“ว่าแล้วเชียว…แบบว่า….รู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้”
ผมทำงานที่กิลด์นักผจญภัยจนเสร็จและตอนนี้กำลังกลับบ้าน วันนี้มีแต่เรื่องแปลกๆเต็มไปหมด คนที่มาที่แผนกต้อนรับก็มีแต่ผู้หญิง
ว่าไปแล้วก็ไม่เห็นนักผจญภัยชายแม้แต่คนเดียวเลยแฮะ อย่าว่าแต่นักผจญภัยเลย ทั้งพนักงานในกิลด์นอกจากผมและกิลด์มาสเตอร์ก็เป็นผู้หญิงกันหมดเลย ไม่ใช่แค่นั้นนะทัศนคติของพนักงานผู้หญิงพวกนั่นก็ค่อนข้างจะแปลกๆเหมือนกัน อย่างตอนที่ผมแบกของหนักๆอยู่ พวกพนักงานหญิงพวกนั้นก็มาพูดกับผมว่า
“เรียวคุง ไอ้นั่นน่ะเดี๋ยวฉันยกให้เอง” หรือไม่ก็
“เดี๋ยวฉันถือให้เองนะ ว่าแต่วันนี้พวกเราไปดื่มกันหน่อยมั้ย?”
จะว่าไงดีล่ะ มีแต่เสียงเรียกของพนักงานหญิงเรียกผมทั้งนั้นเลย ผู้หญิงพวกนั้นดูแลเอาใจใส่ผมเป็นอย่างดี นี่หรือว่าหน้าผมเหมือนคนป่วยขนาดนั้นเลยงั้นหรอ? หรือว่าจริงๆผมควรจะไปรับเวทย์รักษาดีกว่า? หรือเป็นเพราะฝันเห็นอะไรประหลาดๆที่อยู่ในห้องประเมินนั่นกันนะ?
ผมสะสมความเครียดไปแบบไม่รู้ตัว พูดถึงฝันแปลกๆนั่น จะว่าไปแล้วเราฝันเห็นภูติแปลกๆนั่นด้วยสินะ
หลังจากนั้นรอบตัวก็มีแต่เรื่องแปลกๆเกิดขึ้นเต็มไปหมด จะว่าไปแล้ว ภูติที่อยู่ในฝันตนนั้นพูดว่าอะไรกันนะ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะใช้เวทย์มนต์ที่ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่เพศตรงข้ามหรืออะไรนี่แหละ
แต่อย่างที่คิด มันก็คงเป็นแค่ฝันล่ะนะ เพราะผมไม่เห็นจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่นิยมเลยซักนิดผมคิดแบบนั้นแล้วก็พยักหน้าอยู่คนเดียวระหว่างกำลังกลับบ้าน
นั่นสินะ มันก็นานมากแล้วด้วยที่ไม่ได้กลับเร็วแบบนี้ ยังพอมีเวลาเหลือก่อนกลับอยู่
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปดื่มเปลี่ยนบรรยากาศซักหน่อยก่อนจะกลับบ้านดีกว่า
เมื่อผมตัดสินใจแบบนั้น ผมจึงเดินออกจากถนนหลักไปสู่ย่านบันเทิง จากนั้นผมก็แวะเข้าไปในบาร์ในโรงเตี๊ยมที่ผมมักจะมาเป็นบางครั้งบางคราว
อาจจะเป็นเพราะว่าผมเลิกงานเร็วไปหน่อย ตอนนี้ที่ถนนแถวร้านจึงไม่ค่อยมีคน
เมื่อผมเดินมาถึงที่หน้าโรงเตี๊ยมที่มีป้ายเขียนไว้ว่า “กิ่งสีเงิน” ผมก็ผลักประตูไม้โอ๊คหนักๆเข้าไป เสียงกระดิ่งก็ดังขึ้น
“ยินดีต้อนรับ”
เอ๋? คุณเจ้าของร้านไปไหนกันนะ วันนี้คุณภรรยามาทำแทนอย่างงั้นหรอ?
ช่างเถอะ ยังก็ไปนั่งที่เคาท์เตอร์ก่อนดีกว่า
“อ๊ะ….”
อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงที่ฟังดูคุ้นๆ
เมื่อผมมองไปตามทิศทางของเสียงนั้น ก็เจอกับบางอย่างนั่นคือ โต๊ะมีนักรบสาวผมแดงกับเอลฟ์ผมเงินจากโรเซนครูเซอร์นั่งอยู่
และคนที่ส่งเสียงนั้นคือนักรบสาวผมแดง
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนกำลังมาดื่มกันลำพัง 2 คนหลังสำรวจดันเจี้ยนนะ ผมโค้งคำนับทักทายให้ทั้งสองคน เสร็จแล้วผมก็ไปนั่งที่หน้าเคาท์เตอร์
ผมนั่งลงที่เก้าอี้แล้วก็กำลังคิดว่า จะสั่งอะไรมาดื่มดี
จะว่าไปแล้ว มันอะไรกันล่ะเนี่ย ปกติที่โรงเตี๊ยมนี่มักจะเต็มไปด้วยผู้ชายนี่นา แต่ทำไมวันนี้เห็นมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมดเลย แถมยังเอาแต่จ้องมาที่ผมอีก รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลยแฮะ หรือว่าวันนี้มันเป็นวันของผู้หญิงกันนะ?
“ดะ…เดี๋ยวสิ คาร์ล่า!?”
เอ่อ จะว่ายังไงดีล่ะ เหมือนมีเสียงดังมาจากทางที่โรเซนครูเซอร์นั่งอยู่เมื่อตะกี้เลยแฮะ
อะไร อะไร ทะเลาะกันเหรอนั่น?
ด้วยความอยากรู้ผมจึงหันหลังไปดูก็พบว่า นักรบสาวคนเมื่อกี้ลุกจากที่นั่ง และจากนั้นไม่รู้เพราะอะไร เธอก็โดนตรงมาทางผม
“งะ…ไง”
“เดี๋ยวก่อนสิคาร์ล่า อย่าเลยจะดีกว่านะคะ”
นักรบสาวคนนั้นดูเหมือนว่าจะชื่อคุณคาร์ลาสินะ
คุณคาร์ล่าเดินมานั่งข้างๆผมและทักทายด้วยท่าทีแปลกๆ
แล้วก็คุณเอลฟ์ที่ตามมาถึงกับเอามือจับหัวแล้วทำหน้ากังวล
“อย่ามาขวางนะไอริส เขาคือผู้ชายที่ใจดีแม้แต่กับผู้หญิงน่าตาน่าเกลียดอย่างฉันนะ บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในชีวิตแล้วก็ได้?”
“เรื่องนั้นน่ะ มันก็เพราะว่าเขาเป็นพนักงานกิลด์ยังไงล่ะคะ มันก็เป็นเป็นธรรมดาอยู่แล้วไม่ใช่รึไงที่เขาจะเป็นมิตรน่ะค่ะ อย่างที่คิดเธอดื่มมากเกินไปแล้วนะ เดาว่าฉันคงต้องเห็นเธอเจ็บปวดอีกแน่เลยล่ะค่ะ”
“โอกาสอยู่ตรงหน้าทั้งที ก็ต้องรีบคว้าไว้สิ เอาล่ะ ไอริสน่ะหลบไปซะ”
“แต่ถ้าถูกหักอก มันก็ไม่มีความหมายเลยไม่ใช่รึไงคะ!”
“เอ่อ คือ……?”
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ผมก็ส่งเสียงไปทางคุณนักรบสาวและคุณเอลฟ์
แต่ดูเหมือนว่า คุณนักรบสาวนี่จะดื่มไปเยอะพอสมควรเลยแฮะกลิ่นเหล้าลอยออกมาหึ่งเชียว และคุณเอลฟ์ก็เดินกลับไปโต๊ะเดิมพร้อมทำสีหน้าเป็นกังวล
“งะ…ไง เอ่อคือ….วันนี้เลิกงานแล้วอย่างงั้นเหรอ”
“ครับ วันนี้เลิกเร็วหน่อยน่ะครับ เอ่อ….คุณคาร์ล่าสินะครับ? คุณไปสำรวจดันเจี้ยน Hunger Wolve มาแล้วเหรอครับ”
“ใช่ วันนี้ฉันเข้าไปสำรวจมานิดหน่อยน่ะ อ๊ะ เจ้าของร้านขอเบียร์ให้เขาที่นึงหน่อย”
เอ๊ะ ผมไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เลย ทำไมคุณคาร์ล่าถึงสั่งเบียร์ให้ผมด้วยล่ะ?
แถมยังจ่ายให้ภรรยาคุณเจ้าของเรียบร้อยแล้วอีกต่างหาก
“ขอโทษด้วยนะครับ แต่มันจะดีหรอครับที่จ่ายให้ผมแบบนี้”
“มะ…ไม่เป็นไรหรอก ก็แบบว่า….นั่นไงล่ะ…แบบว่าถ้าไม่รังเกียจมาชนแก้วกันหน่อยมั้ย “
คุณคาร์ล่ายิ้มให้พร้อมท่าทางเขินอายเล็กน้อย และเธอก็ยื่นแก้วมาทางผม
จัดไปตามคำขอ ผมหยิบแก้วเบียร์ของผมขึ้นมาแล้วชนแก้วกับเธอ
ย่าห์ เป็นคนดีอะไรอย่างงี้น้า โรเซนครูเซอร์เนี่ย เลี้ยงเบียร์กะแค่พนักงานกิลด์ธรรมดาๆอย่างผม ทั้งๆที่เป็นถึงนักผจญภัยแรงค์ S แท้ๆ
เคยได้มาว่านักผจญภัยระดับสูงนั้นจะเป็นพวกรับมือยาก แต่พวกเธอดูท่าทางจะเป็นคนที่สุดยอดไปเลยนะ
ผมเป็นแฟนคลับพวกเธอไปซะแล้วสิ
ทว่า มีเรื่องที่ติดใจอยู่เรื่องหนึ่งนั่นคือการที่คุณคาร์ล่าเอาแต่แอบจ้องมาที่ร่างกายของผมปานจะกลืนกินเพราะอะไรก็ไม่รู้
อีกอย่าง โต๊ะข้างหลังผมก็ยังมีอีกสายตาที่จ้องมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ก็นะ ถึงแม้ผมก็อยากจะรู้ว่าเพราะอะไรก็เถอะ ผมก็คุยกับคุณคาร์ล่าต่อไปทั้งๆแบบนี้อยู่ดี
เรื่องราวปาร์ตี้แรงค์ S ของพวกเธอที่เล่าให้ผมฟังนั้นน่าสนใจมากเลยล่ะ เพราะสำหรับคนที่อาศัยอยู่บ้านนอกมาตั้งแต่เกิดอย่างผมแล้ว นี่เป็นเรื่องราวที่ราวกับฝันเลยล่ะ
หลังจากนั้น น่าจะเป็นช่วงที่เราเริ่มดื่มกันไปได้ประมาณ 3 แก้วล่ะมั้ง คุณคาร์ล่าก็พูดบางอย่างขึ้นมา
“คะ…คือว่านะ…..”
“?”
“คะ…คือว่าฉันมีห้องที่ชั้นบนน่ะ ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็จะไปด้วยกันไหม?”
เธอหน้าแดงมากๆ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าคงไม่ได้หน้าแดงเพราะเมาเหล้าหรอก
“มะ….มะ….มะ….มะ…ไม่ใช่นะ ไม่ใช่นะ คือว่า ไม่ได้มีความคิดที่จะทำอะไรแปลกๆหรอกนะ ฉันไม่ทำอะไรหรอก ก็แค่แบบว่า แทนที่เราจะมานั่งคุยในที่ที่เสียงดังแบบนี้ เราไปหาที่เงียบๆคุยกันน่าจะดีกว่าก็เท่านั้นเอง!”
