่แล้ว ! ” จงหลี่ส่งเสียงร้องชิดังขึ้นมา กล่าวออกมาด้วยสิ่งที่คาดคำนวณออกมา
เยี่ยจงก็ได้หัวเราะขึ้นมา มิได้กล่าวอันใดออกมา เขามีความคิดที่ไม่ต้องการที่จะเข้าไปยังภายในเร็วขนาดนั้นเฉกเช่นเดียวกันอยู่แล้ว นั้นก็เพราะว่าทั้งหมดทั้งมวลนั้นได้อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายของเขาไปแล้ว สภาวะแห่งการสังหารทั้งสี่ตัวอักษรนี้ขณะนี้ก็เปรียบเสมือนดั่งคมกระบี่ที่ปรากฏขึ้นมาพาดอยู่ที่คอของเยี่ยจงอยู่ ที่ทำให้เขาไม่อาจที่จะกระทำเรื่องราวใดอย่างผลีผลามได้
“ตูม——”
ทั้งสองก็ได้นิ่งอึ้งอยู่เช่นนี้ประมาณหนึ่งถ้วยน้ำชาเดือด ทันใดนั้นเอง ตลอดทั่วทั้งตำหนักใต้ดินก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมา จากนั้นก็ได้มีพลังแห่งธาตุหยินปรากฏขึ้นมาพวยพุ่งขึ้นไปยังฟากฟ้าขึ้นมา ในเวลาเดียวกัน ในส่วนลึกของตำหนักใต้ดินก็ได้มีเสียงดังของการฆ่าฟันขึ้นมา ดังสนั่นจนเกิดหมอกควันขึ้นมา
สีหน้าของจงหลี่ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมา หลังจากนั้นก็ได้กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว : “ข้าทราบแล้ว สถานที่แห่งนี้จะดีหรือร้ายยากที่จะคาดคิดได้ อีกทั้งยังได้รวมเอาไว้ด้วยสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่อย่างวุ่นวาย พวกเราที่มีพลังฝีมือเพียงแค่นี้หากว่าเข้าไปภายในรวดเร็วจนเกินไป ก็เหมือนกับการไปหาที่ตาย นอกเสียจากเหล่าศพแห่งปีกมรณะแล้ว ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่มีสิ่งของอื่นใดอีก ! ”
ในระหว่างที่สิ้นเสียงของจงหลี่ เสียงที่ดังมาจากใจกลางของตำหนักใต้ดินก็ได้เปลี่ยนแปลงวุ่นวายมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกิดเสียงกรี๊ดร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวดขึ้นมาเป็นสาย เรียกได้ว่าเพียงพอที่จะทำให้หนาวสั่นไปจนถึงภายในกระดูกก็ว่าได้
“สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่สุสานแห่งเซียนจริงอย่างงั้นหรือ ? เหตุผลข้ากลับมีความรู้สึกไม่แตกต่างจากบ่วงมายาเสียเท่าไรเล่า ? ” เยี่ยจงเหม่อมองไปยังท่ามกลางตำหนักใต้ดินจากที่ห่างไกลออกไป ขณะนี้ภายในตำหนักใต้ดินก็ได้เกิดสิ่งที่เปรียบเสมือกับความวุ่นวายของกลุ่มมารปีศาจขึ้นมาจากภายใน เงาร่างของมารร้ายปีศาจประหลาดอันใดต่างก็สามารถที่จะพบเห็นได้ นี้จึงได้ทำให้เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม
“แน่นอนว่าย่อมเป็นสิ่งที่ไม่คู่ควรกันเอาเสียเลย พื้นที่สุสานแห่งเซียนถึงกับมีศพแห่งปีกมรณะยังถือได้ว่าปกติเป็นอยู่แล้ว แต่ว่าส่วนสิ่งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นมานั้นกลับไม่ค่อยจะถูกต้องนัก ” จงหลี่ก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา ในระหว่างที่ครุ่นคิด ก็ไม่ทราบว่ากำลังคิดถึงสิ่งใดกันอยู่
แล้วก็ได้เป็นเช่นนี้อยู่ได้ครึ่งชั่วยาม ใจกลางตำหนักใต้ดินก็ได้กลับคืนสู่ความเงียบสงบขึ้นมาอีกครั้ง เหล่าเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดเหล่านั้นก็ได้มลายหายไป กลุ่มมารที่ปรากฏเงาร่างขึ้นมาอย่างวุ่นวายก็ได้หายสาบสูญไป
ผู้คนมากมายต่างก็กำลังล้มลุกคลุกคลานซวนเซทะยานออกไป คนเหล่านี้แต่ละคนนั้นต่างก็มีสีหน้าขาวซีดขึ้นมา ร่างกายได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก มีคนมากมายต่างก็พูดตัดแขนหักขาไป เห็นได้ชัดว่าไม่อาจที่จะหลบรอดจากชะตาเช่นนี้ได้เลย
“อามิตตาพุทธ ” เยี่ยจงก็ได้สวดบทสวดประโยคหนึ่งขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดใจเมื่อได้พบเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยอาการที่เป็นห่วงอย่างมาก “โยมทุกท่าน พวกท่านได้พบกับสิ่งใดที่อยู่ด้านในกันบ้างหรอกหรือ ? ”
“เป็นสิ่งที่ประหลาดมาก ! อย่าได้กล่าวเลย ! ด้านในแทบจะไม่ต่างอะไรจากแดนปีศาจ แต่ละแห่งต่างก็ได้เต็มไปด้วยซากศพของปีศาจสิ่งมีชีวิตที่ผ่านห้วงแห่งความตายมา อีกทั้งแต่ละตนยังแกร่งขึ้นกว่าตนก่อนอีกด้วย ! ”
“เด็กน้อยเยี่ยจงผู้นั้นกลับมีบุญยิ่งนัก มิได้กระทำสิ่งใดได้ ถึงกับสามารถที่จะเข้ามาทำอันใดบางอย่างภายในพื้นที่สุสานแห่งเซียนนี้ได้ด้วยงั้นหรือ ? ข้าว่าในตอนนี้สงสัยว่าภายในสถานที่แห่งนี้มิได้มีสถานที่ที่เหมาะกับเขาได้เลย ! อีกทั้งยังเกรงว่าพี่น้องร่วมสำหนักของข้า จะหลงเหลือเพียงแต่ข้าคนเดียวแล้วละ ! ” มีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งหลั่งน้ำตาใคร่ครวญออกมาไม่หยุด แม้แต่เยี่ยจงเองก็อดไม่ได้ที่จะเห็นใจขึ้นมา
เยี่ยจงฟาดเช็ดจมูกไปมา สีหน้าดำคล้ำไปทั่วทั้งศีรษะ เอาเถอะ ในครั้งนี้เด็กน้อยเหล่านี้ก็ได้เกิดความสูญเสียไปอย่างมากมายหนักหน่วงเช่นนี้ อย่างน้อยก็คงจะต้องมาถึงตนเองในไม่ช้าอย่างแน่นอน
.
.
.
.
กลุ่ม / 100บาทครับ
กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/
