เมื่อถูกตื๊อมาก ๆ เข้า อวี้ฮ่าวหราน จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพา ถวนถวน ไปจัดการปัญหาภายในบริษัทกับเขาด้วย
ไม่กี่นาทีต่อมา อวี้ฮ่าวหราน ก็ไปพบกับผู้จัดการหวังที่หน้าแผนกสายการผลิต
นี่คือเรื่องแรกที่อวี้ฮ่าวหรานอยากแก้ไข
ที่ด้านในแผนก พวกพนักงานที่มีปัญหาเกือบ20คนก็ยังคงปฏิเสธไม่ยอมทำงานตามที่หัวหน้าของพวกเขาสั่ง
พวกเขายังคงเรียกร้องต้องการให้เพิ่มเงินเดือนเหมือนเดิมไม่งั้นพวกเขาก็จะไม่ทำงาน
“ไม่ต้องมาสั่ง! ถ้าประธานอวี้ไม่ขึ้นเงินเดือน พวกเราก็จะไม่ทำงาน!”
“อยากรู้เมหือนกันว่าถ้าพวกเราไม่ทำงาน บริษัทจะเอาของจากไหนไปขาย!”
“บริษัทมีผลกำไรมหาศาลทุกปีแต่กลับขึ้นเงินเดือนให้เราแค่ปีละ5%แบบนี้มันเอาเปรียบกันมากเกินไปอย่างน้อย ๆ ก็ต้อง40%!”
“…”
บรรดาพวกหัวหน้าแผนกก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับเหตุการณ์นี้ ขนาดประธานบริษัทยังไม่กล้าออกหน้า แล้วพวกเขาจะกล้าไล่คนงานที่มีประสบการณ์สูงพวกนี้เกือบ20คนได้ยังไง?
“โอ้ ยังคงสร้างปัญหาอยู่สินะ เยี่ยม!”
อวี้ฮ่าวหราน เดินเข้ามาในแผนกด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“เฮ้! นั่นประธานอวี้นี่นา ในที่สุดก็มาได้สักทีเมื่อวานคุณรีบหนีไปเหลือเกินจนพวกเรายังไม่ได้บอกรายละเอียดเลยว่าพวกเราต้องการให้ขึ้นเงินเดือนเท่าไหร่!”
คนที่เป็นผู้นำการประท้วงเมื่อวานตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าหยิ่งผยองทันที เมื่อเห็นว่า อวี้ฮ่าวหราน เดินเข้ามา
ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหราน ชี้นิ้วไปที่บรรดากลุ่มคนที่กำลังประท้วงทุกคนและพูดว่า “ผู้จัดการหวังจดชื่อคนพวกนี้ทุกคนให้หมด!”
จากนั้น อวี้ฮ่าวหราน ตะโกนไปทางกลุ่มคนงานต่อว่า “อ้อทุกคนไม่ต้องห่วงไม่ว่ายังไง ผมก็ไม่ขึ้นเงินเดือนให้พวกคุณแน่นอน ผมไม่มีทางยอมให้การประท้วงใด ๆ มีผลกับการตัดสินใจขึ้นเงินเดือนของบริษัท!”
“อะไรกันประธานอวี้ ทำไมคุณถึงไร้เหตุผลแบบนี้? พวกเราอุตส่าห์ทำงานหนักมาโดยตลอดทำไมพวกเราถึงไม่ได้ขึ้นเงินเดือน?”
คนที่เป็นผู้นำกลุ่มประท้วงตะโกนขึ้นเสียงด้วยสีหน้าไม่พอใจ
จากนั้นผู้ประท้วงคนอื่น ๆ ก็เริ่มตะโกนขึ้นโต้แย้งเช่นกัน
“พวกคุณทุกคนเห็นพัสดุขนาดใหญ่ที่วางอยู่มุมห้องตรงนั้นไหม?”
