บทที่ 58 ฆ่า!
เมื่อพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานโคจรพลังวิญญาณตัวเองไปทั่วร่างจากนั้นเขาพุ่งตัวสวนกลุ่มนักฆ่าที่พุ่งเข้ามาหา
“เคร้ง! พลั่ก!!”
อวี้ฮ่าวหรานออกหมัดชกไปที่นักฆ่าคนแรกที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน เต็มแรงจนมีดสั้นในมือของนักฆ่าแตกกระจาย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ แรงหมัดของอวี้ฮ่าวหรานน้องลงเลย หมัดของเขายังคงพุ่งต่อไปปะทะเข้าไปที่อกของนักฆ่าอย่างจัง
ยังโชคดีที่นักฆ่าผู้นั้นมีพลังปราณปกป้องร่างอยู่ ดังนั้นเขา จึงกระเด็นลอยไปชนกับกำแพงแค่เพียงอย่างเดียว อวัยวะภายในของเขายังคงไม่ถูกทำลาย แต่แน่นอนว่าความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ถึงแม้ว่าจะพลังปราณทำหน้าที่ปกป้องไปแล้วก็ตาม
“ตาย!”
อวี้ฮ่าวหรานตะโกนขึ้นอีกรอบ ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหานักฆ่าคนต่อไปและชกหมัดออกไปเหมือนเดิม
พวกผู้ฝึกยุทธงั้นเหรอ? ไร้สาระ! พลังปราณงั้นเหรอ? อ่อนหัด!
ไอ้พวกมดแมลงพวกนี้กล้าต่อกรกับเทพอย่างข้าได้ยังไง? แค่วิธีการบ่มเพาะของพวกมันอย่างเดียวก็น่าอดสูจนไม่อยากจะชายตามองแล้ว!
แค่เวลาเพียงครู่เดียว บรรดานักฆ่าทั้งหมดก็ใช้พลังปราณ จนไม่เหลือหลอไปกับการป้องกันตัวเองจากอวี้ฮ่าวหราน
แน่นอนว่าเมื่อพลังปราณของพวกเขาหมด อวี้ฮ่าวหรานก็ไล่ฆ่าเรียงตัวได้อย่างง่ายดาย
“องค์กรอสรพิษมีดีแค่นี้งั้นเหรอ?”
แค่ไม่ถึง 2 นาที!
แค่ไม่ถึง 2 นาที ออฟฟิศของชายชราก็เต็มไปด้วยเลือดที่หลั่งจากศพของนักฆ่าทั้ง 15 คน!
เมื่อเผชิญกับเหล่าผู้คนที่ทำร้ายครอบครัวของเขา อวี้ฮ่าวหราน ไม่มีความคิดที่ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย!
“ถึงคราวแกแล้วตาแก่!”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นพร้อมกับค่อย ๆ เดินตรงไปหาชายชรา ด้วยสีหน้าเย็นชา
ทางด้านของชายชราเมื่อเห็นเช่นนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็น มืดหม่นไม่ต่างอะไรกับถ่านไม้
เขานึกไม่ออกเลยว่าคนที่ยังหนุ่มขนาดนี้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ได้ยังไง?
มันเป็นไปไม่ได้หากฝั่งตรงข้ามจะเริ่มฝึกฝนได้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่หรอกจริงไหม?
“แกเป็นใครกันแน่?”
ชายชราถามกลับพลางมองสำรวจอวี้ฮ่าวหรานอย่างละเอียด อีกรอบ ทั้งพยายามทบทวนความจำของเขาอย่างสุดฤทธิ์ ว่าอวี้ฮ่าวหรานคือหนึ่งในอัจฉริยะที่เขาเคยเห็นหน้ารึเปล่า?
“ฉันเหรอ? นี่แกยังไม่รู้อีกงั้นเหรอว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นคนที่แกเพิ่งส่งคนไปตามฆ่าเมื่อหลายวันก่อนนี้ไงล่ะ!”
อวี้ฮ่าวหรานยิ่งรู้สึกโมโหชายชรามากกว่าเดิม ดูเหมือนว่า ฝั่งตรงข้ามไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับเขาเลย ฝั่งตรงข้ามมองเห็นเขาเป็นแค่งาน งานหนึ่งเท่านั้นที่ไม่ต้องจำใส่ใจอะไรมากมาย!
“คนที่ฉันเพิ่งส่งคนไปฆ่า? แกคืออวี้ฮ่าวหรานนั่นน่ะเหรอ?”
ชายชราครุ่นคิดอยู่พักใหญ่จนในที่สุดเขาก็จำได้ว่าอวี้ฮ่าวหรานเป็นใคร
“หึ! ทีนี้แกรู้แล้วสินะว่าฉันมาที่นี่ทำไม!”
อวี้ฮ่าวหรานตวาดขึ้นดังลั่นก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปหาชายชราด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
“ปัง!!”
ชายชราไม่ทำให้เสียชื่อในฐานะที่เป็นผู้บริหารขององค์กรอสรพิษแม้แต่น้อย เขาสามารถยกแขนขึ้นมารับหมัดของอวี้ฮ่าวหรานได้อย่างทันท่วงที
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะบล็อกการโจมตีของอวี้ฮ่าวหรานได้สำเร็จ แต่เขาสัมผัสได้ว่าพลังปราณของเขาหายไปเป็นจำนวนมหาศาลสำหรับการหักล้างความรุนแรงของหมัดอวี้ฮ่าวหราน แค่เพียงหมัดเดียว!
ขืนสู้ต่อไปไม่ดีแน่นอน!
ชายชรารีบถอยกรูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก พร้อมกับเขวี้ยงโซฟาที่อยู่ใกล้ ๆ เข้าใส่อวี้ฮ่าวหราน อวี้ฮ่าวหรานต่อยโซฟาจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นเขาพุ่งตัวตาม ไปทันทีด้วยความเร็วที่เหนือกว่าและออกหมัดเต็มแรงไปอีกหมัด!
ชายชรามองไปที่หมัดที่ตรงดิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าสิ้นหวัง เขาไม่คิดว่าอวี้ฮ่าวหรานจะทรงพลังมากขนาดนี้ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม นักฆ่าที่เขาพามาด้วยถึงตายกันหมดภายในเวลาไม่ถึง 2 นาที!
นี่คือศัตรูที่เขาไม่อาจต่อกรด้วยได้!
เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้พูดเกินจริงเลย เขาสามารถทำลายที่นี่ให้ ราบเป็นหน้ากลองได้จริง ๆ!
“ปัง ปัง ปัง ปัง!!”
ทั้งคู่แลกหมัดกันเป็นสิบครั้งภายในเวลาชั่วพริบตา จนข้าวของ ในห้องแตกกระจายเละเทะ
ท้ายที่สุดหลังจากผ่านไปราว 3 นาที พลังปราณในร่างของชายชราก็หมดลง และนั่นเป็นโอกาสให้อวี้ฮ่าวหรานคว้าคอชายชราได้สำเร็จ
ในทันทีที่อวี้ฮ่าวหรานคร่ากุมฝั่งตรงข้ามได้ เขาตบปากฝั่งตรงข้ามให้ยาพิษหลุดออกจากปากชายชราทันที
เขากลัวว่าชายชราจะชิงฆ่าตัวตายไปซะก่อนที่เขาจะทันได้คุยด้วย
“พูดมา! แกมีสถานะอะไรในองค์กร? และใครจ้างแกมาฆ่าฉัน?”
ชายชรารู้สึกช็อกที่ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ กี่ปีแล้วที่เขาไม่ได้ตกอยู่ภายใต้การข่มเหงจากผู้อื่นเช่นนี้?
ความรู้สึกปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อและความกลัวตายเริ่มพรั่งพรูเข้ามาในจิตใจของชายชรา แต่ผลของการที่เขาผ่านการฝึกหฤโหดมา นับไม่ถ้วนมันทำให้เขาปิดปากแน่นไม่ยอมคายข้อมูลอะไรออกไป
“กร๊อบ!!”
เมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามไม่ยอมปริปาก อวี้ฮ่าวหรานหักนิ้วของ ชายชราทีละข้อทันที
อวี้ฮ่าวหรานพอจะรู้อยู่เหมือนกันว่าคนระดับสูงของพวกองค์กร นักฆ่าล้วนแล้วแต่ปากแข็ง ดังนั้นเขาจำเป็นต้องใช้เวลาทรมานคนเหล่านี้มากกว่าคนปกติสักหน่อย
“กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ!”
อวี้ฮ่าวหรานยังคงหักนิ้วของชายชราไปทีละข้อไปเรื่อย ๆ ซึ่งทางด้านของชายชราก็ยังคงปากแข็ง แต่ตอนนี้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดเซียวจากความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
“กร๊อบ!!”
เมื่อหักกระดูกนิ้วจนหมด อวี้ฮ่าวหรานพลันจัดการหักแขนของ ฝั่งตรงข้ามต่อ!
“พูดมา!”
อวี้ฮ่าวหรานต้องการรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนจ้างวาน!
“กร๊อบ!!”
แขนอีกข้างของชายชราถูกหักไปเช่นกัน และคราวนี้เริ่มมีเลือดไหลออกจากมุมปากของชายชรา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตอนนี้เขามาถึง จุดขีดสุดของความอดทนแล้ว
ตอนนี้เขาเจ็บปวดจนแทบคลั่ง!
“ฉันพูด…ฉันพูดแล้ว!”
ชายชราพูดตะกุกตะกักเพราะความเจ็บปวด
“ฉันคือหัวหน้าสาขาเมืองฮ่วยอันขององค์กรอสรพิษ ส่วนคนที่ จ้างวานให้ฉันฆ่าแกคือประธานถงจากบริษัทเว่ยไห่ ครั้งนี้เขาจ่ายหนักมากเพียงเพื่อให้ฆ่าแกแค่คนเดียว!”
ในทันทีที่ชายชราเอ่ยจบ เขาก็รู้สึกหดหู่ในใจ
นี่เขารับงานบ้าอะไรมา? เขารับงานสังหารตัวตนที่น่ากลัวแบบนี้ มาได้ยังไง!
ถงไห่เว่ยนะถงไห่เว่ย แกจงใจเล่นงานฉันใช่ไหม! เมื่อได้ยินคำตอบนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็โกรธจนกำหมัดแน่น
ที่แท้ก็เป็นไอ้เวรนั่น!
เป็นเพราะมันฉันถึงโดนตามฆ่าถึง 2 ครั้ง แถมลูกสาวของฉันกับ หลี่หรงต้องนอนพยาบาลอยู่หลายวัน!
สารเลว! แกตายแน่!
“พูดมาตอนนี้ไอ้ประธานถงอะไรนั่นมันอยู่ที่ไหน!”
อวี้ฮ่าวหรานตะคอกถามพร้อมกับหักแขนของชายชราอีกรอบหนึ่ง
แต่โชคร้ายที่ชายชราซึ่งอยู่ในสภาพร่อแร่เจียนตายอยู่แล้ว เมื่อเขาโดนหักแขนอีกรอบ เขาก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวอีกต่อไป…หมดลมหายใจไปในที่สุด
อวี้ฮ่าวหรานตกตะลึงไปชั่วขณะ ด้วยความโมโหเขาจึงทรมาน ฝั่งตรงข้ามมากเกินไปหน่อยจนฝั่งตรงข้ามตายก่อนที่เขาจะได้รับข้อมูลสำคัญซะงั้น เวรเอ๊ย!
อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานตอนนี้ก็ยังพอโล่งใจได้เปลาะหนึ่ง ซึ่งก็คือเขารู้แล้วว่าใครเป็นคนจ้างวานฆ่าเขาและเขารู้แล้วว่าควรจะไปถล่มใครต่อ
แต่แล้วในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เป็นหลี่หรงที่โทรมา ในทันทีที่เขารับสาย เขาก็ได้ยินน้ำเสียง ร้อนรนของหลี่หรง
“พี่เขยตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน? พ่อของฉันโทรมาบอกให้ฉันพาพี่ไปหาเขาด่วนเลย ดูเหมือนว่าตอนนี้ที่บ้านหลักกำลังมีเรื่องบางอย่าง!”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ร้อนรนของหลี่หรง อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วแน่นทันที เขารีบตอบตกลงและออกจากตึกก่วงผิงอย่างรวดเร็ว
อวี้ฮ่าวหรานขับรถเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะตอนนี้เขารู้สึกเป็นห่วงหลี่ชงซานอยู่เหมือนกัน ระยะหลังนี้หลี่ชงซานดีกับเขามาก ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้ฝั่งตรงข้ามเป็นอันตรายใด ๆ
ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ในที่สุดอวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถถึงบ้านหลักตระกูลหลี่
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานก้าวไปในห้องโถง เขาก็พบว่าบรรยากาศ ด้านในตอนนี้มืดหม่นไม่ต่างอะไรกับครั้งแรกที่เขามาที่นี่หลังจากที่ทะลวงมิติกลับมา
แทบทุกคนในตระกูลหลี่ต่างมารวมกันอยู่ที่นี่ทั้งหมดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
แม้แต่หลี่หรงในตอนนี้ยังไม่มีกะจิตกะใจจะทักทายเขาแม้ว่าเธอจะเห็นเขามาถึงแล้ว
ที่ปลายสุดของห้องโถง หลี่ชงซานซึ่งนั่งอยู่ตำแหน่งประธานกำลังแสดงสีหน้าเดือดดาลถึงขีดสุด
“เกิดอะไรขึ้น?”
อวี้ฮ่าวหรานเดินเข้าไปถามด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
เมื่อเห็นว่าลูกเขยที่แสนจะสมบูรณ์แบบของตัวเองมาถึงแล้ว หลี่ชงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย แต่แววตาของเขาก็ยังฉายแววหดหู่อยู่ดี
“มันจบแล้ว! ตอนนี้บริษัทชงซานถูกขายให้กับตระกูลอู๋แล้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!”