บทที่ 41 กลัวจนร้องไห้
อวี้ฮ่าวหรานอีกแล้ว!
ไอ้ขยะนี่อีกแล้ว!
ก่อนหน้านี้มันแย่งไปทั้งหลี่เม่ยและหลี่หรง มาวันนี้มันยังตามมากวนใจอีก!
เมื่อคิดได้เช่นนี้สีหน้าของอู๋เส้าฮัวก็เปลี่ยนจากตื่นตระหนกเป็นเดือดดาลอย่างรวดเร็ว
“พวกแกทั้งหมดเข้าไปกระทืบมันให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
อู๋เส้าฮัวตะโกนลั่นพร้อมกับโบกมือสั่งคนของเขาเองด้วยสีหน้าอาฆาต
บอดี้การ์ดร่างกำยำสิบกว่าคนค่อย ๆ เดินไปล้อมอวี้ฮ่าวหรานทันทีตามที่เจ้านายของพวกเขาสั่ง
“ฮึ่ม กล้ายั่วโมโหนายน้อยอู๋งั้นเหรอ วอนตายซะแล้วไอ้หนุ่ม!”
“อีกเดี๋ยวแกได้ร้องขอชีวิตแน่!”
อู๋เส้าฮัวมั่นใจมากว่ารอบนี้อวี้ฮ่าวหรานไม่รอดมือเขาแน่นอน เพราะคราวนี้บอดี้การ์ดที่เขาพามาแต่ละคนนั้นเป็นพวกมืออาชีพทั้งหมด แต่ละคนล้วนมีรูปร่างใหญ่โตและแข็งแรงกว่าคนปกติทั่วไป แถมทุกคนล้วนเชี่ยวชาญการต่อสู้ทั้งนั้น
ทางด้านของบรรดาพนักงานบริษัทหลี่หรง เมื่อเห็นภาพนี้พวกเขาต่างแสดงสีหน้าซีดเซียวด้วยความกลัว ไม่มีใครในพวกเขากล้าโทรแจ้งตำรวจ เพราะฝั่งตรงข้ามคือนายน้อยตระกูลอู๋ผู้มีอิทธิพล หากพวกเขาแจ้งตำรวจเมื่อไหร่พวกเขาเองนั่นแหละที่จะต้องเดือดร้อนในภายหลัง
ส่วนบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทตอนนี้ต่างก็หายหัวไปกันหมด เนื่องจากก่อนหน้านี้พวกเขาโดนบอดี้การ์ดเหล่านี้อัดไปรอบหนึ่งแล้ว พวกเขาไม่ต้องการโผล่หน้ามาเจ็บตัวอีกรอบ
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานกลับมองบอดี้การ์ดเหล่านี้ที่ยืนล้อมเขาอยู่ด้วยสายตาดูถูก
“เหอะ ก็แค่มดแมลง!”
เมื่อได้ยินอวี้ฮ่าวหรานดูถูก บอดี้การ์ดร่างใหญ่ที่สุดในกลุ่มซึ่งมีความสูงถึง 190 เซนติเมตรก็ลงมือทันที โดยการวิ่งเข้าหาในท่าเหยียดมือออกไปหวังจะคว้าคออวี้ฮ่าวหรานและยกตัวอวี้ฮ่าวหรานขึ้นเหมือนกับจับคอไก่
เขาประเมินเอาไว้แล้วว่าคงทำได้แบบสบาย ๆ แน่นอน เพราะตัวอวี้ฮ่าวหรานนั้นเล็กกว่าเขาเกือบครึ่ง
แต่แล้วในขณะที่มือของฝั่งตรงข้ามกำลังจะเข้ามาถึงตัว อวี้ฮ่าวหรานเหยียดมือสวนออกไปกุมมือฝั่งตรงข้ามและบีบอย่างแรง
“กร๊อบ!!”
“อ๊ากกกก!!”
กระดูกมือของบอดี้การ์ดร่างยักษ์แหลกละเอียดทันที จนฝ่ามือของเขาบิดผิดรูปเมื่อโดนมือของอวี้ฮ่าวหรานที่กุมเอาไว้บีบ
จากนั้นในขณะที่กำลังเจ็บปวดอย่างสุดใจ บอดี้การ์ดก็พยายามจะสวนกลับด้วยหมัดของตัวเองอีกข้าง แต่มันสายเกินไป แข้งของอวี้ฮ่าวหรานวาดเข้ามาที่หน้าท้องของเขาเต็ม ๆ ส่งตัวของเขาลอยขึ้นไปบนอากาศและกระเด็นไปไกลกว่า 5 เมตร!
“แอ่ก!”
“เอื้อก!”