อวี้ฮ่าวหราน ไม่สนใจกับคำทักท้วงของพวกกลุ่มประท้วง เขาชี้ไปที่กล่องไม้ขนาดใหญ่สูง3เมตรครึ่งที่วางอยู่มุมห้องกล่องหนึ่ง
แน่นอนว่ามันคือหุ่นที่ อวี้ฮ่าวหรานเพิ่งสั่งมาเมื่อวานซึ่งวันนี้ตัวแรกได้ส่งมาถึงที่นี่เรียบร้อย
จากนั้น อวี้ฮ่าวหราน ส่งพยักหน้าสัญญาณให้กับผู้จัดการหวัง
เมื่อได้รับสัญญาณ ผู้จัดการหวังเดินออกไปเรียกคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีจำนวน7คนเดินเข้ามาด้านในแผนกทันทีและตรงไปที่กล่องไม้เพื่อเปิดมันออกและเริ่มทำการติดตั้งหุ่นที่ไลน์การผลิต
“นี่คือหุ่นปัญญาประดิษฐ์รุ่นล่าสุดที่ผมเพิ่งสั่งมาเมื่อวานหลังจากที่พวกคุณรวมตัวกันประท้วง ผมสั่งพวกมันมา 6 ระบบ 1 ระบบสามารถใช้แทนแรงงานได้10คน แต่ประโยชน์ของหุ่นประเภทนี้คือมันไม่ต้องหยุดพัก! มันไม่ต้องได้รับเงินเดือน! มันไม่ประท้วงแบบไร้เหตุผลทำให้ผมรำคาญใจ!”
อวี้ฮ่าวหราน เอ่ยขึ้นทันทีเมื่อกล่องไม้ถูกเปิดออกและทุกคนสามารถเห็นหุ่นที่เป็นรูปทรงแขนกลตัวสีขาวใหม่เอี่ยมสูง3เมตร
ทันทีที่ อวี้ฮ่าวหราน อธิบายจบ บรรดาพนักงานทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ประท้วงหรือเป็นกลุ่มที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายต่างตกตะลึง
หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์?
1 ระบบแทนคนงานได้10คน?
นี่คือเหตุผลที่ประธานอวี้รีบเดินหนีไปเมื่อวานเพื่อไปซื้อหุ่นตัวนี้มาจัดการกับพวกเขางั้นเหรอ?
ถ้างั้นการที่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแบบนี้มันไม่เท่ากับว่าหาเรื่องใส่ตัวรึไง?
“นี่ของจริงงั้นเหรอ?”
คนที่เป็นผู้นำกลุ่มประท้วงเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าโง่งม
“แน่นอน ดูมันเอาไว้ให้ดี ๆ ผมซื้อมันมาแทนพวกคุณ!”
อวี้ฮ่าวหราน เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเด็ดขาด เขาไม่มีความเห็นใจคนพวกนี้แม้แต่น้อย ต้องรู้ว่าบริษัทของเขานั้นจ่ายค่าจ้างพนักงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยค่าแรงในเมืองฮ่วยอันถึง20%
แต่คนพวกนี้กลับยกเรื่องเงินเดือนมาเรียกร้องกับเขางั้นเหรอ?
หลังจากรอไปได้พักใหญ่ บรรดากลุ่มเจ้าหน้าที่เทคนิคของ เฟิงซีหนาน ที่ถูกสั่งตัวมาให้อบรมการใช้งานหุ่นให้กับคนของ อวี้ฮ่าวหราน ก็ติดตั้งหุ่นเสร็จและตั้งโปรแกรมมันเรียบร้อยและเริ่มเปิดใช้งาน
คราวนี้ทุกคนต่างเห็นมันด้วยตาตัวเองว่าหุ่นมันทำงานด้วยตัวเองเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งต่อให้เป็นคนปัญญาอ่อนก็รู้ว่าหุ่นตัวเดียวแทนแรงงาน10คนได้แบบสบาย ๆ แน่นอน
บรรดาคนที่ประท้วงกลายเป็นตื่นตระหนกไม่รู้จะทำอะไรต่อ
“อย่างที่ผมบอกไปเมื่อครู่ผมสั่งมันมาทั้งหมด 6 ระบบ ซึ่งแทนคนได้ 60 คน!”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหราน กวาดสายตามองไปพนักงานที่อยู่ในแผนการผลิตทุกคนด้วยสายตาเย็นชาโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ประท้วง
คำพูดนี้ของ อวี้ฮ่าวหราน ยิ่งทำให้บรรดาพนักงานตื่นตระหนกมากกว่าเดิม
“นี่ประธานกำลังหมายความว่าพวกเขาจะไล่คนออก60คนงั้นเหรอ?”
“ชิบหายแล้ว นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ไม่นะฉันไม่อยากถูกไล่ออก!”
“ไม่ ฉันจะถูกไล่ออกตอนนี้ไม่ได้ บ้านกับรถของฉันยังผ่อนไม่ไหมดเลย!”
“…”
เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของบรรดาพนักงาน อวี้ฮ่าวหราน ยิ้มเยาะด้วยสายตาไร้ความเห็นใจ คนพวกนี้บังอาจมายั่วยุเขาก่อนทั้ง ๆ ที่บริษัทของเขาจ่ายเงินเดือนให้มากกว่าที่อื่นถึง20%!
คนพวกนี้ไม่เพียงไม่สำนึกแต่กลับพยายามบ่อนทำลายบริษัทของเขาอีก เขาต้องจัดการให้เด็ดขาดไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!
อวี้ฮ่าวหราน กวาดสายตามองไปที่พนักงานทุกคนจากนั้นเขาตะโกนขึ้นเสียงดัง “ค่าไฟที่ผมต้องจ่ายให้กับหุ่นพวกนี้ในการทำงานมันน้อยกว่าค่าแรงที่ผมต้องจ่ายให้กับพวกคุณแน่นอน ฉะนั้นตอนนี้ผมจะขอถามอีกที มีใครอยากประท้วงต่ออีกไหมผมจะได้ไล่ออกไปให้พ้น ๆ บริษัทผม?”
บรรดาพนักงานทุกคนต่างเงิยบกริบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้เพียงครึ่งคำ เมื่อมีหุ่นแบบนี้อยู่ น้ำหนักการต่อรองของพวกเขาจึงเบาหวิวราวกับขนนก
“ผู้จัดการหวัง คุณจดเอาไว้หมดแล้วใช่ไหมรายชื่อพวกคนที่ประท้วงทั้งหมด?” อวี้ฮ่าวหราน หันกลับไปเอ่ยถาม
“ผมจดเอาไว้หมดแล้วครับท่านประธาน มีทั้งหมด18รายชื่อ…”
จากนั้น ผู้จัดการหวัง อ่านรายชื่อทั้ง18คนขึ้นมาเสียงดังเพื่อให้ทุกคนได้ยิน
อวี้ฮ่าวหราน พยักหน้าเล็กน้อยเมื่อฟังรายชื่อครบ จากนั้นเขาตะโกนใส่กลุ่มคนที่ประท้วงว่า “พวกคุณทุกคนล้วนมีความผิดฐานก่อความวุ่นวายในบริษัทหากเป็นสถานการณ์ปกติผมคงไล่พวกคุณออกแน่นอน แต่ตอนนี้ผมกำลังปรับปรุงโครงสร้างบริษัทผมจึงอยากจะคงคนไว้ให้มากที่สุดฉะนั้นผมจะไม่ไล่พวกคุณออกแต่ย้ายตำแหน่งงานของพวกคุณแทนเพื่อเป็นการลงโทษ!”
“แกนนำการประท้วงสองคนได้แก่ ซุนโยวฟา และ หวางชางกุย ผมย้ายให้คุณไปเป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดห้องน้ำตึกB! ส่วนคนอื่น ๆ อีก16คน ผมจะย้ายพวกคุณไปอยู่ตำแหน่งพนักงานขายรายย่อย!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของ อวี้ฮ่าวหราน พนักงานในกลุ่มผู้ประท้วงทุกคนต่างอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
ถูกย้ายให้ไปเป็นพนักงานล้างห้องน้ำ? เป็นพนักงานขายรายย่อย?
“ไม่นะ!! ประธานอวี้ผมอยู่ในสายงานการผลิตของบริษัทเดิมมาเป็นสิบปีแล้ว คนมีประสบการณ์ขนาดผมคุณย้ายให้ไปเป็นคนล้างห้องน้ำได้ยังไง! ได้โปรดอย่าทำกับผมแบบนี้!”
“ใช่! ท่านประธานอวี้ พวกเรารู้แล้วว่าพวกเราผิด โปรดให้โอกาสพวกเราอีกครั้งเถอะ พวกเราสาบานพวกเราจะไม่สร้างปัญหาอีกแล้ว!”
“…”
ตอนนี้บรรดาผู้ประท้วงต่างคุกเข่ากันลงอ้อนวอน อวี้ฮ่าวหราน ด้วยสีหน้าเศร้าสลด
เมื่อเทียบกับตำแหน่งคนงานผลิตที่มีเงินเดือนสูงตายตัว การให้ไปเป็นพนักงานขายหรือพนักงานล้างห้องน้ำมันย่อมเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
พนักงานขายจะมีเงินเดือนตายตัวเพียงน้อยนิดซึ่งถ้าหากอยากได้รับค่าตอบแทนเพิ่มพวกเขาก็ต้องตรากตรำขายของให้ได้เยอะ ๆ ซึ่งมันเหนื่อยมาก ๆ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงพนักงานล้างห้องน้ำ ค่าตอบแทนของพวกเขาย่อมน้อยลงไปอีกแถมมันเป็นงานที่คนส่วนใหญ่ไม่มีใครเค้าอยากจะทำ!
เมื่อคิดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ที่พวกเขากำลังเผชิญบรรดาผู้ประท้วงทุกคนต่างเสียใจอย่างสุดซึ้งโดยใช้เฉพาะแกนนำทั้งสอง
อวี้ฮ่าวหราน เหล่มองไปที่คนเหล่านี้ซึ่งกำลังอ้อนวอนเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน จากนั้นเขาเอ่ยขึ้นว่า “อ้อผมลืมบอกไป หากพวกคุณไม่พอใจ กับการตัดสินใจของผมพวกคุณสามารถลาออกได้เลยผมไม่ว่า แต่ถ้าหากพวกคุณเอาเรื่องการย้ายตำแหน่งนี้ไปร้องเรียนกับกรมแรงงานพวกคุณก็เตรียมเงินค่าทนายกันดี ๆ ก็แล้วกันเพราะผมได้ให้ผู้จัดการหวังเก็บหลักฐานพฤติกรรมของพวกคุณเอาไว้หมดแล้ว แล้วอีกอย่างถ้าพวกคุณออกจากบริษัทของผมเมื่อไหร่ ผมจะส่งข้อมูลวีรกรรมของพวกคุณทุกคนไปให้กับทุกบริษัทในเมืองฮ่วยอันซึ่งหลังจากนั้นผมมั่นใจว่าจะไม่มีใครกล้าจ้างพวกคุณในสายงานเดิมแน่นอน”
เมื่อพูดจบ อวี้ฮ่าวหราน หันหลังเดินออกไปในทันทีปล่อยให้บรรดากลุ่มคนที่ประท้วงยิ่งโศกเศร้ามากกว่าเดิม
บทลงโทษนี้มันรุนแรงยิ่งกว่าไล่ออกซะอีก!
พวกเขาไม่นึกเลยว่าประธานที่ดูหนุ่มและไร้ประสบการณ์ผู้นี้จะเป็นคนที่โหดเหี้ยมขนาดนี้
ตอนนี้พวกเขาจะลาออกก็ลำบาก แต่ถ้าให้ทนทำต่อไป พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พวกเขาเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น!
อีกด้านหนึ่งในออฟฟิศของ เจิ้งเหวยกัว
“อะไรนะ? ไอ้เด็กเวรนั่นมันคลี่คลายปัญหาพนักงานได้แล้ว? นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”
เจิ้งเหวยกัว ฟังคำอธิบายจากในายโทรศัพท์ด้วยสีหน้าตกตะลึงและเขายิ่งโมโหมากเข้าไปให้ที่ได้ยินว่าอดีตลูกน้องของตัวเองถูกย้ายตำแหน่งให้ไปเป็นพนักงานขายหรือไม่ก็พนักงานล้างห้องน้ำ!
ไอ้เวร อวี้ฮ่าวหราน!
บทลงโทษของมันรุนแรงขนาดนี้แล้วแบบนี้อนาคตต่อไปใครจะกล้าสร้างปัญหาให้มันอีก?
หลังจากปรับอารมณ์อยู่พักใหญ่ เจิ้งเหวยกัว ก็เริ่มคิดแผนการต่อไปเพื่อเอาไว้หยุดยั้ง อวี้ฮ่าวหราน