กู่ฉิงซานมองแถวข้อความบนหน้าต่างต้นเพลิงอย่างเงียบงัน
ชั่วชีวิตนี้ เขาไม่เคยเห็นคำอธิบายที่ยุติธรรมแบบนี้มาก่อน
แต่นี่ช่วยให้เขาจัดการสัตว์ประหลาดทะเลได้อย่างรวดเร็ว
ตอนที่สัตว์ประหลาดทะเลเตรียมพร้อมจะโจมตี สถานการณ์ก็เข้าขั้นวิกฤติหนัก
แต่มารผู้ต่อสู้อยู่กลางอากาศเหลือเพียงเขาและจ้าวแห่งความเงียบ
จ้าวแห่งความเงียบเหมือนจะไม่เก่งการต่อสู้ระยะประชิด ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงต้องออกไปก่อน
ความสามารถของงูทะเลยักษ์คือการโจมตีสะท้อน แต่โชคดี ดาบคลื่นเสียงไม่ได้รับผลจากความสามารถของงูทะเลยักษ์ตัวนี้
ดาบคลื่นเสียงสามารถควบคุมทะเลได้
หรือก็คือ งูทะเลยักษ์จะต้องพัวพันกับทะเลอย่างไม่มีสิ้นสุด
ไม่ว่าจะสะท้อนได้แค่ไหน มันก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายกับกู่ฉิงซานได้
เดิมกู่ฉิงซานวางแผนจะใช้สิ่งนี้เพื่อชะลอการโจมตีของงูทะเลยักษ์เอาไว้ จากนั้นค่อยหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย
ใครจะรู้ล่ะว่ามีเด็กทารกที่สามารถช่วงชิงทักษะในระหว่างการต่อสู้นี้ได้!
ตอนนี้ แถวตัวอักษรโลหิตขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างต้นเพลิง
“สังหารสิ่งมีชีวิตโบราณ: มังกรมารร่างทารก”
“ท่านดึงพลังวิญญาณจากวิญญาณของสิ่งมีชีวิตนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ: หนึ่งแสนแปกหมื่นแต้ม”
พลังวิญญาณหนึ่งแสนแปดหมื่นแต้ม!
กู่ฉิงซานมองการ์ดตรงกลางหน้าต่างอย่างรวดเร็ว
เขาเห็นการ์ดสีมรกต “ผู้ใช้วิชาดาบกู่ฉิงซาน” แถบความคืบหน้าพลังวิญญาณถูกเติมเต็ม อีกนิดเดียวก็จะไปสู่ระดับต่อไปแล้ว
เหลือพลังวิญญาณอีกสองหมื่นแต้มเท่านั้น!
หัวใจของกู่ฉิงซานพลันมั่นคง
เขามองจี้น้ำเต้าหยกแล้วกล่าวว่า “มานี่”
จี้น้ำเต้าหยกลอยมาอยู่หน้าเขาทันที
กู่ฉิงซานกุมจี้น้ำเต้าหยกเอาไว้แล้วถามว่า “คราวนี้เจ้าต้องการพลังวิญญาณเท่าไหร่”
‘ฟิ่ว’
“เข้าใจแล้ว”
กู่ฉิงซานมอบพลังวิญญาณหนึ่งหมื่นแต้มให้กับจี้หยก
จี้หยกมีความสุขขณะบินรอบกู่ฉิงซานวนไปมา
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “ทำได้ดีมาก เจ้าช่วยข้าไว้หลายอย่างเลย”
เขามองไปทางเรือ ในใจแอบกังวลเล็กน้อย
การต่อสู้เมื่อครู่ถูกจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งเห็นแล้ว
แม้กระทั่งพวกมารระดับสูงก็เป็นสักขีพยานกับทุกสิ่ง
พวกมันจะคิดอย่างไร
ถ้าพวกมันรู้ว่าจี้น้ำเต้าหยกทรงพลัง พวกมันจะมีความคิดอื่นหรือเปล่า
ถ้าคิดอีกแง่หนึ่ง ต่อให้ได้ยินว่ามีสมบัติที่สามารถหยิบยืมความสามารถของผู้อื่นจากอากาศบางได้ มันก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นอยู่ดี
“เอาเถอะ ดูท่าการต่อสู้เมื่อครู่คงไม่ถูกปกปิดล่ะนะ” กู่ฉิงซานพึมพำ
ตอนนี้ จี้น้ำเต้าหยกได้ยินคำพูดของเขาก่อนนิ่งอยู่กลางอากาศทันที
มันยังคงส่งเสียง “ฟิ่วๆ” ต่อหน้ากู่ฉิงซานราวกับพยายามจะอธิบายบางสิ่ง
เมื่อกู่ฉิงซานได้ยินดังนี้ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
ว่าไงนะ
ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ
ขณะตกตะลึง แถวตัวอักษรสีโลหิตขนาดเล็กปรากฏบนหน้าต่างต้นเพลิง
“จี้หยก: ให้ความเคารพท่านด้วยการบอกความลับ”
“ท่านได้เรียนรู้หนึ่งในวิชาวิเศษ”
“หยกไร้ข้อบกพร่อง: มีเพียงท่านที่รู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของหยกนี้”
“คำอธิบาย: หยกไร้ข้อบกพร่อง ซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพเท่านั้นจึงจะปรากฏ หากเป็นสิ่งมีชีวิต มันจะล่องหน”
กู่ฉิงซานชำเลืองมองหน้าต่างต้นเพลิงก่อนพบว่าความเข้าใจของเขาถูกต้อง
หรือก็คือ
ไม่ว่าน้ำเต้าหยกจะทำอะไรก็จะไม่มีใครรู้อย่างนั้นหรือ
กู่ฉิงซานกำลังคิดจนเห็นว่าจ้าวแห่งความเงียบเหาะมาหาแล้ว
นางมีสีหน้าไม่อยากเชื่อเล็กน้อย
“คาดไม่ถึงจริงๆ สิ่งที่มันหวาดกลัวที่สุดถึงกับเป็นเรื่องพื้นฐานอย่างการโจมตีทางกายภาพ”
กู่ฉิงซานใช้หูฟังขณะมองจี้น้ำเต้าหยกที่ลอยอยู่ตรงหน้าโดยไม่พูดอะไรมาสักพักใหญ่
นางไม่รู้จริงๆ หรือว่าเมื่อครู่จี้น้ำเต้าหยกทำอะไร
จี้น้ำเต้าหยกสังเกตเห็นสายตาไม่เชื่อมั่นของกู่ฉิงซานก่อนจะส่งเสียง “ฟิ่ว” อย่างเหยียดหยันออกมา
มันลอยตรงไปหาจ้าวแห่งความเงียบ
ภายใต้สายตาของกู่ฉิงซาน จี้น้ำเต้าหยกกำลังแกว่งไกวและบินอยู่หน้าจ้าวแห่งความเงียบ
แต่จ้าวแห่งความเงียบคล้ายกับเมินสิ่งนี้
นางยังถอนหายใจ “ในทะเลที่เต็มไปด้วยพลังลี้ลับนี้ พวกเราล้วนใช้พลังของธาตุลี้ลับในการต่อสู้ พวกเราแทบไม่เคยโจมตีด้วยอาวุธพื้นฐานด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้น พวกมารทรงพลังเมื่อครู่ก็คงไม่ตายแบบนี้หรอก”
กู่ฉิงซานมองสีหน้าของนางก่อนมั่นใจได้ว่าจี้น้ำเต้าหยกมีวิธีป้องกันไม่ให้ตัวตนอื่นมองเห็นมันได้จริง
“นี่ช่างเป็นพลังที่แสนลี้ลับ ข้าเริ่มเวียนหัวเพราะมันแล้วสิ กลับกันเถอะ”
เขาพูดกับจี้น้ำเต้าหยก
จี้น้ำเต้าหยกชื่นชมขณะลอยกลับอย่างกระตือรือร้นก่อนลงบนศีรษะของกู่ฉิงซาน
มันอยู่กลางศีรษะของกู่ฉิงซานอย่างภาคภูมิใจ
ช่างเถอะ…
ถึงแม้จะไม่มีใครสามารถมองเห็นจี้น้ำเต้าหยกนี่ได้ กู่ฉิงซานรู้สึกแปลกเล็กน้อยที่มีวัตถุรูปทรงน้ำเต้าอยู่บนศีรษะ
“เอาล่ะ เจ้าเอาพลังวิญญาณไปเลย เจ้าทำงานได้ดีมาก ตอนนี้กลับไปพักผ่อนเถอะ หากมีอะไรให้ทำอีก ข้าจะติดต่อเจ้า”
“แล้วก็ จี้หยกมีไว้เพื่อสวม อย่าอยู่บนศีรษะข้าอีกในอนาคต”
เขาส่งคำพูดออกไป
จี้น้ำเต้าหยกรู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อยก่อนกลับเข้าถุงเก็บของของกู่ฉิงซาน
ในถุงเก็บของ มันพบพื้นที่ว่างก่อนกลิ้งไปมาหลายครั้งแล้วหยุดเคลื่อนไหว
มันหลับไปทั้งอย่างนั้น!
ถึงเรื่อมจะเกิดยาวนาน แต่มันผ่านไปเพียงแค่ชั่วครู่
กู่ฉิงซานมองจ้าวแห่งความเงียบ
“ใช่” เขาได้ยินคำพูดของจ้าวแห่งความเงียบดังก้องก่อนกล่าวต่อว่า “โชคดีที่เจ้าช่วยข้าขังมันเอาไว้ ไม่อย่างนั้นมันคงหนีรอดไปได้จริงๆ”
จ้าวแห่งความเงียบยิ้ม
ตอนนี้ แสงเจิดจ้าเล็กน้อยวูบไหวบนทะเล
“มีคำกล่าวว่าสัตว์ประหลาดทะเลโบราณหลายสิบล้านปีจะมีสมบัติอยู่ ไปดูกันเถอะว่ามันมีอะไรบ้าง” จ้าวแห่งความเงียบกล่าว
“ได้เลย”
ทั้งสองเหาะลงไปแตะผิวทะเลอย่างแผ่วเบาขณะมองแสงระยิบระยับ
มันคือเล็บแหลมคมจำนวนหนึ่งที่ยาวเท่าครึ่งแขนขณะลอยอยู่บนผิวทะเลอย่างเงียบงัน มันสะท้อนแสงและเงาไปรอบข้าง
“อะไรน่ะ”
จ้าวแห่งความเงียบถามด้วยความประหลาดใจ
นางสะบัดมือก่อนนำเล็บตรงหน้าขึ้นมา
“กลายเป็นว่ามันคือเล็บของมังกรมาร ไม่สงสัยเลยว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้จะมีพลังวิเศษที่แก่กล้าเช่นนี้ เกรงว่ามันมีสายเลือดของมังกรมาร”
กู่ฉิงซานมองเล็บแหลมคม
วิชาดาบของเขาสังหารสัตว์ประหลาดลงได้ แต่กลับไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนบนเล็บเหล่านี้ได้เลย
ไม่มีทางที่จะจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดทะเลตัวนี้ได้หากมันยังคงวิวัฒนาการต่อไป
…
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งมองเล็บมังกรจำนวนหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ
“โชคดีที่เป็นแค่เล็บ”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราวกับเป็นคนที่ออกไปเองว่า “จากการต่อสู้เมื่อครู่ มันยังอยู่วัยทารก ดังนั้นทักษะจึงยังไม่ได้วิวัฒนาการเต็มที่ ไม่อย่างนั้นวิชาดาบของเจ้าไม่สามารถฆ่ามันได้ สุดท้ายพวกเจ้าทั้งคู่ก็จะตาย”
“โดยเฉพาะเจ้า ราชาวิญญาณมาร เดิมข้าคิดว่าเจ้าจะใช้ความสามารถควบคุมทะเลเพื่อหลีกเลี่ยงการสะท้อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ระยะยาวเสียอีก”
“เป็นไปได้หรือที่การควบคุมท้องทะเลจะไม่โดนสะท้อนกลับ” มารทรงพลังอีกตนร่วมวงสนทนา
มันถูกปกคลุมด้วยอักขระบิดเบี้ยว อากาศรอบข้างกลายเป็นเส้นบิดเบี้ยวอยู่ข้างหน้า
ดูท่ามันจะเป็นมารทรงพลังที่มีสถานะยิ่งใหญ่
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งตอบคำถามอย่างอดทนเช่นกัน
“เพราะความสามารถควบคุมทะเลถูกแบ่งเป็นสองขั้น ขั้นแรกคือควบคุมทะเล ขั้นที่สองคือการโจมตีสัตว์ประหลาดจากทะเล ดังนั้นถ้าสัตว์ประหลาดทะเลมีการสะท้อนกลับ ราชาวิญญาณมารก็จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ความจริง การสะท้อนนี้เป็นความสามารถลี้ลับที่สามารถตามรอยวัตถุที่เข้ามาโจมตีได้เท่านั้น มันจะไม่เกิดการสะท้อนซ้ำสองจนความสามารถนี้ถูกทำลาย นี่คือวิธีการต่อสู้ที่ถูกต้อง”
กู่ฉิงซานถอนหายใจหลังจากได้ยินเช่นนี้
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งช่างพูดได้อย่างปราดเปรื่องยิ่งนัก
หากไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือจากจี้น้ำเต้าหยก เขาก็เตรียมที่จะทำแบบนั้นจริงๆ
“ยังไงก็ตาม มันตายแล้ว ข้าไม่อยากพบสัตว์ประหลาดทะเลเช่นมังกรตัวนี้อีกในอนาคต” กู่ฉิงซานกล่าว
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งหัวเราะ
พวกมารตนอื่นหัวเราะเช่นกัน
ไม่มีมารตนไหนอยากพบกับมังกรทั้งนั้น
มังกรมารคือตัวตนแท้จริงของโลกมารที่อยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร มันหลับใหลอยู่ในสถานที่ลึกลับ จะตื่นขึ้นมาทุกๆ หลายแสนปีเพื่อกินเท่านั้น
ไม่เคยมีมารเอาชนะมังกรได้
เมื่อเทพและเผ่าพันธุ์บรรพกาลได้ทำลายโลกมารดึกดำบรรพ์ พวกเขาก็จงใจหลีกเลี่ยงพื้นที่กว้างใหญ่ส่วนหนึ่งที่อาจจะเป็นสถานที่หลับใหลของมังกร
แต่จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งยิ้ม กู่ฉิงซานจึงโล่งใจ
ถึงแม้จะไม่มีใครสามารถตรวจจับตัวตนของจี้น้ำเต้าหยกได้ แต่การต่อสู้เมื่อครู่ให้ผลค่อนข้างตรงกันข้าม
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งย่อมสามารถตรวจจับได้อย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ถือสาหาความต่อ
กู่ฉิงซานไม่ได้ต้อยต่ำ เป็นถึงเจ้าของโลกมารสองแห่ง เป็นถึงราชาวิญญาณมาร
ท่านลอร์ดแบบไหนจะไม่มีความสามารถที่ซ่อนอยู่ก้นหีบ
แน่นอนว่าไม่นับอดีตราชาวิญญาณมาร
ดังนั้น จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งจึงไม่สืบสาวเรื่องนี้ต่อ ยังไงเสีย นั่นไม่ใช่พฤติกรรมที่ควรทำกับราชามาร
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งหยิบเล็บสองอันก่อนโยนให้กู่ฉิงซานและจ้าวแห่งความเงียบ
“นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าสมควรได้รับ”
ขณะพูด เขาวางเล็บมังกรอีกอันเอาไว้
กู่ฉิงซานและจ้าวแห่งความเงียบขอบคุณพร้อมกัน
เล็บมังกรมารคือสมบัติอย่างแท้จริง มันครอบครองพลังเหลือเชื่อเอาไว้ ผู้ที่ครอบครองมันจะถูกพวกมารไล่ล่าอย่างต่อเนื่องเว้นแต่ว่าพละกำลังของเจ้าของมากพอที่จะยับยั้งพวกมารจำนวนมากได้
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งย่อมไม่กลัวเกรง
ราชาวิญญาณมารและจ้าวแห่งความเงียบเป็นผู้นำมารทรงพลังเช่นกัน เพราะพวกเขาสังหารสัตว์ประหลาดทะเลได้ พวกเขาจึงมีสิทธิ์ที่จะได้รับเล็บ
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งโยนเล็บมังกรอีกชิ้น
“เอาล่ะ แขวนเจ้านี่ไว้บนใบเรือ น่าจะยังมีสัตว์ประหลาดทะเลตัวอื่นที่กล้าเข้ามาแน่”