บทที่ 42 เลเวล 10
“นายทำบ้าอะไรไปเนี่ย? ทำไมโรสถึงออกคำสั่งล่านายแบบนั้นล่ะ?” เมื่อเซียวเฟิงเข้ามาในเกมก็ได้รับข้อความด่วนจากไนท์ คูนเนอร์
ถ้ากิลด์มีคำสั่งล่าค่าหัวเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะเป็นศัตรูของกิลด์นั้นไปตลอดกาล สมาชิกทุกคนจะต้องร่วมมือกันฆ่าผู้เล่นคนนี้ให้ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็เป็นคำสั่งจับตายเสียด้วย นั่นหมายความว่าจะไม่มีการหยุดยั้งใดๆ ทั้งสิ้น กิลด์จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีฆ่าคนที่ถูกหมายหัวไว้จนกว่าจะตายและออกไปจากเกมนี้!
แต่เซียวเฟิงก็ไม่ได้สนใจอะไร เขายังคงไม่ตอบคำถามของไนท์ คูนเนอร์
“ลูกพี่!”
“นายอยู่นี่เอง! รีบฮีลพวกเราก่อนที่พลังชีวิตจะหมดเถอะ! ถ้าเฉียนโตวโตวไม่ได้เอายาสำรองมาด้วย พวกเราคงได้ไปเกิดใหม่กันหมดแล้ว!”
คู่นิโคลัสช่วยเฉียนโตวโตวเก็บเลเวลในขณะที่เซียวเฟิงไม่อยู่
“ฉันจะไปเปลี่ยนคลาสก่อน ถ้าพวกนายทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็น่าจะเป็นเลเวล 10 ในคืนนี้แหละ” ชายหนุ่มส่ายหัว และใช้ฮีลที่สละพลังชีวิตตัวเองด้วยแหวนเงินเพื่อฟื้นฟูให้กับทีมของเขา แถมยังให้ยาไปอีก
“ทำไมนายไม่เก็บเลเวลกับพวกเราที่นี่ล่ะ? ยังเลเวล 9 อยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ที่นี่เก็บเลเวลได้ดีกว่าแถวหมู่บ้านอีกนะ” เจ๋าซือถามอย่างสงสัย เฉียนโตวโตวกับเถียซูเองก็เดินตามมา
“ไม่ล่ะขอบใจ มอนสเตอร์พวกนี้ให้ค่าประสบการณ์น้อยเกินไป เดี๋ยวฉันจะกลับมา” เซียวเฟิงส่ายหัว เขายืนอยู่บนวงเวทย์ตรงกลางเกาะที่อยู่เหนือทางเข้าใต้ดิน จากนั้นเซียวเฟิงก็หายไปพร้อมกับวงเวทย์ที่เปล่งแสงออกมา
“น่ะ… นั่นมันทางเข้าโซนอื่นใช่ไหม? คนที่จะเข้าไปได้ต้องมีเลเวล 10 นี่นา แต่เขายังเลเวล 9 อยู่เลยนี่?” เจ๋าซือชี้ไปยังวงเวทย์นั่น
“บางทีเขาอาจจะแตกต่างจากคนทั่วไปก็ได้” เถียซูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “รีบเก็บเลเวลให้ถึง 10 กันเถอะ เพราะเขาเริ่มทำเควสทดสอบแล้ว และถ้าเป็นเราทั้งคู่ก็คงใช้เวลาอีกไม่นานเท่าไหร่”
“ใช่แล้ว นายพูดถูก”
เซียวเฟิงเปลี่ยนแผน และเข้าไปในโซนทดสอบอย่างเร่งรีบ เขาไม่สามารถอยู่ที่เขตเริ่มต้นได้อีกต่อไปแล้ว ชายหนุ่มอยากจะรีบเปลี่ยนคลาสให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะสิ่งที่เขาพูดกับหลิวเฉียงเหว่ยนั้นไม่ใช่เรื่องหลอกลวง แต่เขาจริงจัง!
