The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1110 – ห้ามการเดินทาง

  ซือหยูเหลือบมองรอบๆ อย่างกังวลใจก่อนจะหันไปหาเจ้าตระกูลอู๋หยาง

   ถ้าเช่นนั้น…มีคนหนีออกมาแล้วเท่าใด? 

  เขาถาม

  บังเอิญนักที่เทพอสูรมณีได้ปรากฏตัวออกมาในตอนที่เขากำลังจะไปเมืองเขตกลาง

   ไม่มากนักอาจจะไม่กี่ร้อยคน 

  เจ้าตระกูลอู๋หยางตอบ

  ไม่กี่ร้อยรึ?ในเขตกลางที่มีคนนับหมื่นล้าน นี่ไม่ใช่จำนวนที่น้อยเกินไปหรอกหรือ?

   เจ้าอย่าได้คิดว่ามันน้อย! 

  เจ้าตระกูลอู๋หยางกล่าว

   เมืองเขตกลางถูกพัฒนาจนรุ่นเรืองกินพื้นที่ไปทั้งเขตกลาง ผู้ที่มีพลังน้อยย่อมเลือกหนีไปจากเขตกลาง คนที่เหลือเป็นพวกไร้พลัง! คนเหล่านั้นไม่มีทางหนี! 

   เพราะแบบนี้ปีศาจกระหายเลือดเลยไม่สร้างความวุ่นวายมากนัก มิเช่นนั้นคนในเมืองจะหวาดกลัว และคนที่หนีไปก็จะไม่ใช่แค่ไม่กี่ร้อยสินะ? 

  ซือหยูโล่งอก

  ถ้าเขาไม่โชคร้ายเขาก็ไม่น่าจะได้เจอกับเทพอสูรมณี

   ขอบคุณที่เจ้าบอกรีบหนีไปเถอะ เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่นาน 

  ซือหยูรีบไปยังประตูเคลื่อนย้าย

  ไม่นานซือหยูก็ได้มาถึงเขตกลาง!

  เมืองเขตกลางคือเมืองหลวงของเขตกลางและเป็นที่ตั้งวังของราชาเขตกลางด้วย

  ซือหยูเหลือบมองรอบๆ แต่เขาก็ได้เห็นผู้คนที่ใช้ชีวิตตามปกติ ไร้ซึ่งความวุ่นวาย หรือเขาจะได้ข่าวผิดกัน?

   เจ้าหนูทำไมเจ้าถึงมาอยู่ในเมืองเขตกลางเล่า? ที่นี่คือฐานที่มั่นของศัตรูเจ้า เจ้าไม่กลัวจะถูกตามล่าหรือ? 

  เสียงของเทพปีศาจดังขึ้นในใจ

  ซือหยูพูดอย่างใจเย็น

   สิ่งที่มันรู้คือรูปลักษณ์เก่าของข้าคนส่วนมากยังไม่เคยเห็นหน้าข้าตอนนี้ มีอะไรที่ข้าต้องกลัวเล่า? 

   ส่วนเรื่องมาที่นี่… 

  ซือหยูถอนหายใจอย่างอดไม่ได้

   วิบัติแรกผ่านไปแล้วต่อมาคือวิบัติของผู้คน ท่านอาจารย์บอกว่าถ้าหากจะผ่านมัน ข้าต้องได้รับความช่วยเหลือจากวิหคเพลิง หากท่านอาจารย์พูด มันก็ต้องเป็นเรื่องสำคัญมาก 

   ข้าจำชื่อสถานที่ไม่ได้แต่ข้ารู้จักวิหคเพลิงบูรพา ซึ่งนางก็มีวิหคเพลิงพอดี! อาจารย์หยุนหยาซือบอกว่ามีโอกาสสูงที่ตงฟางเถียนเฟิงจะอยู่ที่นี่ในทิศบูรพา แต่ถ้าหากหานางไม่เจอ เราก็ต้องไปแดนบูรพาเพื่อหานาง 

  เทพปีศาจยิ้มอย่างลังเล   ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็รีบเข้าล่ะ 

  ซือหยูขมวดคิ้วเล็กน้อยฟังจากน้ำเสียงของเทพปีศาจ เทพปีศาจรู้ว่าหยุนหยาซือมีตัวตนอยู่ด้วยหรือ? อาจารย์เขาก็รู้ถึงตัวตนของเทพปีศาจหรือ?

