The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1288 – หักหลัง

   เนตรอสูรกลืนสวรรค์! 

  ซือหยูเบิกเนตรปลดปล่อยพลังกลืนสวรรค์ออกมา

  ศิลาขนาดเท่าผาเคลื่อนตัวช้าๆ

  ยักษ์ทะเลขมรับรู้ได้และร้องคำรามด้วยโทสะอีกครั้งแต่ละย่างก้าวของมันทำให้น้ำทะเลสั่นสะเทือนราวกับสายฟ้า

  บนเรือสามารถมองเห็นสิ่งที่คล้ายกำแพง

  มันคือแข้งของยักษ์!

  อีกไม่ถึงสิบลมหายใจยักษ์จะมาถึงตัวพวกเขา!

  ศิลายังคงเคลื่อนตัวช้าๆ มันค่อย ๆ เผยขอบหลุมดำออกมา

  น้ำในทะเลขมไหลลงสู่หลุมทันทีลงสู่หลุมไร้ก้นบึ้ง

  เวลาผ่านไปห้าลมหายใจหลุมดำเปิดมาครึ่งหลุม

  ทั้งหลุมดำไม่ใหญ่นักต้องเปิดเต็มที่เท่านั้นเรือจึงจะผ่านไปได้

  อีกสองลมหายใจ!

  ยักษ์ทะเลขมใกล้เข้ามาทุกขณะ!

  ร่างใหญ่ไร้สิ้นสุดยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาราวกับหุ่นเชิดยักษ์

  มันยกเท้าขนาดยักษ์ที่ปกปิดดวงสุริยาจนทำให้น้ำทะเลขมเกิดคลื่นเป็นเกลียวอย่างดุดันมันย่ำเท้าลงไปที่หลุมดำอย่างไร้ปรานี

  ก้าวนี้ไม่เพียงเพื่อปิดทางออกแต่ยังเพื่อทำลายเรือทั้งลำอีกด้วย

  ในจังหวะสุดท้ายผาเคลื่อนตัวออกและถูกเนตรกลืนกินเข้าไป

  ทั้งหลุมเปิดออกไร้สิ่งใดขวางกั้น!

  เท้ายักษ์ห่างจากตัวเรือเพียงไม่ถึงร้อยศอกยักษ์ต้องการเวลาในการย่างเท้าเข้าใกล้เท่านั้น  แต่เรือลำเล็กก็แล่นลงสู่หลุมดำในพร้อมกับคลื่นน้ำทะเลขมที่ไหลออกไปอย่างเชี่ยวกราก

  แทบจะทันทีที่เรือลงไปในหลุมดำเท้ายักษ์ก็ย่ำมาถึง

  เท้าเปล่าสัมผัสท้ายเรือเสียงดังสนั่นเรือเสียหายในพริบตา

  ในขณะเดียวกันหางเรือที่ทำจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำก็เจาะทะลวงเท้าของยักษ์อย่างง่ายดาย คลื่นพลังสีขาวไหลออกมาจากบาดแผล!

  เรือลำเล็กที่ได้แรงส่งจากเท้ายักษ์พุ่งลงสู่หลุมดำอย่างรวดเร็ว

  คนบนเรือหวาดผวาและหวาดกลัวถึงขีดสุด

  แต่ที่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นก็คือยักษ์ที่เหยียบพวกเขาไม่ทันย่อตัวลงมาอ้าปากปิดปากหลุมและดูดอย่างแรง

  น้ำทะเลขมที่ไหลออกไปเปลี่ยนทิศทางกลับเข้ามาสู่ทะเล

  เรือของซือหยูเองก็ถูกดูดกลับเข้าไปด้วย

  โชคดีที่ซือหยูตอบสนองอย่างรวดเร็วเขาปรับเรือให้มั่นคงและแล่นทวนน้ำ เขาพยายามจะมุ่งไปข้างหน้า

  แต่แรงดูดจากยักษ์นั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่ามันจะไม่หยุดจนกว่าเรือที่มีทุกคนจะกลับไป!

  คลื่นสวนกระแสเชี่ยวกลับด้านแรงขึ้นเรื่อยๆ เรือแล่นไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า หากเรือต้านไม่ไหวเมื่อใด พวกเขาจะตายกันหมด

  ซือหยูใจหายสุดท้ายเขาจะล้มเหลวงั้นรึ?

  แต่เขาไม่ยอมแพ้เขากัดฟันพยายามคุมเรือ แม้ความเร็วจะช้าลงเรื่อย ๆ เขาก็ไม่ยอมแพ้

  ในลมหายใจนี้พวกเขาแล่นลงไปได้สิบศอก!

  ในลมหายใจนี้พวกเขาแล่นลงไปได้แปดศอก!

  ในลมหายใจนี้พวกเขาแล่นลงไปได้ห้าศอก!

  สามศอก!

  สองศอก!

  หนึ่งศอก!

  หนึ่งคืบ!

  ถึงตอนนี้ความเร็วเรือหยุดนิ่ง ราวกับของที่ถูกแขวนไว้กลางอากาศ

  พวกเขากำลังถูกดูดกลับขึ้นไป

  พวกเขาทำไม่ได้!

   เทพแห่งความตายยังทำได้!แล้วทำไมพวกเราทำไม่ได้กันเล่า? 

  ซือหยูไม่เคยคิดจะยอมรับโชคชะตาเขาจะมาตายที่นี่ได้ยังไง?

  ซือหยูคิดอย่างหนักบังเอิญที่เขาเห็นซี่โครงสีทองจากเส้นทางลึกเข้าไป

  นั่นมันอะไร?ซือหยูตกอยู่ในภวังค์ กระดูดชิ้นนั้นไม่ถูกน้ำทะเลกัดกร่อนเลย มันสุดยอดมาก

  ซือหยูแล่นเรือเร็วสุดเท่าที่ทำได้เข้าหาซี่โครงทองคำอย่างช้าๆ

  เมื่อเข้าใกล้ก็เห็นได้ชัดว่ากระดูกนี้คล้ายกับเหล็กกล้าที่มีพลังคนละขั้วกับพลังอสูร

  น้ำทะเลขมสัมผัสมันได้แต่มิอาจทำอะไรกับมันได้

  หรือว่าจะเป็นกระดูกของเทพอรหันต์?

  ซือหยูหยุดนิ่งเขายังเห็นร่องที่อีกด้านของซี่โครงทองคำ ดูเหมือนว่ามันเคยมีกระดูกอีกชิ้นวางอยู่ แต่กระดูกนั้นไม่อยู่แล้ว

  ซือหยูมองรอบๆ และบังคับเรือแล่นผ่านกระดูกทองคำ แซะมันออกจากกำแพง

  กระดูกทองคำหลุดจากกำแพงและถูกคลื่นทวนน้ำดูดกลับไป

  พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องทุรนทุรายหลังจากนั้นเพียงไม่นานแรงดูดหายไป

  พวกซือหยูพ้นภัยจมลงสู่เส้นทางไร้จุดจบ

  ตู้ม!

  เรือราวกับได้ปะทะกับผิวน้ำเสียงน้ำกระเซ็นดัง

  มองผ่านในเรือพวกเขาได้พบกับจักรวาลอีกแห่งอันกว้างใหญ่!

  น้ำทะเลขมที่ไหลออกมาเมื่อครู่ไหลลงสู่สายธารใหญ่ไกลโพ้นมันหลอมรวมกับธารดารา ร่องรอยของมันเลือนหายไปจนหมดสิ้น

  เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปพวกเขาเบิกตากว้าง

  ณตรงนี้ พวกเขาได้เห็นทั้งโลกอสูร!

  พวกเขาคิดว่ามันจะเป็นรูปทรงคล้ายกับโลกใบหนึ่งแต่มองดูตอนนี้ พวกเขาต่างขนลุกกับภาพที่ได้เห็น

  รูปร่างของโลกอสูรนั้นคล้ายกับช่องคลอดของมนุษย์!

  มดลูกขนาดมหึมาแขวนอยู่บนจักรวาลมันขยับเป็นจังหวะ  ทารกคนหนึ่งหลับใหลอยู่ด้านในมดลูกนั้น

  รูปร่างของทารกนั้นเหมือนกับยักษ์ทะเลขม!

   แดนอสูรเหมือนกับมดลูกที่ดูดซับสารอาหารเพื่อช่วยให้มันเติบโตงั้นรึ? 

  เหล่ารัชทายาทมาจากแดนอสูรนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นจุดกำเนิดของตนอย่างเต็มตา

  ไม่ว่าจะมองอย่างไรแดนอสูรก็เหมือนกับมดลูกที่ชุบเลี้ยงยักษ์ทะเลขมด้วยความทะนุถนอม

  น้ำทะเลขมคือน้ำคร่ำในมดลูกและเหล่าเทพพร้อมกับตระกูลราชวงศ์ก็คืออาหารของทารก

  ผู้คนบนเรือสูดหายใจเข้าลึกด้วยความตกตะลึงกับสิ่งตรงหน้า

  ซือหยูหวาดกลัวนี่มันเรื่องอะไรกัน?

  ทุกคนตกตะลึงและรู้สึกว่าตนเป็นเพียงเบี้ยในแผนการของบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่า

  การเดินทางเต็มไปด้วยเรื่องพลิกผันพวกเขาหวาดกลัวและตัวสั่นอย่างประหลาด

  เทพหลายคนยังคงตัวสั่นเบาๆ

   ไม่เป็นไรในที่สุดพวกเราก็มีชีวิตรอดออกมาจากโลกอสูร 

  เทพคนหนึ่งกล่าวพลางเช็ดเหงื่อ

  แต่หลังจากเขาพูดจบรูที่ยังมีน้ำทะเลขมไหลออกมาก็มีดัชนียาวหลายแสนศอกพุ่งตามมาราวกับหล่นมาจากฟ้า พวกมันพุ่งตรงมายังเรือสีทอง

  ยักษ์ทะเลขมยังไม่ยอมแพ้มันใช้มือข้ามออกจากโลกอสูรมาบดขยี้พวกเขา!

  เรือและคนบนเรือที่ไม่ทันระดับไม่มีทางที่จะหลบได้และจะถูกดัชนียักษ์ทำลาย

  ดัชนียักษ์ทะเลขมย่อมไม่มีสิ่งใดในจักรวาลต้านทานได้!

  เรือที่ทำจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น  ในขณะที่ดัชนีพุ่งเข้ามาเมื่อเห็นว่าไร้ทางหนี ซือหยูกู่ร้อง

   สู้กับมัน!ข้าไม่เชื่อว่าเราจะเอาชนะดัชนีเดียวไม่ได้! 

  ซือหยูคุมเรืออีกครั้งเรือยาวสิบศอกพุ่งเข้าหาดัชนีตรง ๆ ราวกับหอก

  ฟึ่บ!

  หัวเรือแทงดัชนียักษ์อย่างง่ายดายมันแทงทะลุเข้าไป

  เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังผ่านรูมาจากโลกอสูร

  แต่ยักษ์ยังคงไม่ละความพยายามมันยิ่งดุร้ายขึ้น

  เปรี๊ยะ!

  หัวเรือที่ทำจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำหักรอยแตกร้าวขยายวงกว้างในทุกทิศทางของเรือ

  องค์หญิงสองตัวสั่นนางมองดัชนีและร้องไห้ด้วยความเศร้า   มันจบแล้ว! 

  แม้แต่ซือหยูก็รู้สึกว่างเปล่าในใจเขาพร้อมแล้วที่จะยอมแพ้

  มันจบแล้วจริงๆ!

  พลังเหนือธารดาราไม่ใช่สิ่งที่ต้านทานได้เลย!

   พวกเราจะจบลงตรงนี้จริงหรือ? 

  ซือหยูยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อพูด

  อุปสรรคทั้งมวลเคยผ่านเขามาแล้ว…นี่น่ะหรือจะเป็นสิ่งเดียวที่เขามิอาจพิชิตได้เขามิอาจเต็มใจยอมรับ

  เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังมหาศาลนี้ทุกคนคงได้แต่รู้สึกโศกเศร้า

  ดัชนียักษ์ปานนภาสามารถบดขยี้พวกเขาจนสิ้นซากไม่มีทางให้พวกเขาหนีได้เลย

  สุดท้ายเขาก็ล้มเหลว

  แต่ในตอนนั้นเองซือหยูเบิกตากว้าง

  เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันคุ้นเคย!   ในขณะเดียวกันเขาได้ยินเสียงสั่นสะเทือนของจักรวาล ราวกับเหล่าวิญญาณโหยหวนส่งตรงมาสู่ดวงวิญญาณของเขา ยักษ์ทะเลขมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับทุกข์ทรมานอย่างหนัก

  มันเจ็บปวดจนเลิกสนใจซือหยูที่กำลังจะตายและรีบชักดัชนีกลับไป!

  ยักษ์รีบปิดรูทางออกอย่างรวดเร็วราวกับหวาดกลัวอะไรบางอย่าง!

  ซือหยูเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจเขารีบหันเรือกลับไปมอง

  ซือหยูเข้าใจไม่ผิดแน่

  หยุนหยาซือ!!!

   ท่านอาจารย์! 

  ซือหยูตะโกนด้วยความตื่นเต้นไปยังธารดาราอันมืดมิดที่มีแสงดาวระยับ

  ถึงกระนั้นนอกจากเสียงสะท้อนของตัวเอง เขาไม่ได้รับสิ่งใดตอบกลับมาจากธารดารา  ซือหยูสับสนหยุนหยาซือมาที่นี่จริง ๆ ใยถึงไม่ปรากฏตัวออกมาเล่า?

  ตั้งแต่ที่แยกจากจากจิวโจวอาจารย์บอกเขาว่าต้องมาสืบเรื่องในธารดารา จากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย แต่ตอนนี้สุดท้ายก็ได้เข้าช่วยซือหยูขับไล่ยักษ์กลับไป จากนั้นได้หายตัวไปอีกครั้ง

  ฟึ่บ!

  ทันใดนั้นจุดสีขาวพุ่งมาจากนภาจรัสแสงสู่ระหว่างคิ้วของซือหยู

  มีเสียงของหยุนหยาซืออยู่ภายในแสงนั้น

   ศิษย์ข้าข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก! ตอนนี้จงระวัง อย่าเข้าใกล้โลกอสูรไปมากกว่านี้ 

  ข้อความของเขารวดเร็วและสั้นไม่มีคำอื่นใดตามมาเลย

  ซือหยูตัวแข็งทื่อท่านอาจารย์ทำอะไรอยู่กันแน่ แล้วทำไมถึงไม่ปรากฏตัวออกมา?

  แล้วนั่นมันอะไร?อาจารย์ไล่ยักษ์ทะเลขมไปได้อย่างไร? อาจารย์ฟื้นฟูดวงวิญญาณถึงขั้นไหนแล้ว?

  ในยามที่พวกเขากำลังจะตายอาจารย์ได้เข้ามาช่วยซือหยูเอาไว้

  เมื่อรูแดนอสูรถูกปิดพวกเขาจึงหลุดรอดออกจากแดนอสูรสำเร็จ

  ทุกคนรอดชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์และรีบไปยังโลกที่ถูกทิ้งร้างห่างไกลจากแดนอสูร

  ที่นี่ถูกอสูรจากศาลอสูรกลืนกินไปจนหมดไม่มีสิ่งใดนอกเหนือจากความมืดมิด

   ไม่คิดเลยว่าข้าจะรอดชีวิตออกมาจากที่นั่นได้ 

  เทพอสูรเนตรม่วงมองรอบๆ ด้วยความรู้สึกหลากหลาย

  องค์ชายหนึ่งเองก็รู้สึกไม่ต่างกันประสบการณ์ในหกเดือนที่ผ่านมาน่าระทึกกว่าตลอดชีวิตของเขาในแดนอสูร!

  โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาได้ลงสู่ทะเลขมและหนีออกจากแดนอสูรมันยิ่งอันตราย

  เขามองซือหยูองค์ชายหนึ่งโค้งคำนับให้เขาอย่างจริงใจ

   น้องหยูขอบคุณเจ้ามาก หากไม่มีเจ้า พวกเรา ลูกหลานแห่งราชวงศ์… 

  เขาหยุดพักและส่ายหน้าถอนหายใจ

   ไม่สิแม้แต่พวกเราสามอวตาลก็ไม่มีทางหนีออกมาได้ 

  องค์หญิงสองยิ้ม

   ขอบคุณเจ้ายิ่งนักหากมีสิ่งใดที่พวกเราช่วยได้ จงกล่าวมา องค์หญิงสองผู้นี้ยินดีช่วยเจ้าไม่ว่าต้องแลกกับอะไร! 

  คนที่ไม่พูดอะไรออกมาเลยคือองค์หญิงหก

  นางเงียบไปนานก่อนจะถอนหายใจ

   ขอบคุณเจ้ามากเพราะเจ้าพวกเราถึงออกมาจากแดนอสูรได้ ข้าว่าศาลอสูรคงจะไล่ตามออกมาในอีกไม่นาน ข้าขอถามว่าเจ้าจะช่วยขจัดปราณราชวงศ์ออกจากตัวพวกเราจะได้หรือไม่? 

  ซือหยูมองนางและไปมององค์ชายหนึ่งที่ยังโค้งคำนับอยู่

   นั่นคือสัญญาที่ข้ากับพวกเจ้าตกลงกันแต่ข้าขอถาม…พวกเจ้าจะทำอะไรต่อไป? 

  หกเจ้าเมืองที่ติดตามรัชทายาทเข้าล้อมรอบซือหยูเทพอสูรเนตรม่วง และปี้หวังชิง

  องค์ชายหนึ่งกับองค์หญิงหกเรียกสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์ออกมา

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset