ข่าวดีกับข่าวร้ายอยากฟังอันไหนก่อน?
จงคุยตัวแข็งทื่อทั้งจิตใจและร่างกายของเขาถูกทำลายย่อยยับจนไม่เหลือชิ้นดี เขาไม่กล้าจะเผชิญหน้าชูฮันเพื่อโต้แย้งหรือด่าทออีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ ทำได้แค่กล้ำกลืนความรู้สึกตัวเองลงไปและเอ่ยตอบ “ข่าวดี”
เทียบกับข่าวร้ายแล้วตอนนี้จงคุยต้องการอะไรสักอย่างที่จะมาช่วยปรับอารมณ์ของเขาให้คงที่ ไม่อย่างนั้นการต่อรองกับชูฮันต่อคงยากเกินไปสำหรับเขา
ใช่จงคุยรู้ดีว่าชูฮันในตอนนี้ไม่กล้าจะฆ่าเขาอย่างแน่นอน ต่อให้ในใจนั้นอยากจะฆ่าเขามากแค่ไหนก็ตาม เพราะถึงอย่างไรเขาก็มีตำแหน่งเป็นถึงพลเอกและก็เป็นผู้นำของค่ายจินหยางด้วย
แม้ชูฮันอยากจะฆ่าเขาแค่ไหนแต่ก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ ”ข่าวดีก็คือลูกชายของแก…จงไคนั้นถูกคนนอกใส่ร้ายและปั่นหัวให้ขัดแย้งกับแก”ชูฮันกลั้วหัวเราะในลำคอ”ก็นะ เพราะลูกแกมันโง่จนตาบอดเอง ที่จริงถ้าแกกับมันได้พูดคุยกันก็น่าจะสงบศึกได้ แต่ก็นั่นแหละ ความจริงก็คือแกสองพ่อลูกไม่เคยได้เจรจากัน? และเพราะแกทั้งสองมีตำแหน่งถึงพลเอก ถ้าสองพลเอกทำงานร่วมกันขึ้นมาละก็มันคงจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทั้งค่ายจินหยาง”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของชูฮันจงคุยก็มีสีหน้าสับสน…ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีและมีความสุขขึ้นมา ต้องยอมรับว่าข้อเสนอของชูฮันนั้นค่อนข้างดีเลย ดังนั้นจงคุยจึงมีท่าทีตื่นเต้น เพราะว่าความเกลียดชังที่มีระหว่างสองพ่อลูกนั้น…
สามารถแก้ไขได้!
ถ้าเช่นนั้นแสดงว่าปัญหาสองพลเอกในค่ายจินหยางก็จะได้รับการแก้ไข?
ในจังหวะที่จงคุยกำลังเริ่มทำความเข้าใจอยู่ประโยคต่อมาของชูฮันก็ดังขึ้น “ข่าวร้ายก็คือ คนที่คอยปั่นหัวลูกชายของแกกับให้ขัดแย้งกับแกมาตลอดก็คือคนของฉันเอง”
”เฮือก!!!”จงคุยช็อคค้าง สติล่องลอย คำพูดของชูฮันเปรียบเสมือนกับมือที่โผล่มากระชากเขาลงสู่นรก!
”ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก!”แววตาของจงคุยสั่นระรัว ตะโกนใส่ชูฮันด้วยอารมณ์รุนแรง “แกเป็นคนทำ ถ้างั้นก็ยกเลิกทุกอย่างซะสิ?”
ทันทีที่ได้ยินคำบอกของชูฮันจงคุยก็รู้ได้ในทันทีว่าความฝันที่จะได้ทำงานร่วมกับลูกชายเพื่อทำให้การมีพลเอกสองคนปกครองค่ายจินหยางร่วมกัน…ล้มเหลวแล้ว
ชูฮันที่เห็นจงคุยตัวสั่นเทิ้มอย่างสิ้นหวังก็แสนจะอารมณ์ดี”ยังมีข่าวดีและข่าวร้ายอีก คราวนี้อยากฟังอันไหนก่อนอีกล่ะ?”
