มีคำถามมากกมายที่สามารถนำไปสู่เหตุผลในการหายตัวไปของยู่เอ๋อร์
แต่ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่สามารถหาคำตอบได้
ตัวอย่างเช่นกองทหารเมฆาสู้ด้วยวิธีไหนที่ทะเลสาบสิบลี้? พวกเขาตายยังไง? การสูญเสียของปีศาจและอสูรรุนแรงแค่ไหน?
มีใครบ้างที่รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้
ในกรณีนี้เขาสามารถระบุประเด็นสำคัญที่ต้องพิจรณาในตอนนี้ได้ง่ายขึ้น
เขาสามารถลืมเหตุผลว่าทำไมผู้คุมหอคอยหลันถึงลงจากตำแหน่งไปก่อนได้เพราะมันอาจจะเป็นเหตุผลง่ายๆอย่าง เจ็บปวดหรือเพราะอายุมากแล้วก็ได้ รวมทั้งเขาไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ว่าการแข่งขันระหว่างยู่เอ๋อร์และเฉียนยี่เป็นยังไง เมื่อมีผู้ชนะย่อมมีผู้แพ้ ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจแนวคิดเรื่องที่ผู้ชนะได้ทุกอย่างดี
ดังนั้นคำถามที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ..ยู่เอ๋อร์ถูกขังไว้ที่ไหน?
นี่เป็นคำถามที่ตรงไปตรงมาแต่มันก็เป็นคำถามที่ยากที่สุดด้วยเช่นกันเพราะเฉียนยี่คงไม่คิดจะตอบ
ตอนนี้เขารู้ว่ายู่เอ๋อร์ถูกจำคุกเพราะนางแพ้
ยิ่งไปกว่านั้นมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้!
นอกจากนี้การที่ยู่เอ๋อร์สามารถชิงตำแหน่งกับเฉียนยี่ได้นั้นหมายความว่านางย่อมมีตำแหน่งที่ค่อนข้างสูงและมีคนที่สนับสนุนนางอยู่แน่นอน
เดี๋ยวก่อน!
พูดถึงเรื่องนี้…
ทำไมเฉียนยี่ถึงเก็บคังเยว่ไว้ข้างๆตัว?นอกจากนี้ทำไมนางถึงให้ความสนใจคังเยว่มากนัก? ที่สำคัญที่สุดจากท่าทีของคังเยว่…ดูเหมือนว่านางเองจะรู้เรื่องนี้เช่นกัน หรือก็คือคังเยว่รู้ว่ายู่เอ๋อร์อยู่ที่ไหน!
มันยิ่งน่าสงสัยยิ่งกว่าเดิมที่เฉียนยี่เก็บคังเยว่ไว้ข้างกาย
มันทำให้ฟาง เจิ้งจือ สับสนมากกว่าเดิม เฉียนยี่ปฏิบัติกับคังเยว่อย่างดีเพราะนางรู้สึกผิดกับยู่เอ๋อร์? หรือเพราะนางประทับใจในความสามารถของคังเยว่?
มันยิ่งเป็นไปไม่ได้เมื่อเทียบความสามารถของคังเยว่กับศิษย์คนอื่นๆ
ฟางเจิ้งจือ กำลังปวดหัวมาก
ดังนั้นเขาจะหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน!
อย่างไรก็ตามคังเยว่เป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ถ้าเขาสามารถทำให้นางเปิดปากได้ ก็จะมีโอกาสช่วยยู่เอ๋อร์
อีกด้านดูเหมือน หลิน มู่ไป กำลังเสียใจอยู่กับการต่อว่าของเฉียนยี่ เขาเสียใจและผิดหวังที่สูญเสียศิลาเซียนสิบสามชิ้นไป
ในทางตรงกันข้ามปิง หยาง ยังคงงุนงง นางกำลังสับสนกับความจริงของสงครามที่ทะเลสาบสิบลี้ รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง หลิน มู่ไป่ และ ยู่เอ๋อร์
บรรยากาศตอนนี้ค่อนข้างแปลกออกไปเล็กน้อย
ฟางเจิ้งจือ เหลือบไปมองคังเยว่ เห็นว่านางไม่ได้มองมาที่พวกเขา แต่นางกำลังมองไปที่ด้านหลังของเฉียนยี่
หืม? ฟางเจิ้งจือ กระพริบตา
ในช่วงเวลานี้ตอนที่เฉียนยี่ต่อว่า หลิน มู่ไป่ เรื่องศิลาเซียน นางดูโกรธมากแต่ในขณะเดียวกันดูเหมือนนางจะขยับตัวเข้าไปหา หลิน มู่ไป่ ทีละเล็กน้อย
หลินมู่ไป่ เจ้ารู้หรือไม่ ว่ายู่เอ๋อร์ต้องเสียอะไรไปบางเพื่อช่วยเจ้าเก็บศิลาเซียนสิบสามก้อนนั้นไว้? แต่เจ้ากลับเสียมันไปทั้งหมดให้กับพวกปีศาจ เจ้ายังหน้าด้านมาที่นี่เพื่อตามหายู่เอ๋อร์อีกงั้นรึ?! เฉียนยี่พูดพร้อมก้าวไปด้านหน้า ดวงตาของนางส่องประกายสีทองอย่างเยือกเย็น ข้า…ข้า… หลินมู่ไป่ ไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้ เขาตัวสั่นเทาและไม่รู้เลยว่าเฉียนยี่กำลังเข้ามาใกล้เขาทีละนิด
ในช่วงเวลานั้นท่านอาจารย์ได้ใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อป้องกันปีศาจและอสูรนางบาดเจ็บเป็นอย่างมาก และได้จากไป…แต่เจ้า เจ้ากลับกล้าดีเหยียบเท้ามาที่นี่? เฉียนยี่พูดต่อ
ข้าเป็นเหตุผลให้ท่านผู้คุมหอหลันต้องตาย แต่ข้ารู้สึกว่า…
หืม?เจ้าได้คิดถึงความผิดบาปของเจ้าหรือไม่? ไม่เพียงแต่ทำให้ท่านอาจารย์ต้องตาย แต่เจ้ายังทำให้มนุษย์ชาติอ่อนแอลง เจ้ารู้ถึงความสำคัญของศิลาเซียนหรือไม่? เจ้าปล่อยให้มันถูกชิงไปโดยพวกปีศาจได้ยังไง? เจ้าอยากเห็นมนุษย์ชาติสูญสิ้นงั้นรึ?
สูญสิ้น…
ใช่แล้วเจ้าเห็นสงครามกับตาตัวเองมาแล้ว เจ้าคิดว่าปีศาจและอสูรจะปล่อยพวกเราไปง่ายๆงั้นรึ? ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าสงครามคงไม่เกิดขึ้น ยู่เอ๋อร์คงไม่ถูกลงโทษ! ลงโทษ?!ยู่เอ๋อร์ถูกลงโทษเพราะสงครามครั้งนั้นงั้นหรือ? นางถูกจำคุกเพราะเรื่องนั้น? นั่นหมายความว่า…ข้าเป็นสาเหตุทั้งหมด? ร่างกายของ หลิน มู่ไป่ สั่นเทาเมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น
แล้วเจ้าคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุล่ะ? เฉียนยี่ขยับเข้าไปใกล้ หลิน มู๋ไป่ น้ำเสียงของนางเย็นชา เมื่อยู่เอ๋อร์กลับมาที่นี่ อาจารย์ไม่คิดจะลงโทษนางและต้องการให้นางเป็นผู้คุมหอคอยคนต่อไป!
แล้วทำไม?ทำไม …
เป็นเพราะเจ้า!ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า! ท่านอาจารย์รู้ว่ายู่เอ๋อร์กำลังตั้งท้อง แต่เจ้าก็รู้กฎของหอคอยหลิงหยุนดี พวกเราศิษย์หอคอยหลิงหยุนเลือกเส้นทางที่ตัดขาดจากห้วงอารมณ์ของมนุษย์ แล้วหอคอยหลิงหยุนจะยอมรับให้ศิษย์มีลูกได้ยังไง?
ลูก…เจ้ากำลังบอกว่าฮั่วเฟยทำให้ยู่เอ๋อร์…
ใช่!อาจารย์ช่วยยู่เอ๋อร์ปกปิดเรื่องนี้แล้วนางเพียงบอกคนอื่นว่า ปิง หยาง เป็นเด็กที่พบถูกทิ้งอยู่ข้างนอก ในกรณีนี้ยู่เอ๋อร์สามารถเป็นผู้คุมหอคอยคนต่อไปได้ อย่างไรก็ตามเพราะการกระทำอันสิ้นคิดของเจ้า เจ้าส่งเฉินเฟิยฮัวมา เจ้าคิดว่าจริงๆแล้วว่านางมีความสามารถพอที่จะหาเด็กทารกไปจากหอคอยหลิงหยุนงั้นหรือ?
เป็นยู่เอ๋อร์ที่ตั้งใจมอบปิงหยางให้นางนางทำแบบนั้นเพื่อให้ข้าได้อยู่กับ ปิง หยาง…
ถูกต้อง!นางขอร้องท่านอาจารย์ให้อนุญาติให้ ปิง หยาง กลับไปที่อาณาจักรเซี่ย จากนั้นก็มีข่าวหลุดออกมาว่ายู่เอ๋อร์มีลูก หลังจากนั้นอาจารย์ก็ไม่สามารถปกป้องยู่เอ๋อร์ได้อีกต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวลือแพร่สะพัดออกไปอาจารย์จะต้อง … อยู่เฉียนยี่ก็ปิดตาลงราวกับรู้ว่านางพูดมากเกินไป
นางทำอะไร? หลิน มู่ไป่ ก้าวไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกอันอ้างว้าง เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
นางต้อง… เฉียนยี่รู้สึกเจ็บปวด นางดูเหมือนไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้เท่าไรนัก
ท่านแม่ท่านแม่… ปิง หยาง แทบรอไม่ไหวที่จะได้ฟังต่อไป
ในช่วงเวลานี้หอคอยหลิงหยุนตกอยู่ภายใต้ความเงียบแม้แต่คังเยว่และศิษย์คนอื่นๆก็เงียบ
ดูเหมือนทุกคนกำลังรอ
ฟางเจิ้งจือ ก็รอเช่นกัน เขาไม่คิดว่าเฉียนยี่จะตอบคำถามที่เขาสงสัยทั้งหมด
แม้ว่าไม่รู้ว่านางพูดความจริงหรือไม่แต่ก็สรุปได้ว่ายู่เอ๋อร์นั้นมีแนวโน้มที่จะได้ขึ้นเป็นผู้คุมหอคอยมากกว่าเฉียนยี่
ไม่มีใครรู้ว่าข้อมูลที่เฉียนยี่ให้นั้นนางพูดออกมาโดยมีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า
ทุกคนต่างรอคำตอบ!
อย่างไรก็ตามทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อแสงอาทิตย์ร่วงหล่นจากท้องฟ้า
มันรูปทรงเหมือนดาบยาวสีทอง และเป้าหมายของมันกำลังตรงไปที่หัวของฟาง เจิ้งจือ!
หือ?เชี่ยเอ้ย! ฟาง เจิ้งจือ รอคำตอบของเฉียนยี่แต่เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายซึ่งตรงมาที่หัวเขาทันที เขาสบถในใจ
อย่างไรก็ตามเฉียนยี่เคลื่อนไหวก่อนที่ฟาง เจิ้งจือ จะมีปฏิกริยาอะไร
นางหายตัวไปทันที่และปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งข้างๆฟาง เจิ้งจือ ในชั่วพริบตา
ตาย! นางส่งเสียงเบาๆ
มือของนางยื่นมาในเวลาเดียวกันในมือของนางถือดวงแสงสีทองอยู่ทั้งสองด้าน
เห็นได้ชัดว่าดวงแสงนี้เป็นสมบัติพิเศษนอกเหนือจากผิวอันโปร่งใสแล้ว บนพื้นผิวของดวงแสงยังประกอบด้วยลวดลายสองลาย ภาพแรกเป็นนกจำนวนมากบินอยู่เหนือภูเขาขณะที่น้ำตกสาดเทลงมา
มันเป็นภาพธรรมชาติ
ในทางตรงกันข้ามภาพที่สองเป็นดินแดนน้ำแข็งมีภูเขาอีกลูกหนึ่งและน้ำตกอีกแห่งในภาพวาดนี้เช่นกัน แต่น้ำตกนั้นแข็งไปแล้ว มันกลายเป็นหนามอันแหลมคมเชื่อมต่อกับทะเลสาบด้านล่าง
สองภาพวาด!
เฉียนยี่ถือดวงแสงนั้นทั้งสองดวงโจมตีเข้าที่หน้าอกและหัวของฟาง เจิ้งจือ อย่างรวดเร็ว
มันเป็นการลอบโจมตี!
ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นการโจมตีจากหนึ่งในผู้ที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่มีใครรู้ว่านางเตรียมการโจมตีมานานแค่ไหนแล้ว
แย่แล้วฟาง เจิ้งจือ หลบไป หลิน มู่ไป่ จับจ้องอยู่ที่เฉียนยี่ตลอดเวลา เขาจึงมีปฏิกริยาคนแรกกับการเคลื่อนไหวของเฉียนยี่
อย่างไรก็ตามมันดูเหมือนจะสายเกินไป
เขาต้องการจะหยุดนางแม้จะต้องเอาร่างกายตัวเองไปบังก็ตาม แต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเฉียนยี่นั้นเร็วมาก ปิงหยาง ต้องการที่จะเคลื่อนไหวเช่นกัน แต่เหมือน หลิน มู่ไป่ นางมีความสามารถไม่พอ
ฟางเจิ้งจือ! ปิง หยาง ตะโกนพร้อมกับแทงหอฉีหลินไปที่เฉียนยี่โดยไม่ลังเล แม้นางจะรู้ว่าไม่สามารถทำอะไรได้ก็ตาม
เปลวไฟสีแดงอยู่ห่างจากแสงสีทองเพียงไม่กี่นิ้ว
อย่างไรก็ตาม…ความห่างเพียงเล็กน้อยนั้นราวกับสวรรค์และโลก
หอกของปิง หยาง ไม่สามารถหยุดแสงนั้นได้
……………………………………..
��