บทที่ 231 การประมูลที่ดุเดือด
“อันที่จริงนายไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเองก็ได้ แค่ให้คนของนายแจ้งกับที่นี่ว่าฉันจะมาก็พอ”
อวี้ฮ่าวหรานยิ้มและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
“โธ่น้องอวี้…ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก นายช่วยแก๊งพยัคฆ์เวหาเอาไว้มาก ฉันจำเป็นต้องตอบแทนนายบ้าง และนี่ก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
หวังเหยียนตอบกลับทันทีในระหว่างที่เดิน
“เป็นเพราะนาย แก๊งพยัคฆ์เวหาถึงสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นได้อีกแถมอิทธิพลของพวกเราก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ถ้าไม่มีนายพวกเราคงไม่สามารถมาอยู่จุดนี้ได้”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นทั้งสองคนก็พากันเดินไปที่ห้อง VIP หมายเลข 4 ซึ่งดูเหมือนว่าบ้านประมูลจะเก็บห้องนี้ไว้ให้สำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ
สิ่งนี้น่าจะเป็นเพราะการจัดการของแก๊งพยัคฆ์เวหา
แต่แล้วก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปในห้อง VIP หมายเลข 4 อวี้ฮ่าวหรานก็สังเกตเห็นว่าห้อง VIP หมายเลข 5 ที่อยู่ข้าง ๆ มีชายอ้วนคนหนึ่งกำลังเดินเข้าไปเช่นกัน
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาก็คือชายอ้วนคนนี้พาบอดีการ์ดมาด้วยมากกว่ายี่สิบคน และทุกคนต่างดูเป็นมืออาชีพทั้งนั้น
“คน ๆ นั้นคือใครกัน?”
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงเอ่ยถามหวังเหยียน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนที่มาบ้านประมูลพาบอดีการ์ดมาด้วยมากขนาดนี้
“คน ๆ นั้นคือเจ้าของบริษัทจื่อจิน ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เขามีชื่อว่ากัวหย่งซิน”
หวังเหยียนอธิบายพร้อมกับเหลือบมองด้วยความสงสัย
“ทำไมเหรอน้องอวี้? เขาเคยล่วงเกินนายงั้นเหรอ?”
“เปล่า ๆ พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
อวี้ฮ่าวหรานส่ายหัวก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง VIP หมายเลข 4 ด้วยสีหน้าปกติ
หลังจากนั้นไม่นานการประมูลก็เริ่มขึ้น
แค่เพียงของชิ้นแรกที่นำออกมาประมูล อวี้ฮ่าวหรานก็รู้ได้ว่าการประมูลวันนี้น่าจะมีแต่ของดีมากกว่าปกติ ของชิ้นแรกคือแจกันเคลือบดินขาวหรือที่เรียกในภาษาปัจจุบันว่าพอร์ซเลน (porcelain) ซึ่งเป็นวัตถุโบราณที่อยู่ในสมัยราชวงศ์ถัง
“นี่คือแจกันที่ถูกผลิตขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง…มูลค่าของมันนั้นมหาศาล ทางเราขอเปิดการประมูลที่ราคา 5 ล้าน!”
ผู้ดำเนินการประมูลอธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดของแจกันก่อนที่จะเปิดราคาประมูลทันที และนั่นทำให้บรรดาแขกที่เข้าร่วมการประมูลต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่ และยิ่งไปกว่านั้นมีบางคนเอ่ยเสนอราคาอย่างรวดเร็ว
“5.5 ล้านจากแขกหมายเลข 22!”
“6 ล้านจากแขกหมายเลข 27!”
“…”
หลังจากนั้นแค่เพียงเวลาไม่ถึง 3 นาที ราคาก็ถูกดันขึ้นไปที่ 10 ล้าน!
“แขกผู้มีเกียรติจากห้อง VIP หมายเลข 5 ประมูลที่ราคา 10 ล้าน! มีแขกท่านใดจะให้มากกว่าไหม?”
