ตอนที่ 483 ขอความช่วยเหลือและรับสมัคร
ในโถงฐานชั่วคราว ทุกคนกําลังยุ่งกับงานตัวเอง ทันใดนั้น ภาพหน้าจอบนโทรทัศน์ก็เผยแพร่ภาพข่าว
“รายงานฉุกเฉินนอเรียส สิบนาที่ก่อน อาคารบริเวณรอบนอกของเมือง4ถูกโจมตี ถนนสามสายถูกทําลายสิ้น สถานีรสบัสถูกตัดขาด และจํานวนผู้เสียชีวิตก็ยังอยู่ในการคํานวณ ตามการวิเคราะห์เบื้องต้น สาเหตุของการทําลายคือการต่อสู้ระหว่างพวกพิเศษ รายละเอียดจะถูกปล่อยออกมามากขึ้นหลังการตรวจสอบ สํานักงานความมั่นคงสาธารณะกําลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่ ตอนนี้ที่เรากําลังแสดงคือที่เกิดเหตุ
ข่าวนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน ซิลเวียเคาะประตูห้องดัดแปลงเครื่องจักรทันทีและเรียกหานเชี่ยวออกมาดู
ข่าวแสดงที่เกิดเหตุ อาคารสูงหลายสิบถล่มลงและถูกลดขนาดให้เป็นเศษหิน สิบนาที่ก่อนหน้าสถานที่นี้ยังเป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองมาก แต่ทั้งหมดกลับถูกทําลายจนราบคาบ เครื่องบินของสํานักความมั่นคงกําลังบินรอบๆ พยายามช่วยผู้บาดเจ็บให้ได้มากที่สุด ทั่วสถานที่เต็มไปด้วยเสียงดัง ศพทีละศพถูกนําขึ้นมา
“นั่นแค่ข่าวลือ ฉันคิดว่ามันคงเกิดแผ่นดินไหว”โวลก้าคนโตกล่าว
วิลแซนเดอร์กําลังใช้แปรงทําความสะอาดปึกเขาและถามพลางยักไหล่”นั่นสู้หรือสงคราม?”
“สําหรับพวกที่จะสร้างความพินาศขนาดนั้นได้ในเวลาอันสั้น มันต้องเป็นการต่อสู้ระหว่างตัวตนระดับภัยพิบัติ”หานเซียวกล่าว
เขาคิดถึงนากาคินทันที เมื่อพิจารณาถึงตอนเขาได้พบนากาคิน เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้มาก
แต่ทว่า นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา เขาไม่ได้กระตุ้นภารกิจใดจากนากาคิน และเนื่องจากไม่มีผลประโยชน์ หานเซียวย่อมไม่สนใจ
ปีบ ปี๊บ!
ทันใดนั้น อุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดังขึ้น หมายเลขที่ไม่รู้จักกําลังโทรหาเขา หานเชี่ยวยอมรับสาย
วินาทีต่อมา ร่างของนากาคินก็ปรากฏบนจอ เขาหอบหายใจหนักและทั่วร่างก็เต็มไปด้วยเลือดและแผล เขาอยู่ในสภาพน่าสมเพชอย่างยิ่ง
“แบล็คสตาร์…โปรดช่วยฉันด้วย”นากาคินกัดฟัน
ไม่นานมานี้ นากาคินได้พบกับการซุ่มโจมตีของดาราทมิฬ และหลังการต่อสู้ดุเดือด ถนนสามสายก็ถูกทําลาย นักรบชั้นสูงเขาตายหมด พวกเขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะส่งเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือต่อหน้าตัวตนระดับภัยพิบัติ
พวกเขาเป็นลูกน้องเขาที่ร่วมรบกับเขามานานหลายปี และทั้งหมดก็ถูกกําจัดออกไปง่ายๆ นากาคินโกรธ แต่ก็จําต้องบังคับให้ตัวเองสงบและเผชิญกับยอดฝีมือทั้งสองตรงหน้า
ขณะที่เขาเหลือคนเดียว นากาคินก็ไม่มีความคิดถอย ตราบเท่าที่เขาสามารถแลกชีวิตเขากับหนึ่งในนั้น มันย่อมไม่สูญเปล่า
ยังมีการแบ่งแยกระหว่างตัวตนระดับภัยพิบัติ พลังของนากาคินไม่เหนือกว่าอานูหรือเอ็มเบอร์ และเขาก็เสียเปรียบมาก ศัตรูทั้งสองคือเอสเปอร์ที่รับมือได้ยากมาก แค่การปะทะสั้นๆ เขาก็บาดเจ็บแล้ว
การต่อสู้ดุเดือดระหว่างพวกเขาได้รับความสนใจจากสํานักความมั่นคง และพวกเขาก็มาถึงอย่างรวดเร็ว อานูตั้งใจไล่ล่าต่อ แต่หลังพิจารณา เขาก็ตัดสินใจถอยเพราะไม่อยากถูกสานักงานความมั่นคงไล่ล่า ผลลัพธ์ ของการซุ่มโจมตีไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังเขา เดิมที่เขาอยากฆ่ายอดโกโดร่าระดับAโดยเร็ว แต่นากาคิน คือนักสู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและเพียงแค่บาดเจ็บสาหัส
หากไม่ใช่ว่านากาคินเป็นนักสู้ เขาคงตายไปแล้ว
หลังลากสังขารออกไปจากสนามรบ นากาคินก็ไม่ได้รักษาแผลเขา เขากลับติดต่อสํานักงานใหญ่และรายงานเหตุการณ์ ตําหนักสงครามโกโดร่าตกตะลึงและสั่งให้นากาคินรอคำสั่งให้รักษาชีวิตเขาไว้ก่อน
เขาร้องขอความช่วยเหลือจากสํานักงานใหญ่ แต่การเดินทางต้องใช้เวลา ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะส่งใครมาทัน การยอมแพ้และการถอยไม่เคยอยู่ในหัวเขา แม้เขาจะอยู่ลําพัง เขาก็ต้องหยุดดาราทมิฬให้ได้
เพียงเมื่อเขากําลังคิดจะกลับไป นากาคินก็นึกถึงแบล็คสตาร์ ผู้ที่เขาเจอ
บางทีคงมีเพียงทหารรับจ้างถึงช่วยเขาได้
นอเรียสตั้งอยู่ไกลและมีทหารรับจ้างน้อยมาก ปัจจุบัน ทหารรับจ้างแบล็คสตาร์อาจเป็นกลุ่มเดียวแถวนี้
เขาปฏิเสธความช่วยเหลือของหานเซียวไปไม่นานแต่กลับต้องมาร้องขอเอาตอนนี้ นี่น่าอับอายมาก และนากาคินก็ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้คิด แต่ทว่า เขาทําได้แค่กัดฟันและติดต่อหานเซียว เพื่อภารกิจเขา การละทิ้งความภาคภูมิใจไม่ใช่ปัญหาเลย
“นากาคิน?”หานเซี่ยวมีใบหน้าแปลกใจ เขาเดาถูก นากาคินเกี่ยวข้องกับข่าวจริงๆ และเขายังบาดเจ็บสาหัส อีกด้วย ความช่วยเหลือที่นากาคินร้องขอย่อมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อไม่เห็นลูกน้องเขาในสายตา พวกเขาจึงอาจถูก กําจัดไปหมดแล้ว และดังนั้น นากาคินจึงต้องแบกหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเขา
หานเซียวหยุดคิดสักพัก จากนั้นก็นึกถึงสภาพพิการของนากาคิน แต่หลังเหลือบมองร่างของนากาคิน แม้ เขาจะเต็มไปด้วยเลือด แขนขาเขาก็ยังไม่บุบสลาย
“ฉันมีภารกิจดึงตัวคนทรยศดาราทมิฬจากนอเรียส ชื่อเขาคืออัลวิน และดาราทมิฬก็ส่งกองกําลังมาไล่เขา อีกฝ่ายคือตัวตนระดับภัยพิบัติสองคน และฉันก็ถูกซุ่มโจมตี…”
นากาคินอธิบายสถานการณ์ตามจริง
แม้เขาจะรู้ว่าการเผยความจริงอาจทําให้หานเซียวกลัวและไม่ช่วยเขา นากาคินก็ไม่คิดปิดบังพลังของศัตรู และหลอกลวงทหารรับจ้าง เขาเป็นคนตรงไปตรงมา และต่อให้เขารู้ว่าทหารรับจ้างอาจปฏิเสธเขา เขาก็ยังคงบอกความจริง
หานเชี่ยวตระหนักทันที เมื่อเขาเจออัลวิน เขาก็สงสัยแล้วแต่ขาดข้อมูล เรื่องนี้เกี่ยวกับดาราทมิฬจริงๆ
“แล้วใครคือตัวตนระดับภัยพิบัติทั้งสอง”
“ไม่แน่ใจ”นากาคินส่ายหัว
“ความสามารถของพวกเขาคืออะไร?
“หนึ่งในนั้นสามารถลดร่างกายมนุษย์ให้เป็นเถ้และสามารถควบคุมฝุ่นให้แปรเปลี่ยนเป็นอาวุธต่างๆ หากฉันไม่ยกระดับพลังงานขึ้น เขาคงสามารถลอกเนื้อฉันออกไปได้…”
ประกายเย็นชาฉายผ่านดวงตาของหานเซียวและกล่าว“การควบคุมธาตุคาร์บอน เอ็มเบอร์!”
เดิมที่เขาคิดว่าหมอนี้ตายไปในการระเบิดของยานแล้ว แต่ไม่คิดว่าเอ็มเบอร์จะหลบหนีมาได้จริงๆ แถมเขายังเป็นระดับAแล้วด้วย เมื่อเขาสู้กับเอ็มเบอร์บนเกาะมังกรลอยฟ้า เอ็มเบอร์ก็ได้เป็นระดับB+แล้วและแกร่งกว่าเขามาก หากไม่ใช่เพราะไพ่ตายเขา มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสู้กับเอ็มเบอร์อย่างสูสี
เอ็มเบอร์สามารถกวาดสิ่งมีชีวิตฐานคาร์บอนได้ง่ายๆ และความสามารถเขาก็ยากจะรับมือเอามากๆ มันเหมือนทักษะหมู่ระดับเทพ มีเพียงอโรเชียและตัวเขาถึงต้านทานได้ วิลแซนเดอร์เป็นปีศาจเลือดผสม และไม่รู้จักโครงสร้างร่างกายดี หากเขาไม่ใช่ฐานคาร์บอน บางทีเขาคงสามารถหลบหนีผลลัพธ์การถูกลบไปได้
แต่ทว่า หลังเอ็มเบอร์มาถึงระดับA ความสามารถเอสเปอร์เขาอาจมีวิธีใช้ใหม่ แม้กระทั่งการโจมตีธรรมดา เขาก็คงทรงพลังกว่าเดิมมาก
“แล้วความสามารถของอีกคนละ?”หานเซียวถาม
“เขาคือเอสเปอร์แปลงกาย เขาสามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตบินประหลาดสูง4-5เมตร มันดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถควบคุมกระแสอากาศ เขาเร็วมาก และมันก็ยังยากจะมองทันด้วยตาเปล่า ตอนเขาบิน แรงดันลมจะสร้างขึ้นรอบเขา ไม่เพียงแต่มันจะเป็นเกราะป้องกัน มันยังสามารถมอบการล่องหนได้ในระดับหนึ่ง มันดูเหมือนว่าเขากําลังใช้วิธีเพื่อหักแหลังสีแสง ยิ่งเขาบินเร็ว แรงดันลมก็ยิ่งสูง และทุกที่ที่เขาผ่านจะถูกทําลายโดยแรงลม เขาเหมือนปืนใหญ่แรงดัน”
“แปลงกาย…แรงดันลม..”ปากของหานเซียวบิดเบี้ยว หรือเขาจะเป็นปีศาจลม อานู?”
ดาราทมิฬมีสมาชิกระดับAจํากัด และตามความสามารถที่พวกเขาแสดง หานเซียวสามารถเดาตัวตนของพวกเขาได้ อานคือสมาชิกเก่าแก่และเป็นยอดฝีมือของดาราทมิฬที่ยากจะรับมือสุดขีด หลังแปลงกาย ไม่เพียงแต่ความเร็วเขาจะเพิ่ม หากเขาบินวนรอบดาว แรงดันลมสะสมจะก่อตัวเป็นพายุที่มากพอจะกวาดทั่วผิวดาว
ทั้งสองร้ายกาจมาก ก่อนเวอร์ชั่น2.0 หานเซียวไม่อยากไปตอแยดาราทมิฬ แต่ทว่า นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้ตีสนิทโกโดร่าและหาช่องทางติดต่อไปยังเบื้องบนของโกโดร่า ด้วยการอยู่ของนากาคิน มันคงง่ายขึ้นที่จะได้รับความไว้วางใจตอนเขารับมือกับแหล่งกลายพันธ์ในอนาคต และมันก็คงสะดวกกว่าที่จะคุยเรื่องผลประโยชน์
นากาคินกัดปากขณะรอคําตอบ เขาอ้อนวอนอยู่ในใจให้หานเซียวไม่ปฏิเสธ หานเซียวดูเหมือนจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน หานเซียวก็ส่ายหัว “มันอันตรายเกินไปที่จะสู้กับสองภัยพิบัติ..”
สีหน้าของนากาคินเปลี่ยนไป แม้จะเดาผลลัพธ์ได้ เขาก็ยังผิดหวังเล็กน้อย
“แต่ ภารกิจคุณไม่ใช่การฆ่าทั้งคู่ใช่ไหม?”หานเซียวถาม”ตราบเท่าที่อัลวินสามารถออกจากนอเรียสได้ ภารกิจคุณก็ถือว่าลุล่วง ปัญหาตอนนี้คือกําลังเสริมโกโดราต้องใช้เวลามาถึง ดังนั้น เราแค่ต้องถ่วงเวลาและช่วยอัลวินหลบหนีจากดาราทมิฬ หากเป็นแบบนี้ ผมก็จะช่วยได้”
ดวงตาของนากาคินสว่างขึ้น เขาดีใจมาก
ในเวลานั้น ภารกิจใหม่ก็ปรากฏบนหน้าต่างสถานะของหานเซียว
คําขอของนากาคิน
คําแนะนําภารกิจ : ท่านได้ตอบรับคําขอของนากาคิน ภารกิจเขาคือการช่วยคนทรยศดาราทมิฬ
ข้อกําหนดภารกิจ : ใช่วยอัลวินหลบซ่อนจนกระทั่งการมาถึงของกองทัพโกโดร่า 2.ฆ่าผู้ไล่ล่าทั้งหมด การทําหนึ่งในสองข้อกําหนดในสําเร็จถือว่าท่าภารกิจสําเร็จ)
เงื่อนไขความล้มเหลว : 1อัลวินตาย 2นากาคินตาย
รางวัล : ค่าประสบการณ์5.8ล้าน เงิน2.4แสนอื่นาส +850ความสัมพันธ์กับโกโดร่า +30ความโปรดปราน อัลวิน +30ความโปรดปรานนากาคิน
มีข้อกําหนดภารกิจสองข้อ มันดูเหมือนว่าการถ่วงเวลาจะง่ายกว่า หานเซียวคิดกับตัวเอง แต่การเอาชนะอีกฝ่ายจะตรงไปตรงมากว่า
หานเซี่ยวมีภารกิจเนื้อเรื่องหลักสามภารกิจ และหนึ่งในนั้นก็คือ[พันธมิตรแห่งโกโดร่า] ข้อกําหนดภารกิจมีมากมาย และอานูกับเอ็มเบอร์ก็รวมอยู่ด้วย แม้รางวัลการฆ่าพวกเขาจะสูง หานเซียวก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทําให้สําเร็จ
เพียงเมื่อนากาคินกําลังจะถามถึงการร่วมมือ หานเดี๋ยวก็กล่าวแทรก
“เรามีกาลังคนน้อยไป ผมจะหากาลังคนมาให้เอง”
หานเซียวหันไปหาเฮอลัส”ไปพันธมิตรทหารรับจ้างและออกประกาศรับสมัครทหารรับจ่างใกล้นอเรียส เป้า หมายจะเป็นทหารรับจ้างทั้งหมดในบริเวณ ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถรับมาได้ เราก็ต้องการหมด เอาให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้”
“เราควรเขียนว่าใครเป็นคนออกภารกิจ?”เฮอลัสถาม“นากาคินหรือโกโดร่า?”
“ไม่ ชื่อพวกเขาไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก”หานเซียวส่ายหัว”ใช้ชื่อฉัน”