Gate of God – ตอนที่ 641 ชื่อเสียงยามค่ำคืน

ในเวลากลางคืน
ความสงบค่อยๆกลับคืนสู่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
ดวงดาวที่ส่องแสงในท้องฟ้าและแสงจันทร์สีเงินที่ส่องสว่างอยู่เหนือหมู่บ้าน
ฟางเจิ้งจือ กำลังนั่งพักอยู่ที่เก้าอี้ริมระเบียง เขาจ้องมองแสงของดวงดาวที่ระยิบระยับ
หลินหยุน เข้านอนแล้ว
วู่จวี้เอ๋อ พยายามให้เขาเข้านอน แต่คำพูดของ หลิน หยุน ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเขา
”ผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่จะนำพาความสงบสุขมาสู่โลก!”
”ความหมายของมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนานกง เฮา!”
ฉือกูเหยียน เป็นผู้ชนะบนทำเนียบมังกรซ่อน และทำเนียบมังกรดาวรุ่งในปีที่ผ่านมา
เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วอาณาจักรเซี่ย
หลินมู่ไป่ บอกว่าเขาจะรอจนกว่าคนที่เหมาะสมตามคำพยากรณ์ของสวรรค์จะปรากฎตัวออกมา และประกาศให้เขาเป็นแม่ทัพสวรรค์
ไม่มีใครโต้แย้งสิ่งที่เขาพูดได้!
ฟางเจิ้งจือ เองก็รู้เรื่องนี้มาหลายปีแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้มากนัก
ทำไมหลิน มู่ไป่ ถึงยอมมอบตำแหน่งแม่ทัพสวรรค์ให้กับเด็กหนุ่มที่มีอายุไม่ถึงสิบแปด เพียงเพราะคำพยากรณ์?
ณตอนนั้น…..
ฟางเจิ้งจือ คิดว่ามันเป็นแค่ความเชื่อ เหมือนกับศาสนา
เขาเชื่อเพราะความศรัทธา
หลินมู่ไป่ เองก็เชื่อในคำพยากรณ์
แต่สิ่งที่หลิน หยุน พูดกับเขาก่อนหน้านี้ ทำให้เขาเข้าใจถึงบางสิ่ง
”องค์ชายคังพูดกันตามตรง มันไม่สำคัญว่าผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่จะทำให้โลกตกตะลึง เพียงแต่มันจะนำพาความสงบสุขมาสู่โลก!”
”ความสงบสุข?”
”ใช่แล้ว!”
ฟางเจิ้งจือ เริ่มหลับตาลงพร้อมกับเอนหัวลงบนเก้าอี้ใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง
ความสงบสุข!
แน่นอนว่ามันตีความหมายได้หลายแบบ
ความสงบความมั่นคง ความปลอดภัย ล้วนแต่อยู่ในความว่าสงบสุข และอาจจะหมายถึงประเทศที่มีความสามัคคี
หลินหยุน กล่าวถึงส่วนสำคัญของคำพยากรณ์จากสวรรค์
แต่เขาก็พลาดเรื่อง’ความสงบสุข’ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก หรือพูดให้ถูกก็คือ ไม่มีใครรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของมันเลย
เนื่องจากมันเป็นคำพยากรณ์
ดังนั้น…
มันก็เป็นแค่การคาดเดา
หลินมู่ไป่ เดาว่ามันหมายถึงความมั่นคง เขาจึงตัดสินใจมอบตำแหน่งแม่ทัพสวรรค์ให้กับผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่ นั่นจะรักษาความมั่นคงของประเทศไว้ได้
แต่นั่นเป็นเพียงการเดา
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับความจริงที่อยู่เบื้องหลัง
แม้แต่ตระกูลหนานกงเห็นได้ชัดว่า หนานกง เฮา มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างที่ หลิน หยุน พูด และพวกเขาคิดกันเองว่ามันเป็น โชคชะตา
ชะตากรรมของตระกูลหนานกงล้วนเชื่อมโยงกับคำพยากรณ์ของสวรรค์
หรือพูดอีกอย่าง
ตระกูลหนานกงเป็นผู้ที่เข้าใจถึงคำพยากรณ์ทั้งหมด
เรื่องนี้มันเกินความคาดหมายของเขาและเขาคิดว่าควรได้รับคำอธิบายจากศาลาเต๋าสวรรค์
ทำไมถึงเป็นตระกูลหนานกง?
มันไม่สมเหตุสมผล
ที่สำคัญกว่านั้นทำไมตระกูลชั้นสูงอย่างตระกูลหนานกงถึงเชื่อในคำพยากรณ์?
อาณาจักรอื่นๆอย่างจักรวรรดิคนเถื่อน อาณาจักรหมิงเยว่ อาณาจักรวู่จวี้ ล้วนเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่ง และอาณาจักรเซี่ยเองก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับพวกเขาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม
ผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่จะทำให้โลกตกตะลึงและนำความสงบมาสู่โลก!
