อวี้ฮ่าวหรานหยิบถุงพลาสติกจากในห้องน้ำเอามาใส่ร่างที่ตายแล้วของงูสีดำก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ไม่ต้องกลัวถวนถวน พ่อข้ามันตายไปแล้ว ตอนนี้พ่อกำลังจะเอามันออกไปทิ้ง”
เมื่อเห็นว่าถวนถวนกำลังขวัญเสีย อวี้ฮ่าวหรานจึงก้าวออกมาเพื่อช่วยหลี่หรงปลอบอีกแรง
“พี่เขย พี่รีบเอามันไปทิ้งก่อนเถอะ ฉันไม่ชอบเลยที่มันยังอยู่ในห้องนี้”
หลี่หรงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหวาดกลัวเมื่อเธอเห็นร่างเบลอๆ ของงูที่อยุ่ในถุงพลาสติก
“อืม งั้นเดี๋ยวพี่เอามันไปทิ้งก่อนก็แล้วกัน เธอก็ปลอบถวนถวนไป แล้วเดี๋ยวพี่จะได้ไปส่งถวนถวนไปเรียน”
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่อวี้ฮ่าวหรานเอางูไปทิ้ง ในใจของเขาก็มีแต่ข้อสงสัยผุดขึ้นมาไม่หยุด
ห้องของเขามันอยู่สูงจะตาย แถมย่านนี้มันก็ไม่มีป่าเลยสักนิด แล้วงูมันขึ้นไปโผล่บนห้องของเขาได้ยังไง?
แต่แล้วในขณะที่เขาเดินลงไปถึงถังขยะข้างตึกข้างล่างและโยนซากงูลงไป เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกใครบางคนจับตามองอยู่!
“ใคร?”
อวี้ฮ่าวหรานหันขวับไปมองพร้อมกับเอ่ยถามเสียงต่ำ ซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าฝั่งตรงข้ามเป็นชายร่างผอมสูงกำลังมองเขาอยู่ในระยะห่างราว 50 เมตร
อีกฝ่ายสวมแว่นดำอันใหญ่ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่ามีเจตนาต้องการปกปิดรูปพรรณของตัวเอง แถมทิศทางการมองยังจ้องมาทางอวี้ฮ่าวหรานแบบไม่วางตา
ไอ้คนๆ นี้นี่แหละคือตัวปัญหา!
แน่นอนว่าเมื่อชายปริศนาเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานรู้ตัวแล้ว เขาก็ไม่รั้งรออะไรอีกต่อไป เขารีบหันกลับและออกตัววิ่งหนีในทันที!
อวี้ฮ่าวหรานเมื่อเห็นเช่นนี้เขานึกหัวเราะอยู่ในใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไอ้เวรนี้มันคือตัวการที่ทำให้งูขึ้นไปโผล่บนห้องของเขาแน่นอน!
ว่าแล้วอวี้ฮ่าวหรานก็โคจรพลังวิญญาณของตัวเองแล้ววิ่งตามอีกฝ่ายไปติดๆ จนท้ายที่สุดเขาก็ตามไปถึงซอยตันเปลี่ยวไร้ซึ่งผู้คนอยู่อาศัย
เมื่อตามไปถึงซอยตัน อวี้ฮ่าวหรานพลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ฝั่งตรงข้ามหายตัวไปแล้ว แต่ในขณะที่เขากำลังจะใช้เนตรเทวะเพื่อตามรอยต่อ นักฆ่า 12 คนก็กระโจนออกจากหลังกำแพงมาล้อมรอบตัวเขาภายในพริบตา
และยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาเดียวกันในพวกพุ่มไม้เลื้อยที่ขึ้นตามกำแพงที่ไม่ได้รับการดูแลมานาน จู่ๆ มันกลับมีพวกงูหลากสีเลื้อยออกมาเป็นจำนวนมากจนท้ายที่สุดจำนวนของพวกงูน่าจะมีไม่ต่ำกว่าร้อยตัว!
แค่เพียงมองปราดเดียว ต่อให้ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็รู้ว่างูพวกนี้คืองูพิษทุกตัว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือกับดัก!
“โอ้? พวกแกล่อฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าทิ้งสินะ?”
อวี้ฮ่าวหรานยืนอยู่กลางซอยเปลี่ยว ถูกล้อมรอบด้วยนักฆ่า 12 คนและงูอีกเป็นร้อยตัวด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
อันที่จริงเขาเผยรอยยิ้มดูถูกฝั่งตรงข้ามด้วยซ้ำ
“ฮึ่ม! ปากดีไปเถอะ อีกไม่นานแกได้กลายเป็นปุ๋ยให้กับดินแถวนี้แน่ กล้าดียังไงถึงโจมตีองค์กรของพวกเรา!”
หนึ่งในนักฆ่าตวาดขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
“ฮ่าฮ่า นี่แกคิดจริงๆ เหรอว่าด้วยพวกแกกับไอ้พวกเดรัจฉานพวกนี้เพียงพอจะฆ่าฉันได้?”
อวี้ฮ่าวหรานถามกลับพลางมองไปที่พวกงูนับร้อยที่เลื้อยอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ก่อนที่จะกระทืบเท้าของเขาลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง
“ปัง!!”
ทันทีที่เท้าของอวี้ฮ่าวหรานกระแทกพื้น พื้นคอนกรีตก็เกิดรอยร้าวขึ้นอย่างฉับพลัน และจากนั้นพลังวิญญาณของอวี้ฮ่าวหรานก็แผ่นกระจายออกไปทั่วบริเวณพื้น เข้าบดขยี้งูนับร้อยจนแหลกเละภายในพริบตา!
ต่อหน้าพลังที่เหนือล้ำ… แผนใดๆ ก็เป็นเพียงแค่เรื่องตลก!
เมื่อเห็นภาพนี้พวกนักฆ่าต่างก็ตื่นตระหนกกับความแข็งแกร่งของอวี้ฮ่าวหราน แต่พวกเขายังคงต้องทำตามคำสั่งที่ได้รับมา!
“ไอ้คนๆ นี้ไม่ธรรมดา! พวกเราต้องเข้าไปฆ่ามันพร้อมๆ กัน!”
“ฮ่าฮ่า ฆ่าฉัน? แค่พวกแกมันพองั้นเหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานตวาดขึ้นเสียงพร้อมทั้งผสมพลังวิญญาณของเขาเองเข้าไปในน้ำเสียงของเขาด้วย ซึ่งมันส่งผลให้สมองของพวกนักฆ่าทั้งหลายกลายเป็นมึนงงไปชั่วขณะ
อวี้ฮ่าวหรานใช้โอกาสนี้ที่พวกนักฆ่ากำลังมึนงงลงมือจู่โจมก่อนทันที
ผลั่ก ผลั่ก ผลั่ก!
หลังจากนั้นแค่เพียงไม่ถึง 3 วินาที นักฆ่าทั้ง 12 คนก็นอนตายกันเกลื่อน คนเหล่านี้สิ้นใจในทันทีหลังจากที่โดนอวี้ฮ่าวหรานโจมตีแค่เพียงคนละครั้ง
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่ศพของพวกนักฆ่าด้วยสายตาเหยียดหยาม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านักฆ่าพวกนี้คือคนขององค์กรอสรพิษ
และเรื่องในวันนี้มันยังไม่จบลงแค่นี้!
อวี้ฮ่าวหรานเบนสายตาไปยังอีกมุมหนึ่งของกำแพงและตะโกนขึ้นว่า
“ออกมาได้แล้ว! แกอย่าทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างการซุ่มโจมตีฉันจะดีกว่า!”
“ฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยมจริงๆ อย่างที่คิดเอาไว้เลย คนที่องค์กรหมายหัวเป็นลำดับแรกๆ ย่อมไม่ธรรมดา ความแข็งแกร่งของแกทำให้ฉันทึ่งจริงๆ!”
หลังจากสิ้นเสียงพูด ชายร่างผอมสูงก็ค่อยๆ เดินออกมาจากมุมมืดของกำแพง
แน่นอนว่าคนๆ นี้คือคนเดียวกับที่อวี้ฮ่าวหรานเห็นแถวๆ หน้าคอนโดของเขา
“ฉันขอแนะนำตัวเองสักหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อซือคงหมาง หนึ่งในหัวหน้าตำหนักขององค์กรอสรพิษ! วันนี้ฉันได้รับคำสั่งโดยตรงให้มาฆ่าแก!”
แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเหลือเขาเพียงแค่คนเดียว แต่ ซือคงหมางก็ยังมีสีหน้าที่มั่นใจถึงแม้ว่าจะได้เห็นความแข็งแกร่งของอวี้ฮ่าวหรานไปแล้วก็ตาม
“เฮ้อ บางทีฉันนี่มันเป็นคนดีเกินไปจริงๆ ฉันกลัวเสมอเลยว่าเหยื่อของฉันจะตายไปอย่างไม่เป็นสุขหากไม่รู้ชื่อของฉันในยมโลก”
เมื่อได้ยินคำพูดที่โอหังของฝั่งตรงข้ามขนาดนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง
ไอ้คนๆ นี้มันไม่ได้เห็นเขาในสายตาเลยจริงๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้างั้นฉันควรขอจับมือแกเพื่อเป็นการขอบคุณด้วยรึเปล่า?”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงประชด
ในทางกลับกัน ซือคงหมางกลับดูเหมือนไม่เข้าใจว่าอวี้ฮ่าวหรานกำลังประชดประชัน
“ฮึ่ม! สำนึกได้แบบนี้ก็ดี เอาล่ะตอนนี้แกอย่าขัดขืนแล้วยอมตายซะดีๆ แล้วฉันจะยอมให้แกตายอย่างสบายไม่อย่างงั้นล่ะก็ฉันจะทำให้แกเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้!”
หลังจากซือคงหมางพูดจบ จู่ๆ ก็มีงูสีขาวขนาดลำตัวใหญ่พอๆ กับท่อนขาผู้ใหญ่เลื้อยออกมาจากมุมมืด ความยาวของมันยาวราว 7-8 เมตร ดวงตาของมันชั่วร้ายราวกับว่ามันเป็นปีศาจที่มาจากนรก
หากเป็นตามปกติแล้ว งูที่ใหญ่ขนาดนี้ย่อมไม่ใช่งูพิษแน่นอน แต่งูตัวนี้กลับแปลกกว่างูปกติทั่วไปเพราะมันคืองูพิษที่มีพิษร้ายแรงอย่างยิ่งยวด!
“ไปฆ่ามัน!”
ซือคงหมางชี้นิ้วไปที่อวี้ฮ่าวหรานพร้อมกับเอ่ยสั่งงูยักษ์
เขามั่นใจเป็นอย่างมากกับงูของเขาตัวนี้!