“จะไปเชื่อคำพูดที่เด็กพูดออกมาได้อย่างไร?” เจียเหวินพูดออกมาทันที
“ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าคำพูดของเด็กใสซื่อ สิ่งที่เด็กพูดออกมามันถูกต้องกว่าที่เจ้าพูดออกมาอีก! นอกจากนี้ซุนรุยยังเป็นเด็กฉลาด แน่นอนว่าเขาจะต้องถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดี เพราะฉะนั้นเขาจะไม่พูดโกหกพวกเราอย่างแน่นอน” ซูหวานหว่านเอ่ย
ครึ่งหลังของประโยค ซูหวานหว่านทำให้ซุนซ่างชูรู้สึกพอใจมากและพูดออกมาว่า “คุณชายเจีย เจ้าคิดว่าข้าอบรมสั่งสอนเขาไม่ดีอย่างงั้นรึ?”
เขาจะกล้าพูดความจริงได้อย่างไร! เจียเหวินรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นเขาจึงพูดออกมา “เปล่าขอรับ ข้าแค่กลัวนายน้อยจะเหนื่อยเกินไป”
“ฮึ่ม” ซุนรุยส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ เด็กชายปล่อยมือของซูหวานหว่านและคุกเข่าลงตรงหน้าซุนซ่างชู เลียนแบบพยานคนอื่น ๆ พูดออกมาอย่างคนทั่วไปว่า “ใต้เท้า ตัวข้าได้อยู่ที่นั่นด้วยในคืนวันนั้น เป็นพี่ชายสองคนนี้ที่ได้ช่วยข้าออกมาจากบ้านที่ห่างไกลและทรุดโทรม! ถ้าจะถามว่าข้าเข้าไปได้อย่างไร ข้าเกรงว่าเรื่องนี้คงจะเกี่ยวข้องกับคุณชายเจียแล้ว!”
“หือ?” ซุนซ่างชูขมวดคิ้วและถามออกมาว่า “เจ้าถูกจับไปได้อย่างไร?”
“ในวันนั้น ข้ากับพี่ชายได้ออกไปข้างนอกกัน และคุณชายเจียได้ชวนพี่ชายของข้าไปนั่งดื่มชา ข้าจึงนั่งกินขนมอยู่ข้าง ๆ จากนั้นคนใช้ของคุณชายเจียก็ได้ชวนข้าออกไปเดินเล่นข้างนอก ข้าจึงตอบตกลง แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเขาจะพาข้าไปขังเอาไว้ที่ห้องหนึ่ง ข้าพยายามส่งเสียงเรียกให้คนช่วยแต่ก็ไม่มีผู้ใดมาเปิดประตูให้! ทำให้ข้าติดอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งถึงสองวัน และข้าก็พบว่ามีเด็กหลายคนที่อยู่ที่นั่นกับข้าด้วย โดยจะมีพระสองรูปที่คอยมาดูแลพวกเรา และสอนวิธีการทำอนาจาร! หากไม่ฟัง ไม่ทำ ก็จะถูกเฆี่ยนตี!”
หลังจากนั้นซุนรุยก็ถกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นรอยฟกช้ำสีม่วงดำที่แขน ทำให้หัวใจของทุกคนที่ฟังพลันกระตุก จนซุนซ่างชูอดไม่ไหวลุกขึ้นเดินมาดู แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับถามว่า “ในคืนวันนั้น เป่ยฉวนเฟิงหลิวได้ช่วยชีวิตเจ้าออกมาแล้วมันเกิดอะไรขึ้นอีก?”
ซุนรุยก็ชี้ไปที่ผู้ดูแลคนนั้น “ผู้ดูแลคนนั้นพากลุ่มคนไปไล่ล่าตามตัวจับเขาในคืนวันนั้น และยังไปพบกับพลลาดตระเวนของโจวเฉิง ใครจะไปคิดว่าโจวเฉิงกับเขาจะรู้จักกัน และต้องการจะฆ่าข้าปิดปาก ท่านพี่เป่ยฉวนได้เข้ามาช่วยข้าเอาไว้”
“ไม่จริง! นายน้อยพูดเรื่องเหลวไหล! ข้าแค่อยากจะแกล้งนายน้อยเล่น ๆ เท่านั้นเอง!” ผู้ดูแลร้านเกิดความตื่นตระหนกจึงพูดขึ้น ซูหวานหว่านจึงพูดเยาะเย้ยออกมาว่า “ตอนนั้นเจ้ากำลังสั่งให้เขาฆ่านายน้อยไม่ใช่เหรอ? อีกทั้งเจ้ายังบอกอีกว่าให้โจวเฉิงจับนายน้อยมัดเอาไว้ แล้วไปข่มขู่ซุนซ่างชูเพื่อเรียกเงินค่าไถ่อีก”
“เหลวไหว!” เหงื่อของผู้ดูแลร้านซึมออกมาเต็มแผ่นหลัง
“เจ้าหุบปากไปเสีย!” เมื่อเห็นแบบนี้ซุนซ่างชูจึงรู้ความจริงและจำข่าวลือเกี่ยวกับเจียเหวินได้ ซึ่งเมื่อเกิดความสงสัยว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จึงถามออกมาทันที “คุณชายเจีย เจ้าอยากที่จะอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้หรือไม่?”
“ข้า…” เขายังจะต้องการอธิบายอะไรอีก! เขาไม่กล้าที่จะอธิบาย! ร่างกายของเจียเหวินสั่นเทาขณะจ้องไปที่ซุนฮวน หากซุนฮวนจับซุนรุยมัดเอาไว้เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น!
“ในเมื่อคุณชายเจียไม่พูด ข้าจะขอพูดแทนเขาเอง” ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มพร้อมกับกวาดสายตามองไปที่เจียเหวิน “คุณชายเจียชอบผู้ชายด้วยกัน นั่นเป็นความจริงไม่ผิดเพี้ยน และเขายังเลี้ยงคนรับใช้ผู้ชายเพื่อมาปรนเปรอบำเรอความใคร่ของตน ข้าเห็นว่าคุณชายมักจับไปที่ด้านหลัง…เป็นอะไรไป เจ้าเจ็บจวี๋ฮวา*[1] รึ?”
“เจ้า!” เจียเหวินเบิกตากว้างด้วยความโกรธ และซูหวานหว่านก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “หอซุยชุนโหลวเป็นที่หาเงินของคุณชายเจีย หากท่านไม่เชื่อ สามารถให้พลลาดตระเวนไปตรวจดูได้ และความจริงจะถูกเปิดเผยออกมาเอง”
“นี่…” ซุนซ่างชูขมวดคิ้วและพูดว่า “ใครก็ได้! ไปตรวจสอบที่บ้านของตระกูลเจียที!”
เจียเหวินตกใจจนขาสั่น หลังจากนั้นเขาก็คุกเข่าลงแล้วพูดว่า “ท่านใต้เท้า! อย่าตรวจสอบเลย หอซุยชุนโหลวมันเป็นของข้าจริง ๆ แต่ที่หอซุยชุนโหลวจับผู้ชายมาเลี้ยงดูเอาไว้ข้าไม่รู้เรื่องเลยนะขอรับ!”
เขากำลังปัดความรับผิดชอบ! ซูหวานหว่านมองไปที่ผู้ดูแลร้านและเห็นว่าเขากำลังจะออกตัวแทนเจียเหวิน นางจึงแสร้งทำเป็นโกรธและทุบไปที่หลังของผู้ดูแล
อันที่จริงนางกำลังสะกดจุดให้เขาเป็นใบ้ แล้วนางก็ดัดเสียงของเขาแทน “คุณชายเจีย! ท่านพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร! เรื่องการเลี้ยงดูเด็กผู้ชายเป็นท่านที่สั่งให้ทำ พวกเด็กผู้ชายเหล่านั้นถูกเลี้ยงดูอย่างดีก็เพื่อมาปรนเปรอความใคร่ของท่าน! แม้กระทั่ง…ท่านเองก็บอกว่านายน้อยน่ารักมาก ดังนั้น…”
เพี้ยะ!
เจียเหวินทนไม่ไหวลุกขึ้นไปตบใบหน้าของผู้ดูแลด้วยความโมโห “เจ้ากำลังพูดเหลวไหลอะไรอยู่! ข้าเคยพูดแบบนั้นที่ไหนกัน!”
ซูหวานหว่านถอนจุดให้ผู้ดูแลร้าน แล้วก็รอดูสุนัขสองตัวที่กำลังกัดกันเอง
“คุณชายเจีย ท่านกล้าทำข้าเชียวรึ!” หลังจากพูดออกมา ผู้ดูแลร้านก็คุกเข่าลงตรงหน้าของซุนซ่างชู และพูดสารภาพ “ท่านใต้เท้าขอรับ! สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้าเลยสักนิด ทุกสิ่งที่หอซุยชุนโหลวล้วนเป็นคำสั่งของคุณชายเจีย!”
“ท่านใต้เท้า! ข้าไม่ได้ทำ!” เจียเหวินนั่งคุกเข่าลง และตะโกนออกไป
ซุนซ่างชูรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นพวกเขาสองคนทะเลาะกันไปมา และพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าทั้งสองคน จับผู้ดูแลคนนี้ไปโบยให้ตาย! ส่วนคุณชายเจีย…”
ซุนซ่างชูเหลือบไปมองเจียเหวินอย่างเย็นชา “ตอนนี้มันก็มืดแล้ว ไม่มีใครที่อยากอยู่ฟังอะไร ข้าจะปล่อยตัวเจ้าไป ทว่าหอซุยชุนโหลวจะไม่ถูกเปิดทำการอีก ทุกคนที่อยู่ที่นี่ในวันนี้ควรหุบปากเอาไว้! หลังจากที่เจ้ากลับไป… อย่ามารบกวนลูกชายของข้า อย่ามาทำลายชื่อเสียงของลูกชายของข้าอีก และให้พ่อของเจ้ามาขอโทษซะ… ไม่เช่นนั้นละก็!”
