บทที่ 49 – ความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิง
“แจ้งเตือน ตื่นๆ ได้แล้วค่ะ”
เสียงของทูจังดังขึ้นในหัวของฉัน ฉันก็ลืมตาขึ้น ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของตัวเอง …
“นี่ฉันหลับไปตอนไหนเนี่ย..?”
“คำตอบ ไม่ทราบค่ะ”
“ถ้าฉันจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ฉันออกไปข้างนอก… อ้ะ จำอะไรไม่ได้เลยแฮะ”
“คำตอบ ไม่ทราบค่ะ”
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่เห็นทูจังตอบไม่ได้แบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะนะ ถึงจะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ถ้ามันสำคัญเดี๋ยวก็จำได้เองแหละ ที่มันลืมเพราะมันไม่สำคัญยังไงล่ะ ในขณะที่ฉันกำลังคิดแบบนั้นนั่นเอง ทูจังก็พูดขึ้น
“แจ้งเตือน นี่ใกล้ถึงเวลางานเลี้ยงแล้ว..”
“ห้ะ.. นี่ถึงตอนเย็นแล้วเหรอ แย่ละสิ”
ฉันลืมไปเลยว่าวันนี้มีงานเลี้ยง ถ้าเข้าใจไม่ผิดหากนี่เป็นรูทแฮปปี้เอนด์ของนางเอก อีเว้นงานเลี้ยงนี้ตัวนางร้ายอย่างอนาสตาเซียจะถูกประจานสู่สาธารณะว่าเธอใช้วิธีคดโกง
แต่ฉันไม่อยากให้มันเป็นรูทแฮปปี้เอนด์ ดังนั้นฉันต้องไปเปลี่ยนสถานการณ์นั้นให้ได้ ถึงในตอนนี้ดูเหมือนว่านางร้ายจะเกลียดฉันเข้าไส้แล้วก็ตาม
แต่ตามที่ทูจังบอกคือ อีเว้นงานแข่งขันเฟสเตอร์สามารถรีเซ็ตความน่าจะเป็นของรูทกลับมาได้ ดังนั้นหากฉันพยายามหลีกเลี่ยงแฟล็กที่สำคัญในรูทแต่ละรูท
ก็ยิ่งมีโอกาสช่วยให้ฉันลดความน่าจะเป็นของแต่ละรูทได้ยังไงล่ะ ฉันรีบแต่งตัวและโผล่หน้าออกไป แต่เหมือนจะไม่มีคนมารับฉันเลย
ซึ่งงานเลี้ยงนี้ควรจะมาในธีมแบบว่าพ่อบ้านกับคุณหนูสิ แต่ทำไมไม่มีคนมารับฉัน.. ไม่สิ พวกเขาคงคิดว่าฉันไม่เข้าร่วมละมั้ง
เพราะนี่มันก็จวนจะถึงเวลางานเลี้ยงแล้วนี่น่า ฉันจึงไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปบนระเบียงโดยไม่สนใจว่าตัวเองกำลังใส่ชุดเดรสเลย
ฉันใช้เวลาไม่นานก็มาถึงงานเลี้ยงฉันรีบเดินเข้าไปในงานเลี้ยง ทว่าทันทีที่ก้าวเข้าไปในงานเลี้ยงก็มีเสียงของคนดังขึ้น
“อย่างที่ข้าได้กล่าวไป ทางโรงเรียนลิเบอร์ของข้าได้มีการคดโกงเพื่อรับตำแหน่ง ‘ตัวแทนโรงเรียน’ ที่สูงศักดิ์มา”
“สำหรับข้าแล้วมันช่างอยุติธรรมอย่างยิ่ง มันไม่ยุติธรรมต่อคนที่มากความสามารถเพียงพอจะได้เป็นตัวแทนโรงเรียน”
“มันไม่ยุติธรรมต่อโรงเรียนอื่นๆ ที่จะให้พวกฉ้อโกงมายืนอยู่บนสนามเดียวกันกับตัวแทนโรงเรียนแห่งอื่น”
“ข้ารู้สึกละอายยิ่งนักที่ต้องกล่าวออกมาแบบนี้ แต่ทว่า… แต่ทว่าทางโรงเรียนกลับไม่สามารถจับคนที่คดโกงนั้นได้”
“ข้าไม่ได้กล่าวว่าโรงเรียนลิเบอร์ไร้ความสามารถ เพียงแต่ข้ารู้ว่าไอ้คนฉ้อโกงนั้นมันมีเส้นสายมากมายจนยากจะจับต้อง”
“แต่วันนี้.. วันนี้ข้าอยากจะขอความช่วยเหลือของทุกคนเปิดเผยการฉ้อโกงของคนผู้นี้ แม้ว่าเราจะเป็นศัตรูกันในแง่ของการแข่งขัน แต่ข้าเชื่อว่าทุกคนในที่แห่งนี้ย่อมยอมรับกับคนที่ได้รับตำแหน่ง ‘ตัวแทน’ ที่สูงศักดิ์มาด้วยวิธีการคดโกงแน่!”