  ซือหยูพลิกฝ่ามือ

  แผนที่ถูกเรียกออกมามันบอกจุดเคลื่อนย้ายทั้งหมดในเขตกลาง

  เขาเห็นเลยว่ามีจุดเคลื่อนย้ายอยู่หลายแห่ง

  ในบรรดาจุดเคลื่อนย้ายเหล่านั้นมีจุดเคลื่อนย้ายอยู่สองจุดที่ตรงข้ามกัน หนึ่งเป็นขาเข้า และอีกจุดคือขาออก

  ส่วนซือหยูอยู่ในตอนเหนือของเมือง

  วิธีที่จะออกจากที่นี่คือไปยังตอนใต้ที่อยู่ตรงข้ามกันซือหยูจึงต้องรีบไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…

  จากที่นั่นเขาสามารถหาจุดเคลื่อนย้ายโบราณที่แกร่งพอที่จะพาเขาไปยังแดนบูรพาในไม่นาน

  ทันใดนั้นก็มีเสียงของคนระเบิดมาจากด้านหลัง

   นี่คือสถานที่สำคัญไม่ใช่ที่สำหรับผู้บุกรุกเช่นเจ้า! ออกไปเดี๋ยวนี้! 

  ซือหยูหันไปมองต้นเสียงเขาเป็นชายแก่ที่มีหนวดยาว

  เขาคืออสูรเนรมิตรขั้นสาม!

  จุดเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่ยังมีอสูรเนรมิตรคอยปกป้องว

  แล้วจุดเคลื่อนย้ายระดับสุดยอดเล่า?แล้วจุดเคลื่อนย้ายเทวะเล่า?

  ซือหยูใจหายที่นี่เต็มไปด้วยยอดฝีมือจริง ๆ

  ในครั้งนั้นจักรพรรดิโลหิตคือศัตรูตัวฉกาจของเขา เขาคุ้นเคยกับอสูรเนรมิตรไปเสียแล้ว และเมื่อเขตกลางให้อสูรเนรมิตรมาคุ้มกันจุดเคลื่อนย้าย เขตกลางก็น่าจะให้ความสำคัญกับจุดเคลื่อนย้ายมากกว่าที่เขาคิด

   ขออภัยด้วย 

  ซือหยูโบกมือและเดินจากไป

  ชายแก่ผมขาวมองแผ่นหลังซือหยูด้วยสายตาประหลาด

  ซือหยูเดินเข้าเมืองมองสีหน้าของชาวเมืองและรู้สึกแปลกใจใน

   ดูเหมือนว่าคนในเมืองทิศเหนือจะไม่ได้กลัวปีศาจกระหายเลือดเลย 

  แต่เมื่อคิดดูให้ดีเมืองเขตกลางนั้นใหญ่เพียงใดกัน? ระยะระหว่างเมืองเหนือและเมืองใต้ไม่ต่างจากความกว้างใหญ่ของทวีปเฉินหลง เวลาชั่วยามเดียวนั้นไม่มากพอที่ข่าวจะไปถึงทั้งเมือง

  หรือบางที…ปีศาจกระหายเลือดอาจถูกกำจัดไปแล้ว

  แต่ซือหยูที่อยู่เหนือท้องนภาของเมืองก็ต้องแปลกใจ

  เมืองใต้นั้นไม่ต่างจากเมืองเหนือเลยผู้คนนั้นใจเย็นโดยไร้ความตื่นตระหนก

  ด้วยพลังที่สามารถกลืนกินเขตมหาสัตว์อสูรไปได้มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะไม่หวาดกลัว

  ซือหยูรีบไปยังจุดเคลื่อนย้ายด้วยความสงสัยในใจ

  เขตกลางที่อยู่ในกลางจิวโจวนั้นเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากมีรยอดฝีมืออยู่มากมาย ดังนั้นผู้คนที่เฝ้ายามที่จุดเคลื่อนย้ายจึงมีอยู่เป็นจำนวนมาก

  ทั้งจุดเคลื่อนย้ายขนาดเล็กกลาง ใหญ่ ไม่มีที่ใดว่างอยู่เลย!

  มีกลุ่มคนมากมายอยู่ที่หน้าจุดเคลื่อนย้ายหลายร้อยแห่ง

  มีเพียงจุดเคลื่อนย้ายเก่าแก่เพียงจุดเดียวที่ถูกทิ้งร้าง

  ถ้าอย่างนั้นนั่นก็คือจุดเคลื่อนย้ายเทวะจุดเดียวในเขตกลาง ที่มันจะสามารถพาเขาไปยังที่ใดก็ได้บนโลก มีจุดเคลื่อนย้ายเช่นนี้เก้าจุดด้วยกันบนโลก

  แต่ซือหยูไม่รีบร้อนเขารอคอยท่าอยู่สักระยะเพื่อมองดูผู้คน

  เขารอจนมีคนในแสงสีเงินออกมาจากจุดเคลื่อนย้าย

   พวกมันมีใครบ้าง? 

  ซือหยูมองหุ่นเชิดสีเงินที่มาหาเขา

   นายท่านมีอสูรเนรมิตรขั้นห้าอยู่ที่นี่ 

  เสี่ยวไป่เงยหน้าเล็กน้อยเผยให้เห็นผิวสีเงิน

  อสูรเนรมิตรขั้นห้าหรือ?ซือหยูขมวดคิ้วแน่น

  หากเป็นเมื่อก่อนการต่อสู้กับอสูรเนรมิตรคงมิใช่เรื่องยาก

  แต่ถ้าเป็นตอนนี้เวลาที่เขาเสียของวิเศษไปทั้งหมด มันจะยิ่งยากในการต่อสู้กับคนเหล่านั้น

   มีการตรวจตัวตนหรือไม่?    ซือหยูถามอีกครั้งที่เขากังวลที่สุดก็คือการถูกสอบสวนตัวตนทีละคนเหมือนในดินแดนมีดสวรรค์

  คนอื่นอาจจะไม่รู้จักซือหยูเขาได้แต่หวังว่าอสูรเนรมิตรที่คุ้มกันที่นี่จะยังไม่เห็นภาพวาดของเขามาก่อน

   นายท่านเสี่ยวไป่ผู้นี้ไม่รู้เลย เพราะจุดเคลื่อนย้ายถูกห้ามใช้งานไปแล้ว 

   อะไรกัน?ห้ามใช้รึ? 

  ซือหยูขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม

   มีแผ่นติดประกาศอยู่บอกว่าเพื่อไม่ให้คนดินแดนมีดสวรรค์หนี พวกเขาต้องปิดจุดเคลื่อนย้ายไปครึ่งเดือน 

  ซือหยูแสยะยิ้มเมื่อได้ยินโจรประกาศจับโจรงั้นเรอะ!

  จ้าวดินแดนมีดสวรรค์จะต้องซ่อนตัวอยู่ในวังเขตกลางแต่ในเวลานี้จุดเคลื่อนย้ายกลับถูกปิดเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนอื่นจากต่างแดนมาช่วยหรือ?    แล้วจุดเคลื่อนย้ายขั้นสุดยอดล่ะ? 

  ซือหยูถามอีกครั้งจุดเคลื่อนย้ายขั้นสุดยอดสามารถย้ายไปยังเขตใกล้เคียงได้

   มันถูกปิดไว้ด้วยเหตุผลเดียวกันคนคุ้มกันเองก็เป็นอสูรเนรมิตรขั้นห้าขึ้นไป 

  พวกมันจงใจเช่นนี้สินะ

  ซือหยูมองดูจุดเคลื่อนย้ายและครุ่นคิด

  การบุกเข้าไปนั้นเป็นไปไม่ได้ยอดฝีมือในเขตกลางมารวมตัวกันอยู่มากมาย การเคลื่อนไหวเล็กน้อยอาจเป็นที่จับตา

   เจ้าหนูเจ้าโดนขวางทางหรือ เจ้าจะทำยังไงต่อล่ะ? 

  เทพปีศาจถาม

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset