แบบชุดทั้งหมดจะถูกฉายขึ้นจอโปรเจคเตอร์
ขยายรายละเอียดเพื่อให้คณะกรรมการดูได้สะดวก
หลังจากที่แบบชุดนี้ปรากฏ เหล่าคณะกรรมการแค่มองแวบเดียว ยังไม่ทันได้ดูรายละเอียด สีหน้าก็เปลี่ยนกันหมด เงียบไปชั่วขณะ
ก่อนหน้านี้ชูกวงมีเดียส่งแบบชุดเข้ามาหนึ่งเซตมีสี่ชุด โดยออกแบบในคอนเซ็ปต์สัตว์เทพทั้งสี่ในตำนานเทพของฝั่งตะวันออก
การออกแบบในคอนเซ็ปต์สี่สัตว์เทพเคยมีอยู่ไม่น้อย ซึ่งพบได้ในการจัดประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายทุกครั้ง อย่างไรเสียนักออกแบบและบริษัทที่มาจากประเทศจีนก็มีค่อนข้างมาก
แต่นับตั้งแต่เริ่มมีการประกวดจวบจนปัจจุบันนี้ก็มีเพียงเซตเมื่อครู่ที่สร้างความประทับใจให้พวกเขามาก
เหล่าคณะกรรมการก็เป็นนักออกแบบชั้นแนวหน้าในวงการออกแบบ สายตาเฉียบคม
ต่อให้แบบชุดที่หวาซิ่วส่งมาจะแตกต่างกับของชูกวงมีเดีย แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะมองไม่ออกว่าหวาซิ่วคัดลอกผลงานของชูกวงมีเดีย แต่ไม่สามารถเลียนแบบจุดแข็งออกมาได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผลงานต้นฉบับมีสี่ชุด แบบชุดของหวาซิ่วมีเพียงชุดเดียว
งานประกวดออกแบบงานใหญ่แบบนี้เคยมีกรณีคัดลอกผลงานอยู่ไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่จะลอกผลงานของนักออกแบบที่ไม่มีชื่อเสียง
และยังไม่มีครั้งไหนที่จะคัดลอกผลงานของผู้เข้าร่วมประกวดอีกคน
“หวาซิ่วนี่ใจกล้ามากนะ” หญิงสาวแสยะยิ้ม ตบโต๊ะยืนขึ้น “พวกเขาไม่เกรงกลัวใคร กล้าลอกได้แม้กระทั่งผลงานออกแบบของชูกวงมีเดียเลยเหรอ”
ในครั้งก่อนๆ ถึงแม้ชูกวงมีเดียจะไม่ติดสามอันดับแรก แต่ก็ทิ้งห่างหวาซิ่วที่ได้อันดับต่ำกว่าสิบห้าไปไกลมาก
สองบริษัทนี้คนละระดับกัน
แต่ถ้าครั้งนี้แบบชุดที่ชูกวงมีเดียส่งมาไม่ใช่ภาพเซตนั้น หวาซิ่วก็จะอาศัยแบบชุดนี้เข้าถึงสามอันดับแรกได้อย่างแน่นอน
สีหน้าของคณะกรรมการคนอื่นก็เคร่งเครียด
มีคนหนึ่งถามขึ้น “นักออกแบบของหวาซิ่วเกี่ยวข้องอะไรกับนักออกแบบของชูกวงมีเดียหรือเปล่า เป็นเพื่อนร่วมงานกันไหม”
ไม่อย่างนั้นจะวาดได้เหมือนขนาดนี้ได้อย่างไร
แม้แต่ลวดลายตรงข้อมือก็ยังเหมือนกัน
“ขอดูหน่อย” กรรมการอีกคนก้มหน้า “นักออกแบบของหวาซิ่ว ลงชื่อด้านล่างว่า ‘จงจือหว่าน’ ไม่เคยได้ยิน น่าจะเป็นนักออกแบบหน้าใหม่เหมือนกัน อายุ…”
สายตาของเขาเลื่อนลงด้านล่าง สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง “อายุสิบเจ็ดปี หากว่ากันตามหลักการ พื้นฐานการออกแบบของวัยนี้ไม่มีทางมีฝีมือได้เท่านี้”
