“หา? เจ้าแห่งฮีลเลอร์อยู่ที่นี่ด้วยงั้นเหรอ?”
ผู้เล่นจากวอร์สปิริตดูจะพากันตกใจไปในตอนแรก ขณะที่เห็นว่าเหล่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บพากันวิ่งกลับมาด้วยพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยม จากนั้นพวกเขาถึงได้รับการแจ้งเตือนจากระบบว่าตนได้รับการบัฟเพื่อยืนยันว่า ‘เวลาอาละวาดมาถึงแล้ว’
“พระเจ้า! เจ้าแห่งฮีลเลอร์มาเป็นทัพหลังให้เราจริง ๆ ด้วย!”
“เร็วเข้า! จัดการพวกมันเลย! อย่าให้หลุดไปได้แม้แต่ตัวเดียวเลยนะ!”
ทันทีทันใด ผู้เล่นจากวอร์สปิริตก็กู่ก้องร้องคำรามและกระโจนเข้าใส่ผู้เล่นเขตอื่นทันที พวกเขาต่างเริ่มโหมกระหน่ำการโจมตีลงไปบนหัวของใครก็ตามที่ไม่ใช่ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียด้วยกัน และเนื่องมาจากที่แห่งนี้ไร้ซึ่งกฏเกณฑ์ในการต่อสู้อยู่แล้ว สนามรบที่เหมือนจะสงบลงได้ครู่หนึ่งก็กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง
ด้วยพลังที่น่าทึ่งอันเนื่องมาจากเซียวเฟิงไม่ได้เปลี่ยนอาวุธและอุปกรณ์ใด ๆ ของเขา มันจึงทำให้เขาสามารถเร่งพลังออกมาได้สุด ๆ เท่าที่จะทำได้ในตอนนี้ ผนวกกับพลังของตนเองที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งอยู่แล้ว จึงทำให้ค่าสถานะของผู้ที่ได้รับบัฟไปนั้นสูงราวกับเป็นบอสตัวเล็ก ๆ เลยก็มิปาน
ผลของการต่อสู้นั้นไม่ต้องเดาก็พอรู้ได้อยู่แล้ว แต่เดิมผู้เล่นทั้ง 100 กว่าคนที่มาจากหลาย ๆ เขตต่างพากันคิดว่าพวกคนจากเขตฮัวเซียนั้นสติแตกไปแล้วเลยหันหน้ากลับมาสู้เช่นนี้
ทว่าสถานการณ์มันกลับไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิด ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียที่กำลังอาละวาดเหล่านี้เปลี่ยนไปจริง ๆ! ด้วยชื่อสกิลมากมายที่ปรากฏขึ้นเหนือหัวของคนเหล่านี้ ขณะที่พวกเขากำลังตอบโต้กลับอย่างบ้าคลั่ง สกิลเหล่านั้นทำให้แม้แต่นักเวทยังกล้ารัวสกิลใส่โดยไม่ต้องหาที่หลบราวกับว่าเขาไม่กลัวเป็นเป้าโจมตีเสียอย่างนั้น!? คนพวกนี้เป็นบ้าอะไรกันไปแล้ว!
แล้วที่ยิ่งน่าตกใจมากกว่าเดิมอีกนั่นก็คือ ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียตอนนี้แทบจะไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีเลยเสียด้วยซ้ำ หนำซ้ำพวกที่เจ็บหนักก็กลับมาหายดีแล้วด้วย
“เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้พวกมันลืมเปลี่ยนอาวุธกันหรือไง? ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?”
แต่ไม่นานนัก ผู้เล่นเขตอื่นก็เจอต้นตอปัญหาขนาดใหญ่แล้ว จากการสังเกตว่าผู้เล่นจากเขตฮัวเซียนั้นมีพลังชีวิตที่เพิ่มขึ้นจนน่าสงสัย ทำให้พวกเขาสรุปได้ว่าที่ด้านหลังคนเหล่านี้มีนักบวชที่คอยฟื้นฟูเลือดและแจกบัฟอันบ้าคลั่งนี้ให้อยู่!
“ไม่ปกติแล้ว! ถอยกลับก่อน! มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกฮัวเซียพวกนี้!”
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้านี้ทำให้ผู้เล่นจากหลาย ๆ เขตอยากจะถอยกลับให้เร็วที่สุด แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไปแล้ว เพราะผู้เล่นจากเขตฮัวเซียที่กำลังบ้าคลั่งอยู่นี้ต่างก็ไล่ล่าผู้เล่นเขตอื่นทุกคนราวกับเป็นปีศาจร้ายที่กระหายเลือดก็ว่าได้!
ไม่ว่าจะเป็นพลังชีวิต พลังป้องกัน รวมไปถึงพลังโจมตี ค่าสถานะต่าง ๆ พวกนี้ของผู้เล่นเขตฮัวเซียมันเพิ่มสูงจนน่ากลัวเกินไปแล้ว!
เพียงแค่โดนสกิลเดียวก็รุนแรงพอที่จะทำให้พวกเขาพลังชีวิตลดหายไปกว่าครึ่งหลอดได้เลย! ดังนั้นแล้วแค่จะหาเวลาหยิบยาฟื้นฟูพลังชีวิตก็ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! พริบตาเดียวที่ละสายตาออกจากการต่อสู้ นั่นหมายถึงชีวิตของเขาได้จบลงแล้ว!
จากแต่เดิมนั้น ผู้เล่นทั้ง 100 กว่าคนกำลังห้อมล้อมผู้เล่นราว ๆ 30 คนไว้ แต่ในตอนนี้มันกลับกันไปหมดแล้ว ผู้เล่นทั้ง 30 กว่าคนนี้กำลังเป็นฝ่ายไล่ล่าผู้เล่นทั้ง 100 แทนบ้าง
ตอนแรกเซียวเฟิงตั้งใจจะยืนเฉย ๆ เพราะเขาไม่จำเป็นต้องขยับอะไรทั้งนั้น ถ้าหากคนเหล่านี้ยังชนะศัตรูที่เข้ามาทำร้ายไม่ได้แม้จะได้บัฟมหาเทพไปแล้ว พวกเขาก็ไม่ควรค่าแก่การมีชีวิตอยู่หรอก
ทว่าจู่ ๆ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เดี๋ยวก่อนสิ! ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะเก็บแต้มสมบัติเพิ่ม ถ้าพวกนั้นฆ่าคนเหล่านี้หมด แล้วจะเหลืออะไรให้ฉันล่ะ?”
กว่าจะคิดได้มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะตอนนี้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามนั้นเหลือเพียงไม่กี่ชีวิตเท่านั้น และกว่าเขาจะวิ่งไปถึง มันก็ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว!
นี่มันเสียเวลามาก ๆ! หันกลับไปมองแต้มสมบัติ 3,000 แต้มในกระเป๋าแล้วเซียวเฟิงก็หน้าบูดแบบสุด ๆ
ไนฟหันมองเซียวเฟิงด้วยความขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าตัว “เจ้าแห่งฮีลเลอร์! ขอบคุณจริง ๆ ที่มาช่วยพวกเรา! ไม่งั้นแล้วล่ะก็วอร์สปิริตคงจะถูกฆ่ากันหมดแน่ ๆ คุณถือเป็นผู้มีพระคุณสำหรับพวกเรากิลด์วอร์สปิริตจริง ๆ !” ถึงแม้ว่าวอร์สปิริตจะมีสัมพันธไมตรีกับเซียวเฟิงหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความวิกฤตมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สังเกตได้ว่าสีหน้าของเซียวเฟิงนั้นดูจะไม่ดีเสียเท่าไหร่
จริง ๆ มันก็ไม่ใช่อะไรที่สังเกตยากเลย ระหว่างนั้นจืออี้ก็บิดร่างกายที่เย้ายวนของเธอไปมาเบา ๆ คอเสื้อของชุดนักบวชสาวที่เธอสวมอยู่นั้นมันถูกเปิดกว้างเพื่อระบายความร้อนจนเผยให้เห็นเนินอกสวยที่ดูงดงามนั้นอย่างชัดเจน
