กู้จิ้งเจ๋อ สามคำนี้ทำให้หลินเช่อที่กำลังทานอาหาร แทบพ่นอาหารออกมา
คนข้างๆ ตกใจ เห็นว่าหลินเช่อหายใจแรง รีบถาม “เป็นอะไร เป็นอะไร หลินเช่อ ไม่ได้สำลักใช่ไหม”
รีบยื่นน้ำมาให้ หลินเช่อรับไป ดื่มไปอึกใหญ่
เธอค่อยๆ สงบลง
อยู่ดีๆ กู้จิ้งเจ๋อมาทำอะไรที่นี่
หลินเช่อเงยหน้าขึ้น เห็นว่าหลายคนยังมองตัวเองอยู่ จึงรีบบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร ฉันไม่ทันระวังเลยสำลักน่ะค่ะ”
มีเพียงหยางหลิงซินที่มองหลินเช่อ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ทว่าเห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อเดินเข้ามาจริงๆ
ดูออกว่าเขาเองก็มาทานข้าวกับคนอื่น เพียงแต่ ปกติคงไม่มาทานอาหารในที่แบบนี้แน่ ปกติเขาไม่มีทางออกมาทานอาหารกับใครแน่นอน
เดิมเขาไม่เคยร่วมรับประทานอาหารกับใครไม่ใช่เหรอ
งั้นวันนี้เขามาที่นี่ทำไมกัน
ตอนนี้ทุกคนบนโต๊ะเริ่มคุยกัน
“นั่นคือกู้จิ้งเจ๋อใช่ไหม”
“ดูอำนาจของเขาสิ”
“แต่ได้ยินว่าเขามีบอดี้การ์ดมือดีสิบสองคน วันนี้ทำไมถึงไม่ตามมาล่ะ”
“วันนี้โชคดี เราพึ่งมาทานข้าวกันครั้งแรก ก็ได้เจอกับกู้จิ้งเจ๋อ”
ตอนนั้นเอง กู้จิ้งเจ๋อที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดช้าๆ ก็มองตรงมายังหลินเช่อ
หลินเช่อแทบล้ม รีบเอามือค้ำกับโต๊ะเอาไว้ มองเขา ขมวดคิ้วส่งสายตา
เขามาทำไม ไม่บอกเธอก่อนสักนิด
ทำให้จิตใจของเธอไม่สงบเอาซะเลย
เมื่อได้เจอเขา สมองเธอก็มึนไปหมด
“นี่ ทำไมกู้จิ้งเจ๋อมองมาทางนี้ล่ะ”
“แน่นอนว่าไม่ได้มองพวกเราหรอก”
“ใช่ ถ้ามองก็คงมองหลินเช่อ”
“นั่นสิ หลินเช่อสวยขนาดนี้”
มองเธอจริงๆ นั่นแหละ…
หลินเช่อคิดในใจ ใบหน้าพลันแดงขึ้น “เอาล่ะๆ อย่าพูดเหลวไหลสิคะ เขามีอะไรน่ามองกัน ทานข้าวกันเถอะค่ะ”
คนบนโต๊ะบอก “จะไม่น่ามองได้ยังไง นั่นเป็นคนรวยอันดับหนึ่งของประเทศซีเลยนะ นานๆ จะได้เจอสักครั้ง”
“นั่นสิๆ คุณมีซือถูฉยงแล้ว ไม่สนใจ พวกเราสิยังไม่เคยได้สัมผัสกับคนรวยเลย”
“…” ไม่รู้จะคุยอะไรแล้ว
ช่างเถอะ พวกเขาอยากมองก็มองเถอะ เธอทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
ดีที่กู้จิ้งเจ๋อหายขึ้นไปด้านบนในทันที
เมื่อเห็นกู้จิ้งเจ๋อไปแล้ว ทุกคนยังคงไม่สามารถดึงสติกลับมาจากสถานการณ์เมื่อสักครู่ได้เลย ยังคงพูดคุยกันไม่หยุด ทว่าเสียงก็เบาลงเรื่อยๆ
หลินเช่อพึ่งจะพ่นลมหายใจออกมา ทว่าโทรศัพท์ของเธอกลับสั่นขึ้น
เธอสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู…
กู้จิ้งเจ๋อส่งข้อความมา
ข้อความสั้นๆ เขียนว่า “ตั้งใจทานข้าว อย่าพึ่งเตลิด”
หลินเช่อตอบเขาด้วยความกังวล “ใครใช้ให้คุณมาล่ะ ไม่บอกฉันสักคำ”
พึ่งส่งกลับไป ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นสายโทรเข้า
มองชื่อบนหน้าจอ หลินเช่อรีบบอกกับทุกคน “บริษัทโทรมาค่ะ พวกคุณทานไปก่อนเลยนะคะ ฉันขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อน”
พูดจบเธอก็วิ่งไปด้านหลัง มองดูรอบๆ จากนั้นกดรับสาย
“พี่ใหญ่ ทำอะไรของคุณเนี่ย”
“เธอพูดขึ้นมาฉันเลยพึ่งนึกได้ ลืมบอกเธอจริงๆ นั่นแหละ ขอโทษด้วย ดังนั้น ตอนนี้เลยจะบอกเธอไง”
“…”
เขาตั้งใจแกล้งเธอ มาบอกตอนนี้มันได้ประโยชน์อะไร มีประโยชน์เหรอ
“คุณ คุณ คุณ มาทำอะไรกันแน่”
“ทานข้าวสิ”
“มาทานอะไรที่นี่”
“พอดีมีคนเลี้ยงข้าวฉัน นึกขึ้นได้ว่าเธอก็อยู่ ก็เลยมา”