ฉันที่เข้ามาถึงก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนและเป็นเป้าสายตาของคนในงานเลี้ยงแทบทั้งหมด
ฉันถึงกับกุมขมับ เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือคนที่มีหน้าตาตัวประกอบขั้นสุด ถึงจะไม่ดีต่อเธอที่ต้องพูดแบบนี้
แต่เธอคือตัวประกอบ A เลยก็ว่าได้
ถ้าฉันเข้าใจผิดใยเกมตอนนี้คนที่บอกให้เธอทำแบบนั้นคือตัวเซเลน่าหรือก็คือฉันนั่นเอง ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลยสักนิดนะ!
ในเกมตอนแรกก็ไม่ได้เฉลยหรอกว่าทุกอย่างเป็นแผนของนางเอกเซเลน่าเองน่ะ มันไปเผยหลังจากนี้ต่างหาก
แต่ฉันมั่นใจว่าในความทรงจำของฉัน ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้นอย่างแน่นอน.. แล้วทำไมตัวประกอบนี่ไปเอาข้อมูลพวกนั้นมาจากไหนละเนี่ย
ในขณะที่ฉันกำลังปวดหัวกับคำพูดอยู่นั้นเอง ฉันก็มองเห็นอะไรแปลกๆ ลอยอยู่บนหัวของตัวประกอบเอจังคนนั้น
“หือ.. นั่นมันอะไร..”
ฉันหรี่ตาแล้วขยี้ดูใหม่อีกรอบ แต่ก็เห็นกรอบข้อความที่ไม่ควรมีอยู่ ทว่ามันกลับมีอยู่บนหัวของตัวประกอบคนนั้น
แต่ยังไม่ทันได้ตกใจ ฉันก็สัมผัสถึงสายตาของคนคนหนึ่งที่พึ่งก้าวเข้ามาในงานเลี้ยง แน่นอนว่าคนที่เดินตามหลังฉันเข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากคุณนางร้าย
อนาสตาเซีย
แต่จะว่าไปนะ อนาสตาเซียนะอนาสตาเซีย ทำไมมองมาทางฉันด้วยสายตาเกลียดชังเล่า คนที่มันประจานวีรกรรมของเธอคือคนที่อยู่ตรงนู้นไม่ใช่เหรอ
ฉันหันกลับไปหาอนาสตาเซีย เธอแสดงสีหน้ามืดทะมึนจ้องมาที่ฉัน และกรอบข้อความก็ยังปรากฏขึ้นบนหัวของอนาสตาเซียเหมือนกัน
อนาสตาเซียที่พึ่งก้าวเข้ามาสายตาทุกคนก็หันไปจับจ้องโดยปริยาย เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ทุกคนจะสนใจอนาสตาเซีย
เพราะเธอก็เป็นตัวแทนโรงเรียนลิเบอร์เหมือนกัน แถมอีกอย่างเมื่อกี้พึ่งวิ่งออกไปพร้อมนักเรียนอันดับหนึ่งของโรงเรียนโรเซ่อีกต่างหาก
แต่พอทุกคนหันไปมองอนาสตาเซียเนื่องจากคำพูดของตัวประกอบได้พูดจนทำให้ทุกคนโฟกัสมาที่โรงเรียนลิเบอร์
พอมีการเคลื่อนไหวหลังจากการพูดที่สยบงานเลี้ยง จึงไม่แปลกละมั้งที่ทุกคนจะหันมาสนใจอนาสตาเซีย อีกอย่างแม้ตัวประกอบจะยังไม่บอกว่าคนที่โกงคือใคร
แต่คนที่เป็นตัวแทนก็มีเพียงแค่ห้าคนในโรงเรียนลิเบอร์ ดังนั้นสำหรับทุกคนในงานเลี้ยงอนาสตาเซียเองก็อาจจะเป็นคนที่ว่า
ฉันหันไปหาตัวประกอบที่เหมือนจะจงใจพูดยืดเยื้อมาเพื่อรอการปรากฏตัวของอนาสตาเซีย หล่อนก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับพูด
“แน่นอนว่า.. คนที่โกงจนได้รับตำแหน่งตัวแทนมาก็คือเธอนั่นแหละ อนาสตาเซีย เจน ไลล่าร์”
“และนี่คือเอกสารการโกงตอนที่เธอใช้วิธีโกงเพื่อเข้าเรียนโรงเรียนลิเบอร์ ไม่มีการให้คะแนนตอนสอบเข้าทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ แต่กลับมีลายเซ็นของอาจารย์คนหนึ่งที่พึ่งย้ายเข้ามาไม่นานเพื่อยืนยัน”
“นี่แสดงให้เห็นว่า เธอใช้ลายเซ็นของอาจารย์ใหม่ที่อาจจะเป็นคนของเธอเพื่อยื่นให้ผ่านเข้าโรงเรียน”
ตามที่เธอพูดมาก็ถูก การเข้าเรียนที่โรงเรียนใหญ่ทั้งห้ามีเงื่อนไขเยอะแยะมากมาย แต่ก็มีวิธีโกงที่ว่าคือการให้ครูมาสมัครเข้าเรียน
แล้วก็ให้เซ็นลายเซ็นซึ่งเป็นลายเซ็นการทาบทามเพื่อเข้าเรียน พอยื่นให้ทางเบื้องบนของโรงเรียนโอกาสที่จะถูกรับเข้าเรียนนั้นสูงมาก
เพราะเป็นการแนะนำจากทางอาจารย์ผู้สอนของทางโรงเรียนเอง จึงมีน้ำหนักที่สูง ยิ่งเป็นโรงเรียนลิเบอร์ที่อัตราการเข้าเรียนน้อย
หากมีอาจารย์แนะนำว่าความสามารถสูงมากๆ ก็คงอนุญาตให้เข้าทันทีนั่นเอง.. แต่เอาจริงถ้าคนโกงมีอาจารย์ที่เก่งพอจะสมัครเข้าสอนในโรงเรียนลิเบอร์ได้
ก็คงไม่ต้องเรียนที่โรงเรียนแล้วมั้ง อีกอย่างนะถึงจะบอกว่าโรงเรียนลิเบอร์ขาดคนก็เถอะ แต่ขั้นตอนการเข้าเรียนมันไม่ได้ง่ายดายแบบนั้นสักหน่อย
แต่แน่นอนว่าถึงฉันจะพูดแบบนั้นก็สู้อะไรกับตัวประกอบที่เป็นยอดนักสืบที่มาพร้อมหลักฐานไม่ได้ ว่าแต่เธอแอบไปเอาเอกสารของอาจารย์ออกมาได้ไง
ฉันพอเดาได้เลยว่าหลังจบเหตุการณ์นี้ เธอคนรี้คงโดนเด้งออกจากโรงเรียนชัวร์ป้าบ… เพราะทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของเบื้องบนที่คิดว่าดีแล้วนี่น่า
แต่ตอนนี้.. ยังเป็นช่วงเวลาของเธอ
“ทุกคนเห็นหรือยัง.. กล่าวอีกอย่างคือเธอใช้ทั้งเส้นสายเพื่อเข้าเรียนและเป็นตัวแทนโรงเรียน หากถามว่าแรงจูงใจคืออะไร”
“ทุกอย่างนั้นง่ายมาก เพราะเธอตามคู่หมั้นของเธอมายังไงล่ะ องค์ชายอเล็กซานเขาเป็นสุภาพบุรุษที่เพียบพร้อม”
“อนาสตาเซียที่คิดว่าเขาเป็นของของตัวเอง ที่เกิดจากการคลุมถุงชน จึงตามมาที่โรงเรียนนี้ แถมยังใช้วิธีคดโกงเพื่อไปยืนข้างๆ องค์ชายผู้มากความสามารถ”
“แม้ข้าจะนับถือในความรู้สึกของเธอ แต่ข้าก็ไม่อาจเมินเฉยต่อการคดโกง.. ไม่เพียงแค่นั้นข้าได้ยินข่าวลือมาว่าองค์ชายเองก็ไม่ได้ชอบเธอเลยแม้แต่นิด แต่เธอกลับเลือกที่จะตามตื๊อ”
เรียกได้ว่าทุกอย่างถูกแฉออกมาจนหมดเปลือก ฉันหันไปจุดที่อเล็กซานอยู่ เขาจ้องไปที่อนาสตาเซียแล้วกำหมัดแน่น
ปากพึมพำบางอย่าง ถึงฉันจะไม่ได้ยินเสียงแต่ก็อ่านจากปากเอาได้ว่า “เป็นแบบนั้นเองสินะ.. ที่นี่.. เธอก็พยายามจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน”
ไม่ไหวแฮะ ไอ้หมอนี่ก็ดันโง่สุดโต่งอีก ให้ตายเหอะ…
อนาสตาเซียนั้นรักอเล็กซานพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้อยู่ข้างๆ.. แม้จะเป็นการโกงก็ตาม.. ส่วนอเล็กซานคิดว่าการที่อนาสตาเซียพยายามมาอยู่จุดเดียวกับตัวเองเพื่อจะแย่งชิงทุกอย่างจากเขา
แล้วไอ้เซเลน่าหรือก็คือฉันก็ดันไปทำอิท่าไหนไม่รู้อเล็กซานถึงได้หลงรักเข้าให้ อนาสตาเซียเลยมองว่าฉันเป็นศัตรู บางทีเหตุการณ์นี้เธออาจจะคิดว่าฉันเป็นคนวางแผนด้วยซ้ำ
ส่วนฉันเองก็ไม่อยากได้เจ้าผู้ชายหน้าโง่อเล็กซานเป็นคู่ครองแม้แต่น้อย
อีกทั้งยังมีตัวประกอบโผล่มา.. ทำให้นางร้ายโดนเกลียดชังอีก
ความสัมพันธ์ในตอนนี้ซับซ้อนจนน่าปวดหัวเกินไปแล้วนะเห้ย!