ชื่อของธอร์หลุดหายไปจากลีดเดอร์บอร์ดทันทีหลังจากที่เขาใช้แต้มสมบัติทั้งหมดที่ตรากตรำมากับการเปิดกาชาปองเมื่อครู่ เซียวเฟิงสามารถเห็นได้ชัดเจนเลยว่าบนใบหน้าอันหล่อเหลาของธอร์นั้นดูมืดมนลงไปเล็กน้อยขณะที่ตัวเขานั้นออกไปจากพื้นที่โบนัสแห่งนี้
แต่ก่อนที่จะออกไป ธอร์ก็หันกลับมามองเซียวเฟิงด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า แต่เพราะพื้นที่โบนัสแห่งนี้ถือว่าเป็นเขตปลอดภัย เจ้าตัวจึงทำได้แค่มองและรีบจากไปด้วยความโกรธเคืองที่ทะยานสูงเสียดฟ้า
บางทีหลังจากนี้อาจจะต้องมีผู้เล่นอีกหลายคนที่ต้องประสบเคราะห์กรรมเพราะธอร์ที่กำลังเลือดร้อนคนนี้แน่ ๆ
ผู้เล่น
ชื่อผู้เล่น : ธอร์
เขต : อเมริกาเหนือ
เลเวล : 19
คลาส : นักเวทสายฟ้า
เซียวเฟิงใช้ทักษะการเก็บข้อมูลระดับสูงของเขาในการตรวจสอบข้อมูลของธอร์ก่อนที่อีกฝ่ายจะพ้นเขตปลอดภัยนี้ไป แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นก็มีเพียงแค่สถานะพื้นฐานกับคลาสที่เป็นอยู่เท่านั้น และนั่นเพราะชายหนุ่มไม่รู้ว่าในเขตอเมริกาเหนือนั้นมีคลาสพื้นฐานเป็นแบบไหนบ้าง จึงส่งผลให้ไม่รู้ว่าคลาสของธอร์นั้นถือเป็นคลาสลับหรือคลาสทั่ว ๆ ไป
แต่อย่างน้อย ๆ เขาก็รู้ว่าธอร์นั้นมีเลเวลสูงมาก ๆ บางทีเขาอาจจะเป็นรองแค่เซียวเฟิงก็ได้หากมาอยู่ในเขตฮัวเซียด้วยกัน ดังนั้นแล้วมั่นใจได้เลยว่า ธอร์คือผู้เล่นระดับเทพของเขตอเมริกาเหนืออย่างแน่นอน
หลังจากที่ธอร์จากไปแล้ว เซียวเฟิงก็ไปยังตู้กาชาปองบ้าง เขามองไปยังวิธีใช้งานและมันก็เป็นอย่างที่กระดานอธิบายกฏการใช้งานพื้นที่แห่งนี้ว่าไว้ กาชาปอง 1 ครั้งใช้แต้มสมบัติ 10,000 แต้ม แต่จะไม่มีใครรู้ว่าของรางวัลภายในมีอะไรบ้าง รวมถึงจะไม่มีใครรู้ด้วยว่าคนที่เปิดกาชาปองนั้นได้อะไรกลับไป
ดูเหมือนว่ามันจะมีความเป็นไปได้ที่อาร์ติแฟคท์จะซ่อนอยู่ในตู้กาชาปองนี้!
ค่าโชคของเซียวเฟิงนั้นถือว่าสูงมากเป็นทุนอยู่แล้ว เพราะไม่เพียงแต่ไอเทมที่ช่วยเพิ่มค่าโชคแล้ว สัตว์เลี้ยงอย่างเสี่ยวไป๋เองก็ช่วยเพิ่มค่าโชคให้ด้วยเช่นกัน เพราะงั้นตอนนี้ เซียวเฟิงน่าจะมีค่าโชคสูงพอจะเสี่ยงรางวัลใหญ่ได้เลยก็ว่าได้
ทว่าเพราะแต้มสมบัติที่มีอยู่เพียง 3,000 กว่าแต้มในกระเป๋า เซียวเฟิงก็ส่ายหน้าเบา ๆ มันไม่พอแม้แต่จะลองหมุนสักครั้งเลยด้วยซ้ำไป
เหมือนกับธอร์ เซียวเฟิงเองก็หันหน้าและเดินออกจากพื้นที่โบนัสแห่งนี้ด้วยจิตสังหารอันแรงกล้าแฝงอยู่ในแววตาเช่นกัน มันถึงเวลาที่ต้องทำงานแล้ว!
