บทที่ 38 เฉิงชิวอวี้เกิดปัญหา
“พ….พี่ชาย จ…ใจเย็นก่อน พวกผมยอมแล้ว พวกผมไปแล้ว!!” เมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามเหนือมนุษย์เกินไป นักเลงกลุ่มนี้ทั้งหมดก็ไม่มีกะจิตกะใจจะสู้ต่ออีกแล้ว
เมื่อพูดจบพวกนักเลงรีบแบกร่างเพื่อนที่หมดสติและพากันวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วทันทีโดยไม่หันกลับมามองอวี้ฮ่าวหรานแม้แต่วินาทีเดียว
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างดูถูกให้กับพวกกลุ่มนักเลงพลางคิดในใจ ‘อย่างน้อย ๆ ไอ้พวกกลุ่มนี้ก็ยังฉลาดอยู่บ้างที่หนีไป ไม่เหมือนกับไอ้พวกโง่กลุ่มอื่น ๆ ก่อนหน้านี้!’
จากนั้นอวี้ฮ่าวหรานเดินตรงเข้าไปหาซูหว่านเอ๋อ
“ขอบคุณ…” ซูหว่านเอ๋อก้มหัวขอบคุณอวี้ฮ่าวหรานทันทีเมื่อเธอเห็นว่าเขาเดินเข้ามาหา
ตอนนี้เธอรู้สึกซาบซึ้งใจมากกว่าเดิม เพราะวันนี้อวี้ฮ่าวหรานช่วยเธอสองรอบแล้ว
“ไม่เป็นไร รีบกลับบ้านคุณไปเถอะ คราวหลังก็อย่าออกมาในที่แบบนี้คนเดียวอีก มันอันตราย” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้น
“เอ่อ…ให้ฉันเลี้ยงข้าวคุณเพื่อเป็นการตอบแทนได้ไหม คุณช่วยฉันสองครั้งแล้ววันนี้…” เมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามกำลังจะเดินไป ซูหว่านเอ๋อรีบดึงชายเสื้อของอวี้ฮ่าวหรานเอาไว้ด้วยสีหน้าเขินอาย “ค..คือ ตอนนี้มันก็เที่ยงแล้ว คุณคงยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกันใช่ไหม?”
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกงงอยู่เหมือนกัน เมื่อจู่ ๆ ซูหว่านเอ๋อชวนเขาไปกินข้าวแบบนี้ แต่เมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงที่ฟังดูจริงใจของฝั่งตรงข้ามเขาก็ปฏิเสธไม่ลง
“ก็ได้”
อันที่จริงอีกสาเหตุที่เขาไม่ปฏิเสธก็เพราะนี่มันเที่ยงแล้ว และเขาก็หิวแล้วเช่นกัน
จากนั้นทั้งคู่ก็ขับรถไปคนละคัน โดยที่อวี้ฮ่าวหรานเป็นคนขับตามและให้ซูหว่านเอ๋อนำทางไปยังร้านอาหารที่เธอรู้จัก
ไม่นานนักทั้งคู่ก็ไปนั่งอยู่ร้านอาหารหรูระดับมิชลิน 2 ดาว ซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
“คุณอยากกินอะไรคุณสั่งได้เลยนะ!” ซูหว่านเอ๋อเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเบิกบานพร้อมกับยื่นเมนูให้กับอวี้ฮ่าวหราน
เธอรู้สึกดีใจมากที่อวี้ฮ่าวหรานยอมตกลงมาทานข้าวกับเธอ ภาพที่ผู้ชายคนนี้ปกป้องเธอถึงสองครั้งมันสร้างความประทับใจให้กับเธอจนเธออยากจะรู้จักกับเขามากขึ้น ต้องรู้ไว้ว่าเธอไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายมากสักเท่าไหร่ในชีวิตเธอ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกทั้งตื่นเต้นและมีความสุขอย่างน่าประหลาดไปพร้อม ๆ กัน
ในทางกลับกันเมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามบอกว่าสั่งได้ตามสบาย และดูเหมือนว่าฝั่งตรงข้ามจะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน อวี้ฮ่าวหรานจึงสั่งเต็มที่ตามที่เขาอยากกินโดยไม่เกรงใจเลย
อันที่จริงเขายังแปลกใจเล็กน้อยกับผู้หญิงคนนี้ เพราะผู้หญิงคนนี้ดูไม่ค่อยจะเจนโลกสักเท่าไหร่เลย เธอดูใสซื่อบริสุทธิ์เกินไป ซึ่งมันหายากมากกับสังคมในโลกใบนี้ที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
“ในอนาคตคุณต้องระวังตัวเองมากกว่านี้ โดยเฉพาะเวลาออกมาซื้อของราคาแพง ๆ อย่าเดินไปในที่ที่คนอยู่น้อย ๆ ผู้คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้หรอก” อวี้ฮ่าวหรานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนเธอ
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว…” ซูหว่านเอ๋อพยักหน้ารับคำ แต่เมื่อเธอเหลือบไปสบตามองกับอวี้ฮ่าวหรานเธอก็รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตไปทั้งร่าง เธอรีบก้มหน้าปกปิดอาการเขินอายของเธอทันที
หลังจากรอไปได้ครู่หนึ่ง อาหารว่างก็มาเสิร์ฟก่อน แต่ก่อนที่อวี้ฮ่าวหรานจะทันได้ตักเข้าปาก จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
“ไอ้หนุ่ม แกใช่ไหมที่เป็นคนฆ่าหยางเหยียน?”