ในเกมโลกเสมือนนี้ มันแตกต่างจากการแข่งอีสปอร์ตมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และบางอย่างก็ทำให้เซียวเฟิงประหลาดใจ… ในเมื่อคนที่อยู่เบื้องหลังไม่ยอมปรากฏตัวออกมา เขาก็ต้องรีบก้าวข้ามเกมนี้ไปให้ถึงระดับโลกโดยเร็วที่สุด และเมื่อเป็นแบบนั้น พวกมันจะต้องลงมืออีกแน่!!
เหมือนกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว!
“คุณทำเควสทดสอบ [หลุมใต้ดิน] สำเร็จแล้ว ได้รับค่าประสบการณ์ 21,000 หน่วย”
“คุณเลเวล 10 แล้ว และได้แต้มค่าสถานะ 1 แต้ม”
“คุณได้เข้าสู่ระดับ 10 แล้ว คุณสามารถไปยังเมืองหลักเพื่อเปลี่ยนคลาสได้ รีบไปยังหมู่บ้านเริ่มต้นเพื่อรับเควสเปลี่ยนคลาสกันเถอะ“
ด้วยกระบองอันนี้ พลังโจมตีของเซียวเฟิงเพิ่มขึ้นมาก เพียงไม่ถึงชั่วโมงเขาก็ผ่านเควสทดสอบนี้ได้ แต่เขามองไปยังรายชื่อก็เห็นว่าอันดับสองยังอยู่ที่เลเวล 9 อยู่ ดังนั้นเขาจึงยังไม่รีบกลับไปที่หมู่บ้าน และเริ่มทะลวงทางใต้ดินนี่อีกครั้ง
พลังของแหวนที่เขามีทำให้สามารถเข้ามาที่นี่ได้อีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ชายหนุ่มสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระโดยที่ไม่ต้องมีมัน
“คุณทำเควสทดสอบ [หลุมใต้ดิน] สำเร็จแล้ว ได้รับค่าประสบการณ์ 21,000 หน่วย”
ภายใน 2 ชั่วโมง เซียวเฟิงก็ทำเควสทดสอบสำเร็จไปถึง 2 ครั้งติด กระเป๋าของเขาเต็มไปด้วยไอเทมจากบอส เซียวเฟิงเลือกหยิบของระดับเงินกับน้ำเงินเท่านั้นและใส่มัน
“นายทำเควสทดสอบเสร็จแล้วเหรอ? ทำด้วยตัวคนเดียวเลยเนี่ยน่ะ?” ด้านนอกนั้น เถียซูที่กำลังเก็บเลเวลอยู่ตะลึงกับเซียวเฟิงที่เดินออกมา แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเข้าไปข้างในก็จริง แต่ก็พอจะเดาได้ว่ามันจะต้องมีเควสที่ยากมากรออยู่แน่ๆ
“ใช่ นายเองก็รีบเก็บเลเวลซะ ฉันจะหาช่วยเควสทดสอบให้นายทีหลัง” ชายหนุ่มพยักหน้า เปิดกระเป๋าออก และให้อุปกรณ์มากมายกับเฉียนโตวโตว หลายๆ อย่างในนั้นทำให้ดวงตาของหญิงสาวเป็นประกาย
“โอเค ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะเก็บเวลกันที่นี่ข้ามคืนไปเลย เพราะทันทีที่คนอื่นๆ ถึงเลเวล 10 ที่นี่ก็จะมีคนเข้ามามากมายแน่ๆ” เถียซูพยักหน้า เขาและเจ๋าซือเลเวล 9 แล้ว และด้วยธนูระดับเงิน มันก็ทำให้เขาสามารถจัดการมอนสเตอร์ได้เร็วขึ้น
“ลูกพี่ แล้วฉันล่ะ? ถ้าลูกพี่จะไปที่เมืองหลักแล้วฉันจะทำยังไงต่อ?” เฉียนโตวโตวร้อนใจ เธอคือผู้เล่นที่แทบจะไม่รู้วิธีจัดการมอนสเตอร์เลยด้วยซ้ำ เลเวลที่เธอได้มานั้นก็มาจากการเก็บเลเวลด้วยกันกับพวกนิโคลัสทั้งนั้น
“ไม่ต้องห่วง พวกเราจะพาเธอออกไปจากหมู่บ้านนี้เอง” เจ๋าซือทุบอกตัวเองพร้อมให้สัญญา แม้เฉียนโตวโตวจะไม่ค่อยมั่นใจแต่เธอคงไม่น่าจะเปลี่ยนความคิดของเซียวเฟิงได้ ดังนั้นหญิงสาวจึงพยักหน้าให้อย่างไม่เต็มใจ
เมื่อเห็นว่าตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เซียวเฟิงจึงพยักหน้าและออกไปจากที่นี่เพื่อไปยังหมู่บ้าน ซึ่งที่นั่นผู้เล่นที่มีเลเวล 7 ต่างก็กำลังตีมอนสเตอร์อยู่ด้านนอก คงอีกไม่นานที่พวกเขาจะย้ายไปยังบึงพิษนั่น หมู่บ้านนี้ใหญ่ก็จริง แต่โชคดีที่เซียวเฟิงไม่ได้เจอกับพวกมิดซัมเมอร์หรือดูมส์เดย์ลีก ดังนั้นเขาจึงเข้าหานักบวชเฒ่าโดยไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น
“โอ้ เจ้านั่นเอง นักบวชฝึกหัด เจ้าเลเวล 10 แล้วนี่นา อยากจะเรียนสกิลใหม่เหรอ?” นักบวชเฒ่านั่นมองชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะพูดต่อ “จริงๆ แล้วเจ้าต้องผ่านการทดสอบก่อนที่จะเรียนรู้สกิลใหม่ แต่เจ้าเข้าใจในตัวพระองค์แล้ว ดังนั้นนักบวชฝึกหัดเอ๋ย เลือกสกิลเสียเถิด”
“นักบวชผู้ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้านั้นแตกต่างจากนักรบ ที่เลเวล 10 พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้ถึง 4 สกิล แต่เจ้าสามารถเรียนสกิลนี้ได้ที่นี่เท่านั้น เพราะฉะนั้นเลือกให้ดีๆ ล่ะ แต่หลังจากที่เรียนสกิลไปแล้ว ก็จะสามารถเปลี่ยนมันได้อีกครั้งที่เมืองหลัก แถมยังสามารถเรียนสกิลที่สองได้จากผู้ดูแลที่นั่นด้วย” หลังจากพูดจบนักบวชเฒ่าก็โบกมือ คำอธิบายสกิลทั้ง 4 พลันปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าเซียวเฟิง
[อวยพรอาวุธ]
คำอธิบาย: สามารถเพิ่มพลังโจมตีให้กับเพื่อนระยะเวลาหนึ่ง ตัวเลขเท่ากับ 10% ของพลังโจมตีเป้าหมาย + ค่าแข็งแกร่งของตัวเอง เป็นเวลา 60 วินาที และคูลดาวน์ 30 วินาที
[อวยพรความกล้า]
คำอธิบาย: เพิ่มค่าความทนทานของเพื่อนระยะเวลาหนึ่ง ตัวเลขคือ 10% ของพลังโจมตีเป้าหมาย + ค่าความฉลาดของตัวเอง เป็นเวลา 60 วินาที และคูลดาวน์ 30 วินาที