“จากทีมที่ 2! พวกเรากำลังโดนกลุ่มของผู้เล่นเขตรัสเซียล้อมเอาไว้! พวกเราต้องการกำลังเสริม! พิกัดคือ 367.268!”
“จากทีมที่ 3! พวกเราโดนผู้เล่นจากอเมริกาเหนือเข้าโจมตี! ฝั่งนั้นมีมากเกินไป! ขอการสนับสนุนด้วย!”
…
ตอนนี้เป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมงแล้วที่อีเวนต์เริ่มต้นขึ้น มันเป็นเวลาที่นานพอจะปลุกสัตว์ร้ายในตัวผู้เล่นแต่ละคนที่เข้าร่วมแล้ว ดังนั้นจึงมีการต่อสู้เกิดขึ้นทั่วทั้งเกาะมหาสมบัติแห่งนี้เต็มไปหมด
เซียวเฟิงเปิดดูโพสต์สำหรับสื่อสารแล้วก็พบกับคำร้องขอการสนับสนุนมากมาย ชัดเจนเลยว่าพวกเขตอื่นเริ่มที่จะโจมตีเขตฮัวเซียกันแล้ว
จริง ๆ มันก็เป็นเรื่องปกติที่เขตอื่นควรจะทำกันนั่นแหละ เพราะเขตฮัวเซียน่ะ มีผู้เข้าร่วมอีเวนต์นี้มากถึง 6,000 คน ในขณะที่เขตอื่นนั้น แค่เกินพันได้ก็ถือว่าเก่งแล้ว หลาย ๆ เขตมีผู้เล่นเข้าร่วมได้แค่หลักร้อยคนเท่านั้น ยิ่งเขตเล็ก ๆ ก็มีแค่หลักสิบเท่านั้น
เพราะจำนวนของผู้เล่นในเขตฮัวเซียนั้นมีมาก จำนวนทวารบาลที่ถูกฆ่าจึงมีมากกว่าเขตอื่นแบบเทียบกันไม่ติด ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้
พวกเขากลายเป็นภัยคุกคามอย่างมากของเขตอื่น ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขตอื่น ๆ จะรวมหัวกันเพื่อกำจัดเสี้ยนหนามกันไปก่อน
ถึงอย่างนั้น สัญญาที่จะร่วมมือกันของเขตอื่น ๆ ก็ไม่ได้น่าเชื่อถือขนาดนั้น เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในอีเวนต์ ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียหลายคนก็พบว่ามีผู้เล่นเขตอื่นกำลังสู้กันเองอยู่
ทั้งนี้แล้วในครั้งนี้จึงมีเพียงเขตใหญ่ ๆ เท่านั้นที่ร่วมมือกัน ในขณะที่เขตเล็ก ๆ ก็ไม่ได้สนใจจะเข้ามาผสมโรงด้วยแต่อย่างใด
ระหว่างที่กำลังไล่ตามเหตุการณ์ในโพสต์นั้นอยู่ เซียวเฟิงก็เหลือบไปเห็นคำขอความช่วย 1 ข้อความที่ค่อนข้างอยู่ใกล้เขา เมื่อคิดตามอยู่ครู่หนึ่ง เซียวเฟิงก็ตัดสินใจเรียกเสี่ยวเสวี่ยออกมาและรุดหน้าไปหาพวกเขาทันที
ด้วยตำแหน่งของจุดปะทะที่อยู่ไม่ไกลจากพื้นที่โบนัส ผนวกกับธอร์ก็เพิ่งจะออกไป มันจึงไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้หากทีมใหญ่นี้จะเผอิญเจอเข้ากับกลุ่มของธอร์
คนคนนั้นน่ะเป็นผู้เล่นระดับสูงแน่นอน อย่างน้อย ๆ ก่อนหน้านี้เขาก็เป็นผู้เล่นที่อยู่หัวกระดานของลีดเดอร์บอร์ดมาโดยตลอด ผู้เล่นทั่วไปน่ะไม่มีทางสู้เขาได้เลย จะมีก็ต่อผู้เล่นระดับสูงเหมือนกันเท่านั้นถึงจะพอจัดการอีกฝ่ายได้!