จงคุยไม่มีความรู้สึกอะไรอีกแล้วในครั้งนี้เขาเพียงตอบออกมาเฉยๆ “ข่าวร้าย”
”หึเรียนรู้ได้เร็วนี่!” ชูฮันยิ้มอย่างชั่วร้าย”ข่าวร้ายคือ จงไคตายแล้ว”
”อะไรน่ะ?”จงคุยเงยหน้าขวับมองชูฮันทันทีอย่างไม่อยากเชื่อหู “เป็นไปไม่ได้! เขาเองก็เป็นพลเอก…ใครจะกล้าทำ? ได้ยังไง? แก…ฝีมือแกใช่มั้ย? แกกล้าดียังไง?!”
ตำแหน่งพลเอกสูงส่งอันแสนจะมีเกียรติ…กลับถูกฆ่า?
ชูฮันมันกล้าดียังไง!!!
และในตอนนั้นเอง——-
”ปั่ก!”
ศีรษะที่มีเลือดโชกถูกโยนเข้ามาในบ้านพักของจงคุยมีร่างของเจียงเหว่ยยืนอยู่ด้านนิกบ้านพร้อมกับสายตาไม่แยแสและแสดงออกถึงความโหดเหี้ยม
จงคุยมองตามสิ่งที่ถูกโยนเข้ามาและก็ได้เห็น…ศีรษะของจงไค!
ตายตาย แม้ตัวหัวกับตัวก็ถูกตัดขาด ทั้งน่าอับอายและอดสูยิ่งนัก หัวของลูกเขาถูกโยนไม่ต่างอะไรกับลูกบอล! แม้จงคุยจะกำลังตกใจอย่างหนักหากชูฮันกลับนั่งดื่มชาอย่างสบายอารมณ์ไม่สนใจบรรยากาศตรงหน้าเลยสักนิด “ข่าวดีก็คือ ฉันจะบอกให้ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะแกสองพ่อลูก แกสองพ่อลูกเริ่มทุกอย่างขึ้นมาที่ค่ายหนานตู้ ซึ่งทำไปสู่การที่ลูกแกต้องพิการช่วงล่างไปตลอดชีวิต อยากแก้แค้นเหรอ?”
จงคุยมีท่าทีกระอักกระอ่วนและทำตัวไม่ถูกเขารู้ดีแก่ใจว่าตอนนี้ชูฮันพยายามจะยั่วยุเขาอยู่ หรือจงใจจะทำให้เขาเคลื่อนไหวอะไรสักอย่างเพื่อที่ทุกอย่างจะได้ยกระดับขึ้นไปขั้นต่อไป
ชูฮันส่งคนไปฆ่าจงไค…ใช่จงคุยเดาได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือจงคุยอยากจะให้ชูฮันเป็นคนลงมือเอง เพราะเขาจะได้มีข้อต่อรอง ความผิดฐานฆ่าพลเอกนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
แล้วถ้าไม่ใช่ความเป็นไปได้ที่จะเป็นฝีมือชูฮันมันเท่าไหร่กัน?
ในเวลาเดียวกันจงคุยเองก็จำเป็นต้องยกระดับเพราะถูกชูฮันบีบจนไม่ต่างอะไรกับยืนอยู่ริมหน้าผา ถ้าเขายังทำตัวเป็นปรปักษ์กับชูฮันต่อไป มันมีแต่จะผลแย่ต่อตัวเขาเองทั้งนั้น ดังนั้นเขาควรหาทางที่จะได้ผลประโยชน์ต่อตัวเขาเองและตามหาสาเหตุการตายของลูกเขาไปด้วย?
ดังนั้นพอชูฮันเหมือนชี้แนวทางให้เห็นจงคุยที่กำลังประมวลผลในหัวอยู่ก็เริ่มคิดถึงการเพิ่มผลประโยชน์ให้กับตัวเขาเองในบทสนทนาต่อไป
น่าเสียดายจงคุยที่ยังไม่ทันจัดการความเข้าใจแบบผิดๆของตัวเองเรียบร้อยดีเลย และชูฮันก็ไม่คิดจะให้เวลาจงคุยได้ปรับตัวอะไรทั้งนั้น ทันใดนั้นชูฮันก็พูดประโยคต่อมาที่เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหัวจงคุย “คนนั้นคือฉัน”
”อึกกกก~”จงคุยกระอักออกมาเป็นเลือดทันที ความดันเลือดพุ่งสูงสุด ร่างกายเริ่มซวนเซจนแทบจะเป็นลม หากสายตายังคงมองไปที่ชูฮันด้วยความเกลียดชังรุนแรง ชูฮันพูดอ้อมไปทั่วถ่วงเวลาตั้งนาน เพื่อให้เขาได้ขาดใจตายทั้งเป็น?
