จุดประสงค์ของการไปเยือนบริษัทซานมูของอวี้ฮ่าวหรานนั้นง่ายมาก!
เขาจะบุกเข้าไปเอาข้อมูลบริษัทของเขาคืนมาโดยใช้กำลังโดยตรง แล้วจากนั้นเขาจะแสดงหลักฐานให้ตำรวจจัดการในส่วนที่เหลือ!
โดยทั่วไปแล้ว นอกเหนือจากข้อมูลสำรองที่ถูกเก็บไว้ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์เข้ารหัสนิรภัยแล้ว ข้อมูลอีกชุดหนึ่งจะเก็บเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์พิเศษเพื่อเอาไว้ใช้งานประจำวัน ซึ่งฮาร์ดดิสก์นี้เป็นฮาร์ดดิสก์แบบพิเศษที่ถูกเข้ารหัสนิรภัยเอาไว้ดังนั้นมันจึงเป็นการยากที่จะคัดลอกข้อมูลออกไปอีกในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้
ดังนั้นเมื่อเวลายังผ่านไปไม่กี่วัน อวี้ฮ่าวหรานจึงจำเป็นต้องไปเอาฮาร์ดดิสก์กลับมาให้เร็วที่สุดก่อนที่บริษัทซานมูจะปลดล็อครหัสได้แล้วคัดลอกข้อมูลด้านในออกไปเพิ่ม ซึ่งฮาร์ดดิสก์นี้คงเก็บเอาไว้ได้แค่ที่เดียวก็คือบริษัทซานมู!
…
อีกด้านหนึ่ง ชั้นบนสุดของอาคารสำนักงานบริษัทซานมู
“ฮ่าฮ่า ฉันไม่นึกเลยว่าพี่เจิ้งจะมีวางแผนได้แยบยลขนาดนี้! ฉันชื่นชมพี่จริงๆ!”
จางเซิน ประธานบริษัทซานมู หัวเราะอย่างเบิกบานในขณะที่เขาเอ่ยชมเจิ้งเหวยกัว
ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการเข้าร่วมของเจิ้งเหวยกัวมากนัก แต่โดยไม่คาดคิด อีกฝ่ายกลับเอาข้อมูลทางเทคนิคที่สำคัญของเครือฮ่าวหรานมาให้ด้วยซึ่งมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
“แน่นอน ในเมื่อไอ้เด็กนั่นมันทำให้ผมไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากต้องลาออก ฉะนั้นทำไมผมต้องออกมาตัวเปล่าด้วยล่ะจริงไหม?” เจิ้งเหวยกัวกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในเวลานี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “เด็กน้อยที่ขาดประสบการณ์อย่างมัน จะมาทันคนแก่อย่างฉันได้ยังไง?”
“ใช่ ไอ้เด็กนั่นมันโง่เง่าจริงๆ ตอนนี้เมื่อมีข้อมูลนี้อยู่ในมือของเราแล้ว บริษัทของมันก็เตรียมพินาศได้เลย อาศัยข้อมูลนี้ที่เราได้มา เราสามารถสร้างผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันกับมัน แล้วจากนั้นพวกเราก็ตีตลาดมันโดยการกดราคาลงไปให้ต่ำอีกสักหน่อย แค่นี้ฐานลูกค้าของมันจะต้องลดลงเกินกว่าครึ่งแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันล่ะมีความสุขจริงๆ!”
จางเซินพูดไปหัวเราะไปด้วยความสะใจ
ก่อนหน้านี้การเติบโตของเครือฮ่าวหรานทำให้เขารู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เพราะต่อมาอีกฝ่ายก็แย่งลูกค้าของเขาไปหลายรายด้วยข้อได้เปรียบด้านผลิตภัณฑ์ซึ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้นไปอีก
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้เขาเองก็หมดหนทางไม่รู้จะแก้ไขยังไง
แต่แล้วจู่ๆ เจิ้งเหวยกัวกลับปรากฏตัวขึ้นมามอบข้อมูลทางเทคนิคแบบร่างผลิตภัณฑ์ของเครือฮ่าวหรานให้กับเขา ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับการที่จู่ๆ ก็มีคนมามอบฟืนให้เขาในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ
“ใช่ เมื่อไหร่ที่เราตีตลาดด้วยผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันแต่ราคาต่ำกว่า เมื่อนั้นรายได้ของเครือฮ่าวหรานจะลดลงเกินกว่าครึ่งแน่นอน และไอ้เด็กนั่นคงต้องรีบแจ้นมากรายเท้าเราให้เราเมตตามัน! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ในเวลาเดียวกันที่ทางเข้าอาคารสำนักงานของบริษัทซานมู
อวี้ฮ่าวหรานเงยหน้ามองขึ้นไปที่ชั้นบนสุดของอาคารสำนักงานที่หรูหราแห่งนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเดือดดาลเมื่อใช้เนตรเทวะมองดูและเห็นว่าเจิ้งเหวยกัวในตอนนี้ก็อยู่ข้างใน
วันนี้เขาจะทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงคืออะไร!
“เดี๋ยวนะ คุณเป็นใคร มีบัตรผ่านเข้าอาคารรึเปล่า?”
ทันทีที่เดินไปถึงหน้าประตู เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ขมวดคิ้วจ้องอวี้ฮ่าวหรานด้วยท่าทีตื่นตัว
โดยทั่วไป พนักงานของที่นี่จะต้องมีบัตรประจำตัวผ่านทางเข้าออก หรือถ้าหากเป็นลูกค้าก็จะต้องมีการนัดล่วงหน้าซึ่งเขาจะต้องได้รับการแจ้งล่วงหน้ามาจากเบื้องบนก่อนว่าจะมีลูกค้าเข้ามาวันนี้
แต่ชายหนุ่มคนนี้ไม่มีทั้งบัตรประจำตัวและเขาก็ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีลูกค้าเข้ามาวันนี้ ดังนั้นเขาจึงตื่นตัวเป็นพิเศษ
อวี้ฮ่าวหรานที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วเมื่อถูกถามแบบนี้เขาจึงพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดทันที
วันนี้เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อผูกมิตร!
“ฉันจะขึ้นไปหาประธานของแก ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ถอยออกไป!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่หยาบคายของอวี้ฮ่าวหราน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโมโหขึ้นมาในทันที
“แกเป็นบ้าอะไรของแกหะไอ้หนุ่ม? แกคิดว่าใครๆ ก็สามารถพบกับท่านประธานได้งั้นเหรอ? แกรีบไสหัวออกไปให้ไกลๆ เลยไม่งั้นวันนี้ฉันจะเอากระบองของฉันฟาดหน้าหล่อๆ ของแกแน่!”
อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินคำขู่ของฝั่งตรงข้าม
การพูดคุยกับพวกมดแมลงให้รู้เรื่องภายในประโยคเดียวมันคงเป็นไปไม่ได้สินะ?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงไม่เสียเวลาพูดคุยอะไรอีกต่อไป เขาคว้าคอฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็วและทุ่มร่างอีกฝ่ายเข้าไปที่ประตูกระจกอย่างรุนแรง
เพล้ง!!
โครม!!
ร่างของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกทุ่มทะลุผ่านกระจกประตูหน้าไปอย่างรุนแรงและพุ่งเลยไปถึงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ด้านในจนพังพินาศ
เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านในแตกตื่นกันยกใหญ่ ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนที่โดนทุ่มไปนั้นนอนหมดสติไปเรียบร้อยแล้วพร้อมกับมีรอยโดนกระจกบาดอยู่เต็มร่าง
อวี้ฮ่าวหรานเหยียบเศษแก้วเดินเข้าไปด้านในอาคารด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับว่ากำลังเดินเล่นในสวนหลังบ้าน
ผู้คนทั่วทั้งห้องโถงที่กำลังแตกตื่นกันอยู่พากันเงียบลงทันทีเมื่อเห็นอวี้ฮ่าวหรานกำลังเดินเข้ามาด้านใน!
มีคนกล้ามาหาเรื่องที่บริษัทซานมูได้ยังไง?
ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 คนก็วิ่งออกมาถึงที่เกิดเหตุ
“บ้าเอ๊ย! แกเป็นใครกันวะ?”
“อาหู นายเป็นยังไงบ้าง? ให้ตายสิ แกไอ้สารเลว แกทำร้ายพวกฉันอยากตายนักเหรอไงวะ!”
“…”
หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เพิ่งมาถึงทั้ง 3 คนพอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว พวกเขาก็รีบมายืนล้อมอวี้ฮ่าวหรานเอาไว้ทันที
ที่ผ่านมาพวกเขาเคยแต่อัดคนอื่น ดังนั้นเมื่อพวกเขาเผชิญกับสถานการณ์ที่พวกเขาเป็นฝ่ายถูกอัดบ้าง พวกเขาจึงรู้สึกลนลานเล็กน้อย
“ถึงห้องรปภ! มีคนมาสร้างปัญหาที่บริษัทของเรา! ขอกำลังเสริมทุกคนมาที่ล็อบบี้ด้วย เปลี่ยน!!”
หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ล้อมอวี้ฮ่าวหรานอยู่ใช้วิทยุสื่อสารเรียกพรรคพวกของตัวเองมาเสริม
ผ่านไปไม่เกิน 1 นาที เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 20 คนก็โผล่มายืนล้อมหน้าล้อมหลังอวี้ฮ่าวหราน
“บัดซบ นี่แกกล้าดียังไงถึงมาสร้างปัญหาที่นี่! แกรู้ไหมว่ารอบที่แล้วที่มีคนมาสร้างปัญหาฉันส่งมันไปนอนโรงพยาบาลถึง 3 เดือน!”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยหักนิ้วตัวเองและถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ดุร้าย
“ตอนนี้ฉันให้เวลาแกสามวินาทีเพื่อคุกเข่าขอโทษลูกน้องของฉัน ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันเอาแกปางตายแน่!”
“สามวินาที? ฉันให้เวลาพวกแกห้าวินาทีให้ออกไปให้พ้นหน้าฉัน ไม่งั้นฉันจะหักขาแกพวกทุกคนคนละข้าง ฉันรับประกันได้ว่าจากนี้ไปพวกแกจะต้องเดินเป๋ไปจนชั่วชีวิต!”
แววตาของอวี้ฮ่าวหรานเผยให้เห็นชัดเจนว่าเขาดูถูกมดแมลงพวกนี้มาก คนพวกนี้เป็นแค่คนธรรมดาไม่มีสักคนที่เป็นผู้บ่มเพาะแต่กลับขู่ให้เขาคุกเข่างั้นเหรอ?
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหยิ่งยโสมากกว่าตัวเอง หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที
ไอ้นี่มันเสียสติไปแล้วนี่หว่า!
ฝั่งเขามีคนมากกว่า 20 คน แต่ไอ้หนุ่มนี่มันกลับบอกว่าจะหักขาพวกเขาทุกคนเนี่ยนะ?