“ตรงนี้มีอีก 1 คน! ไป ๆๆ ! ฆ่ามันซะ! อย่าปล่อยให้มันเรียกพวกได้!”
“ไปเร็ว! ฆ่าพวกนักเวทก่อน!”
“รีบ ๆ ถอยกลับมาเร็ว! รอความช่วยเหลือที่แนวหลังนี่ก่อน!”
“คิดจะหนีเหรอ? ไม่มีทาง! ล้อมพวกมันเอาไว้!”
“ฝ่าไปเลย! มุ่งหน้าไปที่ใจกลางของเกาะซะ! เขตปลอดภัยอยู่ไม่ไกลแล้ว!”
“ไปเร็ว!”
ไม่นานนัก ภาพของสนามรบที่วุ่นวายก็ปรากฏอยู่ในระยะสายตาของเซียวเฟิง พวกเขาปะทะกันที่พื้นที่เรียบกว้าง
ภาพตรงหน้าคงนิยามได้เพียงแค่ว่า ‘วุ่นวาย’ เท่านั้น เพราะผู้เล่นกว่า 100 คนที่อยู่ในสนามรบนั้นควรจะถูกมองว่าเป็นสงครามขนาดย่อม ๆ ได้ หากแต่สิ่งที่เห็นกลับมีเพียงผู้เล่นที่เอาแต่โจมตีระยะใกล้ใส่กัน ไม่มีการจัดกระบวนทัพ ไม่มีการวางแผน ทุก ๆ คนก็แค่สู้ไปตามสัญชาติญาณ บางคนไม่แม้แต่จะลืมตามองด้วยซ้ำว่ากำลังโจมตีใคร
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะผู้เล่นทุก ๆ คนที่อยู่ในสนามรบแห่งนี้ ต่างมาจากคนละเขตกันมากกว่า 5 เขตเสียอีก!
แน่นอนว่ายังเป็นเขตฮัวเซียที่มีผู้เล่นมากกว่าเขตอื่น พวกเขามีผู้เล่นกว่า 30 คน และแบ่งเป็น 2 กลุ่ม มีกลุ่มหนึ่งที่มีคนอยู่ราว ๆ 8 ถึง 9 คนที่ได้รับบาดเจ็บมาแทบจะทุกคน พวกเขาวิ่งหนีขึ้นมาทางเซียวเฟิง ดู ๆ แล้วนี่น่าจะเป็นผู้เล่นที่ส่งข้อความขอความช่วยเหลือเอาไว้ในโพสต์
ด้านหลังพวกเขายังมีผู้เล่นกลุ่มอื่นวิ่งตาม รวม ๆ แล้วก็อีกกว่า 20 คน และทั้งหมดเป็นคนจากเขตฮัวเซียที่ตามมาสมทบ ผู้เล่นพวกนี้มาจากกิลด์วอร์สปิริต ซึ่งตลอดทางที่วิ่งมาพวกเขาก็สู้กับเขตอื่น ๆ ไปด้วย พวกเขาจำเป็นต้องป้องกันให้เหล่าผู้เล่นที่บาดเจ็บนี้สามารถถอยกลับไปได้ เพราะงั้นจึงต้องคอยต่อสู้ไปเรื่อย ๆ ตลอดทางที่โดนไล่มา
จากสถานการณ์ตอนนี้มันช่วยยืนยันให้ได้ว่าคนจากกิลด์วอร์สปิริตเหล่านี้แข็งแกร่งกันขนาดไหน พวกเขาสามารถช่วยเหลือผู้เล่นที่บาดเจ็บหลายคนได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถฝ่าวงล้อมของศัตรูออกมาและฆ่าศัตรูไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นเพราะผู้เล่นจากเขตอื่น ๆ กว่า 100 คนที่พยายามจะล้อมคนของฮัวเซียเอาไว้นั้นไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันและไม่ได้มีแบบแผนที่แน่นอนมาก่อน มันเลยทำให้พวกเขาไม่สามารถล้อมกรอบผู้เล่นจากฮัวเซียได้เต็มที่นัก เพราะแบบนี้เลยทำให้วอร์สปิริตสามารถยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าวอร์สปิริตจะไร้เทียมทาน เพราะการโดนประกบจากทุกช่องทาง มันเลยทำให้พวกเขาไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สิ่งที่เขาพอจะทำได้ก็คือคอยป้องกันและหาโอกาสโต้กลับเล็ก ๆ น้อย ๆ จากความโหยหาในการฆ่าของอีกฝ่ายเท่านั้น นอกจากนี้เซียวเฟิงก็จำได้ด้วยว่าก่อนหน้านี้ วอร์สปิริตมีผู้เล่นที่เข้าร่วมอีเวนต์กว่า 30 คนได้ แต่ตอนนี้เหมือนจะเหลือเพียง 20 คนแล้ว