เสียงอันเย็นชาดังออกมาจากปลายสาย
“แกอยากปกป้องไอ้แก่เฉิงกัวอันนักใช่ไหม? ได้! ฉันให้เวลาแก 1 ชั่วโมง ตอนนี้ลูกสาวเฉิงกัวอันอยู่ในมือของฉันแล้ว มาที่โกดังเก็บสินค้าหมายเลข 52 ตอนเหนือของชานเมือง แต่ถ้าหากแกมาไม่ทันล่ะก็ หึหึหึ…”
เมื่อพูดจบประโยคนี้ปลายสายก็ตัดสายไปทันที
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วแน่นก่อนที่จะโทรหาเฉิงกัวอันเพื่อยืนยันสิ่งที่ฝั่งตรงข้ามพูดมาว่าเป็นความจริงหรือเปล่าทันที ซึ่งเฉิงกัวอันก็ยืนยันว่าลูกสาวของเขาออกจากบ้านไปเมื่อตอนเช้าแต่ตอนนี้เขาเองก็ยังติดต่อไม่ได้เลย
สรุปคือเฉิงชิวอวี้โดนจับตัวไปแน่นอนแล้ว!
“ถ้าคุณมีธุระคุณไปรีบไปก่อนเถอะ ฉันไม่เป็นไร” ซูหว่านเอ๋อเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจของอวี้ฮ่าวหราน
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้า จากนั้นเขารีบเดินออกจากร้านอาหารไปทันที
….
ที่โกดังร้างหมายเลข 52 ชานเมืองฮ่วยอัน..
ตอนนี้เฉิงชิวอวี้ถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้ที่กลางโกดัง สีหน้าของเธอในตอนนี้ดูหดหู่เป็นอย่างมาก
ผ่านไปไม่กี่วันฉันโดนจับมัดติดกับเก้าอี้อีกแล้ว! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?
“นี่พวกแกไม่กลัวพ่อฉันจะเรียกตำรวจมาจับพวกแกเข้าตารางหรือไงกัน!” ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าการขู่คนที่จับเธอมาไม่น่าจะได้ผลแต่เธอก็อยากลองดู…
“ตำรวจ? คุณหนูเฉิง คุณคิดว่าตำรวจจะช่วยอะไรคุณได้งั้นเหรอ? พวกเราคืออันดับต้น ๆ ในโลกใต้ดิน ไม่เคยมีสักครั้งที่พวกเราจะทำพลาด และไม่เคยมีสักครั้งที่ตำรวจจะตามหาพวกเราเจอ คุณหนูเฉิงคุณรอไปก่อนก็แล้วกัน เอาไว้หลังจากพวกผมฆ่าคนสนิทของพ่อคุณเสร็จผมจะพาคุณกลับไปหาพ่อของคุณและฆ่าคุณกับพ่อพร้อม ๆ กันตามที่คุณถงสั่ง คุณวางใจได้เลยคุณไม่ตายอย่างโดดเดี่ยวหรอก”
คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเฟิงเหลียนจ้าง เป็นคนที่ประธานถงว่าจ้างมาให้จัดการกับอวี้ฮ่าวหราน และ 2 พ่อลูกตระกูลเฉิงโดยตรง เขาพูดไปด้วยพร้อมกับเล่นมีดในมือตัวเองไปด้วย และยื่นหน้าเข้าไปหาเฉิงชิวอวี้ด้วยสีหน้าหยอกล้อ
“อ่า ไม่ใช่สิ ๆ เมื่อครู่ผมพูดข้ามขั้นตอนไปหน่อย หลังจากที่พวกผมฆ่าคนสนิทของพ่อคุณแล้ว ก่อนที่ผมจะพาคุณกลับไปหาพ่อของคุณ ผมและลูกน้องของผมจะพาคุณขึ้นสวรรค์ซะก่อน ไม่งั้นมันจะน่าเสียดายมาก ๆ ที่พวกเราจะจากกันไปโดยไม่ร่ำลาให้เหมาะสม หึหึหึ”
“ไปไกล ๆ ฉันเลยนะไอ้สารเลว!” เฉิงชิวอวี้พยายามเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ
เฟิงเหลียนจ้างหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นท่าทางขัดขืนของเฉิงชิวอวี้ “ฮ่าฮ่าฮ่า พยศแบบนี้ก็ดีฉันชอบ!”
ตอนนี้ในหัวของเฉิงชิวอวี้ จู่ ๆ ก็มีภาพหน้าของอวี้ฮ่าวหรานปรากฏขึ้น เธออยากให้เหตุการณ์แบบครั้งแรกที่เธอเจอกับเขาเกิดขึ้นอีก ที่เขามาช่วยเธอเอาไว้ได้สำเร็จ แต่พอเธอมองไปรอบ ๆ เธอก็เริ่มหมดหวัง
ที่นี่มันคือแดนสังหารที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นอย่างดี ต่อให้อวี้ฮ่าวหรานจะเก่งกาจ แต่เขาก็คงไม่สามารถจัดการกับพวกนักฆ่าที่อยู่กันเป็นโขยงแถมเตรียมพร้อมกันอยู่แล้วแบบนี้ได้จริงไหม?
“ตูม!!”
ในระหว่างที่เฉิงชิวอวี้กำลังหมดหวัง จู่ ๆ ประตูโกดังก็กระเด็นหลุดจากรางเพราะแรงถีบจากชายคนหนึ่ง
แน่นอนว่าคนถีบไม่ใช่ใครอื่น เขาคืออวี้ฮ่าวหรานนั่นเอง
“เหอะ ไอ้พวกมดแมลง” อวี้ฮ่าวหรานสบถขึ้นพร้อมกับค่อย ๆ เดินเข้ามาในโกดังด้วยสีหน้าเย็นชา
“อวี้ฮ่าวหราน! ที่นี่อันตรายนายรีบหนีไปซะ รีบไปบอกพ่อฉันให้หนีไปด้วย!” เฉิงชิวอวี้ตะโกนขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่มาคือคนที่เธอรอ แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่คิดว่าอวี้ฮ่าวหรานจะสามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ เธอจึงตะโกนไล่เขาให้ไปเตือนพ่อของเธอแทน
เธอยอมรับชะตากรรมของเธอเรียบร้อยแล้วว่าเธอไม่รอดแน่ เธอไม่อยากจะลากใครมาตายกับเธอด้วย
“ว้าว ๆๆ แกนี่กล้าหาญจริง ๆ บุกเข้ามาทางประตูหน้าซะด้วย แถมพละกำลังของแกนี่มันเหนือมนุษย์แบบที่ในข้อมูลบอกเอาไว้จริง ๆ ถีบประตูใหญ่ ๆ แบบนั้นล้มได้แบบง่าย ๆ ว่าแต่แกบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าเฉิงกัวอันจ่ายให้แกเท่าไหร่กันเนี่ย แกถึงได้ยอมเสี่ยงตายมาช่วยลูกสาวของมันแบบนี้?”
เฟิงเหลียนจ้างเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าขบขัน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกทึ่งกับพละกำลังของอวี้ฮ่าวหรานแต่เขาก็ยังใจเย็นได้อยู่เพราะเขาเตรียมการมาเป็นอย่างดีมาก
ต่อให้แรงเยอะแค่ไหนก็โดนลูกตะกั่วตายเหมือนกันหมดจริงไหม?
“ไม่อยากพูดงั้นเหรอ? ไม่เป็นไร ๆ ฉันไม่อยากรู้แล้วก็ได้ เฮ้อ น่าเสียดายแกเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าหากแกอยู่ฝั่งเดียวกับฉัน คนแรงเยอะอย่างแกคงมีอนาคตรุ่งแน่นอน แต่โชคร้ายที่พวกเราอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ซึ่งชะตากรรมของแกมีเพียงแค่อย่างเดียวคือ…ตาย!”
ทันทีที่เฟิงเหลียนจ้างพูดจบ กลุ่มคนที่แต่งตัวด้วยยุทธภัณฑ์ของหทารก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อนต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ซ่อนอยู่ที่ระเบียงชั้นลอยของโกดัง และที่เหลืออีกนิดหน่อยก็ซ่อนอยู่หลังเสาที่ชั้นเดียวกับเขา และที่สำคัญมากไปกว่านั้น คนพวกนี้ทุกคนต่างมีอาวุธเป็นปืนไรเฟิลจู่โจมกันทุกคน
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วด้วยความสงสัย คนพวกนี้ไปเอายุทธภัณฑ์รวมไปถึงปืนที่ใช้ในกองทัพมาใช้แบบนี้ได้ยังไงกัน?
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กลัวพวกมันเลย เพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่ากระสุนทำอะไรร่างเทวะของเขาไม่ได้
หลังจากกวาดสายตาสำรวจพื้นที่รอบ ๆ และจุดต่าง ๆ ที่พวกนักฆ่ายืนอยู่ อวี้ฮ่าวหรานก็คิดแผนเด็ด ๆ ขึ้นมาได้ในใจ
“เป็นไง? ทีนี้แกรู้แล้วใช่ไหมว่าต่อให้แกชกต่อยเก่งแค่ไหนแกก็ไม่รอดแน่นอนวันนี้ จงรู้เอาไว้ซะว่านี่มันคือความต่างระหว่างประธานถงกับคนธรรมดา ๆ อย่างแก!”