[อวยพรชีวิต]
คำอธิบาย: เพิ่มลิมิตพลังชีวิตให้กับเพื่อน ตัวเลขเท่ากับความแข็งแกร่งของตัวเอง เป็นเวลา 60 วินาที และคูลดาวน์ 30 วินาที
[ฮีล]
คำอธิบาย: ฟื้นฟูพลังชีวิตของเพื่อนจำนวนเท่ากับพลังโจมตีเวทย์คูณกับ 10% ของพลังชีวิต และระยะเวลาเท่ากับค่าจิตวิญญาณของตัวเอง
เซียวเฟิงตะลึง เพราะทั้งสี่สกิลนี้สุดยอดมาก สองอันแรกใช้ตามสถานการณ์ได้ สองอันหลังเอาไว้ใช้ฮีลเพื่อนตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งชายหนุ่มก็ระลึกได้ว่าทำไมคลาสนักบวชถึงต้องพึ่งพาค่าสถานะทั้งห้า
“ฉันเลือกอวยพรอาวุธ”
หลังจากคิดอยู่สักพัก เซียวเฟิงก็เลือกสกิลนั้นมา เพราะในฐานะของนักบวชแล้ว เขาไม่มีพลังโจมตีที่สูงมาก ยิ่งไปกว่านั้นสกิลนี้อาจจะสามารถช่วยเพิ่มพลังให้เขาได้ในบางกรณี
“คุณได้เรียนรู้สกิล [อวยพรอาวุธ] แล้ว”
ชายหนุ่มเปิดดูแถบสกิลก็เห็นว่ามีสกิลทั้งหมด 3 อย่างแล้ว
[โฮลี่ไลท์]
คำอธิบาย: ฟื้นฟูพลังชีวิตเพื่อนในจำนวน 10% ของพลังชีวิตสูงสุดของเป้าหมาย + ค่าจิตวิญญาณของตัวเอง คูลดาวน์ 15 วินาที ใช้มานา 15 หน่วย
[ชำระล้าง]
คำอธิบาย: ลบล้างสถานะผิดปกติทั้งหมดในเป้าหมาย โอกาสสำเร็จอยู่ที่เลเวลเป้าหมาย + เลเวลสกิล – เลเวลของค่าสถานะผิดปกติ x 100% คูลดาวน์ 15 วินาที ใช้มานา 15 หน่วย
[อวยพรอาวุธ]
คำอธิบาย: เพิ่มพลังโจมตีให้กับเพื่อนระยะเวลาหนึ่ง ตัวเลขเท่ากับ 10% ของพลังโจมตีเป้าหมาย + ค่าแข็งแกร่งของตัวเอง เป็นเวลา 60 วินาทีและคูลดาวน์ที่ 30 วินาที คูลดาวน์สกิล 30 วินาที ใช้มานา 30 หน่วย
“ฉันเอาใบทดสอบมาด้วย” หลังจากปิดแถบสกิลไป เซียวเฟิงก็หยิบใบทดสอบมามอบให้กับนักบวชเฒ่า
“คุณทำเควสทดสอบสำเร็จแล้ว และได้รับอนุญาตให้ไปที่เมืองหลักได้”
“โอ้ นักบวชฝึกหัด เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจมาก ไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถชำระล้างดวงวิญญาณของผู้พิทักษ์ได้มากขนาดนี้ พวกปีศาจมากมายต้องหายไปเป็นแน่!”
เพราะเซียวเฟิงไปทัวร์ใต้ดินมา 3 ครั้ง เขาจึงมีใบทดสอบ 6 ใบ นักบวชเฒ่าเองก็พูดแบบนั้นวนไปเรื่อยๆ จนครบ
“การกระทำของเจ้าจะได้รับการอวยพรจากพระผู้เป็นเจ้า นี่เป็นจดหมายแนะนำตัวจากข้า เอานี่ไปให้หัวหน้าหมู่บ้านเถอะ แล้วเขาจะพาเจ้าไปยังเมืองหลัก ขอให้แสงแห่งพระองค์อยู่กับตัวเจ้าตลอดไป”