ด้านหลังสุดของกลุ่ม มีไนฟคอยคุ้มกันกลุ่มของวอร์สปิริตที่เหลืออยู่ เขาถือโล่ 2 มือและกันการโจมตีนับไม่ถ้วนที่โถมเข้ามาพลางตะโกน “ไปเร็ว! อย่าหันกลับมามอง! หาเซฟโซนแล้วเข้าไปฟื้นพลังกันซะ! ถ้าเมื่อไหร่พวกเราพร้อมแล้ว เราจะกลับมาล่าไอ้พวกนี้บ้าง!”
จืออี้เองก็อยู่ในท่ามกลางคนเหล่านี้ด้วย เธอดูกระวนกระวายมาก ๆ ขณะที่คอยรักษาบาดแผลให้ไนฟอย่างไม่ขาดสาย หากไม่ใช่ว่าเพราะการช่วยเหลือจากเธอแล้วล่ะก็ บางทีไนฟเองก็ไม่สามารถยืนต้านไว้ได้นานถึงเพียงนี้ด้วยเหมือนกัน
นักบวชกลายเป็นคลาสที่มีค่าที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ไปแล้ว เพราะมีนักบวชที่เข้าร่วมในอีเวนต์ได้ในจำนวนที่จำกัด ดังนั้นแล้วผู้เล่นแนวหน้าของเขตฮัวเซียที่บาดเจ็บจึงจำเป็นต้องหาตำแหน่งยืนใหม่เพื่อกินยารักษาตนเอง เพราะนักบวชที่มีในกลุ่มตอนนี้อย่างจืออี้ก็กำลังวุ่นอยู่กับการรักษาให้ไนฟอย่างเต็มกำลังอยู่
ทว่ายาฟื้นพลังชีวิตระดับกลางที่ระบบมีขายนั้นก็สามารถเพิ่มพลังชีวิตให้ได้แค่ครั้งละ 20 หน่วยเท่านั้น ต่อให้เป็นยาระดับสูงที่ผู้เล่นสร้างมันขึ้นมาเองก็ยังฟื้นได้แค่ 30 หน่วยต่อหนึ่งครั้ง แถมยังติดคูลดาวน์ตั้ง 30 วินาทีกว่าจะใช้ได้อีกครั้ง ในขณะที่ผู้เล่นแต่ละคนตอนนี้มีพลังชีวิตขั้นต่ำก็ 200 กันหมดแล้ว หากจะฟื้นตัวให้สมบูรณ์มันจึงจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่หลายนาทีเลย ในระหว่างนั้นหากพวกเขาโดนไล่ตามตัวทันล่ะก็ ลืมเรื่องวิธีการรักษา แล้วเอาเวลาไปสวดภาวนาให้ตายแล้วไม่รู้สึกไร้ค่าจะดีเสียกว่า
ทันใดนั้นเอง สมาชิกกิลด์วอร์สปิริตก็ร้องอุทานออกมา “ชักจะไม่สวยแล้วนะแบบนั้น!” สิ่งที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาคือดอกไม้น้ำแข็งมากมายที่พอมาลอยเข้ามาใกล้ไนฟ พวกมันก็ระเบิดออกทันที ดอกไม้น้ำแข็งนี้เป็นสกิลของผู้เล่นฝั่งยุโรปจากเขตเยอรมันที่ร่ายสกิลไว้จากระยะไกล
ความเย็นที่ระเบิดออกมาจากดอกไม้น้ำแข็งนั้นเกาะเข้าใส่โล่และร่างของไนฟอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแผ่นน้ำแข็ง ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของผู้ที่โดนน้ำแข็งเกาะลดลงไปอย่างมาก
จืออี้ไม่รอช้าโบกคทาของตนเองเพื่อชำระล้างดีบัฟให้ไนฟทันที ก่อนจะรีบตะโกนด้วยความร้อนใจ “ไปเร็ว!”
แต่แล้วจู่ ๆ ร่างผอมบางร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังไนฟพร้อมกับพูด “จะไปไหนกันน่ะ ฮะ?” ดูเหมือนว่าคนคนนี้จะวางแผนไว้นานแล้ว เขารอจังหวะที่จืออี้จะเลิกฮีลแล้วเปลี่ยนมาใช้สกิลอื่นแทนมาโดยตลอด
ผู้เล่นตัวเล็กคนนี้มาจากเขตโทโย เขาเป็นนินจาที่มีสกิลคลับคล้ายคลับคลากับนักลอบสังหารของเขตฮัวเซีย ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเขาซ่อนตนเองและค่อย ๆ ย่องเข้ามาด้านหลังไนฟอยู่เรื่อย ๆ แต่เพราะจืออี้คอยฮีลให้ไนฟอยู่ตลอด เขาจึงไม่เสี่ยงเปิดฉากการรอบสังหาร แต่นี่เพราะจืออี้หันไปใช้สกิลอื่นแทนแล้ว จึงคว้าโอกาสนี้เข้าโจมตีที่คอของผู้นำกลุ่มวอร์สปิริตคนนี้ด้วยสีหน้าเยาะเย้ยทันที
“บ้าเอ้ย! ปกป้องหัวหน้าไว้!”
ทุกอย่างดูจะช้าเกินไป เพราะในตอนนั้นที่เหนือหัวไนฟ มีการแจ้งเตือนว่าเขาติดสถานะมึนงงไปแล้ว สถานะนี้มันทำให้ร่างกายของเขาขยับไปไหนไม่ได้ในทันที
กลุ่มของผู้เล่นวอร์สปิริตรีบละทิ้งหน้าที่ทะลวงวงล้อมแล้วกลับมาปกป้องไนฟอย่างรวดเร็ว แต่ไนฟก็รีบตะโกนออกมา “ไม่ต้องห่วงฉัน! ไปเลย!” เพราะรู้ว่าตนเองไม่รอดแน่ ๆ เขาจึงไม่อยากให้คนเหล่านี้เอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่ตนแต่อย่างไร
“เฮ้ย ๆ ไอ้พวกโง่! ไม่มีใครได้ไปไหนทั้งนั้นแหละ! เตรียมตัวกลายเป็นศพแล้วมองไอเทมกับแต้มสมบัติของพวกแกโดนฉันเก็บไปให้ดีเลย!”
พูดจบผู้เล่นกว่า 100 คนที่มาจากหลายเขตก็รีบเข้ามาล้อมคนของวอร์สปิริตไว้ราวกับเสกขึ้นมาได้
“มันจบแล้วเหรอ!? พวกมันวางคนดักทางเราไว้! แบบนี้เราฝ่าออกไปไม่ได้แน่! ”
ความโชคร้ายนั้นไม่เคยมาเพียงลำพัง แต่ถึงกระนั้นด้วยความตกใจ ผู้เล่นของเขตฮัวเซียที่เห็นเซียวเฟิงในรูปลักษณ์ที่ไม่คุ้นตาก็ผวาขึ้นมาและเข้าใจว่าพวกเขาถูกดักถึงได้ตะโกนออกมาแบบนั้น
“สู้มัน! มันมาคนเดียว! ถ้าพวกเราร่วมมือกันล่ะก็ เดี๋ยวเดียวก็จบแล้ว!”
ขณะเดียวกัน ผู้เล่นกลุ่มหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่เซียวเฟิงด้วยแววตาปองร้ายด้วย
เซียวเฟิงไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงยกมือซ้ายขึ้นเพื่อปลดเอาหน้ากากสีดำบนใบหน้าตนออก
“เดี๋ยว!?”
“พระเจ้า!”
“นั่นเจ้าแห่งฮีลเลอร์นี่! ฮ่า ๆๆ!”
ผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บ 8-9 คนของเขตฮัวเซียหยุดขาลงในทันที เขาจ้องมองเซียวเฟิงด้วยความตกใจก่อนจะกลายเป็นประหลาดใจในทันที
ก่อนหน้านี้ในพื้นที่สำหรับเตรียมพร้อมนั้นเซียวเฟิงเคยถอดหน้ากากกระโหลกออกมาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นแม้ตอนนี้เขาจะสวมเสื้อผ้าชุดอื่น คนในเขตฮัวเซียก็ต้องจำเขาได้อย่างไม่ยาก
“ฮ่า ๆๆ เจ้าแห่งฮีลเลอร์มาแล้ว!”
“ไม่ต้องหนีแล้ว! สู้กลับเลย!”
“ถ้ามีเจ้าแห่งฮีลเลอร์อยู่ด้วยล่ะก็ เราก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว! ได้เวลาตอบโต้แล้วเว้ย!”
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นผู้เล่นระดับสูงของเขตฮัวเซีย ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นเซียวเฟิงอยู่ที่นี่ พวกเขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าต้องทำอะไรต่อ ผู้เล่นทุกคนหันหน้ากลับไปยังกลุ่มคนที่ไล่ล่าพวกเขาด้วยกำลังใจที่เต็มเปี่ยม
ส่วนเซียวเฟิงเองก็รับรู้ได้ถึงความมั่นใจนั้น และไม่ได้ปล่อยให้มันเสียเปล่า โฮลี่ไลท์ถูกร่ายขึ้นและส่องลงมาเป็นวงกว้าง มันช่วยรักษาและฟื้นพลังชีวิตของสมาชิกกิลด์วอร์สปิริตให้กลับมาเต็มเปี่ยมดังเดิมในทันที
จากนั้นก็ตามมาด้วยบัฟหลัก ๆ ทั้ง 4 ชนิด ประกอบด้วย อวยพรชีวิต อวยพรการป้องกัน อวยพรอาวุธ และอวยพรความกล้า ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นของเขตฮัวเซียกว่า 30 คนตรงหน้ากลับมากล้าแกร่งขึ้นแทบจะเป็นคนละคนเลย
“พระเจ้า! นี่คือพลังของเจ้าแห่งฮีลเลอร์เหรอ!?”
“พลัง! พลังมันล้นไปหมดเลย! อย่ามาห้ามฉัน ฉันสู้กับพวกมันแบบนี้ทั้งวันยังได้!”
ผู้เล่นคนแรกสุดที่ตะโกนให้สู้กลับนั้นอุทานออกมาด้วยความตกใจแม้ว่าตนเองจะได้บัฟด้วยก็ตาม “ไม่น่าเชื่อเลย! เจ้าแห่งฮีลเลอร์สามารถบัฟหมู่ได้ด้วยเหรอ!? ฉันนึกว่าเขาทำได้แค่ฮีลหมู่เสียอีก!!”
“ฆ่าพวกมันให้หมด! พวกมันเป็นแต้มสมบัติของพวกเรา! อย่าปล่อยให้มันหลุดรอดไปได้แม้แต่คนเดียว พวกเราไม่มีวันตายแล้วตราบใดก็ตามที่เจ้าแห่งฮีลเลอร์คอยสนับสนุน!”