Gate of God – ตอนที่ 605 ขโมย?!

เพราะหลังจากสีแดงพุ่งขึ้นไปด้านบนลำแสงสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสี่เส้น
”ตูม!”
ลำแสงสีเขียวสีเส้นพุ่งเข้าหากันตรงกลางก่อนที่จะเกิดเสาแสงขนาดใหญ่พุ่งลงจากท้องฟ้าลงไปที่ประตูชีวิต
ในเวลาเดียวกันที่มือของเฉียน วู่ ก็เกิดอักขระขึ้นมาอีกครั้ง
”ประตูชีวิตจงเปิดออก!” เสียงของ เฉียน วู่ ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะเอามือประทับลงไปที่พื้น
”ตูม!”
พื้นดินสั่นสะเทือนประตูชีวิตที่ปิดไปแล้วค่อยๆเปิดขึ้นมาอีกครั้ง เผยให้เห็นสีดำมืดภายใน
ไม่นานแสงสีเขียว แดง น้ำเงิน และสีอื่นๆก็ปรากฎขึ้นท่ามกลางความมืด พวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆราวกับท้องฟ้าที่มีดาวนับล้าน
มันทั้งน่าประหลาดและทั้งน่ากลัว
”เป็นไปได้ยังไง?เฉียน วู่ สามารถเปิดประตูชีวิตได้อีกครั้ง?!”
”มันเป็นสี่ค่ายกลโบราณตราบใดที่ค่ายกลทั้งสี่ยังไม่พัง เขาก็สามารถสะสมพลังและเปิดประตูได้อีกครั้ง!”
”แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? จะมีราชาอสูรออกมาอีกงั้นหรือ?”
”ไม่แม้แดนเถื่อนจะเต็มไปด้วยเซียน แต่ไม่มีทางที่จะมีราชาอสูรตนอื่นอีก ถ้าข้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นผู้นำของเหล่าสัตว์ร้าย!”
”ผู้นำของเหล่าสัตว์ร้ายไม่ เราต้องหยุดเขา!”
”สายไปแล้วเมื่อประตูชีวิตเปิดแล้ว ถ้าไม่ใช่เจ้าของประตูนั้นก็ไม่สามารถสั่งปิดได้!”
ทุกต่างยืนนิ่งด้วยความหวาดกลัว
ตอนนี้เอง…
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแรงจูงใจของเฉียน วู่
พวกเขารู้ว่าทำไมเฉียน วู่ ต้องเข้ามาในวัง และทำไมพวกเขาต้องวางแผนให้ราชาต้วนรีบเข้ามาช่วย
เฉียนวู่ ต้องการให้วังถูกแยกออกจากโลกด้านนอก ตราบใดที่เขายังอยู่ในวังและค่ายกลโบราณทั้งสี่ยังไม่ถูกทำลาย การต่อสู้นี้ไม่มีทางจบสิ้น
”อีกสักครู่หนึ่งประตูชีวิตจะเปิดขึ้นมาอีกครั้งราชาต้วน ท่านเสียใจไหมที่เลือกทางนี้?” เฉียน วู่ มองไปที่ราชาต้วนและยิ้มเยาะขึ้นมา
”ข้า…ข้าไม่เคยเสียใจเลย!”ราชาต้วนหน้าซีดเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะกำหมัดแน่นและตอบกลับมา
”ฮ่าฮ่าฮ่าเยี่ยมมาก!” เฉียน วู่ ยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะหันไปหา ฟาง เจิ้งจือ ” ฟาง เจิ้งจือ เจ้าทำให้ข้าวุ่นวายมาหลายครั้งแล้ว เจ้าเตรียมตัว…”
เฉียนวู่ ยังไม่ทันพูดคำว่าตาย
เพราะฟาง เจิ้งจือ หายไปแล้ว แต่ ปิง หยาง ยังยืนอยู่ที่เดิม
”เขาหนีไปแล้ว?!คนเดียว?!” เฉียน วู่ ตัวแข็ง ก่อนที่เขาจะยิ้มเยาะอีกครั้ง “ดี มันคงเป็นสิ่งที่พวกหน้าด้านทำกันอยู่แล้ว!”
ดวงตาของเฉียน วู่ เต็มไปด้วยความดูถูก แต่เขาก็สังเกตุเห็นบางอย่าง ดวงตาของ ปิง หยา เหมือนกำลังจับจ้องอยู่ที่บางสิ่ง
และมันไม่ได้เป็นเพียงปิง หยาง …
ทุกคนจ้องมองในทิศทางเดียวกัน
”พวกเจ้ากำลังมองอะไรกัน?”เฉียน วู่ คิดในใจก่อนจะมองไปยังทิศทางนั้น จากนั้นเขาก็มีอาการเดียวกับคนอื่น
พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ประตูชีวิต
มีร่างหนึ่งยืนอยู่
”ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้หนีไปงั้นหรือ?” เฉียน วู่ พึมพัม จากนั้นเขาก็เห็น ฟาง เจิ้งจือ ยื่นมือทั้งสองข้างไปที่ประตูชีวิต ” เจ้ากำลังพยายามจะทำอะไร คิดจะเอาตัวเองบังประตูไว้หรือไง ฮ่าฮ่า…”
เฉียนวู่ หัวเราะเมื่อได้ยินเรื่องนี้
แน่นอนเขาเดาได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ตั้งใจจะทำลายประตูชีวิต แต่มันเป็นเรื่องที่โง่มาก
ประตูชีวิต!
