#คำบางคำก่อนอาจจะไม่เหมือนช่วงตอนก่อนๆเช่นฮานาเอะ ริโกะ มันจะไม่ริโกะเกลื่อนเหมือนแต่ก่อนแล้ว อาจใช้คำอื่นแทน เวลาอ่านอยากจะให้ มีสมาธิในการอ่าน เรื่องนี้ใช้จินตนาการในการอ่านสูงนิดนึง (ไม่ใช่เนื้อเรื่องนะ การใช้คำของคนแปลนี่แหละหุหุ..)
—ริโกะเธอช่วยหยิบกระเป๋าของผม และช่วยผมในทุกๆด้านตั้งแต่กดปุ่มลิฟต์ จนถึงเปิดประตูห้อง เธอมีประโยชน์จริงๆ แม้แต่กิจกรรมที่ผมสามารถทำได้ง่ายๆยังทำได้ยากสำหรับร่างขายที่ร้อนรุ่มและขี้เกียจของผมในตอนนี้
ยิ่งไปกว่านั้นผมรู้สึกเวียนหัวมากกว่าที่คิด และถึงแม้ว่าตอนนี้ผมสามารถเดินได้ตรงตามปกติโดยที่มีริโกะพยุงตัวผมอยู่ข้างๆ
บางที…ผมอาจไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติหากไม่ได้รับการพยุงจากเธอ แต่ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเหมือนโดนไฟเผาทั้งเป็นTT
“อ๊ะ..คุณนิยามะ คุณช่วยทำแบบนี้ได้มั้ย..”
“..เอ๊ะ!..”
“โอเค…จับไหล่ฉันไว้แบบนี้…”
ริโกะเธอเอามือทั้งสองข้างของผมโอบไหล่ของเธอไว้..เดี๋ยวนะ!ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนว่าตอนนี้ผมกำลังกอดเธออยู่
“เอ้า!..อึ้บบ..คุณนิยามะเกาะฉันแน่นๆไว้นะคะ”
กลิ่นหอมของแชมพูบนเส้นผม และผิวสัมผัสที่นุ่มนวลบนร่างกายของเธอ ดูเหมือนว่าร่างกายของผมในตอนนี้จะอ่อนแอลงเพราะพิษไข้แล้วล่ะ.. ~`~
===
—หลังตากที่ผมได้รับความช่วยเหลือจากเธอ ริโกะพาผมไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่นแล้ว เธอยังเสนอตัวเองทำงานบ้านให้อีกด้วย
“คุณยังมีวัตถุดิบทำอาหารอยู่ในตู้เย็นมั้ยคะ?”
“เอ่อ..ปกติผมซื้อข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อมาน่ะ”
“เอ๊ะ..ทุกวัน?..ทุกวันเลยเหรอคะ?”
“พูดไปมันก็น่าอายอ่ะน่ะ”
“ยังพอมีอุปกรณ์ทำครัวอยู่มั้ยคะ”
“อ่า…ก็ยังเหลือส่วนของพ่อกับแม่ของผมอยู่นิดหน่อยล่ะ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อของมาให้นะคะ!”
“เอ่อ..เห็นว่าแบบนั้นมันจะไม่ดี….”
“ไม่เป็นไรฉันชอบทำอาหารอยู่แล้วค่ะ”
“แต่ว่าข้างนอกอากาศหนาวนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ..ฉันชอบอากาศหนาว”
“…”
“นอกจากนี้ฉันเคยได้ยินคุณพูดว่าอยากกินหม้อไฟกับคุณซาวะและคนอื่นๆใช่มั้ยคะ!”
“…พวกเราพูดเสียงดังขนาดนั้นเลยเหรอ..?”
“อยากกินหม้อไฟอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ”
“อ่า..ไม่มีครับผมกินอะไรก็ได้”
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ผมได้รับน้ำเหลือมาก่อนหน้านั้นแล้วตอนนี้ผมรู้สึกว่าอยากน้อยก็สามารถอาบน้ำด้วยตัวเองได้แล้ว”
“ถ้างั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ”
“งั้นฉันจะเข้าไปเตรียมอ่างอาบน่ำให้คุณแล้วกันนะคะ”
ผมไม่สามารถทิ้งงานบ้านให้ริโกะทำคนเดียว และนอนในห้องเฉยๆได้…
“ใช้ผมช่ว—”
“ไม่ได้ค่ะ คนป่วยกรุณานอนอยู่เฉยๆด้วยค่ะ!!!”
เธอตัดสินใจจัดที่ให้ฉันนอนโดยวางหมอนอิงไว้บนโซฟาเพื่อที่ผมจะได้นอนในท่าที่สบายตัว
“คุณสามารถนอนพักได้จนกว่าอาหารเย็นและอ่างอาบน้ำของคุณจะพร้อมเลยนะคะ”
“งั้นผมช่วยคุณ..”
“ไม่..!! ไม่ได้ค่ะคุณนิยามะ คุณป่วยนะรู้มั้ย ได้โปรดอยู่เฉยๆด่วยค่ะ!!
ริโกะเอามือเท้าสะโพก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนกำลังดุเด็กกำลังหัดเดิน เหตุนั้น ผมได้ตอบว่า”อึม” โดยที่ไม่รู้ตัว
“ตู้เสื้อผ้าอยู่ตรงไหนเหรอคะ? เดี๋ยวฉันจะไปเอาผ้าห่มมาให้”
“อยู่ในห้องนอนน่ะ”
เธอเดินเข้าไปที่ห้องนอนของผมอย่างระมัดระวังและหยิบผ้าห่มผืนหนึ่งออกมา
“ห่มผ้าซะนะคะ ให้ร่างกายอบอุ่นไว้ -.-*”
“อ…ขอบคุณครับ”
ผมพูดขอบคุณเธอเป็นร้อยครั้งในขณะที่เธอจัดผ้าห่มให้มาคลุมให้ทั้งตัวจนถึงคอ..ผม…ผมรู้สึกขอบคุณเธอจริงๆ แต่ผมรู้สึกละอายที่ไม่สามารถพูดอะไรมากไปกว่า “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ”….
“จะเริ่มแล้วนะคะ”
ริโกะม้วนแขนเสื้อขึ้นจากนั้นเธอก็รวบผมขณะใช้นิ้วโป้งลูบหูของเธอ เธอหยิบยางยืดที่คาบไว้ในปากและเริ่มรวบผมยาวให้เป็นมวย
ผมรู้สึกทึ่งกับสิ่งนี้มากจนฉันรีบละสายตาไปจากเธอแทบไม่ทัน///
เธอทำความสะอาดห้องน้ำเสร็จ มุ่งตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อ และกลับมาหุงข้าวพร้อมกับเตรียมอาหารเย็นเธอใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ ผมล่ะตกใจในความสามารถของเธอจริงๆเลย…ผมจำได้ว่าเมื่อเราคุยกันที่ทางเข้าอพาร์ทเมนท์เธอบอกว่าเธอสามารถทำงานบ้านทั้งหมดได้ อย่างไรก็ตามไม่เพียง แต่เธอสามารถทำได้ แต่เธอยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ด้วยไม่คิดว่าเธอจะเก่งขนาดนี้
“สุดยอดไปเลยแฮะ..มันวิเศษมากที่สามารถเธอทำเรื่องทั้งหมดได้โดยใช้เวลาสั้นแค่นี้…”
ริโกะ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วใช้มือแตะปากและก้มลงมองบนพื้น
“บางทีมันอาจเป็นความเคยชินละมั้งคะ…”
“….”
ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆเลยผู้หญิงคนนี้…
“เข้าไปอาบน้ำตอนนี้เลยมั้ยคะเดี๋ยวฉันจะช่วยอาบน้ำให้มั้ย…”
“ก็ดีครับ…”
เอ๊ะ!!!…..
{อ…อะไรนะ…ช่วยอาบน้ำให้อย่างนั้นเหรอ…เธอหมายความว่ายังไง}
เมื่อผมพูดพึมพำกับตัวเองอย่างสับสนริโกะก็เอียงศรีษะของเธอด้วยสีหน้าที่งง งวย….
“อ…เอ่อ…คือไม่ใช่ร่างกายแบบนั้นนะคะ!!…เเบบพวกประคองหรือสระผมอะไรพวกนี้น่ะค่ะ….. ฉ…ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นนะคะ////”
“เดี๋ยวก่อนนะ!! ผมยังไม่ได้พูดไปขนาดนั้นเลยนะ!
ยิ่งกว่านั้นเธอมีความมุ่งมั่นอย่างมากและถึงแม้เธอจะอาย แต่เธอก็ทำสีหน้าท่าทางที่ดูจริงจัง
“ฉันเคยเรียนการปฐมพยาบาลผู้ป่วยมาก่อนน่ะ เพราะงั้นคิดว่าจะพอช่วยอะไรได้”
“ผมรู้สึกซาบซึ้งในความรู้สึกหวังดีนี้ แต่นี่มันไม่เหมือนอย่างอื่น การที่คุณมาช่วยผมอาบน้ำยังไงมันก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไหร่..”
“ทำไมคุณถึงคิดถึงแต่เรื่องของฉัน โดยไม่สนใจตัวเองเลยละคะคุณนิยามะ”
“เพราะคุณบอกว่าจะมาเพราะแค่อยากเป็นผู้ดูเลของผมเท่านั้น”
“แต่ฉันคิดว่า ถ้าฉันไม่พูดอย่างงี้นิยามะคุงก็จะไม่ยอมให้ฉันมาดูเเล…..ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้สึกตัวหรอกนะคะ”
“…”
“ป..เปล่าค่ะ ได้โปรดช่วยลืมเรื่องที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ด้วยค่ะ!!! ให้ฉันช่วยคุณอาบน้ำเถอะนะคะ”
“ด…เดี๋ยวก่อน!…นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีจริงๆนะ!”
“มู่…เอาล่ะ งั้นก็ให้ฉันช่วยเรื่องอาหารแทนก็แล้วกันนะคะ”
..นี่อาจเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะยอมรับข้อเสนอนี้ของเธอ
“อึม..ถ้าเรื่องนั้นฝากคุณฮานาเอะด้วยนะครับ”
“ค่ะ!..เรื่องนี้ไว้ใจฉันได้เลย!!”
ริโกะดูสดชื่นขึ้นทันทีที่ได้ยินคำตอบของผม แก้มของเธอเริ่มแดงขึ้นมานิดหน่อย ใบหน้าที่เขินอายนั้นมันช่างน่ารักมาก จนผมแทบจะเก็บอาการไม่อยู่…
ทำไมเธอต้องรู้สึกเขิน….
===
ขณะที่กำลังเข้าห้องน้ำ…ตอนนี้ความคิดได้จิตฟุ้งซ่านมาก ขณะที่อยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เย็นยะเยือกผมถอดเสื้อและเปิดประตูห้องนํ้าที่ซึ่งมีความร้อนอันอบอุ่นพร้อมกับไอน้ำได้ปกคลุมไปทั่วร่างกายของผม
ในอ่างอาบน้ำถูกแต่งแต้มด้วยสีขาวนวลและมีกลิ่นหอมๆคล้ายน้ำนม…มันช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษเหลือเกิน
เดิมทีผมไม่ได้ตั้งใจจะแช่ตัวในอ่างอาบน้ำเลย แต่ว่ามันดูดีจนอดใจไม่ได้ที่จะลงไปแช่ในนั้น
ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะอาบน้ำได้อย่างเต็มที่ เพราะผมรู้สึกเหนื่อยจนเกินกว่าที่จะเคลื่อนไหวตัวได้อย่างอิสระ …มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆ
~~~
“เห้อ..เสร็จสักที”
ผมลุกขึ้นจากอาบน้ำโดยใช้มือพยุงกับกำแพง เผื่อผมไม่จะเดินซัดเซและเดินเสียหลักลงอย่างน่าอายอีกครั้ง
*นี่เป็นการอาบน้ำที่ดีที่สุดเลยแฮะ….*
หลังจากนั้นผมสวมเสื้อสเวตเตอร์คลุมร่างกายผมให้อบอุ่นและพยายามเดินกลับกลับไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อทานอาหารเย็น…
ห้านาทีต่อมาในระหว่างที่ผมกำลังทานอาหารเย็นจู่ๆริโกะก็ลุงขึ้นมาจากเก้าอี้…ตอนนี้ผมได้เจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายและตึงเครียดแบบสุดๆ
*…ได้ยังไงกัน..แบบนี้มันหมายความว่ายังไง…ในสถานการณ์แบบนี้เราควรทำยังไงดี!!*
ริโกะ ขยับร่างกายของเธอเข้ามานั่งข้างๆผมแล้วนำช้อนเข้ามาใกล้ๆปากของผม ผมทำได้เพียบกระพริบตาปริบๆอย่างตกใจ
*ท..ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ!!!*
ผมกำลังครุ่นคิดว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ก็…
“เอาล่ะ..คุณนิยามะ อ้าปากค่ะ อ้ามมม”
มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง…..(จบ!!)
อ่านจบแล้วก็คอมเม้นชี้แนะคุยกันได้น้า ถ้าหากเจอคำผิดละก็ช่วยกันจับผิดให้หน่อยนะว่ามีเยอะมั้ย
###ในบางประโยคที่อาจใช้คำที่ผิดหลักสุขอนามัยไปหน่อยมันจะอ่านแล้วรู้สึกขัดๆยังไงก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลย555
Gặp lại chapter 4!!!! ?