ท้ายที่สุดแจกันใบแรกที่ถูกนำออกมาประมูลก็ถูกขายออกไปด้วยราคา 10 ล้าน และจากนั้นต่อมา วัตถุโบราณชิ้นอื่น ๆ ก็ถูกนำออกมาประมูลอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลาย ๆ ชิ้นก็ถูกประมูลไปด้วยราคามากกว่า 10 ล้านเช่นกัน ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการประมูลครั้งนี้มีแต่ของที่ล้ำค่ามากกว่าตอนที่อวี้ฮ่าวหรานมารอบที่แล้ว…
อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานยังไม่ได้เอ่ยประมูลของใด ๆ สักชิ้นเพราะชายหนุ่มเห็นว่าไม่มีของชิ้นใดเลยที่มีพลังวิญญาณแฝงอยู่
ทางด้านของหวังเหยียน เมื่อเห็นเช่นนี้เขาก็บังเกิดความสงสัยขึ้นอีกแล้ว วันนี้ดูอวี้ฮ่าวหรานประมูลของน้อยชิ้นมากอย่างน่าแปลก
“น้องอวี้ วัตถุโบราณที่ถูกนำขึ้นมาประมูลในวันนี้ไม่ถูกใจนายงั้นเหรอ? ถ้างั้นเอาแบบนี้ไหม นายลองบอกมาดูว่านายชอบวัตถุโบราณแบบไหนฉันจะได้ให้คนไปตามหามาให้นาย”
เมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งของชายหนุ่มคนนี้ หวังเหยียนจึงกลัวว่าอีกฝ่ายจะโทษว่าแก๊งของเขาดูแลไม่ดีพามางานประมูลที่มีแต่ของไม่เตะตา
แต่ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้สนใจหวังเหยียนสักเท่าไหร่ เขาเอาแต่จับจ้องไปที่วัตถุโบราณที่ถูกนำขึ้นมาประมูลเรื่อย ๆ เพื่อดูว่ามีชิ้นไหนบ้างที่มีพลังวิญญาณแฝง
เมื่อเวลาผ่านไปอีกสักพัก จี้หยกที่มาจากสมัยราชวงศ์ชิงก็ถูกนำขึ้นมาประมูล ถึงแม้ว่ามันจะเก่าแก่สู้ของชิ้นอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ไม่ได้แต่เนื้อของหยกกลับมีคุณภาพที่ไร้ที่ติ
เมื่อเห็นเช่นนี้ การประมูลอันดุเดือดจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง และสิ่งที่ทำให้อวี้ฮ่าวหรานประหลาดใจอีกรอบก็คือกัวหย่งซินที่อยู่ในห้อง VIP หมายเลข 5 ชนะการประมูลของชิ้นนี้ไปอีกแล้วด้วยราคา 17 ล้าน ซึ่งมันทำให้แขกคนอื่นต่างพูดไม่ออก
ดูเหมือนว่ากัวหย่งซินคนนี้จะร่ำรวยมหาศาลจริง ๆ
แต่แล้วของที่ถูกนำขึ้นมาประมูลชิ้นถัดมากลับยิ่งทำให้ผู้คนฮือฮามากกว่าเดิม
“วัตถุโบราณชิ้นถัดมานี้คือ…เสื้อคลุมมังกรของจักรพรรดิราชวงศ์ฮั่น! มันถูกขุดขึ้นมาจากสุสานโบราณ ด้ายที่ถักทอเสื้อคลุมตัวนี้ล้วนทำมาจากทองคำ…”
ด้วยน้ำเสียงการแนะนำที่ฟังดูอลังการของผู้ดำเนินการประมูล ผู้คนในห้องประมูลก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและอยากได้เสื้อคลุมมังกรตัวนี้มาครอบครอง
“นี่มันเป็นไปได้ยังไงที่ของแบบนี้จะถูกนำขึ้นมาประมูลที่นี่? ของแบบนี้มันหลุดมาถึงมือพวกเราได้ยังไง?”
“เสื้อคลุมมังกร! มันจะมีสักกี่ตัวกันในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา?”
“ฉันต้องได้มันมาให้ได้! มันเหมาะสมมากที่จะมาเป็นสมบัติประจำตระกูลของฉัน!”
“…”
ผู้คนต่างวิจารณ์กันเสียงสนั่นด้วยสีหน้าตกตะลึง
ส่วนทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานก็จ้องมองดูมันด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ของชิ้นนี้มันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง?” เขาพึมพำกับตัวเอง
ต้องรู้ว่าเสื้อคลุมมังกรเป็นของสำคัญมากต่อจักรพรรดิทุกคนในอดีต แถมเสื้อคลุมมังกรส่วนใหญ่ล้วนถูกถักขึ้นมาจากเส้นใยที่ทำมาจากแร่เงินหรือไม่ก็ทองแดงแค่เท่านั้น
และยิ่งไปกว่านั้นราชวงศ์ฮั่นมีจักรพรรดิที่ขึ้นครองราชย์แค่ไม่กี่คนเท่านั้นเอง ดังนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเสื้อคลุมตัวนี้มีค่ามากขนาดไหนในสมัยตอนที่มันถูกสร้าง!
ด้วยความสนใจ อวี้ฮ่าวหรานจึงเปิดใช้งานเนตรเทวะทันทีเพื่อตรวจสอบเสื้อคลุมมังกรนี้
มันเป็นของแท้แถมมีพลังวิญญาณที่หนาแน่นสถิตอยู่อีกต่างหาก!
พลังวิญญาณที่แฝงอยู่ในเสื้อคลุมตัวนี้มันมากมายกว่าสร้อยคอจี้หยกที่หลี่ชงซานให้เขามาซะอีก!
หากเขาได้เสื้อคลุมตัวนี้มา ระดับการบ่มเพาะของเขาจะต้องเพิ่มพูนขึ้นอีกเป็นอย่างมากแน่นอน
“ของดี!”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานปักธงในใจทันทีว่าต้องได้ของชิ้นนี้มาให้ได้!
อย่างไรก็ตาม กว่าเขาจะรู้ตัวอีกทีเขาก็ต้องตกตะลึงเพราะแค่เวลาผ่านไปยังไม่ถึง 2 นาที ราคาก็กระโดดขึ้นมาถึง 30 ล้านซะแล้ว!
“32 ล้านจากแขกหมายเลข 21!”
“ห้อง VIP หมายเลข 2 ราคา 34 ล้าน!”
“…”
ยิ่งเวลาผ่านไป ราคาก็ยิ่งพุ่งทะยาน!
อย่างไรก็ตามต่อให้จะเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้ย่อท้อเพราะตอนนี้เขาเองก็รวยมาก ๆ เช่นกัน!
“40 ล้านจากแขกผู้มีเกียรติห้อง VIP หมายเลข 4!”
หลังจากผู้ดำเนินการประมูลแจ้งราคาที่ก้าวกระโดดซึ่งอวี้ฮ่าวหราน เป็นคนเสนอราคา บรรดาผู้คนที่เข้าร่วมประมูลก็เงียบไปครู่หนึ่ง
อย่างไรก็ตามด้วยความล้ำค่าของเสื้อคลุมตัวนี้ ผู้เข้าร่วมประมูลคนอื่น ๆ จึงต่างกัดฟันกรอดและสู้ราคาต่อไปอย่างดุเดือดเหมือนเดิม
“41 ล้านจากแขกหมายเลข 15!”
“44 ล้านจากแขกหมายเลข 18!”
“54 ล้านจากแขกผู้มีเกียรติห้อง VIP หมายเลข 5!”
แน่นอนว่าการเพิ่มราคาถึง 10 ล้านทำให้ทุกคนในห้องประมูลตกตะลึงจนแทบอ้าปากค้าง
การเพิ่มราคาขนาดนี้มันดับฝันใครหลายคนที่ต้องการจะสู้ราคาต่อได้อย่างรวดเร็ว
อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองไปที่ห้อง VIP ที่อยู่ข้างห้องของเขาเช่นกัน ตามที่เขาคาด กัวหย่งซิน ในที่สุดก็เข้าร่วมการแย่งชิงครั้งนี้!
คนผู้นี้มีเงินทุนที่หนาดีจริง ๆ แต่แน่นอนว่าชายหนุ่มเองก็มีเงินเช่นกันดังนั้นไม่ว่าวันนี้ราคามันจะดีดไปถึงเท่าไหร่ เขาก็จะต้องครอบครองเสื้อคลุมตัวนี้ให้ได้!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็กดปุ่มสู้ราคาอีกครั้ง