สมบัติที่มีค่าที่สุดของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์
มันจะถูกทำลายลงอย่างง่ายดายได้ยังไง?
ไม่ต้องพูดถึงฟาง เจิ้งจือ แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ไม่สามารถสร้างรอบขีดข่วนให้กับประตูนั้นได้!
”หรือจริงๆแล้วก็เป็นแค่คน…”เฉียน วู่ พูดไม่ทันจบ ดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างอีกครั้ง
มันน่าตกใจเกินกว่าที่เขาจะพูดออกมาได้
ไม่เพียงแต่เฉียน วู่…
ทุกคนเองต่างมีท่าทีเช่นเดียวกันแม้แต่ราชาอสูรก็ตกตะลึง
”ครืด!”เสียงบางอย่างดังขึ้น
ประตูชีวิตนั้นค่อยๆถูกยกขึ้นจากพื้น
ยก!
มีคนยกประตูชีวิตอยู่?!.ไอลีนโนเวล.
นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
ทุกคนต่างยืนนิ่ง
ราวกับว่าโลกหยุดนิ่งพวกเขาเบิกตากว้าง
”มีอะไรน่าแปลกใจงั้นหรือ?จริงๆแล้วมันเบาจะตาย?” ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้นมา
”โฮก!”.ไอรีนโนเวล.
ทันใดนั้นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งก็คำรามออกมามันก็ตกใจแต่ไม่ได้ยืนนิ่งเหมือนคนอื่น
มันพุ่งเข้าหาฟาง เจิ้งจือ พร้อมอ้าปากออกทันที ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกัด ฟาง เจิ้งจือ หายได้ในครั้งเดียว
”โอ๋เจ้าหนูตัวน้อยกล้าลอบโจมตีข้างั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจือ มองสัตว์ร้ายที่พุ่งเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะชูประตูขึ้นก่อนจะเหวี่ยงไปทางสัตว์ร้ายตัวนั้น
มันไม่ได้คาดหวังว่าฟาง เจิ้งจือ จะเอาประตูมาฟาดใส่มัน แต่มันพุ่งมาด้วยความเร็วที่มากเกินไปจะหยุดตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว
”ตูม!”
พื้นดินสั่นสะเทือน
สัตว์ร้ายไม่สามารถต้านทานประตูชีวิตได้ร่างของมันนอนอยู่บนพื้น หัวของมันเละเพราะประตูเล็กน้อย
มันไม่ได้ร้องด้วยความเจ็บปวดออกมาเพราะมันตายในทันที
”มันตายแล้วเหรอ!”
ทุกคนต่างมองซากสัตว์ร้ายที่นอนกองอยู่บนพื้นก่อนที่จะมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ถือประตูชีวิตอยู่เหนือหัว
มีเพียงความคิดเดียวปรากฏในใจของพวกเขา
”นี่คือพลังระดับอภินิหารจริงๆงั้นหรือ?!”
ผู้ที่อยู่ในระดับอภินิหารยกประตูชีวิตขึ้นได้ด้วยตัวคนเดียว จากนั้นเขาก็ฆ่าสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดาย
ใครจะเชื่อสิ่งนี้ได้ลง?
ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น
ถึงอย่างนั้นสัตว์ร้ายก็นอนตายอยู่บนพื้นและ ฟาง เจิ้งจือ ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
”ระดับอภินิหาร?”
”เขาอยู่ในระดับอภินิหารจริงๆงั้นหรือ?!”
”ล้อเล่นใช่ไหม?”
ทุกคนจับจ้องไปที่ประตูชีวิตด้วยความไม่เชื่อ
ความฝันนี่ต้องเป็นความฝันแน่!
ประตูชีวิต!
เดี๋ยวก่อน!
ฟางเจิ้งจือ ยกประตูชีวิต!
เมื่อความคิดเหล่านี้ลอยอยู่ในหัวหล่าทหารพวกเขาต่างก็ตกตะลึง ทำไม ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถยกประตูชีวิตขึ้นมา?
”เป็นไปได้ยังไง?!”
”ในการควบคุมประตูชีวิตคนผู้นั้นต้องมีเต๋าแห่งชีวิต …ใช่ไหม?”
”หรือว่าประตูชีวิตบานนี้จะเป็นของปลอม?”
”เป็นไปไม่ได้!สัตว์ร้ายและราชาปีศาจเดินออกมาจากมัน มันจะเป็นของปลอมได้ยังไง?”
ความคิดที่ว่าประตูขีวิตเป็นของปลอมถูกลบออกไปทันที
แต่ความจริงข้อนี้ทำให้มันไม่น่าเชื่อยิ่งขึ้นไปอีกโดยข้อสงสัยเรื่องน้ำหนักของประตู และที่สำคัญคือ ฟาง เจิ้งจือ ทำได้อย่างไร?
มันน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ไม่มีใครเข้าใจสถานการณ์ได้เพราะว่า ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในระดับอภินิหารเท่านั้น เข้าสามารถเข้าถึงเต๋าแห่งชีวิตได้ยังไง? ทั้งยังการยกประตูชีวิตขึ้น?
แต่ในความจริงฟาง เจิ้งจือ ยกมันขึ้นจริงๆและที่สำคัญคือประตูทองแดงก่อนหน้านี้ที่เปิดอยู่ มันค่อยๆปิดตัวลง
กำลังปิด!
มันกำลังปิดจริงๆ!
ทุกคนต่างมองด้วยความสับสน
แววตาของเฉียน วู่ เบิกกว้างด้วยความตกใจในฐานะแม่ทัพของจักรววรดิคนเถื่อน เขามีความสุขุมเยือกเย็นและตัดสินใจอย่างรอบคอบ
แต่ตอนนี้…
เขาไม่สามารถสงบใจได้จริงๆ
ชายคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดหรือไงกัน?มีพลังแค่ในระดับอภินิหาร แต่กลับสามารถเคลื่อนย้ายประตูชีวิตได้ และสามารถฆ่าสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดาย!
”ประตู… ประตูชีวิตของข้า!”เฉียน วู่ ไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ทำได้ยังไง แต่มันไม่เกี่ยวกับวิธีที่เขาใช้ ตอนนี้ประตูอยู่ในกำมือของ ฟาง เจิ้งจือ และมันปิดตัวลง “เอาประตูชีวิตของข้าคืนมา!”
”คืนให้เจ้าเหรอ?ทำไมข้าต้องคืนประตูชีวิตของข้าให้เจ้าด้วย? เจ้าโง่!”ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะโดยไม่สนใจคำพูดนั้น ในขณะที่มือของเขาจับประตูโบกไปมา
ในการมาที่วังไม่ใช่แค่เขาไม่ได้ในสิ่งที่หวังเท่านั้น แต่เขายังถูกโจมตีอย่างไร้เหตุผลตอนนี้เขายังเอิญได้ประตูชีวิตมาครอบครอง ทำไมเขาต้องคืนมันด้วย?
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้โง่
”เจ้ากำลังพูดถึงอะไร?ประตูชีวิตของเจ้า?!”เฉียน วู่ จ้องตาเขม็ง
”แน่นอนมันเป็นของข้า มันจะเป็นของใครล่ะ เจ้ารึ?”ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับอย่างรังเกียจเขารู้สึกว่าคำถามของ เฉียน วู่ ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ เฉียน วู่ ไม่เข้าใจตรรกะง่าย ๆ อย่างเรื่องที่สิ่งของอยู่ในมือใคร คนนั้นก็เป็นเจ้าของได้อย่างไร?
”อ่า… คืนประตูชีวิตของข้ามา!”ในที่สุด เฉียน วู่ ก็รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ตั้งใจจะขโมยประตูชีวิตของเขา
ประตูชีวิตเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิไม่ยอมเรื่องนี้แน่ …
มันถูกชิงไปจากมือของเขา!
จะมีใครทนได้บ้าง?
เฉียนวู่ กำมือของเขาแน่น ร่างของเขาส่องสว่างด้วยสีทั้งหก เขาก้าวไปด้านหน้าก้าวใหญ่ แล้วจู่ๆก็หยุดลง
เพราะเขาเห็นแววตาที่จับจ้องจากหน่วยเกราะมังกรและฑูตมังกร หยาน ฉิง
”ไม่นะ!”ความคิดนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านจิตใจของเฉียน วู่
แน่นอนว่าเขาสามารถชิงประตูชีวิตคืนมาจากฟาง เจิ้งจือ ได้ในตอนนี้ แต่เขาเป็นแม่ทัพสูงสุดของจักรวรรดิคนศักดิ์สิทธิ์
หากเขาต้องล้มเหลวเพียงเพราะข้อผิดพลาดเล็กน้อย …
ความโกรธพวยพุ่ง!
เฉียนวู่ ไม่เคยโกรธรุนแรงขนาดนี้มาก่อน
แม้แต่วันที่เขากลับไปเหยียบจักรวรรดิศักดิสิทธิ์เขายังไม่เคยโกรธเท่านี้มาก่อน