ตามคำพยากรณ์นั้นพูดถึงทำเนียบมังกรคู่ที่มาจากอาณาจักรเซี่ยผู้ชนะบนทำเนียบเองก็ต้องมาจากอาณาจักรเดียวกัน!
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกสับสน แต่ไม่นานเขาก็คิดว่ามันเป็นไปได้
นั่นเพราะคำพยากรณ์จากสวรรค์มีการพูดถึงภายในอาณาจักรเซี่ยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลิน หยุน บอก ฟาง เจิ้งจือ ถึงวันที่ในคำพยากรณ์ว่าเป็นวันที่มีการคัดเลือกของศาลาเต๋าสวรรค์ ผู้นำศาลาได้ให้สัญญาไว้ว่าผู้ที่ถูกเลือกจากคำพยากรณ์ เขาจะถ่ายทอดวิชาทั้งหมดที่เคยเรียนรู้มา
นั่นฟังดูเกินจริงเล็กน้อย
ฟางเจิ้งจือ เองก็ไม่ได้รู้จักศาลาเต๋าสวรรค์ดีนัก แต่เขาเข้าใจในทันทีที่มองดวงจันทร์
ทั้งหอคอยหลิงหยุนและศาลาเต๋าสวรรค์ล้วนมีอิทธิพลในอาณาจักรเป็นอย่างมาก
นั่นนำไปสู่คำถาม
ด้วยความที่มีอิทธิพลมากมายทำไมถึงเชื่อในคำพยากรณ์ที่ตระกูลหนานกงเป็นคนตีความหมาย?แม้จะเป็นหัวหน้าศาลาก็ยังดูน่าสงสัย
ฟางเจิ้งจือ เคาะนิ้วไปพรางโดยไม่รู้ตัว
ในตอนนั้นเองเสียง”ติ้ง!” ก็ดังขึ้นในอากาศเช่นกัน
เป็นเสียงของเครื่องดนตรี
ชั่วเวลาหนึ่งทำนองเพลงที่ไพเราะดังก้องในท้องฟ้า
ราวกับแม่น้ำที่ไหลนิ่ง
ในที่สุดเขาก็เลิกมองไปที่ขอบฟ้า
ในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือแตกต่างจากในเมืองหลวง
นั่นเพราะไม่มีใครรู้วิธีการบรรเลงดนตรีพวกเขาถนัดแต่เรื่องทักไหมทอผ้า
แน่นอนว่า…
ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้มีเพียงแค่ชาวบ้านเหล่าทหารองครักษ์ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน แต่พวกเขาจะรู้วิธีบรรเลงงั้นหรือ?
ก็อาจจะ
แต่คงจะเป็นไปไม่ได้
นอกจากนั้นก็มีวู่ จวี้เอ๋อ องค์ชายเก้าหลิน หยุน
พูดถึงความสามารถของวู่ จวี้เอ๋อ
อาจพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในความน่ากลัว
ในฐานะผู้นำของนิกายเงาความสามารถของนางยังคงอธิบายได้ยาก
นางพูดว่า”เป้าหมายของข้าก็เพื่อ เงิน เงิน เงิน! เมื่อข้ามีเงิน ก็จะมีคนมาบรรเลงให้ข้าฟัง”
ฟางเจิ้งจือ จึงแนะนำให้รวบรวมเหล่าผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีมารวมตัวกัน
จนกระทั่ง…
ก่อตั้งหอเจ็ดดวงดาว!
มันกลายเป็นสถานที่ที่ครึกครื้นที่สุดในเมืองหลวงภายในเวลาอันสั้น
”หลินหยุน เป็นคนบรรเลง?”
ฟางเจิ้งจือ ส่ายหัวทันที
หลินหยุน พักอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านของ ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเสียงบรรเลงคงไม่ดังไกลถึงที่นี่
ถ้าไม่ใช่ทั้งทหารองครักษ์วู่จวี้เอ๋อ หรือแม้แต่ หลิน หยุน
แล้วใครเป็นคนบรรเลง?
เขาไม่เข้าใจ!.Aileen-novel.
เขาทำได้เพียงเพลิดเพลินไปกับเสียงบรรเลงและตีความหมายของมัน
ูยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนจะเป็นการบรรเลงจากที่ไกลกว่าที่คิด
ยิ่งทำให้ฟาง เจิ้งจือ คิดไม่ออกว่าใครเป็นผู้บรรเลง
ฟางเจิ้งจือ ชื่นชมในการบรรเลง นี่เป็นความสามารถที่ดีไม่น้อย
”หรือว่าจะเป็นอัจฉริยะของโลก?”แววตาของฟาง เจิ้งจือ เบิกกว้างขึ้นในขณะที่พยายามนึกถึงคนที่บรรเลงเพลงที่เขารู้จักในหลายปีที่ผ่านมา
บ่อยครั้งผู้มีความสามารถสูงที่กำลังเผชิญกับปัญหา มักจะมีฮีโร่ปรากฎตัวขึ้นเพื่อชี้ทางสว่างให้
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์นั้น
อย่างแรกเขาเป็นคนที่มีความสามารถสูง
อย่างที่สองเขากำลังประสบปัญหาที่เกี่ยวพันถึงชีวิตที่จะมีเวลาเหลือไม่มาก
อย่างที่สามเขากำลังสับสน
จริงๆแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสนมันเป็นเสียงที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ไม่ง่ายเลยที่จะเข้าถึงมัน
ถ้ามีความเป็นไปได้ที่จะเข้าถึง…
เขาคงไม่ได้อยู่ในระดับอภินิหาร
มันยากเกินไป
การเดินทางจากหมู่บ้านภูเขาทางเหนือไปยังเมืองหลวงและเดินทางไปศาลาเต๋าสวรรค์ ใช้เวลาร่วมเดือน
เวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วครึ่งเดือนแล้วหลังจากที่เขาออกจากเมืองหลวงอย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้สึกถึงการเข้าถึงพลังเลยแม้แต่น้อย
ระดับจุติ?
ต้องทำยังไงถึงจะเข้าถึงระดับจุติได้?
จะเข้าถึงระดับเซียนได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือ พยายามอยู่ตอดเวลา แต่ความจริงแล้วเขารู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เลยราวกับงมเข็มในมหาสมุทร
หรือค้นหาขุมทรัพย์ใต้หน้าผา
ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนเขาจะได้รับคำตอบว่า”มันคือเจ้า ต้องเป็นเจ้า! ข้ากำลังรอเจ้าอยู่!”
ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรนักเขาเพียงแต่จะทำทุกอย่างเพื่อทำให้สามารถเข้าถึงพลังได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
เขาเดินวนไปรอบหมู่บ้านภูเขาทางเหนือตังหลายวันแต่ยังไม่พบอะไรเลย
เขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดี
เขาเติบโตมาจากที่นี้ถ้ามันมีอยู่จริงๆล่ะก็เขาคงหามันเจอไปตั้งแต่ห้าปีก่อน
เขาควรจะขึ้นไปทางเหนือหรือลงไปทางใต้?
หรือเริ่มจากสถานที่รกร้าง?
ฟางเจิ้งจือ เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน เขาเชื่อมาตลอดว่ามันมีความเป็นไปได้ที่ต่ำมากๆ แม้สถานการณ์เช่นนี้จะเคยมีให้เห็นตั้งแต่ สมัยบรรพบุรุษ หรือ สมัยโบราณ
อย่างไรก็ตามคำทั้งสองให้ความรู้สึกที่แตกต่าง
เขาไม่ต้องการที่จะนั่งรออยู่เฉยๆ
นอกจากนี้เขาจะต้องเดินหน้าต่อไปที่ศาลาเต๋าสวรรค์เพื่อทำตามสัญญาที่เขาให้ไว้เมื่อหลายปีก่อน
”ติ้ง!”เสียงบรรเลงที่ไพเราะหยุดลง
ค่ำคืนกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะมีฮีโร่คนไหนปรากฎตัวขึ้นเพื่อชี้ทางให้แก่เขา
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง
ไม่มีความหวังเลยหรือ?
”ติ้ง!”ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกผิดหวัง เสียงบรรเลงก็ดังขึ้นอีกครั้ง มันแตกต่างออกไป เสียงในครั้งนี้ราวกับเม็ดฝนที่กระทบพื้น มันสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของเขา
สายฝนและสายลมโหมลงมาพร้อมกัน
”วีรบุรุษจะมาช่วยข้างั้นรึ?”ปากของฟาง เจิ้งจือ กระตุกพร้อมกับแววตาที่ส่องประกาย “ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเป็นใคร แม้ว่าจะเป็นปีศาจก็แสดงตัวออกมา!”
”ชู่วว!”
มีเสียงดังขึ้นมา
ฟางเจิ้งจือ ยืนอยู่บนชั้นสองของบ้าน และร่างของเขาก็หายไปในทันทีจากนั้นก็ไปปรากฎตัวขึ้นที่หลังคาของบ้านที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
”ซู่ววว!”
เสียงที่เบาบางดังขึ้นอีกครั้ง
สายลมยามค่ำคืนพัดชายเสื้อของฟาง เจิ้งจือ ให้พริ้วไหว แสงจันทร์ส่องที่ใบหน้าของเขา
ฟางเจิ้งจือ เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
เขาเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆจนถึงพื้นที่ด้านนอกของหมู่บ้าน
เขากวาดสายตามองโดยรอบอย่างระวังตัว
ฟางเจิ้งจือ เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
เขาค่อยๆชะลอตัวในขณะที่พบแล้วว่าต้นเสียงมาจากทิศทางไหนมันอยู่ใกล้ๆ
”ถ้าเป็นฮีโร่จริงๆข้าจะพูดอะไรดี? ข้าต้องแกล้งเป็นคนโง่หรือเป็นชายที่ทรงปัญญา?”ฟาง เจิ้งจือ เริ่มคิดทุกสิ่งในขณะที่เดินเข้าไปตามทิศทางของสียงนั้น เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
นั่นเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ!

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset