บทที่ 6
ทหารเกราะดำกว่า 3,000 นายถูกลูกธนูสังหารอย่างไร้ทางต่อต้าน
ถึงแม้ถังหยินจะเก่งกาจในการต่อสู้ แต่ไม่ว่าเขาจะเก่งแค่ไหน ต่อหน้าลูกธนูจำนวนมหาศาลแบบนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถังหยินได้แต่ก้มหน้ามองพื้นดินและย่อตัวลงมา ชายหนุ่มถือหอกที่หักครึ่งหนึ่งไว้ในมือเขาพร้อมกับปัดป้องลูกธนูที่พุ่งเข้ามาเป็นครั้งคราว ในเวลาเพียงไม่นาน ถังหยินก็หมดแรงไปจนถึงจุดที่เขาไม่สามารถขยับแขนได้อีกต่อไป
นี่มันไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง ! ถังหยินปาดเหงื่อเย็นที่หน้าผากของเขา เมื่อหันหัวไปมอง ชายหนุ่มก็พบเข้ากับลูกศรจำนวนหนึ่งพุ่งเข้ามา เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทำการดึงเสื้อผ้าของชายวัยกลางคนข้างเขา
ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง ชายหนุ่มไม่ใส่ใจที่จะแกล้งทำเป็นคนใบ้อีกต่อไป สิ่งที่เขาทำคือดึงเสื้อผ้าของชายวัยกลางคนด้วยความสามารถทั้งหมดของเขาและวิ่งไปยังตีนผา อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะพยายามดึงกี่ครั้ง ร่างของชายวัยกลางคนก็ไม่ขยับเลยราวกับว่าไม่มีความคิดที่จะหนี ถังหยินตื่นตระหนกและหันหัวไปตะโกนบอก “ทำไมคุณไม่รีบหนีล่ะ จะอยู่ที่นี่รอความตาย … ”
เขากลืนคำพูดที่เหลือของเขา ไม่ใช่ว่าลุงคนนี้ไม่อยากจะหนี แต่เขาไม่สามารถทำได้ ลูกศรสีดำปักทะลุหมวกและทะลุผ่านโลหะไปจนถึงศีรษะของเขา ปลายลูกศรโผล่ออกมาจากด้านหลังศีรษะของเขาและเลือดก็ไหลออกมา
นั่นคือลูกศรที่คร่าชีวิตของเขา ชายวัยกลางคนไม่มีเวลาแม้แต่จะร้องไห้ออกมาในขณะที่เขาเสียชีวิต
‘ลุง’ ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ไม่นานมานี้ตายในพริบตา ถังหยินพูดไม่ออกสักระยะหนึ่ง ชายหนุ่มได้แต่มองร่างนั่นด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังตกอยู่ในอาการงุนงง ลูกศรแหลมคมได้พุ่งผ่านเขาและทิ่มลงบนหัวไหล่ มันปักทะลุเสื้อเกราะเข้าไปยังเนื้อของเขาทันที
“ โอ๊ยย…” แม้จะเป็นคนที่แข็งแกร่งเช่นถังหยิน แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างของเขาล้มลงไปบนพื้นทันที
ลูกธนูคมอีกชุดหนึ่งบินเข้าหาเขาโดยไม่มีเวลาพักหายใจ ถังหยินหยิบลูกธนูที่ยื่นออกมาบนไหล่ของเขาและดึงมันออก ซึ่งนั่นก็ทำให้เลือดไหลทะลักออกมาจากแผลด้วยเช่นกัน เหมือนกระต่ายเจ้าเล่ห์ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็กระโดดลงไปยังตีนผา
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !
มีลูกศรแหลมคม 3 อันที่พุ่งผ่านเขาไป
การเคลื่อนไหวของถังหยินนั้นรวดเร็ว และพลังของการพุ่งไปข้างหน้าของเขานั้นก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน ชายหนุ่มดีดตัวสูงขึ้นไปในอากาศ และหลังจากลงมาที่พื้น ร่างกายของเขาก็ไม่หยุดนิ่ง ยังคงหมุนไปข้างหน้า ภายในระยะสั้น ๆ เขาได้ทำการปัดป้องลูกศรไป 5 ดอก และหลบไปไม่น้อยกว่า 20 ดอก
หลังจากที่ถังหยินซ่อนตัวอยู่ใต้หน้าผาอันแสนปลอดภัยได้แล้ว ชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมา อย่างที่เขาเดาไว้ มีลูกธนูไม่มากที่ถูกยิงลงไปยังด้านล่างของหน้าผา ลูกศรหลายลูกยังคงบินอยู่ในอากาศเมื่อมันชนกับก้อนหิน
ตอนนี้เขาได้ใช้โอกาสที่มีทำการสังเกตสถานการณ์จากในหุบเขาอย่างรอบคอบ
ห่าฝนธนูถูกยิงมานับไม่ถ้วน ทั่วทั้งหุบเขามีแต่ลูกธนูปักไปทั่วตั้งแต่พื้นไปจนถึงทั้งร่างของทหารที่ตายไปแล้ว อย่างไรก็ตามลูกธนูนั้นไม่อาจปกปิดเลือดที่ไหลมาตามช่องหินได้
สิ่งที่แปลกคือเลือดไหลมาทางเขาอย่างต่อเนื่อง ถังหยินไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ชายหนุ่มคิดว่ามันอาจเป็นเพราะจุดที่เขาอยู่นั้นเป็นพื้นราบที่ต่ำกว่าบริเวณอื่น
ทหารบางนายโชคดีที่หลีกเลี่ยงลูกธนูมาได้ พวกเขาก็ได้แต่ร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวด เสียงแห่งความโศกเศร้าที่ดังอยู่ในขณะนี้ มันได้เปลี่ยนหุบเขาแห่งนี้ให้กลายเป็นนรกไปแล้ว
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน ห่าฝนธนูก็ได้หยุดลง
ไม่มีลมในหุบเขา แต่ถังหยินกลับรู้สึกได้ถึงความเย็นในร่างกายของเขา ชายหนุ่มยื่นมือของไปจับเสื้อของตัวเอง มันเปียกโชกไปด้วยเหงื่อราวกับว่าพึ่งจากโดยสายฝนมายังไงยังงั้น
พลังทั้งหมดในร่างกายของเขาถูกดูดออกไปอย่างสมบูรณ์ ถังหยินรู้สึกเวียนหัว ชายหนุ่มยืนต่อไปแบบนี้ไม่ไหวแล้ว เขาพิงหลังเข้ากับกำแพงหน้าผา และนั่งลงอย่างช้า ๆ
ถังหยินต้องการที่จะหายใจและหยุดพัก หากแต่อีกฝ่ายก็ไม่ให้โอกาสเขา เสียงคำรามดังก้องมาจากนอกหุบเขา มันดังเสียจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน
ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของถังหยิน ในขณะที่เขาหันหน้าไปทางปากทางเพียงหนึ่งเดียวของหุบเขาแห่งนี้ ซึ่งมันก็คงจะดีกว่าถ้าเขาไม่เห็นมัน เพราะตอนนี้ชายหนุ่มได้เห็นเข้ากับกองทหารกลุ่มใหญ่ที่สวมชุดเกราะสีเงิน พวกเขาเหล่านั้นกำลังสร้างกระบวนทัพเป็นรูปสี่เหลี่ยม
ภายใต้เงาของดวงอาทิตย์ เกราะสีขาวที่ยืนอัดแน่นอัดแน่นกันอยู่ พวกมันเปรียบเสมือนกับกระจกบานใหญ่ที่สว่างไสวจนทำให้ผู้คนไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะจ้องมองไปที่ตรงไหน
ในเวลาเดียวกัน ความกดดันจำนวนมากก็ได้พุ่งทะลวงเข้าไปในจิตใจของพวกเขา มันทำให้คนเหล่านั้นตื่นตระหนกและชวนกดดันเสียจนหายใจไม่ออก
ถังหยินไม่เคยรู้สึกกดดันเช่นนี้มาก่อน
ชายหนุ่มไม่จำเป็นที่ต้องวิ่งขึ้นไปด้านหน้าเพื่อนับจำนวนทหาร เขาเพียงแค่ดูจากระยะไกลเท่านั้นก็พอแล้ว และเมื่อถังหยินได้ยินเสียงฝีเท้าที่ชวนให้จิตใจต้องสั่นสะท้าน มันก็ไม่ยากเลยที่จะเดาจำนวนคน ในกระบวนทัพนั่นต้องมีคนมากกว่า 10,000 นายเป็นแน่ และด้วยคนจำนวนมากขนาดนั้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ เพราะเพียงแค่พวกเขาผลัดกันเข้ามาเตะต่อยกันคนละที พวกข้าศึกก็คงตายกันหมดอยู่ดี
ถังหยินนั้นเคยเจอกับเรื่องแย่ ๆ มามากมาย ดังนั้นเขาจึงสามารถคงสติของเขาเอาไว้ได้ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เขากลับกำลังตื่นตระหนกแบบสุด ๆ เพราะชายหนุ่มรู้แน่ชัดแล้วว่าภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีความเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อยที่เขาจะมีชีวิตรอดไปได้ ถังหยินเลียริมฝีปากที่แห้งผากของเขา เม็ดเหงื่อมากมายไหลไปทั่วใบหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอนตัวลงนอนราบไปกับพื้นเบื้องหลัง
น่าเสียดายที่มีหน้าผาอันแข็งและเย็นอยู่ข้างหลัง มันทำให้เขาไม่มีทางหนี
ฟู่ว!
ถังหยินถอนหายใจแล้วส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น มันเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริง ๆ ถึงแม้เขาจะสามารถรอดชีวิตจากการระเบิดของพวกนักฆ่ามาได้ แต่เขากลับต้องมาตายในสนามรบด้วยอาวุธโบราณแบบนี้
นี่เป็นการลงโทษของพระเจ้าสำหรับการฆ่าคนหรือ ? ชายหนุ่มเย้ยหยันตัวเองในขณะที่เขาไตร่ตรอง ในขณะนั้นเองถังหยินก็ตระหนักว่ามือของเขาที่ถูกกดลงบนพื้นดินอย่างนุ่มนวล
หุบเขาเต็มไปด้วยหิน ไม่มีดิน ดังนั้นมันจะอ่อนนุ่มได้อย่างไร ? เขารีบก้มหัวลงเพื่อตรวจสอบ มีรอยแตกมากมายบนหน้าผาด้านหลังของเขา ซึ่งนั่นก็เป็นเส้นทางที่เลือดทั้งหมดที่ไหลผ่านไหลไปตามรอยแตก เห็นได้ชัดว่าภายในรอยแตกนั้นว่างเปล่า
ราวกับว่าเขาได้ค้นพบทวีปใหม่ ใบหน้าของถังหยินเผยถึงความสุข เขาคว้าหอกที่หักและแทงเข้าไปในรอยแตก ปลายหอกจมลงไปด้านในอย่างง่ายดาย ซึ่งอันที่จริงแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา มันคงเป็นไปไม่ได้ที่หอกจะเข้าไปลึกมากแบบนี้ได้
มีถ้ำอยู่จริง ๆ ! หัวใจของเขาเต้นเร็ว เขากัดฟันแล้วพาร่างกายที่อ่อนล้าและใช้มือกับเท้าของเขาขุดที่หินแตกที่เชิงกำแพง
ฮู่ล่า ฮู่ล่า!
ในไม่ช้าชายหนุ่มก็สามารถขุดเอาหินออก จนมีรูขนาดเท่ารูสุนัขที่เชิงกำแพง ภายในนั้นมืดสนิท และเนื่องจากหลุมมีขนาดเล็กเกินไป ดังนั้นถังหยินจึงต้องการขุดให้ใหญ่กว่านี้อีกเล็กน้อย หากแต่หน้าผารอบ ๆ ถ้ำนั้นแข็งมากแม้ว่าเขาจะเจาะปลายหอกเข้าไปก็ไม่สามารถตัดมันให้เปิดได้
ถังหยินมองไปยังรูเล็ก ๆ ที่มีความยาวเพียงหนึ่งฟุต จากนั้นชายหนุ่มก็หันหัวของเขามองไปที่กระบวนทัพของศัตรูที่ใกล้เข้ามา โดยไม่ลังเลอีกต่อไปเขาก้มลงและขุดลงไปในหลุมด้วยพลังทั้งหมดของเขา แม้ว่าเขาจะตัวผอม แต่ถ้ำก็ยังแคบเกินไปอยู่ดี เมื่อชายหนุ่มเจาะเข้าไปในถ้ำ ขอบของก้อนหินก็คมเหมือนมีด มันฉีกเสื้อผ้าของเขาและบาดเข้าไปในเนื้อเยื่อบนร่างเขา
ถังหยินเจ็บปวดมาก จนเหงื่อและน้ำตาไหลเหมือนสายฝน อย่างไรก็ตามชายหนุ่มไม่กล้าร้องไห้ออกมา เขาไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง
ทหารของศัตรูเข้ามาใกล้แล้ว โชคยังดีที่หุบเขามืดและคนที่อยู่ด้านหลังหน้าผาก็น่าจะยังไม่เห็นตัวเขา แต่ถ้าเขาตะโกนพวกเขาจะดึงดูดความสนใจของพวกเขาอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มไม่กล้าเสี่ยงและเลือกที่จะกัดฟันอดทนได้
ในที่สุดเมื่อเขาเจาะรูเข้าไปในถ้ำได้ ถังหยินก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยอ่อน เหงื่อมากมายไหลลงมาที่บาดแผลของเขา ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ปวดแสบเป็นอย่างมาก
ถังหยินนั่งลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง ในเวลาเดียวกันเขาก็สังเกตเข้าไปในถ้ำ แสงสลัวส่องจากทางเข้า ชายหนุ่มพบว่าถ้ำนั้นค่อนข้างกว้าง และแน่นอนว่าพื้นที่อันกว้างขวางนี้มันก็ขัดแย้งกับทางเข้าที่แสนแคบ
ถ้ำมีเส้นทางเป็นวงกลม และชายหนุ่มไม่สามารถมองเห็นว่ามันเข้าไปลึกแค่ไหน ในทางกลับกันเขาสามารถมองเห็นเลือดที่ไหลเข้าไปในถ้ำได้อย่างชัดเจน
ถังหยินนั่งบนพื้นเป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงกรีดร้องจากภายนอก ชายหนุ่มกลัวจนเขารีบก้มลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้า และมองออกไปนอกรู
ทหารในชุดเกราะสีขาวได้เข้ามาในหุบเขาแล้ว กองทัพนับหมื่นเป็นเหมือนดั่งสัตว์เหล็กยักษ์ที่เหยียบย่ำอย่างไร้ความปรานีบนซากศพ หากพวกเขาพบทหารที่รอดชีวิต ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ก็ตาม หอกของพวกเขาจะแทงเข้าไปปลิดชีพอย่างไร้ความปรานี
แม้ว่าถังหยินจะเป็นคนโหดร้ายและไร้ความปรานี แต่ทหารด้านนอกนั้นเลือดเย็นและเลวทรามยิ่งกว่าเขาเสียอีก สายตาที่เยือกเย็นออกมาจากดวงตาของเหล่าทหารทำให้แม้แต่ถังหยินที่ฆ่าคนได้ไม่กะพริบตารู้สึกอึดอัด
มีผู้เสียชีวิตจากการสังหารหมู่นี้ถึง 3,000 นาย นี่แหละคือความโหดร้ายของสงคราม
ถ้ำที่ถังหยินซ่อนตัวอยู่ถ้ำมันทั้งแคบและตั้งอยู่ตรงมุมหน้าผา นี่จึงทำให้มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะถูกพบตัว อย่างน้อยชายหนุ่มก็คิดว่าเขาน่าจะสามารถหลีกเลี่ยงความยากลำบากครั้งนี้ไปได้ แต่แล้วเขาก็ตระหนักได้ถึงความผิดพลาดของตัวเองอย่างรวดเร็ว
เพราะหลังจากที่อีกฝ่ายกวาดผ่านหุบเขา พวกมันกลับไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ทว่าคนพวกนั้นกลับทำอะไรบางอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีคนรอดไปจากหุบเขานี้ได้ พลทหารเกราะขาวพวกนั้นพากันใช้น้ำมันและจุดไฟทิ้งไว้ก่อนที่เขาจะเดินจากไป ทันใดนั้นทั้งหุบเขาก็กลายเป็นทะเลเพลิง
ถังหยินต้องการที่จะปิดทางเข้าถ้ำเพื่อป้องกันควันไฟ แต่ในถ้ำก็มีเพียงแค่ดินเท่านั้น เมื่อชายหนุ่มทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ดินเข้าไปให้ลึกขึ้น ทว่าในถ้ำมันก็ไม่ได้ลึกอย่างที่คิด เข้าไปเพียงนิดเดียวก็ตันเสียแล้ว
หลังจากค้นหาไประยะหนึ่ง ในที่สุดชายหนุ่มก็หมดหวัง ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำปิดตาย มันไม่มีหนทางอื่นใดเลย ในท้ายที่สุด ถังหยินก็ค่อย ๆ นั่งลงอย่างช้า ๆ พร้อมกับบาดแผลจากลูกศรบนไหล่ของที่ยังคงเลือดไหลไม่หยุด มันได้เอาดึงพลังงานออกจากร่างกายของชายหนุ่ม ทีละนิด ทีละน้อย
ฉันจะตายที่นี่ใช่ไหม ตายในสถานที่แปลก ๆ แบบนี้งั้นเหรอ ? ถังหยินเงยหน้าขึ้นมองผนังถ้ำ ชายหนุ่มยกเสื้อผ้าขึ้นปิดจมูกและปากของเขาเพื่อปิดกั้นควันไฟ รอยยิ้มอันแสนขมขื่นปรากฏขึ้นบนใบหน้า