โอเค ท่านประธานเอาแต่ใจจริงๆ
หลินเช่อบอก “ช่างเถอะ งั้นคุณก็ทานข้าวของคุณไป ฉันก็จะทานของฉัน ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน”
“ได้ ตั้งใจทานข้าว เติมพลัง อีกสักพัก…”
อีกสักพักทำไม
หลินเช่อรู้สึกระแวง จิตใจไม่สงบ
“อีกสักพัก ฉันจะรออยู่ข้างบน”
อะไรนะ “รอฉันอยู่ด้านบนทำไม”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ห้อง 1088”
พูดจบเขาก็ตัดสาย
หลินเช่อชะงักไปชั่วครู่ ไม่ทันมีสติ
เมื่อเข้าใจความหมายของเขาแล้ว เธอจึงรู้สึกเขินอายขึ้นมา
จะ…เปิดห้องเหรอ…
เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า บ้านให้อยู่ไม่อยู่ วิ่งมาโรงแรมทำไม…
แต่ว่า…
แม้จะดูบ้า แต่ก็…น่าตื่นเต้น
หลินเช่อหน้าแดง นึกถึงกู้จิ้งเจ๋อที่ทานอาหารอยู่ด้านบน หัวใจกลับไม่สงบ
เมื่อกลับมาที่โต๊ะ ใบหน้าของเธอเอิ่บอิ่ม คนอื่นๆ ต่างก็ถาม “หลินเช่อ เมื่อสักครู่เป็นสายจากบริษัทจริงเหรอ ทำไมใบหน้าถึงได้เอิ่บอิ่มแบบนี้ล่ะ”
หลินเช่อบอก “หน้าฉันเอิ่บอิ่มที่ไหนกันคะ ไป ทานข้าวของพวกคุณไปเลย”
ทุกคนหัวเราะ ไม่ถามเรื่องส่วนตัวของเธออีก รู้ว่าดาราพวกนี้ ด้านหนึ่งคือเจิดจรัสอยู่บนเวที อีกด้านคือเผชิญหน้ากับชีวิตส่วนตัวของตนเอง ไม่อย่างนั้น เรื่องเล็ก ก็จะเหมือนการยกเลิกสัญญากับบริษัท กลายเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องใหญ่จนยากที่จะควบคุม
ดังนั้น ศิลปินจึงระมัดระวังในการใช้ชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก
และกองถ่าย ถือว่าเป็นคนที่รู้เรื่องส่วนตัวของศิลปินมากที่สุด พวกเขาเองก็มีวัฒนธรรม นั่นก็คือ จะไม่เผยแพร่เรื่องส่วนตัวของนักแสดงที่ยังไม่มีการเปิดเผย ไม่อย่างนั้นจะเป็นการทำผิดต่อสาขาอาชีพ
นี่ถือว่าเป็นกฎในการทำงานเช่นกัน
สักพัก ทุกคนดื่มไปมากพอสมควร พูดคุยสนุกสนานมากขึ้น
ผู้กำกับหันไปคุยกับหลินเช่อ “หลินเช่อ คุณนี่จริงๆ เลย การแสดงดีมาก ดีกว่าฉินหวานหว่านเยอะเลย บุคลิกของเธอคล้ายคุณมาก หน้าตาก็ไม่เลว แต่การแสดงสู้คุณไม่ได้”
หลินเช่อไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงฟังอยู่เงียบๆ
ผู้กำกับบอก “วันนั้นผมอยากเลือกคุณ เสียดายถูกบริษัทคุณห้ามเอาไว้ ตอนนี้ดีแล้ว สุดท้ายเราก็มีดวงชะตาที่จะได้ร่วมงานกัน ดูเหมือนนี่จะเป็นเพราะสวรรค์กำหนด แม้จะลำบากหน่อย แต่ว่า บทนี้มันเป็นของคุณ”
หลินเช่อยิ้ม “ฉันก็รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกันค่ะ”
“ไม่หรอก คุณชอบนิยายเรื่องนี้ ทำให้คุณมีความพยายามทำงานหนักต่อละครเรื่องนี้มากขึ้น พวกเราเชื่อมั่นในตัวคุณ”
“ขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวฉันนะคะ”
คุยไปคุยมา เวลาก็ดึกพอสมควรแล้ว
หลินเช่อดูเวลา กลัวว่ากู้จิ้งเจ๋อจะรอนาน
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แอบส่งข้อความไปบอกเขา ว่าเธออาจจะเสร็จช้าหน่อย
——
บนห้อง กู้จิ้งเจ๋อทานอาหารเสร็จก็ขึ้นมารอหลินเช่อบนห้อง นั่งอ่านหนังสือรออยู่ที่นั่น มองออกไปยังทิวทัศน์ยามค่ำคืนด้านล่าง
ไม่นาน ได้ยินเสียงเคาะประตู
เขายิ้ม เดินออกไป
ทว่าเมื่อเปิดประตูออกแล้ว สายตากลับเข้มขึ้น
ผู้หญิงตรงหน้า ไม่ใช่หลินเช่อ
กู้จิ้งเจ๋อมองหยางหลิงซินที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เธอ”
หยางหลิงซินมองกู้จิ้งเจ๋อด้วยสายตาร้อนแรง