ดอกหนิงเสินเป็นสมุนไพรหายากชนิดหนึ่ง
มีอยู่แค่ที่ทวีปแอนตาร์กติกา
แค่อุณหภูมิอบอุ่นขึ้นมาหน่อย ดอกหนิงเสินก็จะไม่สามารถงอกออกมาได้
และก็เป็นเพราะเงื่อนไขข้อนี้ ทำให้ดอกหนิงเสินเป็นของหายาก
หลังจากเก็บมาก็ต้องแช่แข็งเอาไว้
เนื่องจากมีจำนวนน้อยมาก จวบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถล่วงรู้สรรพคุณทั้งหมดของดอกหนิงเสินได้
ส่วนบรรดาสรรพคุณที่รู้กันก็สามารถใช้สมุนไพรชนิดอื่นทดแทนได้
ในเมื่อหาของที่ทดแทนกันได้ก็ไม่มีใครอยากเสียเวลาไปตามหาดอกหนิงเสิน
เมื่อเป็นเช่นนี้ดอกหนิงเสินจึงหายากยิ่งกว่าเดิม
ฟังถึงตรงนี้เด็กสาวก็ขมวดคิ้ว
“คุณหนูไม่ต้องกังวลครับ” ชายวัยกลางคนยิ้ม “ของรางวัลในการประลองครั้งนี้ก็คือดอกหนิงเสิน ด้วยฝีมือแม่นปืนของคุณหนู รับรองที่หนึ่งเห็นๆ ครับ”
ขอเพียงแต่ได้ที่หนึ่งจากในบรรดานักแม่นปืนที่เข้าร่วมประลองทั้งหมดก็จะได้รับของรางวัลจากสมาพันธ์ลับ
เด็กสาวเสยผมยาวสีทอง พูดโอ้อวด “แน่นอน บอกผู้อาวุโสคนนี้ไปว่า คืนนี้ฉันจะไปเจอเธอพร้อมดอกหนิงเสิน”
ทั้งสองคนไม่พูดอะไรต่อ
ตี้อู่เย่ว์เหลือบมองเด็กสาว รู้สึกคุ้นหน้ามาก
ไม่กี่วินาทีถัดมาเธอถึงนึกออกว่า นี่ก็คือริต้า เบวิน ที่ขึ้นรูปหราบนหน้าจอยักษ์
ตระกูลเบวินเป็นตระกูลใหญ่ในยุโรป ถึงแม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับสากลเทียบเท่าพวกตระกูลมหาเศรษฐี เทียบชั้นไม่ได้กับตระกูลลอเรนท์ แต่ก็มองข้ามความเก่งกาจของพวกเขาไม่ได้
ตระกูลเบวินเคยส่งสมาชิกมาตี้ตูหลายครั้ง ตี้อู่เย่ว์จึงรู้จัก
เพียงแต่เธอไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับสมาชิกของตระกูลเบวินสักเท่าไร
ไม่นานลิฟท์ก็ไปหยุดที่ชั้นหกสิบเจ็ด
คนกลุ่มนั้นออกไป ประตูเปิดและปิดลงอีกครั้ง
อิ๋งจื่อจินละสายตากลับมา
เธอยังคงอยู่ตรงมุมในสุด เงยหน้าเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉย
“โอ้โห!” ตี้อู่เย่ว์ถึงได้ส่งเสียง พยายามข่มความตื่นเต้น “ตระกูลเบวินหาตัวนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งเจอแล้วจริงๆ เหรอ เท่าที่ฟังดูเหมือนจะอยู่บนเกาะนี้ด้วย”
นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง!
อันดับหนึ่ง อันดับหนึ่ง ทั่วทั้งโลกมีอยู่คนเดียว ไม่มีใครเก่งกว่านี้อีกแล้ว
ถึงแม้ตี้อู่เย่ว์จะคิดว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งเป็นตาแก่ที่หน้าตาน่าเกลียด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อจิตใจเลื่อมใสที่มีให้
มาที่เกาะสองเดือนแล้ว เธอยังไม่เคยเจอนักล่ายี่สิบอันดับแรกของชาร์ต
ริต้า เบวิน เป็นเพียงคนเดียวที่ยอมเปิดเผยตัว
แต่ต่อให้เป็นนักแม่นปืนอันดับหนึ่งก็ยังเทียบกันไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง
“พี่!” ตี้อู่เย่ว์ตื่นเต้นมาก “พี่ว่าเป็นไปได้ไหมที่พวกเราจะได้เจอนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง ต่อให้มองเห็นไกลๆ กลับไปก็เอาไปโม้ได้แล้ว”
ไม่รู้ว่าตี้อู่เฟิงกำลังคิดอะไรอยู่
ครึ่งนาทีต่อมาเขาถึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น พูดช้ามาก “เป็นไปไม่ได้”
“เฮ้อ ก็จริง” ตี้อู่เย่ว์ถอนหายใจ “ตระกูลเบวินก็คงทุ่มเทไปมากกว่าจะติดต่อนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งได้ คนจนๆ อย่างฉันอย่าไปหวังเลย”
อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไร แววตาขรึมลง
เธอแน่ใจได้ว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งที่ริต้า เบวินหาเจอเป็นตัวปลอม
แต่ถ้ามีคนปลอมตัวเป็นเธอจริง เรื่องของเวลาก็ไม่ลงตัว
ตอนที่เธอขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ตนักปรุงยาพิษห่างจากตอนนี้เกือบห้าร้อยปี
ต่อให้ใช้ยาเปลี่ยนแปลงความสามารถในการแตกเซลล์ ชะลอความเสื่อมโทรมของอวัยวะได้ ก็ไม่มีนักปรุงยาพิษคนไหนที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนี้
แล้วจะปลอมเป็นเธอได้อย่างไร
อีกทั้งจุดประสงค์คืออะไร
เมื่อก่อนเธอก็ไม่เคยใช้ยาพิษกับใคร แค่ปรุงยาพิษที่ไม่มีใครถอนได้ขึ้นมา
อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด
แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เจอคนที่ปลอมตัว เธอเองก็พยากรณ์รายละเอียดออกมาไม่ได้
ส่วนดอกหนิงเสิน เธอก็รู้จักและเคยใช้มัน
สำหรับนักปรุงยาพิษที่ติดชาร์ต ดอกหนิงเสินเป็นสมุนไพรชั้นดีที่ใช้ทำพิษจริงๆ
เสียง ติ๊ง ดังขึ้น ลิฟท์หยุดที่ชั้นแปดสิบแปด
ต้องเดินขึ้นบันไดถึงจะไปยังชั้นดาดฟ้าได้
อิ๋งจื่อจินเหลือบมองที่นั่งแล้วพยักหน้า “ฉันจะไปทางนั้น มีเพื่อนมาด้วย ไว้ถึงเวลากลับประเทศจีนฉันจะเรียกพวกเธอ”
…
อีกด้านหนึ่ง
อวิ๋นซานอ่านข้อความ ทันใดนั้นได้พูดขึ้น “คุณชายครับ คุณอิ๋งบอกว่าเธอมาด้วยครับ รอพวกเราที่โซนเอของชั้นดาดฟ้าตึกสูงในโซนนักล่าครับ”
“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินหยุดเดินแล้วพูดขึ้น “ไปโซนเอ”
ตอนที่พวกเขาไปถึงการประลองก็ได้เริ่มแล้ว
ได้ยินเสียง ปังๆ ดังสนั่น มาจากปืนสารพัดรุ่น
หากคิดจะติดชาร์ตนักแม่นปืน นอกจากต้องมีความแม่นยำขั้นเทพแล้ว ยังต้องมีอาวุธที่เพียบพร้อมอีกด้วย
ไม่เหมือนนักสะกดจิตกับนักปรุงยาพิษ นักแม่นปืนจำเป็นต้องใช้อาวุธ
หากวิถีกระสุนมีแค่ห้าร้อยเมตร ต่อให้นักแม่นปืนจะเก่งกาจเพียงใดก็ไม่มีทางยิงถูกของที่อยู่ในระยะเกินหนึ่งพันเมตร
อิ๋งจื่อจินนั่งดู ดื่มโค้กพลางชมการประลองด้านล่าง
ริต้า เบวิน เป็นนักล่าที่ติดชาร์ตนักแม่นปืน ไม่มีทางเข้าร่วมการประลองกับนักแม่นปืนคนอื่นๆ
เหล่านักล่าที่เหลือชนะเป็นคนสุดท้ายถึงจะเข้าไปท้าประลองกับริต้า เบวิน
อิ๋งจื่อจินเห็นฟู่อวิ๋นเซินเดินมาจึงขยับที่นั่งให้ ใช้คางชี้ไปด้านล่าง “ตอนนี้ยังลงชื่อสมัครทันไหม”
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “เยาเยาอยากเข้าร่วมเหรอ”
อิ๋งจื่อจินเอามือเท้าคาง ดวงตาหงส์หรี่ลง “ลงเอาสนุกๆ”
“งั้นก็ไปสิ” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน “อวิ๋นซาน ไปบอกขอเพิ่มอีกคน”
อวิ๋นซานรับคำสั่งเดินไปทันที
อวิ๋นอู้เดินตามไปกับเขา
ระหว่างทางอวิ๋นอู้แอบกระซิบ “คุณอิ๋งไม่ใช่นักล่าสักหน่อย เพิ่งได้ปืนมาก็จะประลองกับนักแม่นปืนตั้งหลายคน แบบนี้ไม่เท่ากับหาเรื่องใส่ตัวเหรอ ทำไมพี่ไม่ห้ามคุณชายเลยสักนิดล่ะ”
ข้างล่างกระสุนพุ่งเป็นพรวน เกิดไม่ระวังบาดเจ็บเข้าจะทำอย่างไร
อวิ๋นซานไม่ตอบ มองเขาด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา
อวิ๋นอู้เห็นสายตาแบบนี้ก็งง “พี่รอง?”
“นายรอดู” อวิ๋นซานยังคงทำท่าทางมีลับลมคมใน “อีกเดี๋ยวนายจะหายตาถั่ว”
อวิ๋นอู้ “?”
…
ตรงที่นั่งผู้ชมโซนเอ บี ซี ดี มีคนนั่งอยู่เต็ม
มีนักล่า และก็มีสมาชิกทั่วไป
พวกเขาชมช่วงแรกก็สะลึมสะลืออยากหลับ จนกระทั่งริต้า เบวิน ลงสนาม
มีเสียงฮือฮาดังขึ้นมาทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่ริต้า เบวิน ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความนิยมที่สูงในตัวเธอ
อายุน้อย หน้าตาดี ทั้งยังมีฝีมือ คนแบบนี้ย่อมควรค่าให้ถูกยกย่อง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเธอมีตระกูลเบวินหนุนหลัง ภูมิหลังไม่ธรรมดา
นักล่าคนอื่นก็ไม่ได้อยากฆ่าเธอ แต่อยากเข้าหาทำความรู้จักมากกว่า
ริต้าอยู่ในชุดหนังรัดรูปสีดำ สีหน้าดุดัน
หลังจากที่เธอขึ้นมา นักแม่นปืนรอบตัวก็สงบเสงี่ยมลงไปมาก ไม่กล้าแตะต้องเธอ
ตรงที่นั่งโซนเอ
“คุณชายครับ จะเกิดเรื่องไม่ดีไหมครับ” อวิ๋นซานไม่ได้ใช้กล้องส่องทางไกล เขาใช้กำลังภายในก็สามารถมองได้ไกลมาก “ในมือเธอน่าจะเป็นสินค้าตัวใหม่ของโซนอาวุธ”
พวกเขาก็มีอยู่ชุดหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ใช้
“ดูไปก่อน” ฟู่อวิ๋นเซินนั่งพิงเก้าอี้ พูดเสียงเนือย “ให้เด็กน้อยเล่นสนุกให้พอก่อนค่อยว่ากัน”
“ครับ” อวิ๋นซานครุ่นคิด “ยังไงซะก็ใช่ว่าเราจะทำอะไรตระกูลเบวินไม่ได้”
เขาดูการประลองต่อ
ใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีนักแม่นปืนเหล่านั้นก็แพ้ออกนอกสนามทั้งหมด
มีเสียงฮือฮาในสนามดังขึ้นมาอีกครั้ง
ริต้าขมวดคิ้ว “ขยะทั้งนั้น”
เดิมทีเธอยังคิดอยู่ว่าครั้งนี้จะมีนักแม่นปืนที่ข่มเธอได้
ดูท่าดอกหนิงเสินจะได้มาอย่างง่ายดาย
ทว่าในขณะที่ริต้าเพิ่งเก็บปืนในมือไปก็มีคนเดินลงมาจากบันได เข้าสู่สนามประลอง
เป็นเด็กสาวคนหนึ่ง
ร่างกายบอบบาง ลักษณะไม่มีอะไรโดดเด่น
แต่เป็นใบหน้าแบบตะวันออก
พอเห็นแบบนี้บรรดาผู้ชมที่นั่งดูอยู่ต่างก็ออกอาการตะลึง
“คนจีนคนนี้คิดจะทำอะไร คงไม่ได้คิดจะประลองกับริต้าหรอกนะ”
“นี่มันก็ใกล้จบแล้ว เธอไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการประลองนะ”
“ไม่ๆๆ ไม่ใช่เธอไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการประลอง เธอไม่มีคุณสมบัติประลองกับริต้าต่างหาก”
ริต้า เบวินเป็นใคร
อายุแค่สิบแปดปีก็ติดชาร์ตนักแม่นปืน อีกทั้งยังเป็นเด็กสาวอายุน้อยที่พบเจอได้ยากบนชาร์ตนักแม่นปืน
ถ้าใครจะมาประลองด้วยก็ได้ แบบนั้นไม่เป็นเรื่องน่าขำขันเหรอ
ริต้าก็รู้สึกเหนือความคาดหมายที่มีคนเข้ามาในเวลานี้
แต่ตอนที่เธอเห็นว่าเป็นเด็กสาววัยรุ่นเหมือนกัน เธอก็อดหัวเราะไม่ได้ “พอเถอะ อย่าทำขายหน้าเลย เธอออกไปดีกว่า ถึงเธอจะอายุพอๆ กับฉัน แต่แข่งกับฉันไม่ได้หรอก”
เธอเริ่มจับปืนตั้งแต่อายุสามขวบ ยิงวันละเป็นร้อยครั้งทุกวัน
ต่อให้หลับตาเธอก็ยิงถูก
เธอสังเกตเห็นแล้วว่าบนมือของอีกฝ่ายไม่มีเนื้อด้าน นั่นก็แสดงว่าไม่ค่อยได้จับปืน
ถ้าเธอยอมประลองด้วยไม่เท่ากับเป็นการดูถูกตัวเองเหรอ
ริต้ายกมือส่งสัญญาณให้ผู้ดูแลด้านข้าง “บอกให้เธอลงไป อย่ารบกวนการแสดงถัดไปของฉัน”
เสียงตะโกนของผู้ชมก็ดังขึ้น
“ลงไป!”
“ไสหัวลงไป!”
“ริต้าจะแสดงหลับตายิง อย่ามาเกะกะ!”
อิ๋งจื่อจินยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ
เธอยกมือขึ้นท่ามกลางสายตาคนมากมายแล้วค่อยๆ เหนี่ยวไก
ไม่มอง แขนชี้ไปทางด้านหลัง ร่างกายกับศีรษะหันหลังให้เป้าเคลื่อนที่อยู่ไกลที่สุด เธอยิงต่อเนื่องสิบนัด
ปัง ปัง ปัง…