“พวกสายสืบที่เข้ามาในช่วงไม่กี่ปีนี้ยังไม่เคยได้เห็นหน้าของผู้บัญชาการ พวกเขาสงสัยกันมาก อยากเห็นว่าผู้บัญชาการดุแค่ไหนครับ”
สำนักสืบสวนสากลหรือไอบีไอก่อตั้งมานานแล้ว มีเค้าโครงมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ยี่สิบ เพียงแต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง จนกระทั่งปลายศตวรรษที่ยี่สิบหลังจากที่มีอินเตอร์เน็ต ไอบีไอถึงได้ปรากฏแก่สายตาของทุกคน แต่ก็เพราะขาดแคลนและมีคนเก่งๆ ไม่มากพอทำให้บารมีของไอบีไอยังไม่สูงมาก ภายใต้ความพยายามอย่างไม่ลดละของผู้อาวุโสจำนวนไม่น้อย อีกทั้งยังใช้เวลาถึงยี่สิบปี ไอบีไอถึงมีความน่าเกรงขามอย่างทุกวันนี้สำนักสืบสวนมีอยู่ไม่น้อย แต่สำนักสืบสวนที่สามารถถูกเรียกว่าเป็นระดับสากลได้กลับมีอยู่แห่งเดียว แต่ผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ พวกผู้อาวุโสก็แก่กันไปมากแล้ว ต่อให้มีใจจะทำก็ควบคุมดูแลต่อไปไม่ไหว
ดังนั้นเมื่อสามปีก่อนไอบีไอถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ไอบีไอแตกแขนงออกไปเยอะมาก มาจากแต่ละประเทศล้วนเป็นบุคคลระดับหัวกะทิ
เมื่ออยู่ขั้นนั้นต่างก็ไม่มีใครยอมใคร
ไอบีไอจึงดำเนินมาถึงขั้นที่แตกหัก และเมื่อแตกหัก สำนักสืบสวนสากลก็เละเทะ เรื่องสกปรกที่เคยปิดบังซ่อนไว้ได้ถูกเปิดโปง พวกผู้อาวุโสปวดหัวกันมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งเมื่อสองปีก่อน มีผู้ชายคนหนึ่งมาที่ไอบีไอ หนุ่มมากอายุเพียงยี่สิบ ฝีมือโหดเหี้ยม เด็ดเดี่ยวเอาจริง จัดการเก็บกวาดอิทธิพลต่อต้านที่อยู่ในไอบีไอทั้งหมดจนสิ้นซาก พลิกฟื้นองค์กรใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง ถึงขั้นที่เป็นปึกแผ่นยิ่งกว่าแต่ก่อน
จากนั้นพวกผู้อาวุโสก็ปลดเกษียณ ยกอำนาจใหญ่ให้ และก็เป็นสองปีนี้เองที่ชื่อเสียงและบารมีของไอบีไอสูงขึ้นอีกครั้ง ทำให้พวกอิทธิพลมืดทั้งหมดได้ยินชื่อต่างก็ต้องหวาดกลัว ใครก็ตามที่ถูกไอบีไอประกาศตามล่า นั่นก็แสดงว่าไม่มีทางรอดไปได้
ไม่ว่าจะเป็นแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ในยุโรปหรือตระกูลชั้นแนวหน้าของตี้ตู รวมถึงอิทธิพลต่างๆ ในระดับนานาชาติ ต่างไม่มีทางไม่รู้ว่าไอบีไอมีผู้บัญชาการคนใหม่ ไม่ได้ขึ้นตำแหน่งประธาน แต่ประธานก็ยังเป็นลูกน้องของเขา เพียงแต่นอกจากประธานกับพวกหัวหน้าสายสืบที่มีจำกัดไม่กี่คน คนอื่นๆ ในไอบีไอต่างก็ไม่เคยเจอผู้บัญชาการคนนี้
ต่อให้บางคนเคยเจอก็ไม่รู้รูปร่างลักษณะของเขา เพราะทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวในไอบีไอ นั่นไม่ใช่โฉมหน้าที่แท้จริง ดังนั้นจากที่พวกเขาคาดคะเน ผู้บัญชาการคนนี้ก็เป็นนักแปลงโฉม เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นนักแปลงโฉมที่อยู่บนชาร์ตของเอ็นโอเคหรือเปล่า