เหล่าบอดี้การ์ดที่เหลือต่างกลืนน้ำลายกันเสียงดังเมื่อเห็นภาพนี้ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะมีมนุษย์คนไหนที่สามารถเตะสหายร่างยักษ์ของพวกเขาลอยไปได้แบบนั้น!
ต้องรู้เอาไว้ว่าสหายร่างยักษ์ของพวกเขาคนนี้มีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม!
นี่เจ้านายของพวกเขาสั่งให้พวกเขามาสู้กับตัวอะไรกันแน่เนี่ย!?
หรือว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นแค่การถ่ายหนัง?
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานนั้นไม่สนใจกับอาการตกตะลึงของพวกบอดี้การ์ด เขาลงมือต่อทันที
ผู้โชคร้ายรายต่อมาคือคนที่ยืนล้อมอยู่ด้านหลังอวี้ฮ่าวหราน เขาถูกอวี้ฮ่าวหรานพุ่งตัวมาต่อยเข้าเต็ม ๆ ชายโครง จนซี่โครงหักไปหลายซี่ด้วยการต่อยเพียงแค่หมัดเดียว เขาล้มตัวลงไปชักดิ้นชักงอทันที
ต่อมาบอดี้การ์ดที่ยังยืนงงอยู่ก็ล้มลงไปเรื่อย ๆ จากการโดนทั้งหมัดและแข้งของอวี้ฮ่าวหราน!
“ผลั่ก!!”
“ปัง!!”
“อั่ก!”
“กร๊อบ!!”
“อ๊ากก!!”
ด้วยความเร็วอันเหนือมนุษย์ของอวี้ฮ่าวหราน ไม่มีใครในพวกบอดี้การ์ดตอบโต้ได้ทันแม้แต่คนเดียว แค่เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นบอดี้การ์ดร่างกำยำที่ถูกฝึกมาดีสิบกว่าคนก็ลงไปนอนร้องโอดโอยที่พื้น
บรรดาคนทั่วไปรวมถึงพนักงานบริษัทของหลี่หรงที่เห็นภาพนี้ต่างอ้าปากค้าง
“นี่..นี่มัน นี่พวกเขากำลังถ่ายหนังกันอยู่หรือเปล่า?”
“ไม่จริงแน่ ๆ นี่มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงได้! คนธรรมดาคนเดียวจะเอาชนะไอ้พวกล่ำบึ้ก 10 กว่าคนพวกนั้นได้ยังไง? ไหนกล้องอยู่ไหน? มันต้องมีทีมงานถ่ายทำแอบถ่ายอยู่แถว ๆ นี้แน่ ๆ!”
ในเวลาเดียวกับที่ผู้คนรอบ ๆ กำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็น อวี้ฮ่าวหรานกลับแสดงสีหน้าสงบนิ่งราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
มันก็แค่การบี้มดบี้แมลง ไม่เห็นจะต้องมีความรู้สึกอะไรสักหน่อย!
เมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดทั้งหมดไม่เป็นภัยกับหลี่หรงแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาตัวการซึ่งก็คืออู๋เส้าฮัว
“ย…อย่าเข้ามานะโว๊ย!!”
เมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามเดินเข้ามาหา อู๋เส้าฮัวตะโกนลั่นด้วยสีหน้าหวาดกลัวพร้อมกับค่อย ๆ ก้าวถอยหลังด้วยอาการตัวสั่น
แต่แล้วเมื่ออวี้ฮ่าวหรานเดินเข้ามาในระยะ 2 เมตร สีหน้าของอู๋เส้าฮัวเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันกลายเป็นเหี้ยมเกรียมทันที!
“แกโดนหลอกแล้วไอ้เวร!”
จู่ ๆ อู๋เส้าฮัวก็ควักมีดสั้นออกมาจากหลังเอวของเขา และพุ่งตัวสวนไปหาอวี้ฮ่าวหรานอย่างรวดเร็ว
ในช่วงวินาทีนี้อู๋เส้าฮัวรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างมากที่สามารถหลอกล่อฝั่งตรงข้ามให้ตายใจจนเข้ามาถึงระยะที่เขาสามารถหวังผลได้
เหอะ แกเก่งแล้วไง?
ใกล้ขนาดนี้แกหลบไม่ได้แน่!
ต่อให้แกเก่งแต่ก็ยังไม่มีสมองเหมือนเดิม ไอ้สวะเอ๊ย!
ในทางกลับกันอวี้ฮ่าวหรานกลับหัวเราะเบา ๆ ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ร่างเทวะของเขาแม้แต่กระสุนปืนยังทำอะไรไม่ได้ แต่ไอ้เวรนี่มันคิดว่ามีดของมันจะแทงเขาเข้า? น่าขำสิ้นดี!
เพื่อไม่ให้ผู้คนแถวนี้แตกตื่นมากเกินไป อวี้ฮ่าวหรานจึงเลือกที่จะไม่หักมีดของฝั่งตรงข้ามทิ้ง เขาเลือกจะเบี่ยงตัวหลบ จากนั้นก็กำข้อมือของอู๋เส้าฮัวเอาไว้แน่นและแย่งมีดจากอีกฝ่ายมาโยนทิ้งไป
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำ อู๋เส้าฮัวไม่อาจตอบโต้อะไรได้ทันเลย แต่ถึงแม้ว่าเขาจะตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นแบบนี้ สีหน้าของเขาก็ยังคงจองหองได้อยู่ เขาตวาดลั่นใส่อวี้ฮ่าวหราน
“ไอ้สวะ แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ อย่าเอามือสกปรกของแกมาจับฉัน! ไม่งั้นฉันสาบานเลยว่าฉันจะทำให้ครอบครัวของแกอยู่ในสภาพตกนรกทั้งเป็น!”
“เร็วเข้า รีบปล่อยสิวะ! แกรู้ไหมว่าแค่ฉันพูดคำเดียวพ่อของฉันก็สามารถทำให้แกหายไปได้ตลอดกาลนะโว๊ย!”
คำพูดหยาบคายต่าง ๆ นานาพรั่งพรูออกมาจากปากของอู๋เส้าฮัว ราวกับว่าอาหารทุกมือที่เขากินเข้าไปมีแต่สิ่งโสมม
สิ่งนี้มันทำให้แม้แต่อวี้ฮ่าวหรานที่มีความอดทนเป็นเลิศยังรู้สึกโมโห
“กร๊อบ!!”
“อ๊าก ข้อมือฉัน ข้อมือฉัน!!”
แน่นอนว่านี่คือเสียงกระดูกข้อมือของอู๋เส้าฮัวถูกอวี้ฮ่าวหรานบีบจนแตก มันส่งผลทำให้สีหน้าที่หยิ่งยโสของอู๋เส้าฮัวเปลี่ยนเป็นทุรนทุรายทันที
“อ…ไอ้สารเลว ครอบครัวของแกฉันจะ…”
“กร๊อบ!!”
รอบนี้อวี้ฮ่าวหรานใช้มืออีกข้างหักนิ้วชี้กับนิ้วกลางของฝั่งตรงข้ามเพิ่ม
“อ๊ากก!! นิ้วฉัน ๆๆ…ฮือ…ฉ..ฉัน..ผ..ผิดไปแล้ว…โปรด…หยุด…”
แน่นอนว่าความเจ็บปวดจากการถูกหักกระดูกสองรอบติดมันทำให้คนธรรมดาอย่างอู๋เส้าฮัวยอมแพ้ทันทีไม่ว่าเขาจะโกรธอวี้ฮ่าวหรานมากสักแค่ไหน น้ำตาของเขาเริ่มไหลออกมาราวกับเด็ก ไม่เหลือภาพลักษณ์นายน้อยผู้โอหังเลยสักนิด
“โปรดเถอะ….โปรดเถอะ…ให้อภัยฉันเถอะ…”
“กร๊อบ!! อ๊าก!!”
อวี้ฮ่าวหรานยังคงไม่หนำใจ เขาหักท่อนแขนข้างเดียวกับที่เขาหักทั้งข้อมือและนิ้วของอู๋เส้าฮัวเพิ่มอีกเพื่อเป็นการระบาย และถือเป็นการเก็บดอกเบี้ยจากสิ่งที่อู๋เส้าฮัวเคยทำกับเขาไว้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน!
“ไสหัวไปได้แล้ว ถ้าแกยังกล้ากลับมาที่นี่อีกวันนั้นจะเป็นวันตายของแก!”
หลังจากพูดจบอวี้ฮ่าวหรานก็โยนร่างของอู๋เส้าฮัวราวกับโยนขยะชิ้นหนึ่งไปยังกลุ่มบอดี้การ์ดที่นอนโอดโอยอยู่
“ป…ไป..เร็ว พวกแกรีบพาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
หลังจากถูกปล่อยตัวอู๋เส้าฮัวก็รีบตะโกนใส่บรรดาบอดี้การ์ดที่นอนอยู่ใกล้ ๆ เขาทันทีด้วยสีหน้าหวาดกลัวสุดขีด
เขาไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกแม้แต่วินาทีเดียว ตอนนี้เขารู้สึกว่าอวี้ฮ่าวหรานน่ากลัวมากเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้ซะอีก!
บรรดาบอดี้การ์ดที่นอนเจ็บเมื่อได้ยินคำสั่งพวกเขาต่างก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล และค่อย ๆ พาตัวอู๋เส้าฮัวหนีไปด้วยความเร็วเท่าที่พวกเขาพอจะทำไหว