คำพูดของซุนซ่างชูเหมือนจะบอกใบ้บางอย่าง สายตาของซูหวานหว่านเต็มไปด้วยความดูถูก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นตำแหน่งสูงส่ง แต่… ถ้าเขาเป็นข้าราชการที่คดโกง เขาจะต้องถูกจัดการไม่ช้าก็เร็ว ๆ นี้! นางแค่รู้สึกสงสารซุนฉางอาน
“คดีคลี่คลายแล้ว งั้นข้าขอตัวก่อน” ซูหวานหว่านพูดขึ้นมา ก่อนหมุนกายเดินออกไปพร้อมกับฉีเฉิงเฟิง แต่ซุนซ่างชูกลับเอ่ยห้ามเอาไว้
“คุณชายเป่ยฉวน ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นเจ้าของร้านเจวียเซ่อ? ใกล้จะถึงวันเกิดของข้าแล้ว เหตุใดเจ้าไม่รับจัดงานให้ข้าล่ะ แน่นอนว่าถ้าเจ้ารับผิดชอบมันจะเป็นผลประโยชน์ต่อเจ้ามาก ๆ และไม่ต้องขอบคุณข้า ข้าแค่อยากจะขอบคุณเจ้าอย่างเป็นทางการที่ได้ช่วยลูกชายของข้าเอาไว้!” ซุนซ่างชูลูบเคราของตัวเอง และพูดออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ซูหวานหว่านคิดว่าสิ่งนี้ช่างน่าขัน เขากำลังหมายความถึงว่าให้นางเป็นคนรับผิดชอบงานเลี้ยงของเขาทั้งหมด และต้องช่วยโดยการไม่รับเงินสักเหรียญ?
และย้ำว่านี่คือของกำนัลของเขาที่มอบให้เป็นการตอบแทน!
จะขอให้นางช่วยแต่ไม่ให้เงิน ซูหวานหว่านกระตุกยิ้ม “จะว่าได้มันก็ได้ แต่ว่าข้าขอให้ท่านซุนซ่างชู นำคนของท่านไปที่ร้านอาหารเจวียเซ่อเพื่อพูดคุยกับข้าในเรื่องรายละเอียดอีกทีแล้วกัน”
เขาได้ยินข่าวมาว่าร้านเจวียเซ่อกำลังเป็นที่นิยมมาก และเขาก็อยากลองกินมันมานานแล้ว แต่เพราะว่าตำแหน่งของเขามันไม่ง่ายที่จะไปลองกินได้! มันจะยอดเยี่ยมมากถ้าได้คนของร้านเจวียเซ่อมาทำอาหารให้ในงานวันเกิด! ซุนซ่างชูรู้สึกพึงพอใจมาก ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินซูหวานหว่านพูดออกมาอีกว่า “จริงสิขอรับ แต่ว่าอย่าลืมบอกให้คนของท่านนำเงินมามัดจำสำหรับค่าอาหารทั้งหมดด้วยล่ะ”
ยังคิดเงินอีกรึ! ไม่เห็นแก่หน้าเขาเลย! ซุนซ่างชูโกรธจัดถึงกับจับเคราแล้วพูดว่า “ลืมเรื่องนั้นไปเถอะ มันคงจะลำบากเกินไป ข้าจะหาคนจากร้านอื่นมาดูแลเรื่องนี้แทนแล้วกัน!”
ซุนซ่างชูคิดว่าซูหวานหว่านจะต้องขอร้องเขา แต่ซูหวานหว่านกลับพูดขึ้นมาว่า “ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ดีแล้ว กิจการร้านอาหารของเรายุ่งมาก ข้ากำลังเป็นกังวลอยู่ว่าจะไม่มีพ่อครัวว่างมาปรุงอาหารสำหรับงานวันเกิดของท่าน!”
แต่ว่าเขานั้นคือซุนซ่างชู! การที่ซูหวานหว่านไม่ยอมเขาจริง ๆ เช่นนี้ ทำให้ซุนซ่างชูโกรธมาก และอยากจะด่าว่าซูหวานหว่านออกไป แต่นางกลับเดินจากไปเสียก่อน!
ซุนซ่างชูถึงกับโกรธจัดจนกระทืบเท้ากับพื้น ซุนฉางอานยืนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และคิดอะไรบางอย่างได้ จึงรีบไล่ตามออกไป “คุณชายเป่ยฉวน! เดี๋ยวก่อน! ได้โปรดข้ามีเรื่องที่อยากจะคุยกับเจ้า!”
มีอะไรที่จะคุยกับนางคนเดียว? ซูหวานหว่านมองไปที่ฉีเฉิงเฟิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และรู้สึกไม่สบายใจ เพราะแน่นอนว่าฉีเฉิงเฟิงอาจจะมีอาการหึงนางขึ้นมาอีกก็เป็นได้!
————————————————————————————————
[1] 菊花 จวี๋ฮวา คือ ดอกเบญจมาศแต่สำหรับคำเปรียบเทียบในเชิงแสลงจะแปลว่า รูทวาร