และผลสุดท้ายคนที่เป็นคนทำทุกอย่างคือชูฮัน!
แล้วไอ้เรื่องการยกระดับที่พึ่งพูดไปเมื่อครู่คืออะไรผลประโยชน์ที่น่าสนใจคืออะไร ทั้งหมดคือเขาคิดมากไปเองงั้นเหรอ?!
สมาชิกขแงเขี้ยวหมาป่าที่อยู่ในบริเวณและได้ยินบทสนทนาทั้งหมดตั้งแต่แรกต่างหมดคำพูดได้แต่ขยาดกับรสนิยมของชูฮัน ข่าวทั้งสองข่าวนั่นคือข่าวร้ายทั้งคู่ต่างหาก
แน่นอนว่าปีศาจที่ซ่อนอยู่ในตัวพลเอกชูฮันช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
รอยยิ้มของชูฮันเต็มไปด้วยความเย็นชา”เหมิงชีเหว่ย นายเก็บตราตำแหน่งมาได้ทั้งหมดเท่าไหร่?”
ตราตำแหน่ง?
จงคุยที่ยังไม่ได้หายใจหายคอเลยต้องตกใจขึ้นมาอีกรอบ เขาเงยหน้ามองตามชูฮันด้วยแววตาหวาดกลัว…ชูฮันหมายความว่ายังไง?
และก็…มันคืออะไร?
เหมิงชีเหว่ยที่ยืนประจำการอยู่ใกล้ๆรีบคว้ากระเป๋าสะพายหลังที่เขาสะพายติดตัวมาตลอดวางลงที่พื้นเปิดซิปอ้าออกต่อหน้าชูฮันทันที
ด้านในมีแต่ตราตำแหน่งจำนวนพร้อมกับเลือดที่เปรอะเปื้อนไปทั่วในกระเป๋าปรากฏสู่สายตาของทุกคน!
”ตึง!”จงคุยที่ในที่สุดก็ฝืนตัวเองขึ้นยืนได้ก็ต้องแข้งขาอ่อนจนเซล้มลงพื้นไปอีกครั้งเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
และทันทีที่จงคุยลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น—–
”ปั่ก~”
มีเมล็ดแตงโมถูกปามาใส่หน้าของจงคุยรัวๆอย่างไร้ความปราณีมันพุ่งมาด้วยความเร็วและความรุนแรงที่น่าทึ่งจนบาดผิวของจงคุยจนมีเลือดซึมออกมา เมล็ดแตงโมที่ถูกปาออกมาโดยหน้าของจงคุยและเปิดอ้าออกจนเนื้อเมล็ดด้านในหลุดออกมา
ความเจ็บรุนแรงทำให้จงคุยได้สติขณะเปิดเปลือกตาขึ้นก็ได้เห็นรองเท้าบู้ทสีดำคู่หนึ่งอยู่ไม่ห่าง ชูฮันยังคงนั่งอยู่ที่เดิม คว้าเมล็ดตัวโมงขึ้นมาโยนเข้าปากพร้อมมองจงคุยไปด้วยแววตาสนุกสนานอย่างร้ายกาจ
”แก!”จงคุยที่ได้สติผุดขึ้นยืนอย่างอับอาย “แก แกทำอะไรลงไป!”