“ได้สิครับ”
“ก็นั่นน่ะสินะ ขอโทษด้วยนะที่ผู้หญิงที่น่าตาน่าเกลียดอย่างฉัน—เอ๊ะ!!?”
ดวงตาของคุณคาร์ล่าที่เบิกกว้างจ้องมาทางผม
“เอ๊ะ…!?”
มีเสียงเอ๊ะ? คุณเอลฟ์ดังมาจากข้างหลังพวกเรา
เอ๋….นี่ผมพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ?
นี่ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีแล้วนี่นา แต่ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็คุณคาร์ล่าน่ะ เป็นคนดีนี่นา ถึงแม้จะแปลกๆนิดหน่อยก็เถอะ
การที่มาแผนกต้อนเพื่อมารับเอาแผนที่ถึง 2 ครั้ง แถมยังอุตส่าห์เลี้ยงเบียร์พนักงานกิลด์ธรรมดาๆอย่างผม ไม่พอยังชวนผมขึ้นไปคุยที่ห้องชั้น 2 อีกต่างหาก ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ คุณคาร์ล่าคงต้องมีความลับอะไรบางอย่างที่ต้องการจะพูดกับผมซึ่งเป็นพนักงานกิลด์เป็นการส่วนตัวแน่นอน
เพราะแบบนั้นแหละ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงดูอายๆ ตอนที่เธอจะชวนฉันไปที่ห้องของเธอน่ะ
(พระเอกเข้าใจว่า นางน่าจะมีความลับบางอย่างที่พูดในที่สาธารณะไม่ได้ เลยต้องคุยกับพนักงานกิลด์อย่างอย่างพระเอกเป็นการส่วนตัว เลยต้องไปคุยกันที่ห้องแทน แต่ก็ต้องชวนผู้ชายขึ้นไปห้องเธอก็เลยอาย)
หึ นี่ถ้าผมเป็นพวกเวอร์จิ้นล่ะก็ คงคิดไปเองแหงว่า ‘จริงๆแล้วเธอคงจะสนใจในเราอยู่สินะ’ แล้วล่ะ
แต่ว่า ฉันน่ะไม่ใช่แบบนั้นเฟ้ย! ถ้าโลกนี้ไม่พลิกกลับ เรื่องแบบนั้นมันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก ไอ้การที่นักผจญภัยสาวแรงค์ S อย่างพวกเธอจะชวนพนักงานกิลด์ธรรมดาและน่าเบื่ออย่างผมไปที่ห้องในแนวนั้นน่ะ
พูดไปแล้วก็แอบเศร้าเหมือนกันนะเนี่ย
“จะ…จริงหรอ….จริงๆหรอ พูดจริงๆใช่มั้ย!”
“ครับ ได้สิครับ”
“เจ้าของร้าน ขอกุญแจห้องหน่อยสิ ตอนนี้เลย!”
คุณคาร์ล่าขอกุญแจห้องกับภรรยาของคุณเจ้าของอย่างเสียงดัง คุณโอกามิจึงรีบเอากุญแจห้องให้คุณคาร์ล่า
มะ…มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้นเลยงั้นหรอ?
หรือว่าในดันเจี้ยน Hunger Wolves นั้นมันจะมีมอนสเตอร์ระดับสูงปรากฎตัวอย่างงั้นเหรอ สงสัยคงต้องตั้งใจฟังแล้วสิ
เมื่อผมตัดสินใจได้แล้วผมจึงบอกกับคุณคาร์ล่า
“ถ้างั้น เราไปกันเลยไหมครับ”
คุณคาร์ล่าพนักหน้าให้ผมอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าเร็วมากจนหัวแทบหลุด
และหลังจากนั้น—–
“โกหกน่า…..ทำไมกันล่ะ….”
คุณเอลฟ์ผมสีเงินที่นั่งอยู่คนเดียว มองมาที่พวกเราที่กำลังขึ้นไปชั้น
สองด้วยกันด้วยท่าทางตกใจ