The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1296 – พบเทพ

ตอนที่ 1296 – พบเทพ

   พวกเจ้าคงรู้เรื่องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกอสูรแล้วถึงพวกเราจะยังไม่รู้สาเหตุ แต่เจ้ายักษ์นั่นยื่นดัชนีออกมา! 

  ชายวัยกลางคนที่ดูยิ่งใหญ่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะเขาแสดงภาพเหตุการณ์ในมือ

  มันคือภาพตอนที่ซือหยูและพรรคพวกกำลังพ่ายแพ้จากยักษ์ที่จู่โจมออกมาจากโลกอสูร

   พวกเจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง? 

  เจ้าพันธมิตรมองชายวัยกลางคนอีกคนที่นั่งอยู่ท้ายสุด

  ชายวัยกลางคนพูดทันที

   ข้ามีเรื่องต้องพูด! 

  เจ้าพันธมิตรยิ้ม

   โปรดกล่าวมาเทพกงซุน! 

  เทพที่เหลือเพียงมองอย่างเย็นชาพวกเขารู้ว่าเจ้าพันธมิตรกับตระกูลกงซุนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน การที่เจ้าพันธมิตรให้โอกาสตระกูลกงซุนที่อันดับต่ำสุดพูดก่อนนั้นเกิดจากความจงใจ

   ประการแรกเจ้าต้องหาเป้าหมายของยักษ์นั่น! ยักษ์จู่โจมเป้าหมายนอกแดนอสูร หมายความว่าเป้าหมายจะต้องเป็นคนสำคัญมากในแดนอสูร เราจะได้ข้อมูลสำคัญมาแน่นอน! 

   ประการที่สองเราต้องตรวจสอบที่มาของพลังที่ทำให้ยักษ์หวาดกลัวจนกลับไป! เจ้าของพลังจะต้องเป็นสุดยอดยอดฝีมือที่จะช่วยเหลือเราในการต่อสู้กับเผ่าอสูรได้! 

   ประการที่สามจะต้องเกิดเหตุร้ายในแดนอสูร พวกเราต้องเตรียมการระวังมันเอาไว้! 

  เจ้าพันธมิตรเห็นด้วย

   เทพกงซุนพูดอย่างที่ข้าคิด!มีใครจะพูดอะไรเพิ่มอีกหรือไม่?    ตระกูลที่เหลือนิ่งเงียบพวกเขาเพิ่งจะรู้ข่าวและไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย พวกเขาจะพูดอะไรได้เล่า?

  ก่อนหน้านี้เทพกงซุนได้แอบพบเจ้าพันธมิตรก่อนการชุมนุมดังนั้นเทพกงซุนจึงได้รับรายละเอียดมาก่อนเป็นคนแรก

  เทพกงซุนยิ้มเมื่อเห็นเหล่าเทพที่มิอาจพูดตอบได้

  ด้วยความช่วยเหลือแบบลับๆ ของเจ้าพันธมิตร ตระกูลกงซุนเติบโตขึ้นอย่างมาก ตระกูลกงซุนแอบสะสมกำลังอย่างต่อเนื่อง แม้แต่สามตระกูลใหญ่สุดยังริษยา

  เป็นไปได้สูงว่าตระกูลกงซุนจะกลายเป็นตระกูลห้าอันดับแรกในอีกไม่กี่ปี

   ถ้าพวกเจ้าไม่ชี้แนะอะไรเราก็เริ่มสืบตามแผนกันเถอะ! 

  เจ้าพันธมิตรเลิกการชุมนุม

  แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมา

   เทพกงซุนชี้แนะให้เตรียมการให้มากขึ้นแต่ใยยังไม่ทำข้อตกลงกับพันธมิตรบูรพาเล่า? มันไม่ได้เคลื่อนไหวมาครึ่งปีแล้ว! 

  เหล่าเทพแอบยิ้มในใจผู้ที่พูดคือเจ้าตระกูลอันดับห้า

  ตำแหน่งเจ้าตระกูลอันดับห้าจะตกเป็นของตระกูลกงซุนในอีกไม่กี่ปี

  ตระกูลอันดับห้านี้ก็คือตระกูลจรัสแสงซึ่งทรงอำนาจกว่าตระกูลกงซุนแต่ตระกูลจรัสแสงนั้นถูกเจ้าพันธมิตรขัดขวาง พวกเขาจะอยู่เฉยได้อย่างไร?

  ดังนั้นจึงเกิดความขัดแย้งมากมายระหว่างตระกูลจรัสแสงและตระกูลกงซุน

  เทพกงซุนขมวดคิ้ว

   ในการจับมือกับพันธมิตรบูรพาถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญการเจรจาย่อมต้องกินเวลามาก! 