แววตาที่สวยมีเสน่ห์ของสาวเจ้าจ้องมองไปยังเซียวเฟิงด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนที่ตัวเธอจะตัดสินใจถามด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อยแต่ก็เร่าร้อนจนใครต่อใครที่ได้ยินต่างก็พากันสยิวกิ้วไปตาม ๆ กัน “เฮ้ ๆ เกิดอะไรขึ้นกับผู้เล่นระดับสูงของเขตฮัวเซียอย่างนายน่ะ? ดูเหมือนนายจะไม่ดีใจที่มาช่วยพวกเราเลยนะ”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”
ถึงปากจะบอกอย่างนั้น แต่สีหน้าของเซียวเฟิงก็ไม่ได้ดูปกติดีเหมือนอย่างที่พูดหรอก เพราะถ้าพูดออกไปอาจจะได้บาดหมางกันแน่ ๆ คนพวกนี้เก็บแต้มสมบัติของผู้เล่นอื่น ๆ ไปจนหมดเลย ไม่มีใครเหลือเหยื่อไว้ให้เซียวเฟิงสักคน
จืออี้ยังคงมีความอยากรู้อยากเห็นซ่อนอยู่ แต่ถึงเธออยากจะถามซ้ำ โอกาสมันก็ไม่เอื้ออำนวยให้เธอเสียแล้ว
หลังจากที่จัดการพื้นที่รอบ ๆ จนเรียบร้อยแล้ว เหล่าผู้เล่นจากฮัวเซียที่อยู่บริเวณนี้ก็เข้ามาห้อมล้อมเซียวเฟิงไว้ด้วยความตื่นเต้น “สมแล้วจริง ๆ กับฉายาเจ้าแห่งฮีลเลอร์! พลังของคุณสุดยอดไปเลย!”
“ฉันเห็นด้วย! เมื่อกี้นี้พลังโจมตีกับพลังชีวิตของฉันมันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเลย! น่ากลัวจริง ๆ !”
พวกเขาประทับใจเจ้าแห่งฮีลเลอร์มาตั้งแต่ที่ปะทะกับกิลด์กลอรี่เมื่อคืนก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้เพียงแค่ว่าความแข็งแกร่งของเจ้าแห่งฮีลเลอร์คนนี้น่ากลัวขนาดไหน…
แต่เมื่อสถานการณ์เมื่อครู่นี้ก็ทำให้พวกเขาตระหนักได้อีกอย่างหนึ่งว่า ยังไงเสียคนคนนี้ก็ยังเป็นนักบวช ที่ความแข็งแกร่งในการสนับสนุนสูงพอ ๆ กับพลังต่อสู้ของตัวเขาเอง! ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกว่า เจ้าแห่งฮีลเลอร์!
ไนฟยกย่องเซียวเฟิงด้วยการจับมือกับเขาก่อนจะถาม “เจ้าแห่งฮีลเลอร์ เราต้องขอบคุณมากอีกครั้งจริง ๆ ว่าแต่ นายได้เข้าไปในพื้นที่โบนัสแล้วหรือยัง?”
เซียวเฟิงพยักหน้า “อืม”
รู้เช่นนั้นไนฟก็รีบถามต่อ “มันอยู่ตรงไหนเหรอ? พวกเราเองก็จะไปตรวจสอบที่นั่นดูเหมือนกัน!” อย่างที่คิด ที่มาเจอคนเหล่านี้ใกล้ ๆ พื้นที่โบนัสได้เป็นเพราะพวกเขาเองก็ตั้งใจจะมาที่นี่เหมือนกัน
“เดินตรงไปทางนั้น จะมีหุบเขาที่เป็นแอ่งอยู่ พิกัด 100.100” เพราะตัวเซียวเฟิงเพิ่งจะออกมาจากจุดนั้นพอดี ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่ชายหนุ่มจะสามารถระบุตำแหน่งให้ได้
หัวหน้ากลุ่มวอร์สปิริตดูจะตื่นเต้นสุด ๆ เขาแทบจะรีบมุ่งหน้าไปในทันทีโดยไม่สนใจอะไรเลย “โอเค! งั้นพวกเรารีบมุ่งหน้าไปดูที่นั่นกันเถอะ!”
ก่อนที่พวกเขาจะได้ไป เซียวเฟิงก็เอ่ยเตือนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทั่ว ๆ ไป “ถ้ายังไงก็ระวังตัวด้วยก็แล้วกัน ผู้เล่นที่ชื่อ ธอร์ จากเขตอเมริกาเหนืออยู่แถว ๆ นี้ เขาคนนั้นจะต้องโจมตีพวกนายแน่ ๆ ถ้าเผอิญเจอหน้ากัน แล้วก็เขาน่ะ เป็นคนที่รับมือด้วยยากมาก ๆ คนหนึ่งเลย” ด้วยคำพูดนี้มันทำให้ไนฟและผู้เล่นคนอื่น ๆ ต่างพากันสั่นสะท้านขึ้นมา
“ว่าอะไรนะ! ธอร์เหรอ? เจ้าแห่งฮีลเลอร์ นายมั่นใจใช่ไหมว่าเจอธอร์น่ะ?”
“ธอร์จริง ๆ เหรอ? ผู้เล่นอันดับหนึ่งที่มาจากเขตอเมริกาเหนือคนนั้น”
ท่าทีประหลาดใจของคนเหล่านี้ทำให้เซียวเฟิงเริ่มสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาก็เพียงแค่พยักหน้า “ใช่ ฉันเจอกับเขาที่พื้นที่โบนัสมา มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
ไนฟยิ่งตกใจมากขึ้นกว่าเดิม “พระเจ้า! เจ้าแห่งฮีลเลอร์ คุณไม่เคยได้ยินเรื่องของธอร์มาบ้างเหรอ!?”
จืออี้อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าและพูดออกมาเบา ๆ แต่คำพูดของเธอนั้นกลับทำให้ผูเล่นฮัวเซียรอบ ๆ ต่างพากันตกใจ “การที่ได้รู้ว่านายเป็นมือใหม่ในเกมออนไลน์นี่ทำเอาฉันประหลาดใจไม่น้อยเลยนะเนี่ย”
“หา? ผู้เล่นที่เป็นจุดสูงสุดของเขตฮัวเซียอย่าง เจ้าแห่งฮีลเลอร์ เป็นมือใหม่ในเกมออนไลน์งั้นเหรอ?”
ไนฟเองก็คิดเรื่องนี้ไว้บ้างแล้วเหมือนกัน เพราะงั้นเขาจึงดูไม่ได้ตกใจอะไรมากและอธิบายให้เซียวเฟิงฟัง “ธอร์ถือเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในเขตอเมริกาเหนือน่ะครับ รวมถึงยังเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดคนหนึ่งในอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ด้วย เทียบกับผู้เล่นจำนวนมากแล้ว มีน้อยคนมากที่จะทัดเทียมเขาได้ 1 ในนั้นก็มีเบลดมาสเตอร์ของเขตฮัวเซียของพวกเราด้วย”
นักบวชสาวยิ้มน้อย ๆ สายตาของเธอยังคงมองไปยังเซียวเฟิงก่อนจะพูดเชิงเย้าแหย่ออกมา “หัวหน้าไนฟคะ เหมือนนายจะลืมใครไปหรือเปล่า?”
คำพูดของเธอทำให้ไนฟครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงจะเข้าใจและยิ้มพร้อมกล่าวขอโทษเซียวเฟิง “โอ๊ะ จริงสิ! ฉันนี่แย่จริง ๆ เรื่องพวกนั้นมันเป็นอดีตไปแล้วน่ะครับ เพราะตอนนี้เจ้าแห่งฮีลเลอร์เองน่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเหนือกว่าธอร์แล้ว!”
เซียวเฟิงส่ายหน้า “เขาแกร่งกว่าถูกแล้ว” แม้จะยังไม่ได้สู้กันมาก่อน แต่จิตสังหารที่ธอร์ทิ้งไว้ใส่เขานั้น มันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงพลังที่เอ่อล้นอยู่ภายในตัวอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
ใครสักคนหนึ่งขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้น “แสดงว่าธอร์เองก็เริ่มออกล่าแต้มสมบัติแล้วใช่ไหม? แต่เมื่อกี้นี้ฉันเห็นชื่อของเขาหายไปจากลีดเดอร์บอร์ด บางทีเขาอาจจะถูกฆ่าไปแล้วก็ได้นะ”
“เขาใช้แต้มสมบัติทั้งหมดไปกับพื้นที่โบนัส และตอนนี้เขากำลังหาผู้เล่นคนอื่นอยู่เพื่อจะฆ่าทิ้ง” เซียวเฟิงรีบอธิบาย
ไนฟดูจะคิดหนักมากขึ้นหลังจากฟังข้อมูลเหล่านี้ “ถ้าอย่างงั้น มันคงจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับพวกเราหากจะเข้าไปยังพื้นที่โบนัสนั้น เพราะเรามีโอกาสที่จะเจอกับเขาได้ทุกเมื่อเลย”
ระหว่างนั้นจืออี้ก็เอ่ยถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เจ้าแห่งฮีลเลอร์ นายเพิ่งจะออกมาจากพื้นที่โบนัส พอจะบอกพวกเราได้หรือเปล่าว่ากฏภายในมีอะไรบ้าง พวกเราจะได้ไม่ต้องเข้าไปด้วยตนเอง”
อีกครั้งที่ไนฟเห็นด้วยกับจืออี้ เพราะงั้นเขาเองก็ถามในแบบเดียวกันกับจืออี้ด้วยเช่นกัน “อ๊ะ จริงด้วยสิ เจ้าแห่งฮีลเลอร์ครับ คุณคิดว่ายังไงบ้าง?”
เรื่องนี้มันไม่จำเป็นที่ต้องปิดบังอยู่แล้ว เซียวเฟิงอธิบายกฏการแลกเปลี่ยนทุกอย่างในพื้นที่โบนัสรวมถึง รายละเอียดของ NPC แต่ละตัวที่เตรียมไว้สำหรับแลกของรางวัลไปจนหมดทุกอย่าง
และเพื่อไม่ต้องอธิบายซ้ำ เซียวเฟิงตัดสินใจที่จะพิมพ์มันลงไปในโพสต์สื่อสารเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่โบนัสด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่ไอเทมแต่ละชิ้นที่แลกได้นั้นจะมีแค่ค่าสถานะไม่มีสกิลกับเป็นไปได้ว่าอาร์ติแฟคท์จะเป็นรางวัลอยู่ในตู้กาชาปอง
ทันทีที่เซียวเฟิงพิมพ์และกดส่งเสร็จ เหล่าสวีก็ปรากฏตัวขึ้นมาในโพสต์ทันที เขาปักหมุดความคิดเห็นของเซียวเฟิงไว้บนสุดของโพสต์พร้อมกับตอบกลับในเวลาเดียวกัน “นี่เป็นโอกาสของเราแล้ว!”
“ในเมื่อพวกเรารู้แล้วว่าภายในพื้นที่โบนัสมีอะไร พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงตายเพื่อเข้าไปยังพื้นที่ใจกลางจุดนั้น สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือ คอยฆ่าปีศาจหีบสมบัติบนเกาะนี้ไปเรื่อย ๆ เท่านั้น”
“ฉันเชื่อว่าเขตอื่น ๆ จะต้องมุ่งหน้าเข้าไปที่จุดนี้แน่ ๆ และด้วยความที่การสื่อสารน่าจะมีปัญหากันทั้งหมด พวกนั้นจะไม่รู้ว่าพวกเรายังอยู่หรือตายไปหมดแล้วหากพวกเราไม่ได้โผล่หน้าออกไปให้เห็นเป็นเวลานาน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเราถูกคิดว่าตาย นั่นหมายถึงเขตต่าง ๆ ที่ร่วมมือกันก็จะยกเลิกสัญญา หลังจากที่พวกนั้นกำจัดปีศาจหีบสมบัติกันเสร็จแล้ว ก็จะถึงเวลาฆ่ากันเอง!”
“และเมื่อถึงเวลานั้น พวกเราก็ค่อยรวมตัวกันแล้ววิ่งเข้าไปในพื้นที่แลกรางวัลก็ได้ จะไม่มีเขตไหนขัดขวางเราได้ทั้งนั้น!”