ทุกปี ไอบีไอ จะมีการรับสมัครสายสืบ ความยากในการคัดเลือกไม่ได้ด้อยไปกว่าการสอบของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน นักศึกษาที่จบจากสาขาจิตวิทยามหาวิทยาลัยนอร์ตันก็มีมาอยู่ไม่น้อย ปีที่แล้วอย่างน้อยผู้บัญชาการของพวกเขาก็ยังได้ออกข้อสอบให้หนึ่งชุด ปีนี้ขี้เกียจออกข้อสอบ บอกให้พวกเขาซื้อจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน
แต่มหาวิทยาลัยนอร์ตันมีเหรอจะเอาข้อสอบตรรกะที่คนภายในออกให้พวกเขาง่ายๆ เล่นเอาพวกเขาจำต้องโพสต์กระทู้ล่ารางวัลในเว็บบอร์ดเอ็นโอเค
ปรากฏว่ากลับมีข่าวเม้าท์ของหัวหน้าสายสืบคนหนึ่งหลุดออกไป ทำให้พวกบอสในเว็บบอร์ดพากันตามสืบด้วยความสนใจอยู่นาน
เสียงที่ฟู่อวิ๋นเซินได้ยินก่อนไม่ใช่เสียงพูดจากโทรศัพท์มือถือสีดำรุ่นโบราณ เขาหันหน้าไป สบตากับเด็กสาว ฟู่อวิ๋นเซินอึ้งไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านึกไม่ถึงว่าเธอจะมาในเวลานี้
เขาวางสายโทรศัพท์ในมือก่อน จากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะหยิบโทรศัพท์รุ่นโบราณอีกเครื่องขึ้นมา
“งั้นนายก็ให้พวกเขาลองดูสิงโตในโลกของสัตว์” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินหลุบลงเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงกึ่งหยอกล้อ พูดเสียงเนือย “ฉันหล่อกว่าโหดกว่าสิงโต และก็อาจจะร้ายกาจกว่าหน่อย”
หัวหน้าสายสืบที่อยู่ปลายสาย “…”
เขาไม่ควรคาดหวังอะไรให้มากทฟู่อวิ๋นเซินวางโทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่องลงแล้วถึงเดินไปที่ประตู สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลง เอื่อยเฉื่อยเรื่อยเปื่อย ยังคงเป็นคุณชายเสเพลที่แค่ยืนริมถนนก็ดึงดูดสายตาของทุกคนในฮู่เฉิงได้ทมีสไตล์เป็นของตัวเอง
ฟู่อวิ๋นเซินโน้มตัวเล็กน้อย รับขวดยามาจากในมือของเด็กสาวอย่างเป็นธรรมชาติ “ไม่อยากถามอะไรเหรอ”
เขาระแวงทุกคน
แต่กลับไม่เคยระแวงเธอ
“อืม…” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “ดูสิ ฉันไม่มีอำนาจไม่มีอิทธิพล ถ้าเขาจับพวกเราไปจะทำยังไง”
“…”
“เด็กน้อยเกินไปอีกแล้วนะ” นิ้วเรียวยาวของฟู่อวิ๋นเซินงอเล็กน้อย เขกที่หน้าผากของเธอเบาๆ หนึ่งที
“ทำไมปกติถึงไม่เคยสังเกตเห็นว่าความจำของเธอดีแบบนี้”
ครั้งแรกที่เขากับเธอเจอกัน เขาก็แค่พูดขึ้นมาส่งเดช จำมาถึงตอนนี้เลยเหรอ
“ฉันทำอะไรก็ดูตามอารมณ์” อิ๋งจื่อจินหาว พูดอย่างไม่รีบร้อน “ทำไมในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคถึงไม่มีข่าวเม้าท์ของคุณ”
เนื่องจากนักล่าจำนวนไม่น้อยบนชาร์ตล้วนเป็นรายชื่อที่ไอบีไอจับตามอง ตราบใดที่ไม่ทำผิดกฎหมายก็จะไม่เป็นไร
มิฉะนั้นหากมีความเคลื่อนไหวผิดปกติอะไร บรรดาสายสืบของไอบีไอก็จะโผล่ออกมา
ด้วยความเร็วชนิดที่ว่า นั่งอยู่บนรถไฟใต้ดินเพิ่งเอาหลอดเจาะแก้วชานมยังไม่ทันได้ดื่ม เจ้าหน้าที่ก็เอาใบค่าปรับมาให้แล้ว
ดังนั้นพวกนักล่าจึงเกลียดไอบีไอกันพอสมควร แต่บางครั้งพวกเขาก็จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากไอบีไอ ทั้งรักทั้งเกลียดในเวลาเดียวกัน ทำได้เพียงเอาข่าวฉาวของพวกหัวหน้าสายสืบมาเม้าท์กันสนุก
ฟู่อวิ๋นเซินยืนพิงอยู่ตรงข้ามเธอ ดวงตาดอกท้อลุ่มลึก เปล่งประกายชวนหลงใหล ผิวพรรณที่ขาวซีดช่วยขับให้ริมฝีปากยิ่งแดงโดดเด่น สองสีตัดกันอย่างเห็นได้ชัด ประหนึ่งจอมมารที่แสนยั่วยวน
“ช่วยไม่ได้” เขาเลิกคิ้ว “เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง”
“เอายาให้แล้ว ฉันกลับก่อนล่ะ” อิ๋งจื่อจินไม่ถามอะไรต่อ เธอพยักหน้า “ดูแลสุขภาพด้วย”
“เยาเยา ไม่รีบสิ” ฟู่อวิ๋นเซินครุ่นคิด หางตาโค้งมน เขายิ้ม “ไม่ได้เจอคุณลุงนานแล้ว เดี๋ยวพี่ชายไปส่ง”
…
เมืองตี้ตู
หลังจากที่คุณนายมู่ได้แบบชุดมาจากมู่เฉินโจวก็ได้เอาให้บริษัทหวาซิ่ว บริษัทเสื้อผ้าของทางครอบครัวฝ่ายเธอ
หวาซิ่วเน้นไปที่เครื่องแต่งกายแนวโบราณ แบบชุดนี้ก็สอดคล้องกับแนวคิดของหวาซิ่วพอดี
เคอฮุ่ยจูน้องสาวของคุณนายมู่เป็นประธานของหวาซิ่ว และก็เป็นนักออกแบบคนหนึ่ง
“พี่ นี่ใครวาดเหรอ” เคอฮุ่ยจูชมไม่หยุดปาก “ออกแบบได้ใจกล้ามาก แต่ก็ดูลงตัว พื้นฐานการวาดรูปใช้ได้เลยนะ”
“คุณหนูคนนึงที่เฉินโจวรู้จักในฮู่เฉิงน่ะ” คุณนายมู่เม้มริมฝีปากจิบน้ำชา “ยังเรียนไม่จบมัธยม วาดสวยจริงๆ”
“คุณหนูในฮู่เฉิงเหรอ” เคอฮุ่ยจูได้ฟังก็เข้าใจแล้ว “ดูท่าอยากจะเอาใจเฉินโจว ตีสนิทตระกูลมู่”
“จะเป็นไปได้ยังไง ปล่อยให้คิดไปก็พอแล้ว” คุณนายมู่วางถ้วยชาลง คำพูดแฝงไว้ด้วยการดูถูก
“ตระกูลเดียวที่เทียบชั้นกับตระกูลมู่ได้ก็มีแค่ตระกูลเนี่ยสามบ้านนั้น ตระกูลอื่นไม่คู่ควร”
ตระกูลมู่มีประวัติศาสตร์มาหลายร้อยปีแล้ว รากฐานแน่นหนาตั้งแต่สมัยมีฮ่องเต้ ตระกูลที่เพิ่งมีหน้ามีตาในภายหลังพวกนั้นจะมาเทียบได้ยังไง
คุณนายมู่ไม่เคยเจอจงจือหว่าน แต่เธออยู่ในตระกูลเศรษฐีมานานขนาดนี้มีเหรอจะไม่รู้ทันความคิดของจงจือหว่านในสายตาของเธอ ต่อให้จงจือหว่านยอดเยี่ยมขนาดไหน แต่ชาติกำเนิดก็ไม่เข้าตาเธอ
เธอให้ประโยชน์แก่จงจือหว่านได้ก็แค่ใส่ชื่อจงจือหว่านลงในการประกวดออกแบบครั้งนี้ ส่วนอย่างอื่นเธอให้ไม่ได้
มู่เฉินโจวเป็นลูกชายของเธอ เธอเชื่อว่าเขาเข้าใจเหตุผลพวกนี้
“ก็จริงนะ” เคอฮุ่ยจูยิ้ม “พี่ ตระกูลมู่รุ่นนี้เฉินโจวถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดแล้ว อนาคตเป็นว่าที่ผู้สืบทอดตระกูลมู่ ต้องเลือกคู่ครองให้ดีๆ”
คุณนายมู่ยืนขึ้นอย่างสง่างาม “แบบชุดมีแล้วงั้นพี่กลับก่อนนะ”
“ได้ ครั้งนี้ขอบคุณพี่มากเลยนะ” เคอฮุ่ยจูมองแบบชุดใบนี้แล้วขมวดคิ้ว “แต่ฉันรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นชุดออกงานที่เป็นเซตนะ”
“เฉินโจวบอกว่าเธอวาดเล่นตอนว่างๆ วาดมาได้ชุดเดียวก็เก่งมากแล้ว” คุณนายมู่ไม่แคร์ “แต่แค่ชุดนี้ก็เพียงพอให้ข่มคนอื่นได้แล้ว”
“ก็จริงนะ” เคอฮุ่ยจูพยักหน้า “บางครั้งแรงบันดาลใจก็แบบนี้ ถ้าวาดต่อกลับจะเป็นการทำลายแบบร่างก่อนหน้าด้วยซ้ำ”
…
การประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายที่มหาวิทยาลัยศิลปะรอยัลแห่งยุโรปจัดขึ้นครั้งนี้ นักออกแบบรวมถึงบริษัทที่เข้าร่วมประกวดจะต้องส่งผลงานออกแบบไปที่อีเมลของฝ่ายจัดงานก่อน
หลังจากที่คณะกรรมการได้เห็นผลงานแล้วถึงจะจัดการเดินแบบ ช่วงเวลาเดินแบบถูกกำหนดในปลายเดือนกรกฎาคม นับจากตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกยี่สิบวัน เวลาเพียงพอให้เตรียมตัว
แต่การประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายได้จัดมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งคนที่ได้รับรางวัลในแต่ละครั้งก็เป็นนักออกแบบชั้นแนวหน้าในวงการทั้งนั้น
คณะกรรมการสามารถมองออกจากสไตล์การออกแบบว่าเป็นผลงานของนักออกแบบคนไหน
แต่วันนี้มีแบบชุดอยู่เซตหนึ่งได้ดึงดูดความสนใจของคณะกรรมการทั้งหมด แบบชุดเซตนี้มีทั้งหมดสี่แผ่น แต่ละแผ่นเป็นหนึ่งชุด บรรดาคณะกรรมการไม่เคยเจอผลงานออกแบบที่แปลกใหม่แบบนี้ โดยเฉพาะลวดลายที่อยู่บนชุด งดงามลงตัวมากจริงๆ
“ชูกวงมีเดีย” ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ตะลึง “ฉันจำได้ว่าบริษัทนี้ถึงแม้ในครั้งก่อนๆ จะไม่ได้รับรางวัล แต่ก็ได้อันดับสี่หรือห้า เก่งมากนะ”
โดดเด่นขึ้นมาได้ท่ามกลางบริษัทจำนวนมากทั่วโลก งานออกแบบของชูกวงมีเดียก็ไม่ได้แย่มาตลอด
“แต่งานออกแบบครั้งนี้ของพวกเขาสุดยอดมาก” กรรมการอีกคนพยักหน้า “ไม่รู้ว่าเชิญนักออกแบบคนไหนมาวาดให้ จะได้ที่หนึ่งไหมไม่รู้ แต่ที่สองน่ะได้แน่ๆ”
“ตรงชื่อของนักออกแบบเขียนไว้ว่าปีศาจ” หญิงสาวคิด “ไม่เคยได้ยิน น่าจะเป็นนักออกแบบหน้าใหม่ เดี๋ยวถึงเวลาจะต้องได้รับความสนใจเป็นพิเศษแน่นอน”
บรรดาคณะกรรมการเขียนกำกับที่แบบชุดเซตนี้ หลังจากที่เก็บรวบรวมมาเรียบร้อยถึงเปิดดูแบบชุดอื่นๆ ต่อ เพียงแต่พอได้ดูแบบชุดของชูกวงมีเดียแล้ว ผลงานต่อๆ มาก็เหมือนขาดอะไรไปหน่อย ไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นดวงตาเปล่งประกาย
แม้จะเป็นผลงานของพวกนักออกแบบชั้นแนวหน้าที่พวกคณะกรรมการคุ้นเคยกันดีก็ตาม
“หวาซิ่ว” หญิงสาวดูชื่อบริษัทก่อน “ฉันก็จำบริษัทนี้ได้ เป็นสไตล์ตะวันออกล้วนๆ แต่อันดับในครั้งก่อนๆ อยู่ต่ำกว่าสิบห้า ออกแบบได้ไม่ค่อยแปลกใหม่”
เธอคลิกเมาส์เปิดเอกสารแนบ
แบบชุดก็ปรากฏต่อหน้าเหล่าคณะกรรมการ