พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวย่อมได้ยินคำพูดพวกนี้อยู่แล้ว
พี่สะใภ้สามจ้าวนอกจากถอนหายใจยังจะพูดอะไรได้? เรื่องนี้ถ้าจะโทษก็ต้องโทษน้องสะใภ้สี่นั่นแหละ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในท้องเป็นลูกสาวหรือลูกชาย แต่กลับพูดอย่างหนักแน่นว่าเป็นลูกชายแล้ว แถมยังบอกทุกคน ไม่มีใครรอคอยที่จะได้เห็นหล่อนได้ลูกชายหรอก มีแต่คนอยากเห็นหล่อนผิดหวังทั้งนั้นแหละ
ตอนนี้หล่อนก็ผิดหวังจริง ๆ ทั้งยังน้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่ในบ้านไปไม่น้อย
แม้จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่ก็ไม่มีอะไรต้องพูด แต่ละคนต่างก็มีวิธีที่จะข้ามปัญหาไปให้ได้ไม่ใช่เหรอ?
เมื่อเทียบกับพี่สะใภ้สามแล้ว พี่สะใภ้รองกลับอยากหัวเราะ
เพราะน้องสะใภ้สี่ทำให้คนรู้สึกเกลียดมากเกินไป นำเรื่องลูกไปโอ้อวดเกินกว่าความเป็นจริง ตอนนี้ได้ลูกสาวแล้วเป็นอย่างไรล่ะ?
อีกอย่างพี่สะใภ้รองจ้าวก็รู้สึกภาคภูมิใจด้วย
ตอนนี้ตระกูลจ้าวมีหลานชายสามคน สองคนเป็นลูกของหล่อน ก็นับว่าเป็นผลงานครั้งใหญ่ของตระกูลจ้าวจริง ๆ!
ส่วนลูกในท้องของบ้านเจ้าหก ถ้าได้ลูกสาว แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน จะได้เป็นเพื่อนกับสะใภ้สี่
หล่อนคิดว่า สะใภ้สี่ก็คงรอคอยให้เป็นแบบนี้แน่นอนไม่ใช่เหรอ?
แม้จะมีเจตนาไม่ค่อยดี แต่พี่สะใภ้รองจ้าวก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องผิด สะใภ้สี่ก็คิดแบบนี้จริง ๆ
หล่อนคลอดได้ลูกสาว นี่เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจย้อนกลับไปทำอะไรได้แล้ว หล่อนจึงหวังว่าเย่ฉูฉู่จะคลอดได้ลูกสาวเช่นกัน มีแค่วิธีนี้ที่จะทำให้จิตใจของหล่อนรู้สึกได้ถึงความสมดุลได้
แน่นอนว่าคำพูดนี้ไม่สามารถที่จะพูดออกไปได้แน่ ๆ
“คุณว่าน้องสะใภ้หกจะคลอดได้ลูกเพศอะไรคะ?” ตอนที่กำลังนอน พี่สะใภ้สี่จ้าวพูดคุยกับพี่สี่จ้าว
พี่สี่จ้าวเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณป่วยเหรอถึงได้มาถามผมเรื่องนี้!”
พี่สามีคนหนึ่งสนใจว่าภรรยาของน้องชายจะคลอดลูกได้เพศอะไร เขาคงป่วยแล้วมั้ง?
พี่สะใภ้สี่จ้าวกลับสนใจแต่ตัวเอง “ฉันว่าท้องนั้นของหล่อนคงได้ลูกสาว”
“คุณคลอดลูกสาวก็เลยบอกว่าคนอื่นจะคลอดลูกสาวด้วยเหรอ?” พี่สี่จ้าวอดไม่ได้ที่จะพูด
“คุณพูดอะไรของคุณ คุณรังเกียจที่ฉันคลอดลูกสาวเหรอ? งั้นที่ได้ลูกสาวก็เป็นความผิดฉันทั้งหมดสินะ นั่นไม่ใช่เพราะเมล็ดพันธุ์ของคุณไม่ดีเหรอ?” พี่สะใภ้สี่จ้าวในตอนนี้อ่อนไหวกับประเด็นนี้มาก หล่อนจึงปรี๊ดแตกทันที
“เมล็ดพันธุ์ของผมไม่ดียังไง เป็นเพราะที่ดินของคุณไม่ดี เมล็ดพันธุ์มันถึงไม่งอกเงยพืชผลออกมาไง!” พี่สี่จ้าวตอกกลับไปอย่างไม่ลังเล
ตอนนี้ลูกคลอดออกมาแล้ว ทั้งยังเป็นลูกสาว เขาจึงไม่จำเป็นต้องระวังอะไรอีกแล้ว
“เจ้าสี่จ้าว! คุณยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?” ในที่สุดพี่สะใภ้สี่จ้าวก็เจอที่ระบาย พูดทั้งน้ำตาว่า “ที่ดินของฉันมันไม่ดี แล้วทำไมคุณถึงไม่พูดบ้างว่าเมล็ดพันธุ์ของคุณไม่ดี คุณอยากได้ข้าวฟ่างแต่กลับปลูกถั่วเขียว คุณจะมาโทษที่ดินได้เหรอ?”
อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย พี่สะใภ้สี่จ้าวก็เป็นคนมีความสามารถพิเศษจริง ๆ เปรียบเปรยได้สมบูรณ์แบบมาก!
พี่สี่จ้าวพูดเสียงดัง “แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าที่ผมปลูกไม่ใช่ข้าวฟ่าง? คุณเห็นเหรอ? ทั้ง ๆ ที่ผมก็ปลูกข้าวฟ่าง แต่ที่ดินของคุณกลับงอกถั่วออกมา คุณมันก็เหมือนกับแม่ของคุณนั่นแหละ!”
“ดึกดื่นขนาดนี้ จะโวยวายอะไรกัน!” คุณแม่จ้าวเดินเข้ามาจากด้านนอก นางเอ่ยปากด่า “ว่างจนกระวนกระวายใจเหรอ? ว่างมากก็ออกไปทำนาเลยไป!”
“แม่ เขาตำหนิฉันที่คลอดลูกสาว!” พี่สะใภ้สี่จ้าวฟ้องแม่สามีทั้งน้ำตา
พี่สี่จ้าวพูดด้วยความโมโห “ผมตำหนิคุณที่คลอดลูกสาวตอนไหน มีแต่คุณนั่นแหละที่ตำหนิว่าผมทำให้ได้ลูกสาว!”
ทั้งสองคนเริ่มคุยกันถึงปัญหาของที่นาและเมล็ดพันธุ์อีกครั้ง
คุณแม่จ้าวตวาดจนคอขึ้นเอ็น “พวกแกกลั้นไม่อยู่แล้วใช่ไหม? ถ้ามันกลั้นไม่อยู่ ก็ออกไปทำนาตอนนี้เลย ไปย่อยอาหารซะ! ยุ่งกันจะตายอยู่แล้ว ทำงานมาทั้งวัน กลางคืนให้นอนก็ยังไม่หยุด ทำบ้าอะไรกัน? รังเกียจลูกสาว ก็บีบคอให้ตาย ๆ ไปเลยไป บีบคอฆ่าให้หมดไปเลย ไม่ต้องเหลือไว้สักคน แล้วพวกแกก็ไปคลอดมาใหม่ ถ้าได้ลูกสาวอีกก็บีบคอฆ่าให้ตาย จนกว่าจะได้ลูกชายนั่นแหละ!”
เป็นเพราะคุณแม่จ้าวต้องดูแลช่วงอยู่ไฟ และต้องออกไปช่วยลงนาเกี่ยวข้าวด้วย นางเองก็เหนื่อยมากแล้ว พอเหนื่อยแล้วมาเจอเรื่องน่าหงุดหงิดจึงระเบิดโทสะออกมา เมื่อเห็นทั้งสองคนยังไม่หยุดแบบนี้ ก็ยิ่งเกิดไฟลุกท่วม
ตอนนี้ซานหยาและซื่อหยาย้ายไปอยู่ห้องของอาเล็กของพวกเธอแล้ว เป็นเพราะแม่ของพวกเธอให้กำเนิดน้องสาวออกมาอีกหนึ่งคน จึงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ๆ ตอนนี้ก็ได้ยินย่าของพวกเธอด่าพ่อกับแม่อยู่
พี่สี่จ้าวและพี่สะใภ้สี่ต่างพูดอะไรไม่ออก
คุณแม่จ้าวยังไม่หายโกรธ นางด่าต่อไปว่า “แต่ละคน อายุเท่าไรกันแล้ว อยากจะทะเลาะกันก็ออกไปทะเลาะข้างนอก ถ้าไม่มีธุระอะไรก็อย่ามารบกวนเวลานอนของคนอื่นเขา! อีกอย่าง ฉันจะบอกอะไรพวกเธอให้นะ ฉันกับพ่อของพวกเธอ ไม่ได้บอกว่าพวกเธอต้องได้ลูกชาย ไม่เคยพูดว่าไม่มีลูกชายไม่ได้ และไม่เคยพูดว่าพวกเธอสองคนต้องมีลูกชายเพื่อมาสืบทอดตระกูลจ้าว อย่าไปพูดถึงเจ้ารองที่ได้ลูกชาย ต่อให้พวกเขาไม่มีลูกชาย ต่อให้เกิดออกมาเป็นลูกสาวทั้งหมด แล้วจะทำไม? จะตายให้ได้เลยเหรอ? ใช่ว่าอายุมากแล้วจะมีลูกไม่ได้ เรื่องไม่สำคัญก็พูดซ้ำ ๆ อยู่นั่นแหละ!”
คุณแม่จ้าวด่าเป็นชุด นางหยุดหายใจ จากนั้นจึงหันไปพูดกับพี่สะใภ้สี่จ้าว “สะใภ้สี่ ถ้าเธอไม่พอใจแม่สามีคนนี้ก็พูดมา ไปเรียกให้แม่เธอมาดูแลแทน แต่อย่ามาทำตัวเป็นปีศาจ!”
“แม่ ฉันไม่ได้ไม่พอใจแม่นะคะ ไม่ต้องเรียกแม่ของฉันมาดูแลฉันหรอก” พี่สะใภ้สี่จ้าวรีบพูด
ในบ้านมีของดี ๆ ให้รับประทานมากมายขนาดนั้น ถ้าแม่ของหล่อนมา แบบนั้นก็คงขนกลับไปให้น้องชายของหล่อนหมดน่ะสิ?
แบบนั้นหล่อนยังจะมีชีวิตต่อไปได้อีกเหรอ?
“ไม่มีอะไรแล้วก็อยู่ไฟให้ดี ๆ ดูแลลูกให้ดี อย่าปล่อยให้วันเวลาดี ๆ ผ่านไป ท้องฟ้าย่อมมีฝน คนเราย่อมเจอปัญหา มีเรื่องเกิดขึ้นมาเดี๋ยวก็ดีเอง” คุณแม่จ้าวสอนจบ ก็หันมาสอนลูกชายต่อ “แกก็อีกคน พืชผลในสวนยังรอให้เก็บเกี่ยวอยู่ คนอื่นเขารีบนอนเพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แต่แกกลับมานั่งทะเลาะกับเมียอยู่ที่บ้าน พืชผลไม่คิดจะเก็บเกี่ยวแล้วเหรอ?”
“แม่ อย่าโกรธเลย กลับไปนอนเถอะ พวกเราก็จะนอนแล้วเหมือนกัน” พี่สี่จ้าวพูดอย่างขุ่นเคือง
คุณแม่จ้าวก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น หลังจากบอกให้รีบเข้านอน ก็เดินกลับห้องไป
ส่วนทั้งสองคนก็ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น ต่างคนต่างนอน
พี่สะใภ้สี่จ้าวเอนตัวลงก็มองดูเพดานบ้าน จากนั้นก็เริ่มดันทุรังอีกครั้ง ดูเอาเถอะ ถ้าหล่อนได้ลูกชาย แม่สามีไม่มีทางมาด่าหล่อนแบบนี้แน่
ถึงอย่างไรก็ต้องไว้หน้าลูกชายของหล่อน แต่หล่อนไม่มีลูกชาย มีแค่ลูกสาวที่เป็นตัวผลาญเงินสามคนนี้
แม้ว่าส่วนอื่นของแม่แท้ ๆ จะทำให้หล่อนรู้สึกไม่ชอบ แต่ก็มีคำพูดหนึ่งที่พูดไว้ไม่ผิดเลย
ชีวิตนี้ของผู้หญิงจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่เพียงอย่างเดียวที่ต้องมีคือลูกชาย แบบนั้นก็จะทำให้ตัวเองเกิดความมั่นใจ มีชะตาชีวิตเป็นของตัวเราเอง!
ภายในใจของพี่สะใภ้สี่จ้าวเป็นอย่างไรคุณแม่จ้าวที่เป็นแม่สามีย่อมทราบดี
แม้ว่าจะสั่งสอนทั้งสองคนไปแล้ว แต่ตอนกลับมาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
คุณพ่อจ้าวกล่าว “ถอนหายใจทำไม รีบนอนเถอะ หลายวันมานี้คุณก็เหนื่อยไม่น้อยเลย”
“ก็ถอนหายใจเพราะลูกสะใภ้สี่น่ะสิ ตอนนี้ความดันทุรังก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น จนแทบจะกลายเป็นป่วยจิตอยู่แล้ว ฉันเห็นท้องของฉูฉู่แหลม มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นลูกชาย ถึงเวลานั้นถ้าท้องแรกของฉูฉู่ได้ลูกชายขึ้นมา หล่อนที่ได้ลูกสาวติดกันสามคน คงได้เช็ดน้ำตาอีก” คุณแม่จ้าวกล่าว
คุณพ่อจ้าวไม่ได้สนใจสะใภ้สี่ เพียงแต่สนใจสะใภ้หก เขาเอ่ยถามว่า “เธอแน่ใจเหรอ? ท้องนี้ของสะใภ้หกจะได้ลูกชายจริง ๆ เหรอ?”
“ฉันมองไม่ผิดหรอก” คุณแม่จ้าวกล่าว “หล่อนกินดีขนาดไหนล่ะ? ได้กินปลา กินเนื้อ แถมยังมีไข่ทุกวัน แต่ในท้องนั้นกลับไม่ได้ใหญ่เท่าไร แถมยังแหลมอีก ตอนที่ฉันอุ้มท้องเจ้ารองกับพวกลูกชายคนอื่น ๆ ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน”
“พอเถอะ ตอนนั้นมีอะไรให้กิน ผมไปหาข้าวกลับมาให้คุณยังไม่ใช่ง่าย ๆ เลย จะเอามาเทียบกับชีวิตตอนนี้ได้ยังไง” คุณพ่อจ้าวกล่าว
…………………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สมชื่อตอนจริง ๆ โดนลำเอียงเพราะแม่มีน้องชายเลยทำให้อยากได้ลูกชายเกลียดลูกสาวเนี่ยนะสะใภ้สี่ ควรจะรักลูกสาวมากกว่าไหม
ถ้าสะใภ้หกได้ลูกชายนี่จะไม่ธาตุไฟเข้าแทรกเลยเหรอ
ไหหม่า(海馬)