”เจ้าหน้าที่ทหาร2,500 คนของค่ายจินหยาง” ชูฮันพูดขึ้นมาอย่างไม่สนใจอะไร “พลังการต่อสู้ของค่ายจินหยางก็ใช้ได้ ข้อมูลที่มีอยู่เดิมไม่แตกต่างกันมาก”
”ตอบฉันมา?!”จงคุยตะคอกเสียงดัง
ชูฮันเหลือบมาจงคุยพร้อมกับยิ้มออกมา”จินหยางจบแล้ว”
จงคุยตัวแข็งทื่อทั้งจิตใจและร่างกายของเขาถูกทำลายย่อยยับจนไม่เหลือชิ้นดี เขาไม่กล้าจะเผชิญหน้าชูฮันเพื่อโต้แย้งหรือด่าทออีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ ทำได้แค่กล้ำกลืนความรู้สึกตัวเองลงไปและเอ่ยตอบ “ข่าวดี”
เทียบกับข่าวร้ายแล้วตอนนี้จงคุยต้องการอะไรสักอย่างที่จะมาช่วยปรับอารมณ์ของเขาให้คงที่ ไม่อย่างนั้นการต่อรองกับชูฮันต่อคงยากเกินไปสำหรับเขา
ใช่จงคุยรู้ดีว่าชูฮันในตอนนี้ไม่กล้าจะฆ่าเขาอย่างแน่นอน ต่อให้ในใจนั้นอยากจะฆ่าเขามากแค่ไหนก็ตาม เพราะถึงอย่างไรเขาก็มีตำแหน่งเป็นถึงพลเอกและก็เป็นผู้นำของค่ายจินหยางด้วย
แม้ชูฮันอยากจะฆ่าเขาแค่ไหนแต่ก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ ”ข่าวดีก็คือลูกชายของแก…จงไคนั้นถูกคนนอกใส่ร้ายและปั่นหัวให้ขัดแย้งกับแก”ชูฮันกลั้วหัวเราะในลำคอ”ก็นะ เพราะลูกแกมันโง่จนตาบอดเอง ที่จริงถ้าแกกับมันได้พูดคุยกันก็น่าจะสงบศึกได้ แต่ก็นั่นแหละ ความจริงก็คือแกสองพ่อลูกไม่เคยได้เจรจากัน? และเพราะแกทั้งสองมีตำแหน่งถึงพลเอก ถ้าสองพลเอกทำงานร่วมกันขึ้นมาละก็มันคงจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทั้งค่ายจินหยาง”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของชูฮันจงคุยก็มีสีหน้าสับสน…ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีและมีความสุขขึ้นมา ต้องยอมรับว่าข้อเสนอของชูฮันนั้นค่อนข้างดีเลย ดังนั้นจงคุยจึงมีท่าทีตื่นเต้น เพราะว่าความเกลียดชังที่มีระหว่างสองพ่อลูกนั้น…
สามารถแก้ไขได้!
ถ้าเช่นนั้นแสดงว่าปัญหาสองพลเอกในค่ายจินหยางก็จะได้รับการแก้ไข?
ในจังหวะที่จงคุยกำลังเริ่มทำความเข้าใจอยู่ประโยคต่อมาของชูฮันก็ดังขึ้น “ข่าวร้ายก็คือ คนที่คอยปั่นหัวลูกชายของแกกับให้ขัดแย้งกับแกมาตลอดก็คือคนของฉันเอง”
”เฮือก!!!”จงคุยช็อคค้าง สติล่องลอย คำพูดของชูฮันเปรียบเสมือนกับมือที่โผล่มากระชากเขาลงสู่นรก!
”ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก!”แววตาของจงคุยสั่นระรัว ตะโกนใส่ชูฮันด้วยอารมณ์รุนแรง “แกเป็นคนทำ ถ้างั้นก็ยกเลิกทุกอย่างซะสิ?”
ทันทีที่ได้ยินคำบอกของชูฮันจงคุยก็รู้ได้ในทันทีว่าความฝันที่จะได้ทำงานร่วมกับลูกชายเพื่อทำให้การมีพลเอกสองคนปกครองค่ายจินหยางร่วมกัน…ล้มเหลวแล้ว
ชูฮันที่เห็นจงคุยตัวสั่นเทิ้มอย่างสิ้นหวังก็แสนจะอารมณ์ดี”ยังมีข่าวดีและข่าวร้ายอีก คราวนี้อยากฟังอันไหนก่อนอีกล่ะ?”
จงคุยไม่มีความรู้สึกอะไรอีกแล้วในครั้งนี้เขาเพียงตอบออกมาเฉยๆ “ข่าวร้าย”
”หึเรียนรู้ได้เร็วนี่!” ชูฮันยิ้มอย่างชั่วร้าย”ข่าวร้ายคือ จงไคตายแล้ว”
”อะไรน่ะ?”จงคุยเงยหน้าขวับมองชูฮันทันทีอย่างไม่อยากเชื่อหู “เป็นไปไม่ได้! เขาเองก็เป็นพลเอก…ใครจะกล้าทำ? ได้ยังไง? แก…ฝีมือแกใช่มั้ย? แกกล้าดียังไง?!”
ตำแหน่งพลเอกสูงส่งอันแสนจะมีเกียรติ…กลับถูกฆ่า?
ชูฮันมันกล้าดียังไง!!!
และในตอนนั้นเอง——-
”ปั่ก!”
ศีรษะที่มีเลือดโชกถูกโยนเข้ามาในบ้านพักของจงคุยมีร่างของเจียงเหว่ยยืนอยู่ด้านนิกบ้านพร้อมกับสายตาไม่แยแสและแสดงออกถึงความโหดเหี้ยม
จงคุยมองตามสิ่งที่ถูกโยนเข้ามาและก็ได้เห็น…ศีรษะของจงไค!
ตายตาย แม้ตัวหัวกับตัวก็ถูกตัดขาด ทั้งน่าอับอายและอดสูยิ่งนัก หัวของลูกเขาถูกโยนไม่ต่างอะไรกับลูกบอล! แม้จงคุยจะกำลังตกใจอย่างหนักหากชูฮันกลับนั่งดื่มชาอย่างสบายอารมณ์ไม่สนใจบรรยากาศตรงหน้าเลยสักนิด “ข่าวดีก็คือ ฉันจะบอกให้ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะแกสองพ่อลูก แกสองพ่อลูกเริ่มทุกอย่างขึ้นมาที่ค่ายหนานตู้ ซึ่งทำไปสู่การที่ลูกแกต้องพิการช่วงล่างไปตลอดชีวิต อยากแก้แค้นเหรอ?”
จงคุยมีท่าทีกระอักกระอ่วนและทำตัวไม่ถูกเขารู้ดีแก่ใจว่าตอนนี้ชูฮันพยายามจะยั่วยุเขาอยู่ หรือจงใจจะทำให้เขาเคลื่อนไหวอะไรสักอย่างเพื่อที่ทุกอย่างจะได้ยกระดับขึ้นไปขั้นต่อไป
ชูฮันส่งคนไปฆ่าจงไค…ใช่จงคุยเดาได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือจงคุยอยากจะให้ชูฮันเป็นคนลงมือเอง เพราะเขาจะได้มีข้อต่อรอง ความผิดฐานฆ่าพลเอกนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
แล้วถ้าไม่ใช่ความเป็นไปได้ที่จะเป็นฝีมือชูฮันมันเท่าไหร่กัน?
ในเวลาเดียวกันจงคุยเองก็จำเป็นต้องยกระดับเพราะถูกชูฮันบีบจนไม่ต่างอะไรกับยืนอยู่ริมหน้าผา ถ้าเขายังทำตัวเป็นปรปักษ์กับชูฮันต่อไป มันมีแต่จะผลแย่ต่อตัวเขาเองทั้งนั้น ดังนั้นเขาควรหาทางที่จะได้ผลประโยชน์ต่อตัวเขาเองและตามหาสาเหตุการตายของลูกเขาไปด้วย?
ดังนั้นพอชูฮันเหมือนชี้แนวทางให้เห็นจงคุยที่กำลังประมวลผลในหัวอยู่ก็เริ่มคิดถึงการเพิ่มผลประโยชน์ให้กับตัวเขาเองในบทสนทนาต่อไป
น่าเสียดายจงคุยที่ยังไม่ทันจัดการความเข้าใจแบบผิดๆของตัวเองเรียบร้อยดีเลย และชูฮันก็ไม่คิดจะให้เวลาจงคุยได้ปรับตัวอะไรทั้งนั้น ทันใดนั้นชูฮันก็พูดประโยคต่อมาที่เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหัวจงคุย “คนนั้นคือฉัน”
”อึกกกก~”จงคุยกระอักออกมาเป็นเลือดทันที ความดันเลือดพุ่งสูงสุด ร่างกายเริ่มซวนเซจนแทบจะเป็นลม หากสายตายังคงมองไปที่ชูฮันด้วยความเกลียดชังรุนแรง ชูฮันพูดอ้อมไปทั่วถ่วงเวลาตั้งนาน เพื่อให้เขาได้ขาดใจตายทั้งเป็น?
และผลสุดท้ายคนที่เป็นคนทำทุกอย่างคือชูฮัน!
แล้วไอ้เรื่องการยกระดับที่พึ่งพูดไปเมื่อครู่คืออะไรผลประโยชน์ที่น่าสนใจคืออะไร ทั้งหมดคือเขาคิดมากไปเองงั้นเหรอ?!
สมาชิกขแงเขี้ยวหมาป่าที่อยู่ในบริเวณและได้ยินบทสนทนาทั้งหมดตั้งแต่แรกต่างหมดคำพูดได้แต่ขยาดกับรสนิยมของชูฮัน ข่าวทั้งสองข่าวนั่นคือข่าวร้ายทั้งคู่ต่างหาก
แน่นอนว่าปีศาจที่ซ่อนอยู่ในตัวพลเอกชูฮันช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
รอยยิ้มของชูฮันเต็มไปด้วยความเย็นชา”เหมิงชีเหว่ย นายเก็บตราตำแหน่งมาได้ทั้งหมดเท่าไหร่?”
ตราตำแหน่ง?
จงคุยที่ยังไม่ได้หายใจหายคอเลยต้องตกใจขึ้นมาอีกรอบ เขาเงยหน้ามองตามชูฮันด้วยแววตาหวาดกลัว…ชูฮันหมายความว่ายังไง?
และก็…มันคืออะไร?
เหมิงชีเหว่ยที่ยืนประจำการอยู่ใกล้ๆรีบคว้ากระเป๋าสะพายหลังที่เขาสะพายติดตัวมาตลอดวางลงที่พื้นเปิดซิปอ้าออกต่อหน้าชูฮันทันที
ด้านในมีแต่ตราตำแหน่งจำนวนพร้อมกับเลือดที่เปรอะเปื้อนไปทั่วในกระเป๋าปรากฏสู่สายตาของทุกคน!
”ตึง!”จงคุยที่ในที่สุดก็ฝืนตัวเองขึ้นยืนได้ก็ต้องแข้งขาอ่อนจนเซล้มลงพื้นไปอีกครั้งเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
และทันทีที่จงคุยลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น—–
”ปั่ก~”
มีเมล็ดแตงโมถูกปามาใส่หน้าของจงคุยรัวๆอย่างไร้ความปราณีมันพุ่งมาด้วยความเร็วและความรุนแรงที่น่าทึ่งจนบาดผิวของจงคุยจนมีเลือดซึมออกมา เมล็ดแตงโมที่ถูกปาออกมาโดยหน้าของจงคุยและเปิดอ้าออกจนเนื้อเมล็ดด้านในหลุดออกมา
ความเจ็บรุนแรงทำให้จงคุยได้สติขณะเปิดเปลือกตาขึ้นก็ได้เห็นรองเท้าบู้ทสีดำคู่หนึ่งอยู่ไม่ห่าง ชูฮันยังคงนั่งอยู่ที่เดิม คว้าเมล็ดตัวโมงขึ้นมาโยนเข้าปากพร้อมมองจงคุยไปด้วยแววตาสนุกสนานอย่างร้ายกาจ
”แก!”จงคุยที่ได้สติผุดขึ้นยืนอย่างอับอาย “แก แกทำอะไรลงไป!”
”เจ้าหน้าที่ทหาร2,500 คนของค่ายจินหยาง” ชูฮันพูดขึ้นมาอย่างไม่สนใจอะไร “พลังการต่อสู้ของค่ายจินหยางก็ใช้ได้ ข้อมูลที่มีอยู่เดิมไม่แตกต่างกันมาก”
”ตอบฉันมา?!”จงคุยตะคอกเสียงดัง
ชูฮันเหลือบมาจงคุยพร้อมกับยิ้มออกมา”จินหยางจบแล้ว”