แน่นอนว่ายกเว้นคนมีพรสวรรค์
เพียงแต่น่าเสียดายที่แบบชุดนี้ถูกคัดลอกผลงานมา
“ลอกเลียนแบบอย่างไม่ต้องสงสัย” สีหน้าของกรรมการคนก่อนหน้านี้แย่ลง “แบบชุดนี้ไม่มีทางเข้าถึงรอบก่อนชิงชนะเลิศ รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น”
วงการออกแบบถือเรื่องอะไรมากที่สุด
ก็คงหนีไม่พ้นการลอกเลียนแบบผลงาน
ขอเพียงแต่ถูกตราหน้าด้วยคำนี้ นักออกแบบคนนั้นก็หมดอนาคตแล้ว
“ตีกลับไป” กรรมการที่อยู่ด้านขวาก็พยักหน้า “ในเมื่อครั้งนี้หวาซิ่วกล้าใช้ผลงานที่คัดลอกมา ครั้งหน้าก็อาจทำอีก”
“ต้องแบนไม่ให้หวาซิ่วรวมถึงนักออกแบบในสังกัดเข้าร่วมประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายหลังจากนี้อีก!”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” หญิงสาวกลับยกมือห้าม เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ในเมื่อพวกเขากล้าส่งผลงานที่ลอกเลียนแบบเข้าประกวด ก็แสดงว่ามั่นใจมาก”
“เวลานี้น่าจะเริ่มตัดชุดแล้ว วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็คงเตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน จะให้พวกเขาเสียแรงเปล่าไม่ได้”
พอได้ยินเธอพูดแบบนี้คณะกรรมการคนอื่นๆ ก็อดตะลึงไม่ได้ “คุณหมายความว่า…”
ปีนี้หญิงสาวอายุสามสิบหกปี เธอชื่อ มาช่า เมนูอิน
เธอเป็นสตรีอายุน้อยที่สุดที่เคยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในวงการนักออกแบบ และก็เป็นประธานของคณะกรรมการในครั้งนี้
เรื่องใหญ่เธอเป็นคนตัดสินใจ
“ฉันหมายความว่า ให้พวกเขาประกวดต่อ” มาช่าพยักหน้า “แยกผลงานออกมาต่างหากในรอบชิงชนะเลิศ อย่าให้ผลงานลอกเลียนแบบบดบังผลงานยอดเยี่ยมชิ้นอื่น”
“ชอบคัดลอกไม่ใช่เหรอ งั้นก็ปล่อยนักออกแบบที่ชื่อจงจือหว่านคนนี้เชิญคัดลอกให้เต็มที่ เอาให้อายสุดๆ”
มาช่าไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้เรื่องการคัดลอกผลงานแม้แต่น้อย เธอเกลียดเข้าไส้
ผลงานของเธอก็เคยถูกเพื่อนนักเรียนคัดลอก
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเก็บแบบร่างก่อนหน้าเอาไว้ ไม่เพียงแต่เธอจะถูกแว้งกัด ยังจะถูกขับไล่ออกจากวงการนักออกแบบอีกด้วย
ทั้งยังต้องทนเห็นคนอื่นขโมยผลงานของตัวเองไปได้รับเกียรติที่หาใดเปรียบไม่ได้
“ก็เป็นวิธีที่ดี” กรรมการคนหนึ่งเห็นด้วย “และก็เป็นการเตือนผู้เข้าประกวดคนอื่นว่าต่อไปห้ามให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด”
หลังจากที่คณะกรรมการหารือกันเสร็จก็ตั้งใจแยกแบบชุดของหวาซิ่วออกมาโดยเฉพาะแล้วดูผลงานเข้าประกวดชิ้นอื่นต่อ
…
สามวันต่อมา
เคอฮุ่ยจูก็ได้รับบัตรเชิญรอบชิงชนะเลิศ
ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่หวาซิ่วได้บัตรเชิญ แต่เธอก็ยังคงตื่นเต้นมาก
เธอมั่นใจได้ว่าแบบชุดที่ส่งเข้าประกวดครั้งนี้จะทำให้หวาซิ่วสามารถยืนได้อย่างมั่นคงในวงการออกแบบระดับนานาชาติ ต่อไปจะมีการเชื้อเชิญอย่างไม่ขาดสาย
“ประธานเคอคะ ประธานไม่รู้สึกเหรอคะว่านักเรียนมอปลายจะออกแบบชุดแบบนี้ออกมาได้ยังไง” ผู้ช่วยพิเศษที่อยู่ข้างๆ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว “อีกอย่าง อันที่จริงชุดนี้ก็มีจุดบกพร่อง”
เป็นต้นว่า ตรงช่วงเอว ลวดลายมันไม่ต่อเนื่องกัน
“เอาล่ะ ฉันสืบมาแล้ว ชุดหงส์แดงนี้ไม่ได้เป็นของนักออกแบบที่มีชื่อเสียงคนไหนทั้งนั้น” เคอฮุ่ยจูส่ายมือ “หากเป็นของนักออกแบบที่ไม่มีชื่อเสียง เธอว่าเขาจะมีปัญญาสู้กับหวาซิ่วไหม แม้แต่ทุนทำชุดแบบนี้ออกมาก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ”
ให้ค่าปิดปากไปก็จบแล้ว
ถึงแม้หวาซิ่วจะไม่ใช่บริษัทใหญ่ชั้นแนวหน้า แต่เรื่องปิดกั้นเส้นทางอนาคตในวงการออกแบบของนักออกแบบเล็กๆ คนหนึ่งก็พอทำได้
ผู้ช่วยพิเศษไม่กล้าพูดต่อ
“ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงก็ยังมีนักออกแบบรับหน้า” เคอฮุ่ยจูไม่คิดแบบนั้น “เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะต้องกังวล”
เธอถือบัตรเชิญรอบตัดสิน ครุ่นคิดแล้วถามขึ้น “ตัดชุดไปถึงไหนแล้ว”
“เร่งทำได้ครึ่งหนึ่งแล้วค่ะ” ผู้ช่วยพิเศษรีบรายงาน “จากที่ท่านประธานสั่ง ใช้วัสดุชั้นดีทั้งนั้น ลำพังแค่ค่าวัสดุก็มีมูลค่าสามล้านแล้วค่ะ”
หลังจากที่ตัดชุดเสร็จพวกเขายังต้องเชิญนางแบบ
เคอฮุ่ยจูถึงได้ผ่อนคลายลง เธอพยักหน้า “พาฉันไปดูหน่อย”
…
หวาซิ่วเป็นบริษัทที่ตัดชุดให้ตระกูลขนาดกลางและขนาดเล็กของตี้ตู ย่อมมีโรงงานขนาดใหญ่
หลังจากที่เคอฮุ่ยจูเข้าไปแล้วก็ตรงไปด้านในสุด
ภายในห้องมีนักออกแบบและช่างตัดเย็บถึงสิบสองคนกำลังตัดชุดนี้อยู่
หนึ่งในนักออกแบบหน้านิ่วมองแขนขวาของชุด ท่าทางลำบากใจ
“มีอะไรเหรอ” เคอฮุ่ยจูเดินเข้าไป “มีเวลาไม่มากแล้ว อย่าเสียเวลา”
“ประธานเคอคะ ฉันรู้สึกว่าลายกลุ่มนี้มันแปลกไปหน่อย” นักออกแบบพูด “ถ้าตัดทิ้งก็ไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวม แต่ถ้าตัดทิ้งกลับทำให้ชุดนี้ดูไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว”
“งั้นก็ไม่ต้องตัดทิ้ง” เคอฮุ่ยจูมองเธอด้วยความแปลกใจ “แบบชุดถูกส่งไปแล้วพวกคุณยังจะแก้ได้อีกเหรอ”
นักออกแบบกลืนคำพูด ‘ฉันรู้สึกว่าลายกลุ่มนี้มันเหมือนอักษรตัวหนึ่ง’ กลับไป
“ทำงานให้ดี ฉันให้เวลาพวกคุณอีกแปดวัน” เคอฮุ่ยจูตบมือ “อีกแปดวันจะเอาให้นางแบบลองใส่แล้ว”
…
เมืองฮู่เฉิง
ชูกวงมีเดียสาขาย่อย
“บอสคะ ชุดทั้งสี่ที่บอสออกแบบตัดเสร็จหมดแล้วนะคะ” เลขาสาวเอาเอกสารวางลงบนโต๊ะ พูดด้วยความอิจฉา “ถ้าไม่ติดว่าแพงมากนะคะ ฉันก็อยากจะลองใส่ดู”
“ชอบเหรอ” อิ๋งจื่อจินหยิบเอกสารมาเปิด “ไว้เดินแบบเสร็จคุณก็เลือกเอาไปสักชุดแล้วกัน”
เลขาสาวกำลังดีใจอย่างบ้าคลั่ง แต่พอได้ยินประโยคถัดมา
“หักค่าวัสดุออกจากเงินเดือนคุณ”
“…”
“งั้นก็ช่างเถอะค่ะ” เลขาสาวปวดใจสุดๆ “เงินเดือนของฉันหนึ่งเดือนยังไม่พอซื้อแขนเสื้อเลยค่ะ”
ลำพังแค่แบบชุดยังไม่พอ วัสดุที่ทำชุดก็ถูกให้ความสำคัญยิ่งกว่า
มิฉะนั้นไม่เพียงแต่จะไม่ชวนให้รู้สึกถึงความสวยของแบบชุด กลับจะยิ่งทำให้ดูเชยด้วยซ้ำ
“สองชุดนี้ให้เซี่ยมั่นอวี่” อิ๋งจื่อจินพูด “เธอรับงานนี้ไหว ส่วนอีกสองชุดให้ซังเย่าจือ”
เซตชุดตำนานเทพนี้ประกอบไปด้วยหงส์แดงกับเสือขาวที่เป็นของผู้หญิง มังกรเขียวกับเต่าดำเป็นของผู้ชาย
เซี่ยมั่นอวี่เป็นราชินีภาพยนตร์สองรางวัลตุ๊กตาทองที่สังกัดชูกวงมีเดีย ปีนี้อายุสามสิบสองปี กำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ของดาราหญิง
ถึงแม้ดาราสาวที่เกิดหลังปี 95 และปีสองพันจะเป็นที่นิยมมากกว่า แต่บุคลิกเอาไม่อยู่
“ได้ค่ะ วันมะรืนราชินีภาพยนตร์เซี่ยจะบินกลับมาจากเมืองนอก” เลขาสาวพยักหน้า “ราชาภาพยนตร์ซังก็เพิ่งเสร็จจากงานโปรโมตละครเรื่องสปายเลอโฉม”
ละครสปายเลอโฉมเป็นละครเรื่องสุดท้ายที่ซังเย่าจือถ่ายตอนอยู่ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์
ดูจากชื่อก็รู้ได้ว่าเป็นละครที่เน้นนางเอกเป็นหลัก แสดงให้เห็นว่าซิงเฉินสูบเลือดโหดขนาดไหน
แต่สูบเลือดก็ส่วนสูบเลือด บทและตัวละครของเรื่องนี้ก็สนุกพอสมควร ไม่อย่างนั้นคงไม่ติดอันดับ
เลขาสาวเดินออกไปพร้อมไอแพด ยังคงให้ความสนใจข่าวเด่น
“บอสคะ ชุดนี้…” ทันใดนั้นเธอก็หยุดลง “ทำไมเหมือนของพวกเราเลยล่ะคะ”
เธอเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งแล้วยื่นไอแพดในมือให้ดู บนหน้าจอเป็นโพสต์เวยปั๋ว
แอทลั่วจื่อเย่ว์ : [ไม่ได้ออกมาตั้งนาน แอบเอาอะไรมาให้ทุกคนดูด้วยล่ะ]