   หึหึ!ข้าได้ยินว่าที่การเจรจาล้มเหลวเป็นเพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าพยายามจะแต่งงานกับบุตรสาวเทพเจิ้ง! การเจรจาเช่นนี้ช่างสมกับเป็นตระกูลเจ้าจริง ๆ! 

  เทพจรัสแสงยิ้มอย่างมีเลศนัย

  เทพที่เหลืออดยิ้มไม่ได้ไม่ว่าจะพยายามกลั้นหัวเราะมากเพียงใด

  พวกเขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนพันธมิตรบูรพาส่งตัวแทนมาผูกมิตร เทพทุกคนในพันธมิตรประจิมไม่มีข้ออ้างในการปฏิเสธอยู่แล้ว

  แต่ถึงอย่างนั้นผลการต่อรองในครึ่งปีนี้ก็ไร้ความคืบหน้า เหล่าเทพรู้ว่าจะต้องมีเบื้องหลังอยู่แน่นอน นอกจากความต้องการของพันธมิตรบูรพาแล้ว เหตุผลหลักก็คือปัญหาที่ก่อโดยตระกูลกงซุนผู้รับผิดชอบการต่อรอง

  เทพกงซุนพยายามจะให้ตระกูลกงซุนเป็นผู้เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรทั้งสองดังนั้นในนามตัวแทนพันธมิตรประจิม เทพกงซุนได้หมั้นบุตรชายกับลูกสาวเทพเจิ้งที่เป็นตัวแทนพันธมิตรบูรพา

  กงซุนชางชอบเจิ้งหยวนชิงที่เป็นบุตรสาวของเทพเจิ้งเป็นอย่างยิ่งขอให้ขอให้เทพกงซุนจัดการหมั้นหมายให้

  แน่นอนว่าพันธมิตรบูรพาปฏิเสธเรื่องไร้เหตุผลเช่นนี้ในทันที

  มันไม่ใช่ความลับเทพกงซุนมิอาจปฏิเสธได้ เทพกงซุนได้แต่ถอนหายใจแรง

   ฮื่ม!เรื่องนี้ก็เพื่อพันธมิตรบูรพาและพันธมิตรประจิม เพื่อที่จะได้ความเชื่อใจจากทั้งสองฝ่าย! 

   โอ้?แล้วใยเจ้าเลือกลูกชายเจ้าให้ทำเรื่องสำคัญเช่นนี้เล่า? คนตระกูลจรัสแสงของเราดีกว่าลูกชายมักมากในกามเจ้าเป็นไหน ๆ! 

  คำพูดของเทพจรัสแสงทำให้เหล่าเทพพากันหัวเราะเสียงดัง

  เรื่องของกงซุนชางในอดีตนั้นเป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางมันได้กลายเป็นความอัปยศของตระกูลกงซุนมาอย่างยาวนาน

   เทพจรัสแสง!ระวังคำพูดเจ้าให้ดี!    เทพกงซุนใบหน้าดำมืด

  เทพจรัสแสงตอบพลางระเบิดเสียงหัวเราะ

   นี่มันเรื่องฉาวของตระกูลเจ้า!ใยข้าจะพูดถึงไม่ได้เล่า? เจ้ามันไร้เหตุผลสิ้นดี! 

  ตระกูลใหญ่หลายตระกูลไม่ชอบตระกูลกงซุนเป็นทุนเดิมไม่มีใครกล้าออกมาพูดเพื่อตระกูลกงซุนในขณะนี้

  เทพกงซุนกลอกตายิ้มเหยียดหยาม

   ตระกูลเจ้าไม่มีเรื่องฉาวเลยงั้นรึ?บรรพบุรุษเจ้าเข้าร่วมเผ่าอสูรและกลายเป็นเทพอสูรใช่ไหม? ข้าไม่คิดเลยว่าตระกูลทรราชย์อย่างพวกเจ้าจะมีเกียรติได้เป็นตระกูลปราบอสูร! ช่างน่าอับอายต่อตระกูลอื่น ๆ ยิ่งนัก! 

  เทพจรัสแสงพูดไม่ออกเขาไม่โต้เถียงต่อ

  หมื่นปีก่อนหลินหลางฮงเจิ่ง ยอดฝีมือแห่งตระกูลจรัสแสงได้ทรยศพันธมิตรประจิมไปเข้าร่วมกับเผ่าอสูร ชื่อเสียงตระกูลจรัสแสงพินาศย่อยยับ

  จนถึงวันนี้คนตระกูลจรัสแสงไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรเมื่อคนอื่นพูดถึงเรื่องเดิม

  เพราะว่ามันคือเรื่องจริง

  ตระกูลจรัสแสงได้แต่ต่อกรกับเผ่าอสูรเรื่อยมาด้วยความดีความชอบและกำลังคนที่มี ตระกูลนี้ควรจะได้เป็นตระกูลสามอันดับแรกหรือแม้กระทั่งตระกูลปราบอสูรอันดับหนึ่งด้วยซ้ำ!

