ในสำนักงานคัดกรองของแผนกความมั่นคงสำหรับคลัง001 รางยาวเหยียด และอุปกรณ์จักรกลหมุนถูกปล่อยจากท่า คล้ายม่านพลังขนาดเล็ก
ไม่ช้า อุปกรณ์นี้ก็ถูกย้ายไปตู้เซฟโปร่งใสใจกลางห้อง มันมีคุณสมบัติหลากหลายเช่นอุปกรณ์ปรับเสถียรมิติ สัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า และการฆ่าเชื้อทางชีวเคมี มันยังทนต่อแรงกระแทกและความร้อนสูง เจ้าหน้าที่สองคนยืนหน้าตู้เซฟ เปิดหน้าจอเสมือนเพื่อส่องข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุนี้ นี่คือของที่ส่งมาจากระบบดาวเลย์ตัน จุดประสงค์มันไม่รู้ ไม่มีชื่อแนบติด รหัสวัตถุคือC57003A มันจะถูกย้ายไปคลังของศูนย์ใหญ่ชั่วคราว..
โอ้ เบื้องบนได้ส่งของชิ้นนี้มาเอง มันผ่านการตรวจสอบและอนุมัติแล้ว.. หลังเปรียบเทียบ ดูว่าการอนุญาตกับขั้นตอนถูกต้อง เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็ได้ทำการตรวจสอบขั้นพื้นฐานเพื่อยืนยันว่าของไม่อันตรายก่อนวางของในช่องว่างคลังและกดปุ่ม’ยืนยัน’
กึก กึก….
วินาทีถัดมา แขนหุ่นยนต์สี่ข้างยื่นออกจากผนัง ยึดเข้ากับตู้เซฟ ใส่เขาไปในช่องเปิดบนผนัง ท่อขนส่งสินค้าภายในขยับอย่างรวดเร็ว ส่งมอบตู้ไปยังปลายทาง
เครือข่ายท่อขนส่งกระจายไปทั่วคลัง ยื่นไปทุกทางผ่านรางแม่เหล็กเรียง่าย ดังนั้น กระบวนการขนส่งด้วยความเร็วสูงจึงไม่เพียงแต่ปลอดภัย แต่ยังเห็นได้ชัด คลังของแผนกความมั่นคงยิ่งใหญ่ แบ่งเป็นหลายพื้นที่ แต่ละคลังตั้งแยกกันและสร้างข้างๆกัน แยกจากโลกภายนอกผ่านวัสดุโปร่งใส คล้ายกับคุกล้ำยุค มีบูธในคลังแต่ละแห่ง ซึ่งเชื่อมต่อกับท่อขนส่งเพื่อขนส่งของโดยไม่ต้องเข้าถึงคลัง นอกจากนี้ ยังมีตัวปรับเสถียรมิติ เครื่องรบกวนพลังเวทย์ และอาวุธป้องกันอัตโนมัติในคลัง ไม่เพียงการรักษาความปลอดภัยจะทั่วถึง การเปลี่ยนแปลงใดจะเป็นที่สังเกตอย่างรวดเร็ว
ไม่ช้า ช่องว่างก็เปิด ตู้เซฟถูกเคลื่อนย้ายไปพร้อมบัลลังก์ในนั้น
ในขณะเดียวกัน แผนกความมั่นคงก็จัดการประชุมฉุกเฉิน ผู้คนกว่าสิบที่มีรูปร่างหน้าตาหลากหลายกำลังนั่งที่โต๊ะประชุม เหรียญตราบนตัวพวกเขาบ่งบอกถึงฐานะ ด้วยตำแหน่งต่ำสุดคือรองหัวหน้าหน่วยระดับนักบุญ นับตั้งแต่พวกเขาขาดการติดตามหานเซี่ยวกับคาซูยิ แผนกความมั่นคงก็ได้จัดบุคลากรจำนวนมากเพื่อจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ มีผู้ใช้พลังทั้งหมด 19คนในครั้งนี้ ด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดถึง 5 นี่ไม่เพียงแค่จับคนสองคน แต่ยังเป็นการหาสาเหตุที่เป้าหมายซ่อนตัวจากสมบัติเอกภพได้ ด้วยเหตุนี้แผนกความมั่นคงจึงละเว้นความพยายามที่จะระดมคนจำนวนมาก อยากให้แผนนั้นราบรื่น
มันก็หลายเดือนแล้ว แต่เรายังไม่พบอะไรเกี่ยวกับแบล็คสตาร์และคาซูยิเลย ทั้งสองดูเหมือนจะระเหยเป็นไอน้ำ!ถ้ายังปล่อยให้ตัวประกอบที่เป็นอันตรายดังกล่าวเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ไม่ช้าก็เร็ว มันจะนำไปสู่หายนะ!’เบื้องบนคนหนึ่งทุบโต๊ะด้วยความไม่พอใจ ตวัดตามองมิลตัน
สีหน้าของมิลตันดำมืด เดิมเขานำกลุ่มแต่พลาดเป้าหมาย คำตำหนิจึงลงที่เขา เขารู้สึกว่าเขาแค่ทำตามกฏ แต่ใครจะไปคิดว่าเป้าหมายจะรู้วิธีหลบซ่อนแผนที่ดาวจับตำแหน่ง?อีกฝ่ายสามารถใช้สิ่งนี้ตบหน้าเขาและทำลายศักดิ์ศรีเขาได้ แต่ทว่า ตลอดหลายเดือนต่อมา หน่วยเฉพาะกิจก็ไม่คืบหน้านัก และมิลตันก็ตกเป็นเป้าของความไม่พอใจ พวกเขาบ่นที่เขาไม่คว้าโอกาสตอนนั้น แม้เขาจะอยากปฏิเสธ เขาก็ทำอะไรไม่ได้
ปี้บปี้บ…
ขณะที่ทุกคนกำลังหารือ คำขอสื่อสารก็ดัง มันมาจากหัวหน้าแผนก หน้าจอเสมือนปรากฏบนโต๊ะประชุมและหัวหน้าแผนกก็มองฝูงชน ทุกคน ผลของแผนที่ดาวจับตำแหน่งกลับมาแล้ว เราสามารถจับตำแหน่งของแบล็คสตาร์กับคาซูยิได้ใหม่ เหตุผลยังไม่รู้ แต่นี่คือเบาะแสเดียวของเราตลอดหลายเดือน พวกนายต้องระวังตัวและจับตัวพวกมันให้ได้
รับทราบ!เราจะดำเนินการทันที!
เมื่อสิ้นเสียงเขา มิลตันก็ยืนขึ้นอย่างหมดความอดทน ราวกับเขาอดใจรอไม่ไหวที่จะส่งหานเซี่ยวเข้าคุก และครั้งนี้ แม้จะมีข้อได้เปรียบท่วมท้น เขาก็ตัดสินใจลงมืออย่างมั่นคง ด้วยข้อได้เปรียบของแผนที่ดาวจับตำแหน่ง เขาวางแผนซุ่มโจมตี เล็งตอนศัตรูไม่ทันระวังตัว
ที่ไหนสักแห่งในจักรวาล ยานอวกาศลำเล็กบินด้วยความเร็วต่ำ หานเซี่ยว คาซูยิกับเจซนั่งอยู่ด้านใน คาซูยิจ้องแผนที่ดาวขณะพึมพำ เราได้ลบเครื่องปกปิดสวรรค์ไปแล้ว ทำไมผู้ไล่ล่าถึงยังไม่มา? หานเซี่ยวเหลือบมองและพูด พวกมันน่าจะกำลังวางแผนซุ่มโจมตี หลังบทเรียนก่อน พวกมันคงไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม ตอนแรก พวกมันมีเก้าคน ครั้งนี้นายคิดว่าพวกมันจะส่งมามากแค่ไหน?
อย่างน้อยก็ 11หรือ12?เพื่อความปลอดภัย อาจ15? หานเซี่ยวเดา
เจซพูดแทรก ประมาณ 18-20 คน ห้าคนเป็นระดับสูงุสด ฉันเข้าใจรูปแบบการดำเนินงานของพวกมันดี
จิ๊ เยอะไม่เบา.. หานเซี่ยวเลียริมฝีปาก เจซไม่ปฏิเสธมันแต่อธิบายเพิ่ม สิ่งเดียวกันนี้จะเป็นจริงในช่วงหลังของการวนซ้ำในจักรวาลนาย เว้นแต่อารยธรรมขั้นสูงจะดำเนินการชำระล้างครั้งใหญ่ จำนวนพวกนายจะเติบโตมากกว่าเรา พวกคนระดับนักบุญกับเหนือกว่านั้นจะมีข้อมูลที่ถูกเขียนเป็นรูปแบบข้อมูล ต่อให้ตาย พวกเขาก้ยังคืนชีพได้ ดังนั้น การชำระล้างจึงให้ผลจำกัด…
เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็อดนึกถึงองค์กรเทพอำนวยไม่ได้ นายหมายความว่า ตราบเท่าที่ผู้ใช้พลังไปถึงระดับผู้อยู่เหนือ พวกเขาจะสามารถคืนชีพได้ด้วยทางใดทางหนึ่ง เช่นผ่านวิหาร? เจซเหลือบมองเขาและพยักหน้า วิหารเน้นการบันทึกข้อมูลที่สามารถปรับแต่งได้ เช่นสมบัติเอกภพใหม่ เทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนาโดยอารยธรรมขั้นสูงและความก้าวหน้าส่วนบุคคล นี่คือข้อมูลล้ำค่าหมด เช่นนั้นเมื่อคนไปถึงระดับนักบุญ ซึ่งคือผู้อยู่เหนือในจักรวาลนาย นายจะได้รับความสนใจจากวิหารและจะโดนบันทึก
แถมระดับนักบุญแต่ละคนยังเป็นตัวตนพิเศษภายในจักรวาล เมื่อระดับชีวิตนายผ่านการระเหิด นายจะถูกบันทึกเป็นรูปแบบข้อมูล เจตจำนงจะถูกเปลี่ยนและประทับลงในวิหาร ดังนั้นความตายจึงไม่ใช่จุดจบของนาย รูปแบบข้อมูลเหมือนช่วยให้นายบรรลุความเป็นอมตะบางคนสามารถใช้รูปแบบข้อมูลชีวภาพของนายเป็ฯสื่อเพื่อคืนชีพนายและใช้วิหารเพื่อสร้างร่างกายกับวิญญาณนายถ้าพวกเขามีการเชื่อมต่อกับวิหาร
หานเซี่ยวแปลกใจเล็กน้อยที่ได้ยิน ตามความเข้าใจเขา ผู้อยู่เหนือคือจุดเปลี่ยน และเมื่อมาถึงระดับนี้ พวกเขาจะมีสิทธิพิเศษได้รับการสำรองข้อมูลในวิหาร ต่อให้นาย พวกเขาก็ยังมีโอกาสคืนชีพผ่านวิหาร นี่เป็นเป้าหมายของเทพอำนวย จากผู้อยู่เหนือหมื่นคนที่นี่ ส่วนหนึ่งน่าจะฟื้นคืนชีพในลักษณะนี้
บางส่วน? เจซส่ายหัว กว่า 80%ของคนเหล่านี้ฟื้นคืนชีพมาจากวิหาร และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว!
บอกรายละเอียดมา! หานเซี่ยวสนใจมัน ข้อมูลเช่นนี้ไม่มีบนเครือข่าย มันเป็นความลับ มันง่ายมาก เพราะเป้าหมายของการคืนชีพจากวิหารถูกทิ้งไว้ให้ลูกหลานนาย เป้าหมายของการคืนชีพสำหรับอารยธรรมขั้นสูงคือลูกหลานสายตรงของพวกเขาและพันธมิตรที่เชื่อฟัง ดังนั้น คนที่เข้าร่วมกับอารยธรรมขั้นสูงหรือองค์กรใหญ่ต้องทำงานเพื่อแลกกับการคืนชีพในอนาคตนี้ มันเป็นข้อตกลงด้านการคืนชีพ ตรงข้าม มีความไม่แน่นอนที่จะปล่อยให้ลูกหลานนายคืนชีพเพราะค่าใช้จ่ายสูงมากและวิหารก็ไม่ใช่จะติดต่อง่ายๆ เมื่อมันล้มเหลว ข้อมูลทั้งหมดจะหาย ทุกคนจึงเลือกอารยธรรมขั้นสูงที่เชื่อถือได้เป็นเป้าหมายความร่วมมือมาตลอด
ฉันเข้าใจ หานเซี่ยวเข้าใจ มันไม่แปลกใจที่การปกครองของพันธมิตรดาวสวรรค์จะดีขนาดนี้ ด้วยผู้อยู่เหนือที่ประพฤติตัวเรียบร้อย มันกลายเป็นว่าส่วนใหญ่คือทารกเชื่อฟังที่คืนชีพหลังผ่านการคัดกรองมาแล้ว สำหรับขวากหนาม ไม่มีใครอยากช่วยคืนชีพพวกเขา พวกเขาจึงตายไป เพื่อให้การคืนชีพดำเนินต่อไป ผู้อยู่หเนือส่วนใหญ่จึงฝังความทะเยอทะยานตัวเองเอาไว้
นอกจากนี้ เมื่ออารยธรรมขั้นสูงคืนชีพลูกหลานสายตรงกับพันธมิตรต่อไปเรื่อยๆ มันก็จะมีแค่คนที่ทรงพลังภายใต้คำสั่งของพวกเขาและการควบคุมจักรวาลจึงเสถียร
ภายใต้อิทธิพลของปัจจัยต่างๆ มีผู้ก่อปัญหาน้อยลง
เมื่อถึงคิดมัน วลีหนึ่งก็ผุดขึ้น
ทำไมมันถึงเหมือนการครอบงำของเหล่าเทพเจ้า?
สามอารยธรรมจักรวาลยังไม่ได้ติดต่อกับวิหาร แต่เมื่อพวกเขาพัฒนาถึงจุดนี้ สถานการณ์อนาคตของผู้อยู่เหนือจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้งั้นเหรอ?หานเซี่ยวอดถามไม่ได้ มีข้อจำกัดใดกับการคืนชีพของวิหารไหม?
มีอยู่แล้ว และก็มากด้วย เจซกระซิบ อย่างแรกคือมีแค่ระดับนักบุญหรือเหนือกว่านั้นถึงคืนชีพได้ นายสามารถคิดว่าอาณาจักรผู้อยู่เหนือเป็นใบอนุญาตคืนชีพ
สองจะเป็นความขัดแย้งของบุคลิกภาพ เนื่องจากจิตสำนึกของบุคคลคือเกณฑ์ในการแยกแยะบุคคล ต่อให้ตัวกับความทรงจำจะเหมือนเดิม แต่ถ้าจิตสำนึกต่างกัน พวกเขาก็จะกลายเป็นคนละคน.
ผู้แข็งแกร่งสามารถคืนชีพได้ แต่พวกเขาจะยังเป็นคนเดิมไหม?นี่มักเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาตลอด
สามคือบุคคลที่คืนชีพผ่านวิหารจะสูญเสียความสามารถบางอย่าง ซึ่งดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับพลังของร่างกายโดยตรง ยิ่งก่อนตายแข็งแกร่ง ความสามารถก็ยิ่งสมบูรณ์
สี่คือการคืนชีพของวิหาร เนื่องจากนายเป็นตัวตนพิเศษ จึงมีแค่หนึ่งเดียวในจักรวาล ถ้านายไม่ตาย งั้นการคืนชีพผ่านวิหารก็ไม่มีผล
ห้า นายสามารถคืนชีพได้แค่บุคคลในระนาบเวลาเดียวกัน แม้ฉันจะไม่เข้าใจข้อจำกัดนี้ มันก็น่าสงสัยว่าการฟื้นคืนชีพของวิหารไม่ใช่ความสามารถเดิมมันแต่เป็นแผนขั้นสูงสุดของการวนซ้ำ แต่สุดท้าย การกลายพันธ์ุก็ได้เปลี่ยนวิหารให้เป็นแบบนี้..ดังนั้น การวนซ้ำหลายครั้งจึงถือว่าวิหารเป็นจุดก้าวหน้า ไม่มีใครรู้ว่าวิหารมีคุณสมบัติมากแค่ไหนผ่านการกลายพันธ์ุ
เขาฟังเงียบๆ สลักสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดลงหัว
จากมุมมองบางอย่าง ผู้อยู่เหนือดูเหมือนจะมีลักษณะเดียวกันกับผู้เล่นคือคืนชีพได้ ในลักษณะนี้ การควบคุมวิหารก็เทียบเท่ากับการควบคุมชีวิตส่วนใหญ่ของผู้อยู่เหนือ?ฉันสามารถไปหาผู้รักษษสัจจะเพื่อยืนยันข้อสงสัยทีหลังได้
บูม!
ตอนนี้เอง ตัวยานสั่นอย่างรุนแรง มันหลุดจากไฮเปอร์ไดรฟ์ เสียงเตือนแสบหูดังขึ้น หวอ!คำเตือน!คำเตือน!ตรวจพบตัวปรับเสถียรมิติ สถานะไฮเปอร์ไดรฟ์ถูกบังคับให้หยุด!แหล่งพลังงานที่ไม่รู้จักกำลังใกล้เข้ามา โปรดระวัง! เรดาห์แสดงความผันผวนระดับผู้อยู่เหนือ 19 จุดรอบพวกเขา
ดูเหมือนนายจะพูดถูก มี 19 คนจริงๆ หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
มันเป็นเหตุการณ์ปกติ’เจซไม่สนใจ
ทั้งสามมองออกไป เห็นมิลตันกับเพื่อนมองมา พวกเขายังเห็นว่ายานพวกเขาติดเข้ากับกับดักอวกาศและไม่สามารถหลบหนีได้
ตอนนี้เอง เสียงของมิลตันดังขึ้นผ่านช่องสื่อสารสาธารณะ แบล็คสตาร์ คาซูยิ!พวกแกควรรู้ว่าต้องยอมแพ้ตอนไหน!
เรียกฉันว่าราชันมิติ! คาซูยิระเบิดความโกรธ หานเซี่ยวเปิดประตู และทั้งสามก็บินออกไปท่ามกลางวงล้อม กลิ่นอายหนักอึ้งกดทับพวกเขาจากทุกทิศทาง เอ๊ะ?มีอีกคน?
เมื่อเห็นเจซ มิลตันก็ขมวดคิ้วแต่ก็คลายลงอย่างรวดเร็ว
จากมุมมองเขา เหยื่อของพวกเขาโดนต้อนจนมุมแล้ว
เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจสำหรับปฏิบัติการนี้ ด้วยคน 19 คน ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะล้มเหลว หลังไล่ล่ามาหลายเดือน อาชญากรเหล่านี้ก็สามารถถูกจับกุมและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ในที่สุด!
ยอมจำนนซะ ตามเรากลับไปแผนกความมั่นคงอย่างเชื่อฟังเพื่อสอบปากคำ อธิบายวิธีที่พวกแกใช้ปกปิดตัวจากแผนที่ดาวจับตำแหน่ง จากนั้นโทษหนักอาจกลายเป็นเบา มิลตันมั่นใจและเริ่มสงครามจิตวิทยาตั้งใจทำให้การต่อต้านพวกเขาลดลง แต่ทว่า หานเซี่ยวกลับเผยรอยยิ้มออกมาก่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่อธิบายไม่ได้’ไม่จำเป็นต้องลำบากพวกแก เราจะไปที่นั่นกันเอง
เมื่อได้ยิน มิลตันก็ขมวดคิ้วสงสัย
แกกำลังพูดอะไร…พวกมันหายไปไหน?
ก่อนเขาจะพูด ชุดจักรกลสามชุดก็กางออก ปกคลุมร่างของทั้งสามก่อนทั้งสามจะหายตัวไป วินาทีต่อมา สมาชิกทั้ง 19 ก็ยืนนิ่งเหมือนเห็นผีกลางวันแสกๆ
พวกมันหายไปไหน?
เราตั้งตัวปรับเสถียรมิติเวลาแล้ว พวกมันหลบหนีไปได้ยังไง?
มิลตันหยุดชะงักสองวินาทีก่อนจะลุกเป็นฟืนเป็นไฟ เส้นเลือดปูดบนขมับ คนกลุ่มนี้สามารถหนีจากเงื้อมมือเขาไปได้อีกแล้ว!
น่าอับอายมาก!
เขาพลันนำอุปกรณ์สื่อสารออกมา ค้นหาตำแหน่งพวกเขาบนแผนที่ดาวจับตำแหน่ง ตั้งใจจับตำแหน่งพวกเขาก่อนพวกเขาจะได้ปกปิดมันอีกครั้ง
แต่ทว่า วินาทีที่เขาเห็นพิกัด สีหน้าโกรธเกรี้ยวของมิลตันก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกและไม่อยากเชื่อ
พิกัดของอีกฝ่ายอยู่ที่นศูนย์ใหญ่แผนกความมั่นคงพลังพิเศษ!
นี่…พวกมันยอมจำนน?
ไร้สาระ ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่!เป้าหมายจริงพวกมันคือศูนย์ใหญ่?พวกมันบ้าไปแล้วหรือไง?มิลตันโกรธ เขาไม่สามารถเข้าใจการกระทำของคนเหล่านี้ได้