  แต่เพราะเรื่องเมื่อหมื่นปีก่อนตระกูลจรัสแสงจึงเป็นเพียงตระกูลอันดับห้า

   หึหึ!ถึงกับพูดไม่ออกเลยรึ? 

  เทพกงซุนยิ้มเย็นชา

   ข้าว่าตระกูลจรัสแสงควรจะถูกปลด… 

   พอได้แล้ว! 

  เสียงชายแก่ดังขัดเทพกงซุน

  เหล่าเทพหันไปมองทันที

  ผู้พูดคือชายแก่ผมขาวที่นั่งหลับตาและไม่พูดออกมาสักคำตั้งแต่เริ่มชุมนุม

  แต่ก็ไม่มีใครกล้าประมาทเขาแม้แต่เจ้าพันธมิตรก็ไม่กล้าหยาบคายต่อหน้าชายแก่ผู้นี้

  ชายแก่ผู้นี้คือฉีเหมินเจี้ยนเจ้าตระกูลปราบอสูรอันดับหนึ่ง

  ตระกูลฉีเหมินเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งพอๆ กับตระกูลเจ้าพันธมิตร ว่ากันว่ากำลังคนที่ซุกซ่อนเอาไว้ของตระกูลฉีเหมินนั้นเหนือกว่าตระกูลเจ้าพันธมิตรไปไกลแล้ว

  ยังมีคนกล่าวอีกว่าตระกูลฉีเหมินอาจชิงตำแหน่งเจ้าพันธมิตรได้ในการจัดอันดับครั้งถัดไป

  ดังนั้นเจ้าพันธมิตรจึงต้องระวังฉีเหมินเจี้ยนเอาไว้

  ฉีเหมินเจี้ยนลืมตามองเทพกงซุน

   จำเป็นรึที่ต้องพูดถึงเรื่องเมื่อหมื่นปีที่แล้ว?ตามความคิดเจ้า ตระกูลปราบอสูรใหม่ที่นี่รวมถึงตระกูลกงซุนของเจ้าเป็นเพียงแค่ตระกูลเทพสามัญ! เช่นนั้นก็ไม่มีใครเหมาะสมจะได้เป็นตระกูลปราบอสูร! 

   เจ้าเอาแต่พูดถึงเรื่องในอดีตไม่สนใจสิ่งที่พวกเราทำในหมื่นปีที่ผ่านมา! เจ้าคิดจะให้ผู้ที่มุ่งมั่นต่อกรกับอสูรผิดหวังงั้นรึ? 

  เทพจรัสแสงมองฉีเหมินเจี้ยนด้วยความขอบคุณ

  เทพหลายคนส่ายหน้าเมื่อมองเทพกงซุน

  เทพกงซุนทั้งอับอายและโกรธแค้นแต่ก็ไม่กล้าจะระเบิดอารมณ์ต่อหน้าฉีเหมินเจี้ยน

   จากนี้เป็นต้นไปใครก็ตามที่กล้าพูดเรื่องนั้นอีกครั้งจะถูกข้าลงโทษอย่างสาสม! 

  ฉีเหมินเจี้ยนพูดอย่างโอหัง

  คำพูดของเขาทำลายบรรยากาศจนหมดสิ้น!

  เจ้าพันธมิตรต้องทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง

   หึหึ!นี่ก็แค่การโต้เถียงเล็กน้อย เทพฉีเหมินโปรดใจเย็นลงก่อน!     วันนี้พอแค่นี้เทพเฟยหลงรับหน้าที่สืบเรื่องคนที่หนีออกมาจากโลกอสูร เทพหวูชิงตามหาเจ้าของพลังที่ทำให้ยักษ์หวาดกลัว ถ้าหากไม่มีสิ่งใดจะหารือแล้ว… 

   ช้าก่อน! 

  ฉีเหมินเจี้ยนพูดขัดเจ้าพันธมิตร

   เทพเฟยหลงมีภารกิจสำเร็จอื่นที่ต้องทำเทพหวูชิงยังบาดเจ็บหนัก มิอาจทำการสืบสวนได้ เทพมีตั้งหลายคน ใยเลือกให้คนที่ไม่เหมาะสมทำงานเล่า? 

  เทพหลายคนแอบยิ้มในใจ

  ตระกูลเฟยหลงตระกูลหวูชิง และตระกูลกงซุนนั้นใกล้ชิดกับเจ้าพันธมิตร

  ภารกิจสำคัญเกือบทั้งหมดจึงถูกส่งให้กับสามตระกูลนี้เพื่อเพิ่มความดีความชอบ

  เทพคนอื่นถูกด้อยค่าลงไป

  เมื่อฉีเหมินเจี้ยนก้าวขึ้นมาปฏิเสธวงจรนี้เทพหลายคนจึงตัดสินใจว่าจะสนับสนุนฉีเหมินเจี้ยนให้มากที่สุด  เจ็ดตระกูลใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเจ้าพันธมิตรเจ้าพันธมิตรจึงต้องตัดสินใจใหม่

   ถ้าเช่นนั้นผู้ใดเล่าควรจะทำงานนี้? 

  เจ้าพันธมิตรมีความเฉียบแหลมเขาไม่แสดงความรู้สึกออกมา

   ข้าจะสืบเรื่องเจ้าของพลังที่ขับไล่ยักษ์กลับไปคงไม่มีผู้ใดทำได้ดีกว่าข้าอีกแล้ว ใช่หรือไม่? 

  ฉีเหมินเจี้ยนเสนอตัวรับหน้าที่

  เทพจรัสแสงเองก็พูดขึ้นบ้าง

   ข้าจะตามหาพวกที่หนีมาจากโลกอสูรตระกูลจรัสแสงเหมาะสมที่สุดแล้ว พวกเราอ่อนไหวต่อสัมผัสอสูร มีความเป็นไปได้สูงกว่าพวกที่หนีมาจะเป็นอสูร ไว้ใจข้าได้เลย! 

  สี่ตระกูลที่เหลือสนับสนุนทั้งสองตระกูล

  เจ้าพันธมิตรแววตาเยือกเย็นแต่เขาก็พูดต่อไปอย่างนอบน้อม

   ดี!ข้าดีใจมากที่ตระกูลพวกเจ้าอาสารับใช้พันธมิตรประจิม! ตกลง! พวกเจ้าทำตามแผนได้! 

  การชุมนุมจบลงเหล่าเทพมีความรู้สึกที่ต่างออกไปในผลที่ได้

  เมื่อผนึกคลายออกเหล่าเทพทยอยกลับ

   หึหึ!ไม่คิดเลยว่าฉีเหมินเจี้ยนที่เอาแต่เจียมตัวจะพูดขึ้นมาในวันนี้! เขาพร้อมชิงตำแหน่งเจ้าพันธมิตรแล้ว! 

   ถูกของเจ้า!ชัดเจนดังที่เห็น! ฉีเหมินเจี้ยนยังสนับสนุนตระกูลจรัสแสง นั่นหมายความว่าเขากำลังจะหาพรรคพวก! 

   น่าสนุกนี่!เจ้าพันธมิตรคงกำลังตกที่นั่งลำบาก! 

   ข้าไม่คิดเช่นนั้นหรอก!เจ้าพันธมิตรวางแผนมาหลายปี ไม่มีใครเอาชนะได้ง่าย ๆ! ถ้าข้าเป็นฉีเหมินเจี้ยน ข้าจะระแวงเจ้าพันธมิตร เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในเวลาสำคัญ! 

  เทพคนหนึ่งพูด   นี่เจ้า!ระวังคำพูดหน่อย! 

  เมื่อเหล่าเทพเดินออกมาจากตำหนักเจ้าพันธมิตรพวกเขาก็ได้รับข่าวจากตระกูลแทบจะพร้อมกัน

  ในระหว่างชุมนุมมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นในเมืองพันธมิตร

  ตำหนักตระกูลกงซุนถูกทำลายย่อยยับ

  กงซุนชางผู้สืบทอดตระกูลเองก็ถูกจับตัวไป

  ที่สำคัญกว่านั้นผู้ที่จับตัวกงซุนชางยังบอกให้เทพกงซุนไปเอาลูกชายคืนที่โลกจิวหลี่

  เมื่อเหล่าเทพได้ข่าวสิ่งแรกที่ทำคือยืนยันความถูกต้องของเรื่องนี้

  แต่เมื่อพวกเขาไปที่ตำหนักตระกูลกงซุนพวกเขาก็ได้รับคำตอบจากซากตำหนักที่ถูกทำลาย

   ฮ่าๆๆๆๆข้ากำลังจะได้ชมมหรสพชั้นดีแล้ว! ไม่คิดเลยว่าลูกเทพกงซุนจะถูกจับตัวไป! 

   สิ่งนี้แหละคือความอัปยศของพวกมัน!มันอวดดีตอนชุมนุม ขณะที่ตระกูลมันถูกทำลาย! 

   ไปดูคนที่จับตัวกงซุนชางกันเถอะ! 

  ที่โลกจิวหลี่ซือหยูลืมตาช้า ๆ

   พวกมันคงได้ข่าวแล้วสินะ! 

  ซือหยูเล่นลูกปัดในมือด้วยแววตาเยือกเย็น

   ถ้าเจ้าชดใช้ในสิ่งที่ทำข้าจะไว้ชีวิตลูกเจ้า! แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมรับความผิดพลาดล่ะก็…หึ…หึ… 

  ��

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset